คิดว่าการมีลูก นี้คือเรื่องเล็กเหรอครับ ไม่ใช่แค่ฝันผู้ชายหลายคน ผู้หญิงหลายคนก็ฝันจะมีลุก
มันผิดตรงไหน ที่ ใครหลายๆคนอยากมีลุก

ผมยังเคยเสียแฟนไปครั่งนึงเพราะเรื่องนี้เลย เค้าบอกผมว่าอยากมีลุก แต่ผมทำบ่ายเบี่ยง ผมคิดว่ามันไม่ได้สำคัญ และผมยังไม่พร้อม ที่ไหนได้มันสำคัญกับเค้ามาก หลังจากนั้นไม่นานก็เลิกกัน เลิกแบบไม่ได้ทะเลาะอะไรด้วยครับ และหนึ่งปีจากนั้นเค้าแต่งงาน และมีลุกเลย ตอนนี้ลุก 3 แล้วไม่กีวันที่แล้วผมยังทักอวยพรวันเกิดเค้าอยุ่เลยเพราะเราทั้งคู่เกิดวันเดียวกัน นี้คือแฟนที่ ดีคนนึงที่ผมเสียไป เพราะ ตอนนั้นไม่รู้ความสำคัญ ของสิ่งที่เค้าพุด


แค่เหตุผล เรื่องลุกเรื่องเดียว ก็ เพียงพอแล้วครับ ที่เราจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แม้แต่กฏหมาย ยังสามารถใช้เป็นเหตุผลในเรื่องการหย่าได้เลย


อันนี้รุปยืนยันเดี๋ยวจะหาว่าผมซุย คิดดู เป็นแฟนกันไม่เคยทะเลาะกันซักครั้งเดียว จนกระทั้งเลิกกันก็ไม่ได้ทะเลาะ เพียงแต่ประโยคสุดท้ายที่เค้าพูดกับผม คือเค้าอยากมีลูก ผมเพียงแค่ไม่ได้ตอบอะไรเท่านั้นเอง นึกว่าพูดเล่นด้วยซ้ำ เลยเป็นการเสียแฟนที่ เจ็บใจที่สุดในชีวิตแล้ว และด้วยความที่ ไม่ได้ทะเลากันนี้แหละ เลยยังเป็นเพื่อนมาถึงทุกวันนี้ ปีที่แล้วเค้าเป็นคนทักมาอวยพรผมก่อน ปีนี้ผมเลย ทักก่อนบ้าง

เรามีอะไรหลายอย่าง ที่บังเอิงเหมือนกันมาก ทั้งวันเกิด ทั้งบ้านที่อยู่ ครอบครัวเค้ามาซื้อบ้านหลังที่ผมอยู่ พึ่งมารู้ตอนหลังว่าเค้ามาซื้อ บังเอินเจอกัน เดินเจอกัน ยังเลิกเพราะเรื่องลุกเลยครับ ไม่ใช่ผมที่เป็นฝ่ายชายด้วย แต่เป็นฝ่ายเค้าที่ เลิก ถือเป็นรักครั่งนึงที่ผมเสียดายมากๆ

ผมก็บอกแล้วนะว่า ถ้าจะเปลี่ยนคำนำหน้าได้ ต้องมีเพศกำเนิดมาระบุแทน
และก็ไม่ได้บอกด้วยว่าแบบนี้ดีที่สุด แค่ถ้าอยากได้อะไร แล้วมันกระทบกับคนอื่น
คุณต้องแก้ปัญหาให้พวกผมสิครับ พวกผมก็ป้องกันสิทธิของผมเหมือนกัน
ไม่มาบอกว่าคนอื่นดักดาน แล้วก็บอกว่ามันไม่เป็นปัญหาหรอก

ในมุมผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าถ้ามันแก้กฎหมายอื่นๆทุกอย่างให้มันเท่าเทียมแล้ว
การไม่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อมันจะเป็นปัญหายังไง

ก็ถ้าคบกันปล่อยไม่คุมแล้ว ไม่มีสักที ยังไงก็ไปตรวจหมอ ถ้าหญิงไม่อยากมีก็คงสารภาพ ก็อยู่ที่ว่าจะจบแบบไหน ซึ่งถ้าเรื่องแบบนี้ยังหลอกกันได้ อีกหลายๆเรื่องในชีวิตคู่ มันคงไปกันยาก

แต่ส่วนใหญ่พอเริ่มคบกันระยะนึงแล้วยังไง ถ้าผู้ชายเป็นฝ่ายอยากมีลูกมันก็เรื่องพื้นฐานต้องถามอยู่แล้ว ว่าผู้หญิงอยากมีลูกไหม ชอบเด็กไหม ถ้าความเห็นไม่ตรงกันก็เลิกกันไป เหมือนดาราไทยคนดัง ที่แฟนสารภาพว่าไม่อยากมี ก็เลิกแล้วหาคนที่มีความต้องการเหมือนกัน

สรุป ไล่อ่านมา สังคมผู้ชาย(หรืออาจจะแค่ในนี้) ก็แบบที่ จขทก. บอกจริงนะ

เปิดรับความหลากหลาย แต่พอถ้าตัวเองเสียผลประโยชน์นิดหน่อย แค่วิธีที่จะเช็คแฟนตัวเองมันหายไปวิธีเดียว (ในขณะที่วิธีมันมีอีกเยอะแยะ) ก็จะต่อต้านไม่เอาทันที ทั้งๆที่คำนำหน้าเพศ มันควรจะเป็นเรื่องของเค้า ไม่ใช่เรื่องของคุณ

ไอ้ความเท่าเทียมทางเพศ มันยังเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันอีกเยอะจริงๆ

เรื่อง gender discrimination ก็เป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าอีกเรื่องหนึ่งครับ ซึ่งถ้าพูดตรง ๆ ผมเองก็ไม่ได้จะเป็นหัวหอกเรื่องนี้เท่าไหร่ มันมีเรื่องอื่นอีกเยอะที่ผมอยากแก้ไข การแก้ gender discrimination ที่ต้นเหตุนี้มันเรื่องใหญ่และยากเหมือนยกเครื่องวัฒนธรรมสังคมมนุษย์ใหม่หมดเลยนะ เพราะงั้นอะไรที่เฉพาะหน้าพอแก้ได้ก็ควรแก้ไปก่อน

แค่เรื่องให้เขาเปลี่ยนคำนำหน้านามอย่างที่ต้องการมันไม่น่าจะต้องมามีปัญหาอะไรกันขนาดนี้ กฏหมายเรื่องคำนำหน้านามนี้มันล้าหลังเป็น 100 ปี มันไม่ทันยุคทันสมัยอยู่แล้ว ของผู้หญิงก็เพิ่งแก้เรื่องนาง/นางสาวไปเมื่อ 15 ปีก่อน ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาผู้หญิงแต่งงานแล้วไปหลอกคนอื่นอะไรให้มันเป็นเรื่องใหญ่จะต้องยกเลิก พรบ.แก้ไข

คือต่อให้กฏหมายอนุญาตเรื่องคำนำหน้านามแล้ว ถึงเวลาไปเปลี่ยนจริงก็ใช่ว่าจะง่าย ต้องเตรียมเอกสารยืนยันเยอะแยะ แล้วติดต่อราชการกี่หน่วยที่ออกบัตรทางราชการให้ เพราะจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนหมดให้ตรงกัน แม่งโคตรยุ่งยาก แต่มันก็มีคนอยากเปลี่ยน หนึ่งเพราะศักดิ์ศรีทางเพศของเขา สองเพราะไอ้การถูกเลือกปฏิบัติจากกรณีแบบนี้มันสร้างปัญหามากกว่าความยุ่งยาก

ป.ล. ท่านไม่ได้ผิดอะไรเลยครับที่ผมหงุดหงิด มันเป็นปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์ของผมเอง ท่านไม่จำเป็นต้องขอโทษครับ ผมต่างหากที่ควรควรขอโทษที่ใช้คำที่รุนแรง

สุดท้ายละ การมีลูกมีไม่ได้เลยแต่ตั้งใจไม่บอก หรือไม่อยากมี (ที่อาจจะเปลี่ยนใจได้) หรือมีได้ถ้าใช้การแพทย์ช่วย หรือพยายามด้วยกันแล้วมันมีไม่ได้จริงๆ มันต่างกันมากๆเลยนะครับ
เท่าที่ผมศึกษามาตอนจะมีลูก ผญ ที่มีปัญหาจากไข่จริงๆ ( ไม่ใช่รังไข่ หรือ มดลูกนะครับ ) มันน้อยมากๆเลยนะ
น้อยกว่า ผช ที่อสุจิไม่แข็งแรงพอจะทำให้มีลูกได้อีกนะ

1. เอาคำนำหน้าชื่อออกแล้วเพิ่มระบุเพศกำเนิดไว้
2. เพิ่มคำนำหน้าชื่ออีกอันเหมือนต่างประเทศเพื่อให้รู้ว่าเพศเขาตอนนี้ไม่ตรงกับโครโมโซมเขานะ
ส่วนพวกที่เปลี่ยนไปเลย 100% อันนี้น่าจะให้เปลี่ยนเพศกำเนิดได้

โดยส่วนตัวไม่มีปัญหานะ แต่กำลังสงสัยเรื่องการสืบค้นข้อมูลแหละ
เช่น นายAไปก่อคดีฆาตกรรม แล้วไปเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเปลี่ยนชื่อ แต่งตัวเป็นสาว มันจะสืบเจอไหม
จะมีอะไรบอกไหมว่าคนนี้เคยเป็นชาย หรือต้องสืบค้นประวัติเท่านั้น แล้วระบบราชการไทยมันลิงค์กันรึเปล่า
เช่นนายAไปเช่าห้องไปอยู่หอหญิงจะหลุดจากวงผู้ต้องสงสัยไหม

ตัวอย่างการเลือกปฏิบัติจากคำนำหน้านามไม่ตรงกับเพศสภาพ
https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_1382842
กรณีฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ศาลตัดสินโดยอ้างกฏหมายล้าหลังอายุ 100 ปี
https://www.komchadluek.net/scoop/372897

ใช้คำว่าสิทธิมั่วซั่วอีกแล้ว การที่รัฐไม่ให้บุคคลอื่นใช้คำนำหน้านามตามต้องการเป็นการปกป้องสิทธิของตัวเองอย่างไร?

ในกรณีแบบนี้ การไม่ให้เปลี่ยนคำนำหน้านาม แต่เปลี่ยนชื่อได้ มันมีประโยชน์อะไร?

สำหรับผมคือจะยังไงก็ได้อ่ะเปลี่ยนคำหรือไม่เปลี่ยนก็ได้ แต่ต้องมีสิ่งยืนยันให้ชัดเจนเรื่องเพศของคุณส่วนอีกฝ่ายก็ควรถามไปตรงๆ เพื่อความสบายใจของคน2คน แต่ถ้าการแค่ยืนยันเพศที่คุณเป็นยังเป็นปัญหาแสดงว่า คนๆนั้นแหละที่มีปัญหา

เปลี่ยนเป็น นายสาว จบเรื่อง

ก็คล้ายกับกรณีคนเปลี่ยนชื่อป่ะครับ ไม่ต้องเปลี่ยนคำนำหน้าก็ได้ เอาแค่ชื่อพอ แล้วไปแต่งหญิงแปลงเพศเลย มันก็ไม่ต่างกันนะ

เชื่อว่าถ้ามีการเก็บประวัติการเปลี่ยนชื่อ การเก็บประวัติคำนำหน้านี่ยังไงก็เก็บแน่นอนอ่ะ ไม่มีทางพลาดหรอกครับ

แล้ว pattern เหมือนกันทุกมู้..คือเริ่มต้นด้วยเรื่องละเอียดอ่อนว่าอยากมีลูก

แต่พอโดนจี้เรื่อง ญ มีลูกไม่ได้(และตั้งใจปกปิด)จะทำงัย..อันนี้เริ่มเบี้ยว เริ่มไม่เป็นรัยละ โยกไปเรื่องเสียเวลา เสียความรู้สึกแทน

ทำไมไม่ตอบตรงๆตั้งแต่ทีแรกไปเลย ว่ารสนิยมเป็นเพศหญิงเท่านั้น ไม่อยากได้คนข้ามเพศเป็นเมีย (ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรซักหน่อย)

และด้วยความมักง่าย เลยอยากจะให้ระบุไปชัดๆเลย เพราะไม่อยากศึกษาเอง อยากตีเส้นง่ายๆกูจะได้ไม่พลาดไม่เสียเวลา เสียหน้า

ผมว่าสามารถย้อนไปถึงยุคที่การผ่าตัดแปลงเพศเป็นเรื่องใหม่ได้เลย ก็จะมีคน mindset ประเภทนี้แหละที่ต่อต้าน

เพราะกลัวว่าวันนึงจะพลาดไปมีอะไรกับ ช ที่แปลงเพศมา..ก็จำกัดไปเลยว่าห้ามแปลงเพศ เห็นแก่ตัวดี เอาตัวเองสบายใจไว้ก่อน

ต้องใช้เวลาซักระยะ กว่าเรื่องพวกนี้ถึงจะเป็นที่ยอมรับกันในบางสังคม ให้สังคมที่มีอารยะกว่าเค้านำหน้าไปก่อน ว่าเป็นเรื่องปกติ

การเปลี่ยนคำนำหน้าก็เหมือนกัน ผมอ่านๆดูแล้ว ความเห็นจากบอร์ดที่จริงๆยืนฝั่งสิทธิ์เสรีภาพตอนคุยการเมืองกันแท้ๆยังคิดแบบนี้

สังคมโดยรวมคงต้องใช้เวลาระยะยาวๆเลยจริงๆ

การที่จะมีกฎหมายใหม่ ที่ผลกระทบกับผม โดยที่ไม่มีทางแก้มาให้
แล้วผมไม่เห็นด้วย มันไม่ใช่สิทธิของผมหรอครับ

ปัญหาที่ยกมาการเปลี่ยนคำน้ำหน้า แต่ระบุเพศกำเนิด ก็แก้ได้นิครับ