BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5026
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 17:23
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
:ดีใจจังขนมปังขึ้นรา: พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
สมมุติครับ ผมต้องการแต่งงานกับผู้หญิง และต้องการจะมี ลูกเพื่อสืบสกุล
แต่ผู้หญิงคนนั้น คือผู้ที่ เพศสภาพเป็นชาย แต่มาผ่าตัดเปลี่ยนเพศตอนหลัง และเปลี่ยน คำหน้านาม
จนผมไม่ทราบสภาพ เพศที่แท้จริงของเค้า และเค้าปกปิดเรื่องนี้ ฝันมีลุกของผมอาจจะจบ หรือถูกหลอก อยู่หลายปีว่าทำไม ไม่มีลูกซะที เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก

อย่างน้อยที่สุด ครวรมีอะไรเป็นสัญลักบ่งบอกได้บ้าง ว่ามาจากการเปลี่ยนเพศ  


ถ้าจะแต่งงานเพื่อมีผู้ลูก ไม่ควรไปตรวจความสามารถในการมีลูกก่อนหรือครับ ไม่ใช่แค่มีได้หรือไม่ได้นะ มีโอกาสมีได้แค่ไหน มีแล้วลูกเสี่ยงอะไรบ้าง ยีนแฝงพ่อแม่มีอะไรบ้าง

เห็นพูดเรื่องมีลูกเมื่อพร้อมกันตลอด เรื่องพวกนี้ไม่ควรทำก่อนคิดก่อนที่จะแต่งงานเพื่อมีลูกหรอ?

แล้วการล่อลวงสมรสก็อย่างที่เพื่อสมาชิกตอบไป มันไม่ได้มีแค่กรณีเรื่องแปลงเพศ มันมี case อื่นอีกเยอะแยะ ซึ่งตามกฏหมายก็ไปฟ้องหย่าเรียกร้องค่าเสียหายไป

อ่านที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ดี ๆ ไอ้การมีคำนำหน้านามบนบัตรประชาชนตามเพศกำเนิดมันใช่เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการล่อลวงสมรสหรอ? งี้ประเทศที่อนุญาตเช่น อินเดีย ที่คนเป็นพันล้านมีกรณีคนข้ามเพศล่อลวงสมรสอย่างมีนัยยะเพิ่มขึ้นไหมหลังมีกฏหมายความเท่าเทียมทางเพศออกมา?  


อย่าคิดมักง่ายแบบนี้ครับ คิดถึงสังคมหลักความเป็นจริง คนเราไม่ได้เจอ วันนี้ พรุ่งนี้แต่งงาน
บางคน ครบกัน 4-5 ปี กว่าจะได้แต่ง คิดมักง่ายไปครับ ที่ว่า แต่งไปมารู้แล้วฟ้อง แต่ไม่คิดถึง ว่า 4-5 ปี ที่เค้า เสียเวลาไป หรืออาจมีโอกาสได้เจอคนที่ตรงคนที่ใช่ นั้นเรียกคืน ไม่ได้

อันนี้เอาประสบการจริง ผมเคยชอบผู้หญิงอยู่ 1 คน แต่ มีหลายคนบอกว่าเหมือนสาวสอง หรือไม่ใช่หญิงแท้ ทำให้ตอนจีบผม ลังเลพอสมควร คุณเชื่อเปล่า ผมต้องไปหาทาง ค้นดูบัตรประชาชน ที่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะยืนยันได้ว่า เค้าคือผู้หญิง จริง แล้วนี้ถ้าเรา ไม่มีบัตรหรืออะไรง่ายๆ พวกนี้ไว้เป็นเครื่องช่วยยืนยันแล้ว ว่า ใครผู้หญิงแท้หรือเทียม ต้องได้จากการพาไปตรวจเท่านั้น ไม่อยากคิดถึงความวุ่นวายในอนาคตเลย


แล้วนี้อีกประสบการณ์ พวกแอ๊บหาคู่ครับ บ่องตรงๆ เสียเวลาชิบหาย จะมีสาวสอง มาแอ๊บเป็นหญิง เยอะมาก บางคนกว่าจะรู้ว่าเป็นสาวสอง แทนที่จะประกาสตัวเลยคือสาวสอง นะ เผื่อใครรับได้ ก้ จีบไป ขอชมคนที่ ประกาศตัวเองว่าคือสาวสอง ทำให้ คนหาคู่หลายคน รู้แต่แรก ไม่ต้องเสียเวลา คุยอยู่ ซึ่งมีเยอะมาก
ผมเชื่อว่า หลายคนเคยเจอแบบผม
 


คุณต่างหากที่คิดแบบมักง่าย แค่เพื่อป้องกันการที่ตัวเองจะถูกล่อลวงจึงสนับสนุนวิธีการป้องกันแบบง่าย ๆ อย่างการแอบสืบข้อมูลบัตรประชาชนโดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ยินยอม โดยที่ไม่คิดถึงผลกระทบของการเลือกปฏิบัติจากการมีคำนำหน้าไม่ตรงเพศสภาพ

การที่คุณเกิดความสงสัยต่อเพศของคนรัก แล้วแอบไปสืบข้อมูลส่วนตัวแทนที่ตะถามตรง ๆ หรือพาไปตรวจสอบด้วยวิธีอื่นเพื่อยืนยัน ไม่คิดว่าเป็นวิธีการที่ขี้ขลาดเพราะไม่อยากเสี่ยงให้คนรักไม่พอใจที่รู้ว่าคุณสงสัยหรอ? และยืนยันว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แม้จะต้องปล่อยให้เพศทางเลือกถูกเลือกปฏิบัติจากกรณีคำนำหน้าชื่อไม่ตรงกับเพศสภาพ?  


ขออภัยที่ เล่าผิดไปหน่อย ไม่ได้แอบสืบครับ ขออภัยที่เล่าผิดแบบลวกๆ จริงผมขออนุญาต เค้าดูครับ
มันมีเหตุการณื ที่ผมกับเค้าไปลงทะเบียน ร่วมกิจกรรมด้วยกัน มีจังหวะนึงต้องใช้บัตรประชาชน ผมทำแอ๊บเนียน ว่าไหนขอดูหน่อยยยยย แลกกันดู อะไรแบบนี้ ผมได้รับการให้ดูจากเค้าอยากถูกต้องครับ แต่ยอมรับว่า เจตนาที่ขอดู เพียงเพราะแค่อยากเห็นคำนำหน้าชื่อ

เอาเป็นว่า ผมไม่ได้ไปแอบบค้นโดยที่เค้าไม่รู้ แต่เป็นการขอซึ่งๆน้า เท่านี้ จบมั๊ยครับ

แต่ความมักง่ายคุณจบยังครับ ที่หลายคนต้องเสียเวลา หลายปี แล้วพึ่งมารู้แล้วตามคืนไม่ได้
สังคมนี้มันจะมีซักกี่คู่วะครับ คบกัน 1 เดือนพาไปตรวจเลือดตรวจร่างกาย

ขนาดยังไม่มีการเปลี่ยนคำหน้า ยังมีหลอกกันเยอะ ยกตัวอย่างได้จากแอพ มีจะขนาดไหน
และสุดท้าย ความ ตอบแบบมักง่ายของคุณ บางคนศึกษากันตั้งนานกว่าจะได้เป็นแฟน ช่วยตอบตรงนี้ ทีเวลาที่เสียไป ที่เราควรจะมีโอกส ไปเจอคนที่ตรงสเปคจริงๆ เรียกคืนยังไง รู้ตอนแต่ง ยังเรียกค่าเสียหายได้ หรู้ก่อนแต่ง เรียกอะไรไม่ได้ตามกฏหมาย ไม่ได้อะไรซักอย่าง เสียเวลา ชิบ  


แบบนี้ไม่เรียกว่าท่านล่อลวงขอดูขอมูลส่วนบุคคลโดยมีเจตนาแอบแฝงหรือครับ? ดูเหมือนจะเป็นห่วงแต่คนอื่นจะมาล่อลวงตัวเองนะครับ

พูดเรื่องเวลาขึ้นมาก็ดี ไหนขอ case study ของคนที่ถูกล่อลวงเรื่องเพศสภาพของคู่รักและข้อมูลจำนวนปีหน่อยครับ จะได้เทียบได้กับจำนวนและเวลาที่คนที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับคำนำหน้านามถูกเลือกปฏิบัติ

แม่งยิ่งคุย ยิ่งได้รู้ว่าหลายคนในนี้แม่งเหมือนจะเปิดรับเรื่องเพศ แต่แม่งไม่เคยไปทำความเข้าใจสิ่งที่คนเหล่านี้ต้องเผชิญจากเรื่อง gender discrimination เลย พูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศเอาเท่ปากแค่นั้นแหละ

ตัวอย่างการถูกเลือกปฏิบัติจากคำนำหน้านามไม่ตรงกับเพศสภาพ
https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_1382842
 

อย่าด่าผมสิครับ ผมก็กำลังไล่อ่านพยายามทำความเข้าใจอยู่  


ผิดหวังครับ นึกว่าสังคม SS ถึงจะบ้ากาม แต่ก็มีความเข้าใจและเห็นใจความไม่เท่าเทียมทางเพศมากกว่านี้  


ไม่แปลกเลยที่ชาวทวิตเตอร์ชอบบอกว่า พวกผู้ชายซ้ายไทย แต่เป็นขวาชาวโลก 5555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2007
ตอบ: 3732
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 18:42
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
สมมุติครับ ผมต้องการแต่งงานกับผู้หญิง และต้องการจะมี ลูกเพื่อสืบสกุล
แต่ผู้หญิงคนนั้น คือผู้ที่ เพศสภาพเป็นชาย แต่มาผ่าตัดเปลี่ยนเพศตอนหลัง และเปลี่ยน คำหน้านาม
จนผมไม่ทราบสภาพ เพศที่แท้จริงของเค้า และเค้าปกปิดเรื่องนี้ ฝันมีลุกของผมอาจจะจบ หรือถูกหลอก อยู่หลายปีว่าทำไม ไม่มีลูกซะที เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก

อย่างน้อยที่สุด ครวรมีอะไรเป็นสัญลักบ่งบอกได้บ้าง ว่ามาจากการเปลี่ยนเพศ  


ถ้าจะแต่งงานเพื่อมีผู้ลูก ไม่ควรไปตรวจความสามารถในการมีลูกก่อนหรือครับ ไม่ใช่แค่มีได้หรือไม่ได้นะ มีโอกาสมีได้แค่ไหน มีแล้วลูกเสี่ยงอะไรบ้าง ยีนแฝงพ่อแม่มีอะไรบ้าง

เห็นพูดเรื่องมีลูกเมื่อพร้อมกันตลอด เรื่องพวกนี้ไม่ควรทำก่อนคิดก่อนที่จะแต่งงานเพื่อมีลูกหรอ?

แล้วการล่อลวงสมรสก็อย่างที่เพื่อสมาชิกตอบไป มันไม่ได้มีแค่กรณีเรื่องแปลงเพศ มันมี case อื่นอีกเยอะแยะ ซึ่งตามกฏหมายก็ไปฟ้องหย่าเรียกร้องค่าเสียหายไป

อ่านที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ดี ๆ ไอ้การมีคำนำหน้านามบนบัตรประชาชนตามเพศกำเนิดมันใช่เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการล่อลวงสมรสหรอ? งี้ประเทศที่อนุญาตเช่น อินเดีย ที่คนเป็นพันล้านมีกรณีคนข้ามเพศล่อลวงสมรสอย่างมีนัยยะเพิ่มขึ้นไหมหลังมีกฏหมายความเท่าเทียมทางเพศออกมา?  


อย่าคิดมักง่ายแบบนี้ครับ คิดถึงสังคมหลักความเป็นจริง คนเราไม่ได้เจอ วันนี้ พรุ่งนี้แต่งงาน
บางคน ครบกัน 4-5 ปี กว่าจะได้แต่ง คิดมักง่ายไปครับ ที่ว่า แต่งไปมารู้แล้วฟ้อง แต่ไม่คิดถึง ว่า 4-5 ปี ที่เค้า เสียเวลาไป หรืออาจมีโอกาสได้เจอคนที่ตรงคนที่ใช่ นั้นเรียกคืน ไม่ได้

อันนี้เอาประสบการจริง ผมเคยชอบผู้หญิงอยู่ 1 คน แต่ มีหลายคนบอกว่าเหมือนสาวสอง หรือไม่ใช่หญิงแท้ ทำให้ตอนจีบผม ลังเลพอสมควร คุณเชื่อเปล่า ผมต้องไปหาทาง ค้นดูบัตรประชาชน ที่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะยืนยันได้ว่า เค้าคือผู้หญิง จริง แล้วนี้ถ้าเรา ไม่มีบัตรหรืออะไรง่ายๆ พวกนี้ไว้เป็นเครื่องช่วยยืนยันแล้ว ว่า ใครผู้หญิงแท้หรือเทียม ต้องได้จากการพาไปตรวจเท่านั้น ไม่อยากคิดถึงความวุ่นวายในอนาคตเลย


แล้วนี้อีกประสบการณ์ พวกแอ๊บหาคู่ครับ บ่องตรงๆ เสียเวลาชิบหาย จะมีสาวสอง มาแอ๊บเป็นหญิง เยอะมาก บางคนกว่าจะรู้ว่าเป็นสาวสอง แทนที่จะประกาสตัวเลยคือสาวสอง นะ เผื่อใครรับได้ ก้ จีบไป ขอชมคนที่ ประกาศตัวเองว่าคือสาวสอง ทำให้ คนหาคู่หลายคน รู้แต่แรก ไม่ต้องเสียเวลา คุยอยู่ ซึ่งมีเยอะมาก
ผมเชื่อว่า หลายคนเคยเจอแบบผม
 


คุณต่างหากที่คิดแบบมักง่าย แค่เพื่อป้องกันการที่ตัวเองจะถูกล่อลวงจึงสนับสนุนวิธีการป้องกันแบบง่าย ๆ อย่างการแอบสืบข้อมูลบัตรประชาชนโดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ยินยอม โดยที่ไม่คิดถึงผลกระทบของการเลือกปฏิบัติจากการมีคำนำหน้าไม่ตรงเพศสภาพ

การที่คุณเกิดความสงสัยต่อเพศของคนรัก แล้วแอบไปสืบข้อมูลส่วนตัวแทนที่ตะถามตรง ๆ หรือพาไปตรวจสอบด้วยวิธีอื่นเพื่อยืนยัน ไม่คิดว่าเป็นวิธีการที่ขี้ขลาดเพราะไม่อยากเสี่ยงให้คนรักไม่พอใจที่รู้ว่าคุณสงสัยหรอ? และยืนยันว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แม้จะต้องปล่อยให้เพศทางเลือกถูกเลือกปฏิบัติจากกรณีคำนำหน้าชื่อไม่ตรงกับเพศสภาพ?  


ขออภัยที่ เล่าผิดไปหน่อย ไม่ได้แอบสืบครับ ขออภัยที่เล่าผิดแบบลวกๆ จริงผมขออนุญาต เค้าดูครับ
มันมีเหตุการณื ที่ผมกับเค้าไปลงทะเบียน ร่วมกิจกรรมด้วยกัน มีจังหวะนึงต้องใช้บัตรประชาชน ผมทำแอ๊บเนียน ว่าไหนขอดูหน่อยยยยย แลกกันดู อะไรแบบนี้ ผมได้รับการให้ดูจากเค้าอยากถูกต้องครับ แต่ยอมรับว่า เจตนาที่ขอดู เพียงเพราะแค่อยากเห็นคำนำหน้าชื่อ

เอาเป็นว่า ผมไม่ได้ไปแอบบค้นโดยที่เค้าไม่รู้ แต่เป็นการขอซึ่งๆน้า เท่านี้ จบมั๊ยครับ

แต่ความมักง่ายคุณจบยังครับ ที่หลายคนต้องเสียเวลา หลายปี แล้วพึ่งมารู้แล้วตามคืนไม่ได้
สังคมนี้มันจะมีซักกี่คู่วะครับ คบกัน 1 เดือนพาไปตรวจเลือดตรวจร่างกาย

ขนาดยังไม่มีการเปลี่ยนคำหน้า ยังมีหลอกกันเยอะ ยกตัวอย่างได้จากแอพ มีจะขนาดไหน
และสุดท้าย ความ ตอบแบบมักง่ายของคุณ บางคนศึกษากันตั้งนานกว่าจะได้เป็นแฟน ช่วยตอบตรงนี้ ทีเวลาที่เสียไป ที่เราควรจะมีโอกส ไปเจอคนที่ตรงสเปคจริงๆ เรียกคืนยังไง รู้ตอนแต่ง ยังเรียกค่าเสียหายได้ หรู้ก่อนแต่ง เรียกอะไรไม่ได้ตามกฏหมาย ไม่ได้อะไรซักอย่าง เสียเวลา ชิบ  


แบบนี้ไม่เรียกว่าท่านล่อลวงขอดูขอมูลส่วนบุคคลโดยมีเจตนาแอบแฝงหรือครับ? ดูเหมือนจะเป็นห่วงแต่คนอื่นจะมาล่อลวงตัวเองนะครับ

พูดเรื่องเวลาขึ้นมาก็ดี ไหนขอ case study ของคนที่ถูกล่อลวงเรื่องเพศสภาพของคู่รักและข้อมูลจำนวนปีหน่อยครับ จะได้เทียบได้กับจำนวนและเวลาที่คนที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับคำนำหน้านามถูกเลือกปฏิบัติ

แม่งยิ่งคุย ยิ่งได้รู้ว่าหลายคนในนี้แม่งเหมือนจะเปิดรับเรื่องเพศ แต่แม่งไม่เคยไปทำความเข้าใจสิ่งที่คนเหล่านี้ต้องเผชิญจากเรื่อง gender discrimination เลย พูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศเอาเท่ปากแค่นั้นแหละ

ตัวอย่างการถูกเลือกปฏิบัติจากคำนำหน้านามไม่ตรงกับเพศสภาพ
https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_1382842
 

อันนี้ผมเห็นต่างครับ คุณจะมาขอตัวเลขที่โดนหลอกโดยเพศสภาพแบบนี้มันไม่มีหรอกครับ เพราะทุกวันนี้เรายังรู้เพศสภาพจากบัตรประชาชนอยู่ไงครับ

ส่วนเรื่องจะแก้ปัญหาคนที่โดนเลือกปฏิบัติจากเพศสภาพอันนี้ผมเห็นด้วย แต่ผมว่าก็ไม่ควรจะไปเพิ่มปัญหาให้กับอีกฝ่าย

ลองคิดถึงอนาคตสิ ถ้าไม่มีการบ่งบอกเพศสภาพให้คนอื่นรู้ ก็จะมีคนออกมาเป็นข่าวประมาณว่า "ช้ำใจวิวาล่มเจ้าสาวไม่ใช่หญิง" แล้วถ้าถึงตอนนั้นคุณจะออกมาเรียกร้องแบบนี้ไหมครับ เพราะคนเหล่านี้ก็เป็นผู้เสียหายเหมือนคนที่คุณยกตัวอย่างมา หรือว่ามันโง่เองที่ไม่รู้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Would you rather die a hero?
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 8343
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 19:36
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
LoveS พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
GNR พิมพ์ว่า:
สมมุติครับ ผมต้องการแต่งงานกับผู้หญิง และต้องการจะมี ลูกเพื่อสืบสกุล
แต่ผู้หญิงคนนั้น คือผู้ที่ เพศสภาพเป็นชาย แต่มาผ่าตัดเปลี่ยนเพศตอนหลัง และเปลี่ยน คำหน้านาม
จนผมไม่ทราบสภาพ เพศที่แท้จริงของเค้า และเค้าปกปิดเรื่องนี้ ฝันมีลุกของผมอาจจะจบ หรือถูกหลอก อยู่หลายปีว่าทำไม ไม่มีลูกซะที เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก

อย่างน้อยที่สุด ครวรมีอะไรเป็นสัญลักบ่งบอกได้บ้าง ว่ามาจากการเปลี่ยนเพศ  


ถ้าจะแต่งงานเพื่อมีผู้ลูก ไม่ควรไปตรวจความสามารถในการมีลูกก่อนหรือครับ ไม่ใช่แค่มีได้หรือไม่ได้นะ มีโอกาสมีได้แค่ไหน มีแล้วลูกเสี่ยงอะไรบ้าง ยีนแฝงพ่อแม่มีอะไรบ้าง

เห็นพูดเรื่องมีลูกเมื่อพร้อมกันตลอด เรื่องพวกนี้ไม่ควรทำก่อนคิดก่อนที่จะแต่งงานเพื่อมีลูกหรอ?

แล้วการล่อลวงสมรสก็อย่างที่เพื่อสมาชิกตอบไป มันไม่ได้มีแค่กรณีเรื่องแปลงเพศ มันมี case อื่นอีกเยอะแยะ ซึ่งตามกฏหมายก็ไปฟ้องหย่าเรียกร้องค่าเสียหายไป

อ่านที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ดี ๆ ไอ้การมีคำนำหน้านามบนบัตรประชาชนตามเพศกำเนิดมันใช่เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการล่อลวงสมรสหรอ? งี้ประเทศที่อนุญาตเช่น อินเดีย ที่คนเป็นพันล้านมีกรณีคนข้ามเพศล่อลวงสมรสอย่างมีนัยยะเพิ่มขึ้นไหมหลังมีกฏหมายความเท่าเทียมทางเพศออกมา?  


อย่าคิดมักง่ายแบบนี้ครับ คิดถึงสังคมหลักความเป็นจริง คนเราไม่ได้เจอ วันนี้ พรุ่งนี้แต่งงาน
บางคน ครบกัน 4-5 ปี กว่าจะได้แต่ง คิดมักง่ายไปครับ ที่ว่า แต่งไปมารู้แล้วฟ้อง แต่ไม่คิดถึง ว่า 4-5 ปี ที่เค้า เสียเวลาไป หรืออาจมีโอกาสได้เจอคนที่ตรงคนที่ใช่ นั้นเรียกคืน ไม่ได้

อันนี้เอาประสบการจริง ผมเคยชอบผู้หญิงอยู่ 1 คน แต่ มีหลายคนบอกว่าเหมือนสาวสอง หรือไม่ใช่หญิงแท้ ทำให้ตอนจีบผม ลังเลพอสมควร คุณเชื่อเปล่า ผมต้องไปหาทาง ค้นดูบัตรประชาชน ที่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะยืนยันได้ว่า เค้าคือผู้หญิง จริง แล้วนี้ถ้าเรา ไม่มีบัตรหรืออะไรง่ายๆ พวกนี้ไว้เป็นเครื่องช่วยยืนยันแล้ว ว่า ใครผู้หญิงแท้หรือเทียม ต้องได้จากการพาไปตรวจเท่านั้น ไม่อยากคิดถึงความวุ่นวายในอนาคตเลย


แล้วนี้อีกประสบการณ์ พวกแอ๊บหาคู่ครับ บ่องตรงๆ เสียเวลาชิบหาย จะมีสาวสอง มาแอ๊บเป็นหญิง เยอะมาก บางคนกว่าจะรู้ว่าเป็นสาวสอง แทนที่จะประกาสตัวเลยคือสาวสอง นะ เผื่อใครรับได้ ก้ จีบไป ขอชมคนที่ ประกาศตัวเองว่าคือสาวสอง ทำให้ คนหาคู่หลายคน รู้แต่แรก ไม่ต้องเสียเวลา คุยอยู่ ซึ่งมีเยอะมาก
ผมเชื่อว่า หลายคนเคยเจอแบบผม
 


คุณต่างหากที่คิดแบบมักง่าย แค่เพื่อป้องกันการที่ตัวเองจะถูกล่อลวงจึงสนับสนุนวิธีการป้องกันแบบง่าย ๆ อย่างการแอบสืบข้อมูลบัตรประชาชนโดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ยินยอม โดยที่ไม่คิดถึงผลกระทบของการเลือกปฏิบัติจากการมีคำนำหน้าไม่ตรงเพศสภาพ

การที่คุณเกิดความสงสัยต่อเพศของคนรัก แล้วแอบไปสืบข้อมูลส่วนตัวแทนที่ตะถามตรง ๆ หรือพาไปตรวจสอบด้วยวิธีอื่นเพื่อยืนยัน ไม่คิดว่าเป็นวิธีการที่ขี้ขลาดเพราะไม่อยากเสี่ยงให้คนรักไม่พอใจที่รู้ว่าคุณสงสัยหรอ? และยืนยันว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แม้จะต้องปล่อยให้เพศทางเลือกถูกเลือกปฏิบัติจากกรณีคำนำหน้าชื่อไม่ตรงกับเพศสภาพ?  


ขออภัยที่ เล่าผิดไปหน่อย ไม่ได้แอบสืบครับ ขออภัยที่เล่าผิดแบบลวกๆ จริงผมขออนุญาต เค้าดูครับ
มันมีเหตุการณื ที่ผมกับเค้าไปลงทะเบียน ร่วมกิจกรรมด้วยกัน มีจังหวะนึงต้องใช้บัตรประชาชน ผมทำแอ๊บเนียน ว่าไหนขอดูหน่อยยยยย แลกกันดู อะไรแบบนี้ ผมได้รับการให้ดูจากเค้าอยากถูกต้องครับ แต่ยอมรับว่า เจตนาที่ขอดู เพียงเพราะแค่อยากเห็นคำนำหน้าชื่อ

เอาเป็นว่า ผมไม่ได้ไปแอบบค้นโดยที่เค้าไม่รู้ แต่เป็นการขอซึ่งๆน้า เท่านี้ จบมั๊ยครับ

แต่ความมักง่ายคุณจบยังครับ ที่หลายคนต้องเสียเวลา หลายปี แล้วพึ่งมารู้แล้วตามคืนไม่ได้
สังคมนี้มันจะมีซักกี่คู่วะครับ คบกัน 1 เดือนพาไปตรวจเลือดตรวจร่างกาย

ขนาดยังไม่มีการเปลี่ยนคำหน้า ยังมีหลอกกันเยอะ ยกตัวอย่างได้จากแอพ มีจะขนาดไหน
และสุดท้าย ความ ตอบแบบมักง่ายของคุณ บางคนศึกษากันตั้งนานกว่าจะได้เป็นแฟน ช่วยตอบตรงนี้ ทีเวลาที่เสียไป ที่เราควรจะมีโอกส ไปเจอคนที่ตรงสเปคจริงๆ เรียกคืนยังไง รู้ตอนแต่ง ยังเรียกค่าเสียหายได้ หรู้ก่อนแต่ง เรียกอะไรไม่ได้ตามกฏหมาย ไม่ได้อะไรซักอย่าง เสียเวลา ชิบ  


แบบนี้ไม่เรียกว่าท่านล่อลวงขอดูขอมูลส่วนบุคคลโดยมีเจตนาแอบแฝงหรือครับ? ดูเหมือนจะเป็นห่วงแต่คนอื่นจะมาล่อลวงตัวเองนะครับ

พูดเรื่องเวลาขึ้นมาก็ดี ไหนขอ case study ของคนที่ถูกล่อลวงเรื่องเพศสภาพของคู่รักและข้อมูลจำนวนปีหน่อยครับ จะได้เทียบได้กับจำนวนและเวลาที่คนที่มีเพศสภาพไม่ตรงกับคำนำหน้านามถูกเลือกปฏิบัติ

แม่งยิ่งคุย ยิ่งได้รู้ว่าหลายคนในนี้แม่งเหมือนจะเปิดรับเรื่องเพศ แต่แม่งไม่เคยไปทำความเข้าใจสิ่งที่คนเหล่านี้ต้องเผชิญจากเรื่อง gender discrimination เลย พูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศเอาเท่ปากแค่นั้นแหละ

ตัวอย่างการถูกเลือกปฏิบัติจากคำนำหน้านามไม่ตรงกับเพศสภาพ
https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_1382842
 

อันนี้ผมเห็นต่างครับ คุณจะมาขอตัวเลขที่โดนหลอกโดยเพศสภาพแบบนี้มันไม่มีหรอกครับ เพราะทุกวันนี้เรายังรู้เพศสภาพจากบัตรประชาชนอยู่ไงครับ

ส่วนเรื่องจะแก้ปัญหาคนที่โดนเลือกปฏิบัติจากเพศสภาพอันนี้ผมเห็นด้วย แต่ผมว่าก็ไม่ควรจะไปเพิ่มปัญหาให้กับอีกฝ่าย

ลองคิดถึงอนาคตสิ ถ้าไม่มีการบ่งบอกเพศสภาพให้คนอื่นรู้ ก็จะมีคนออกมาเป็นข่าวประมาณว่า "ช้ำใจวิวาล่มเจ้าสาวไม่ใช่หญิง" แล้วถ้าถึงตอนนั้นคุณจะออกมาเรียกร้องแบบนี้ไหมครับ เพราะคนเหล่านี้ก็เป็นผู้เสียหายเหมือนคนที่คุณยกตัวอย่างมา หรือว่ามันโง่เองที่ไม่รู้  


ผมขอข้อมูลจาก อนุญาตให้ใช้คำนำหน้านามตรวกับเพศสภาพได้ ครับ ว่าประเทศที่เขาอนุญาต เขามีประสบการณ์ในการใช้กฏหมายแล้ว เขามี feedback ข้อเสียยังไงบ้าง แบ้วเอาข้อมูลนั้นมาแย้งผมว่ามันมีข้อเสียจริง ๆ ไม่ใช่มโนว่ามันมีข้อเสียร้ายแรงตั้งแต่ยังไม่ลองศึกษา

ผมไม่ได้ขอข้อมูลจากประเทศที่ยังไม่มีการอนุญาตเรื่องนี้ เช่น ประเทศไทย ครับ ถ้าไม่อนุญาตมันจะไปมีข้อมูลได้ไง อย่างที่ท่านบอกนั้นแหละ แต่ประเทศที่อนุญาตไปแล้วมีเยอะแยะครับ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ยุโรปเกือบทั้งแถบ รัฐในอเมริกาเกือบครึ่ง อินเดีย หลายประเทศในนั้นเป็น conservative จ้าที่สังคมเปิดกว้างเรื่องทางเพศทางเลือกน้อยกว่าไทยด้วยซ้ำ ถ้ามันมีข้อเสียที่มีนัยยะมันต้องมีข้อมูลที่ออกมาแย้งบ้างครับ ลองหามาแย้งดู

มีไหมครับ ข่าววิวาห์ล่มเพราะเจ้าสาวแปลงเพศมา เจ้าบ่าวพลาดท่าเพราะบัตรประชาชนระบุว่าเป็นหญิง ในอินเดีย หรืออเมริกา หรืออังกฤษ หรือเยอรมัน หรือนิวซีแลนด์

ผมไม่เข้าใจทำไมถึงคิดว่าผมจะโทษเหยื่อ มีประโยคไหนที่ผมโทษเหยื่อที่ถูกหลอกบ้าง?
แก้ไขล่าสุดโดย Wolvesgangster เมื่อ Fri Jul 01, 2022 19:39, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2010
ตอบ: 644
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 22:10
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
โดยส่วนตัวไม่มีปัญหานะ แต่กำลังสงสัยเรื่องการสืบค้นข้อมูลแหละ
เช่น นายAไปก่อคดีฆาตกรรม แล้วไปเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเปลี่ยนชื่อ แต่งตัวเป็นสาว มันจะสืบเจอไหม
จะมีอะไรบอกไหมว่าคนนี้เคยเป็นชาย หรือต้องสืบค้นประวัติเท่านั้น แล้วระบบราชการไทยมันลิงค์กันรึเปล่า
เช่นนายAไปเช่าห้องไปอยู่หอหญิงจะหลุดจากวงผู้ต้องสงสัยไหม
 


ในกรณีแบบนี้ การไม่ให้เปลี่ยนคำนำหน้านาม แต่เปลี่ยนชื่อได้ มันมีประโยชน์อะไร?  


มันคือแบบนี้ครับ เวลามีผู้เห็นเหตุการณ์ มันไม่ได้เห็นชื่อเนอะ
“ผู้ต้องสงสัยเพชชาย สูงประมาณ170 ผมสั้น”
ฐานข้อมูลก็จะโฟกัสว่า เพชชาย(หายไปครึ่ง) สูง 170 ที่อยู่ในระแวกนั้น

ผมคิดว่าเป็นเรื่องของdatabase ในไทยหลายๆที่มีแค่ นาย/นาง/นางสาว ซึ่งถ้าเพิ่มมันก็มีค่าใช้จ่ายในอัลกอลึทึ่มต่างๆ
บริษัทนึง ฐานข้อมูลเช่น ลูกค้าผู้ชายชอบซื้อสินค้าประเภทนี้กี่โมง คู่กับสิ่งไหน ก็อาจจะเปลี่ยนไป เพราะตัวแปรเยอะขึ้น
แบบฟอร์มต่างๆก็เปลี่ยนไป ฐานข้อมูลเดิมก็ต้องมีคนแก้ไข ไม่งั้นก็จะดราม่า ไม่เคารพสิทธิlgbtqia+
แล้วทำไมถึงต้องลงทุนเพื่อLEBTQIA+ขนาดนั้น
ถ้าเราจะเคารพความเท่าเทียม ทำไม lgbtqia+ที่ใช้นาย ถึงไม่เท่ากับ lgbtqia+ที่ใช้นางสาว ควรจะปลูกฝังให้เท่าเทียมตรงนี้มากกว่า
ถ้าเป็นแบบนั้น ถึงเปลี่ยนคำนำหน้าอื่น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรรึเปล่า ยังไงการเหยียดก็เกิดอยู่ดี

เพิ่มเติมจากคำถามนี้
แล้วทำไมเพศที่ 3 จึงไม่ควรเปลี่ยนคำหน้านาม?
เป็นคำถามที่ดี มีเหตุผลอะไรที่เราจะสงวนสิทธิ์ในการขอเปลี่ยนคำหน้าของเพศที่ 3 ให้ตรงตามเพศสภาพหรือความต้องการ

มีใครเลือกคำนำหน้านามได้ด้วยหรอ
ตอนเด็กผมไม่อยากเป็น ด.ช.สมชาย อยากเป็น หนึ่งในทีมแอดเวนเจอร์สมชาย
หรือโตมาไม่อยากเป็นนาย อยากเป็น อัครอภิมหาเศรษฐีนายพลสมชาย งี้ได้ไหม
มันไม่มีใครเลือดได้ทั้งนั้นแต่แรก ไม่ว่า ผช ผญ lgbtqia+ แล้วทำไมถึงแก้เพิ่มให้กลุ่มนึงได้เพราะรู้สึกไม่อยากใช้นาย
แก้ไขล่าสุดโดย littlel3ear เมื่อ Fri Jul 01, 2022 22:26, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 2956
ที่อยู่: ป่าอันแสนสงบที่มีไวไฟแรงๆ
โพสเมื่อ: Fri Jul 01, 2022 22:18
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
ผมว่านาย นาง นางสาว ยืนตามธรรมชาติเพศเกิดดีกว่า มันไปอีกหลายเรื่อง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"คุณภาพที่ปราศจากผลลัพธ์ ถือว่าไร้ค่า ส่วนผลลัพธ์ที่ปราศจากคุณภาพ ถือว่าน่าเบื่อ"Johan Cruyff
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Would you rather die a hero?
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 8343
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 02, 2022 08:56
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
littlel3ear พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
โดยส่วนตัวไม่มีปัญหานะ แต่กำลังสงสัยเรื่องการสืบค้นข้อมูลแหละ
เช่น นายAไปก่อคดีฆาตกรรม แล้วไปเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเปลี่ยนชื่อ แต่งตัวเป็นสาว มันจะสืบเจอไหม
จะมีอะไรบอกไหมว่าคนนี้เคยเป็นชาย หรือต้องสืบค้นประวัติเท่านั้น แล้วระบบราชการไทยมันลิงค์กันรึเปล่า
เช่นนายAไปเช่าห้องไปอยู่หอหญิงจะหลุดจากวงผู้ต้องสงสัยไหม
 


ในกรณีแบบนี้ การไม่ให้เปลี่ยนคำนำหน้านาม แต่เปลี่ยนชื่อได้ มันมีประโยชน์อะไร?  


มันคือแบบนี้ครับ เวลามีผู้เห็นเหตุการณ์ มันไม่ได้เห็นชื่อเนอะ
“ผู้ต้องสงสัยเพชชาย สูงประมาณ170 ผมสั้น”
ฐานข้อมูลก็จะโฟกัสว่า เพชชาย(หายไปครึ่ง) สูง 170 ที่อยู่ในระแวกนั้น

ผมคิดว่าเป็นเรื่องของdatabase ในไทยหลายๆที่มีแค่ นาย/นาง/นางสาว ซึ่งถ้าเพิ่มมันก็มีค่าใช้จ่ายในอัลกอลึทึ่มต่างๆ
บริษัทนึง ฐานข้อมูลเช่น ลูกค้าผู้ชายชอบซื้อสินค้าประเภทนี้กี่โมง คู่กับสิ่งไหน ก็อาจจะเปลี่ยนไป เพราะตัวแปรเยอะขึ้น
แบบฟอร์มต่างๆก็เปลี่ยนไป ฐานข้อมูลเดิมก็ต้องมีคนแก้ไข ไม่งั้นก็จะดราม่า ไม่เคารพสิทธิlgbtqia+
แล้วทำไมถึงต้องลงทุนเพื่อLEBTQIA+ขนาดนั้น
ถ้าเราจะเคารพความเท่าเทียม ทำไม lgbtqia+ที่ใช้นาย ถึงไม่เท่ากับ lgbtqia+ที่ใช้นางสาว ควรจะปลูกฝังให้เท่าเทียมตรงนี้มากกว่า
ถ้าเป็นแบบนั้น ถึงเปลี่ยนคำนำหน้าอื่น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรรึเปล่า ยังไงการเหยียดก็เกิดอยู่ดี

เพิ่มเติมจากคำถามนี้
แล้วทำไมเพศที่ 3 จึงไม่ควรเปลี่ยนคำหน้านาม?
เป็นคำถามที่ดี มีเหตุผลอะไรที่เราจะสงวนสิทธิ์ในการขอเปลี่ยนคำหน้าของเพศที่ 3 ให้ตรงตามเพศสภาพหรือความต้องการ

มีใครเลือกคำนำหน้านามได้ด้วยหรอ
ตอนเด็กผมไม่อยากเป็น ด.ช.สมชาย อยากเป็น หนึ่งในทีมแอดเวนเจอร์สมชาย
หรือโตมาไม่อยากเป็นนาย อยากเป็น อัครอภิมหาเศรษฐีนายพลสมชาย งี้ได้ไหม
มันไม่มีใครเลือดได้ทั้งนั้นแต่แรก ไม่ว่า ผช ผญ lgbtqia+ แล้วทำไมถึงแก้เพิ่มให้กลุ่มนึงได้เพราะรู้สึกไม่อยากใช้นาย  


แล้วกรณีที่ท่านยกตัวอย่างมามันเกี่ยวข้องกับคำนำหน้ายังไงครับ
ในเมื่อมันเป็นการบอกรูปปะพรรณสันฐานจากรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลอะไรบน id card ด้วยซ้ำ ผมงง? ถ้าข้อมูลที่ได้คือเพศชาย ก็ต้องมองหาคนรูปลักษณ์เป็นชายอยู่แล้ว ไม่มีการตัดผู้ต้องสงสัยแค่เพราะคำนำหน้าเป็นนางสาว แต่รูปลักษณ์เป็นชายหรอก หรือถ้ามีคนพบเห็น เขาก็ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่แล้ว ไม่มีสิทธิ์ไปขอตรวจบัตรประชาชน หรือต่อให้เห็นบัตรประชาชนก็จะยึดรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่ดี การที่จะทำให้ข้อมูลรูปพรรณสัณฐานคลาดเคลื่อนไปได้คือต้องทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปเป็นอีกเพศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศัลยกรรม ไม่ใช่เรื่องของคำนำหน้าบัตร

เป็นคำถามที่ดีครับ แล้วมีเหตุผลอะไรถึงจะไม่ให้เพศที่ 3 ใช้คำนำหน้าตามต้องการ คำว่าตามต้องการนี้หมายความใครอยากใข้อะไรก็เดินไปที่อำเภอเปลี่ยนได้เลยหรอ? การขอเปลี่ยนคำนำหน้านามมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะครับ ต้องติดต่อราชการขอเปลี่ยนเอกสารประจำตัวกี่หน่วยงานให้ตรงกัน บัตรประชาชน, ใบขับขี่, ทะเบียนบ้าน, passport และการออก พรบ.เปลี่ยนคำนไหน้านามยังสามารถวางกฏเกณฑ์ได้หลายแบบ เช่น ต้องมีใบรับรองการทำศัลยกรรมเฉพาะทางการแพทย์ หรือ ใบวินิจฉัย dysphoria จากจิตแพทย์

การจะบอกว่าก็ไม่มีใครเลือกคำนำหน้าตามต้องการได้อยู่แล้ว ผมถามกลับว่าแล้วชีวิตท่านเคยมีปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติจากการมีคำว่านายนำหน้าชื่อไหมครับ? ผมเดาว่าไม่มี แต่เพศทางเลือกเขามีครับ เวลาที่ต้องแสดงข้อมูลในบัตรประชาชนแล้วคำนำหน้าชื่อมันไม่ตรงกับเพศสภาพของเขา ลองหาข้อมูลเรื่องนี้ได้ตาม internet มันเป็นประสบการณ์ร่วมของคนข้ามเพศทั้งหลายที่เจอแทบทุกคน แล้วจะบอกให้คนเหล่านี้อดทนต่อไปเพราะคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน แบบนั้นหรอครับ นี้คือแนวคิดที่ดีในระบอบเสรีนิยมที่ควรปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรอ?

ไอ้วิธีคิดแบบคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเช่นกัน ก้มหน้าใช้ชีวิตต่อไปเถอะ มันคือแนวคิดแบบทาสที่ยอมตกอยู่ในระบบอำนาจนิยม ผมแนะนำให้ลองไปหาข้อมูลดูและเปิดใจรับฟังคนที่เขาเรียกร้องให้ดีก่อนว่าเขาอยากเปลี่ยนเพราะอะไร แค่เพราะเขา "อยาก" แค่นั้นหรอ? แล้วไปคิดดูว่ามีเหตุผลอะไรที่ควรสนับสนุนให้รัฐจำกัดสิทธินี้จากเขา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Would you rather die a hero?
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 8343
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 02, 2022 09:14
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
-Quantum- พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
-Quantum- พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
-Quantum- พิมพ์ว่า:
ไม่เห็นด้วย ถ้าจะเปลี่ยนคำนำหน้า ก็ต้องมีอย่างอื่นระบุ ID ชัดเจนเลยครับ

เข้าใจนะ ว่าเค้าอยากมีเสรีภาพเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าไม่มีอะไรควบคุม

รับประกันเลย สังคมจะมีปัญหาตามมามากกว่าเยอะ สร้างความ insecure เป็นวงกว้างเลยด้วย  


มีประเทศที่ทำเป็นตัวอย่างให้ดูหลายประเทศแล้วนะครับ
ดูใน world map ที่ผมยกมาก็ได้ ในนั้นก็ไม่ใช่เรื่องคำนำหน้าซะทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่คือสถานะทางกฏหมายของเพศทาวเลือก ยกตัวอย่างประเทศที่อนุญาตให้เปลี่ยนคำนำหน้าได้โดยไม่ต้องใช้คำรับรองจากแพทย์ (free to change title name) เช่น อินเดีย

ลองยกตัวอย่างปัญหาที่ตามมาอย่างมีนัยยะจากประเทศที่อนุญาตหน่อยครับ จะได้มีข้อมูลสนับสนุนมากพอว่าเปลี่ยนแล้วมันจะทำให้เกิดปัญหาอย่างมีนัยยะต่อสัวคมโดยรวมจริง ๆ ไม่ใบ่แค่มโนไปก่อนเองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่  


อย่างที่บอก ผมไม่ได้มีปัญหากับคำนำหน้านะถ้ามีอย่างอื่นสามารถระบุ ID ที่มาชัดเจน ก็เปลี่ยนคำนำหน้าได้เลยผมไม่ติดอะไร

แผนภูมิโลกผมไม่ได้ดูละเอียดหรอกนะ แต่ผมไม่คิดว่ามันบังคับใช้กับทุกที่บนโลกได้

มันขึ้นกับบริบทและแนวคิดของประชาชนในสังคมนั้นด้วย เอาแค่เคสคนใกล้ตัว

ผมก็เห็นเพศที่สามเข้าหาเพื่อนหน้าตาดี แบบเนียนๆก้เยอะแล้ว

คนบางชาติเค้าสามารถปลูกฝังให้ ปัจเจกชนในประเทศเชื่อมั่นและให้คุณค่าของเพศตัวเองมากกว่าในไทยเยอะ ยากที่ลดคุณค่าตัวเองมาหลอกซีซัวะ

ที่พูดนี่เพราะเคยใช้ชีวิตแถบยุโรปมาบ้างนะ ตรงนี้คุณเชื่อว่าจริงมั้ยล่ะครับหรือคุณคิดว่าไม่จริง

แต่คนบางชาตินี่ ตูจะหลอกว่า ตูไม่ใช่ๆให้ได้ลูกเดียวเลยก้มี ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน

ส่วนตัวเลขผมคงไม่มานั่งหาให้ดูหรอก เราจะไปเอาสถิติประเภทไหนกันถึงอ้างอิงได้ว่าดีหรือไม่ดี

ดัชนีวัดความพึงพอใจของคนในชาติหรือหรือว่าจำนวนการฟ้อง? ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาคอขาดบาดตาย ไม่คิดว่าตัวเลขจะบ่งบอกอะไรชัดเจนอยู่แล้ว

ต่อให้มีจริงเค้าก้อาจจะไม่ publish ออกมาก้ได้ เพราะมันเป็นการ anti เพศที่สามแบบกลายๆ

แต่ผมขอออกความเห็นเรือ่งนึง คุณจะสนับสนุนกฏหมายๆนึงให้เป็นรูปเป็นร่าง อย่าคิดว่า ตัวเลขอ้างอิงจากประเทศอื่นๆจะใช้ตอบโจทย์ได้

บางประเทศอนุมัติกฏหมาย แล้วพอใช้แล้วมีปัญหา มีคนได้รับผลกระทบเยอะ ก้จะแก้คืนก้มี

มันเป็นเพราะคนพวกนี้เค้าลืมไปว่า มันบังคับใช้ในประเทศหรือรัฐตัวเองแล้วมันจะเหมาะเหมือนประเทศอื่นรึเปล่า มากกว่า

ปล. เน้นอีกที ที่พูดนี่คือกรณีที่เราเช็ค ID ที่มาใดๆไม่ได้เลยนะ แต่ถ้าเช็คได้ ไม่มีปัญหาเลยครับ  


อินเดียเป็นประเทศที่ conservative มากครับ เป็นประเทศเอเชีย มีเรื่องชนชั้นฝังรากลึก และมีกลุ่มต่อต้านความหลกหลายทางเพศจำนวนมากเช่นกัน ที่กฏหมายนี้มันออกมาได้ก็เพราะศาลสูงอินเดียตัดสินว่าการบังคับเรื่องคำนำหน้ามันขัดกับหลักการความเท่าเทียม นี้คือวิธีที่กฏหมายนำสังคมไปในทางที่เป็นไปตามหลักการ ไม่ใช่อ้างแต่เรื่องวัฒนธรรม

ไอ้กฏหมายคำนำหน้าชื่อนี้ก็รับอิทธิพลมาจากตะวันตกทั้งนั้น พอจะเปลี่ยนแปลงกฏหมายที่ล้าหลังมาเป็น 100 ปีกลับบอกว่ากฏหมายตัวนี้ขึ้นอยู่กับเอกลักษณ์ของสังคมไทย ไม่ควรเอาแนวโน้มต่างประเทศมาดู?

หลักการพื้นฐานประชาธิปไตยง่าย ๆ นะครับ เคารพเสียงส่วนใหญ่โดยปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของเสียงส่วนน้อย กฏหมายที่ไม่พัฒนาตามหลักการสิทธิและเสรีภาพ เป็นแค่เครื่องมือในการกดเสียงส่วนน้อยให้อยู่ในกรอบที่ไม่ยุติธรรม

ผมถึงกล้าท้าให้ใครก็ได้ยกตัวอย่างมาว่าการอนุญาตให้เพศทางเลือกเลือกใช้คำนำหน้าตามเพศสภาพมันทำให้เกิดปัญหาอย่างมีนัยยะยังไง หรือแค่มโนไว้ก่อนมันต้องเป็นปัญหาแน่ ๆ ถึงสนับสนุนให้รัฐจำกัดสิทธิของเสียงส่วนน้อยนี้ต่อไป  


ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันซักนิดเลยครับ การที่เคยนำกฏหมายประเทศอื่นมาใช้แล้วต้องไปแก้ตามเค้าด้วย

คำนำหน้าชื่อ ทุกประเทศมันเห็นด้วยอยู่แล้วครับเพราะทำแล้วมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษ ธุรกรรมทุกอย่างมันจำเป็นต้องใช้เรื่องนี้

ถ้าจะบอกแก้กฏหมายตามเค้ามันเหมาะสม ถ้าบ้านเราแก้กฏหมายประชาชนพกปืนได้ คิดว่าสังคมจะไม่แย่ขึ้นรึครับ

หรือถ้ามีตัวเลขอ้างอิงจากประเทศที่เจริญกว่าว่า ผลเสียน้อย แสดงว่ามันน่าจะนำมาใช้กับเราได้เช่นเดียวกัน?

ผมหยุด reply ไว้เม๊นนี้พอละกัน คือผมไม่ได้อยากจะเอาชนะท่านนะ ไม่ได้อยากให้ท่านหัวเสียด้วย

แต่คิดว่าเรื่องนี้มันมองได้หลายมุมมอง

และบางมุมมองที่คนอื่นมองต่างจากท่าน เค้าก็ให้ความสำคัญตรงนั้นอย่างมาก ซึ่งเผอิญผมก้มองตรงนั้นเหมือนกัน

การให้สิทธิ เสรีภาพ เพศที่สามเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่มันก็ต้องควบคู่กับการประนีประนอมด้วยแหละครับ  


หลายประเทศในยุโรปไม่มีคำนำหน้าชื่อ (title name) บน id card, กลุ่มแสกนไม่มี, อเมริกาก็ไม่มี, บางประเทศในอเมริกาใต้ไม่มี

อเมริกา, เกือบทุกประเทศในยุโรป, อินเดีย, หลายประเทศในอเมริกาใต้ อนุญาตให้ขอเปลี่ยนข้อมูลเพศบนบัตรได้ตามต้องการ/ตามเพศสภาพ

ไม่ต้องกลัวผมอารมณ์เสียหรอกครับ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์เป็นปัญหาของผม ไม่ใช่ของท่าน เป็นห่วงทัศนคติที่สร้างความเชื่อฝั่งหัวโดยไม่ลองหาข้อมูลดูก่อนดีกว่าครับ เพราะนั้นคือปัญหาของท่าน และจริง ๆ นั้นคือเหตุผลที่ทำให้ผมอารมณ์เสียกับการคุยกับคนที่สักแต่ว่าจะแสดงความคิดเห็นจากความเชื่อของตัวเอง โดยไม่รู้จักลองหาข้อมูลดูก่อน อย่างน้อยข้อมูลผิดถูกจะได้เอามายันกันให้เป็นประโยชน์กับสังคม

อีกอย่างจะให้ผมไปประนีประนอมกับอะไร กับเหตุผลโง่ ๆ อย่างการกลัวเพศที่สามจะมาล่อลวงเพราะแค่ให้เขาเปลี่ยนคำนำหน้านามให้ตรงกับเพศสภาพหรอ? ตลก เมื่อไหร่กันที่สิทธิและเสรีภาพของประชาชนส่วนน้อยต้องประนีประนอมกับความสบายใจของคนส่วนใหญ่ สัก 100 ปีที่แล้วมั้ง ตอนคนดำยังต้องนั้งรถเมล์แยกกับคนขาวอยู่เพราะสกปรกและจน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2010
ตอบ: 644
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 02, 2022 11:33
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
โดยส่วนตัวไม่มีปัญหานะ แต่กำลังสงสัยเรื่องการสืบค้นข้อมูลแหละ
เช่น นายAไปก่อคดีฆาตกรรม แล้วไปเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเปลี่ยนชื่อ แต่งตัวเป็นสาว มันจะสืบเจอไหม
จะมีอะไรบอกไหมว่าคนนี้เคยเป็นชาย หรือต้องสืบค้นประวัติเท่านั้น แล้วระบบราชการไทยมันลิงค์กันรึเปล่า
เช่นนายAไปเช่าห้องไปอยู่หอหญิงจะหลุดจากวงผู้ต้องสงสัยไหม
 


ในกรณีแบบนี้ การไม่ให้เปลี่ยนคำนำหน้านาม แต่เปลี่ยนชื่อได้ มันมีประโยชน์อะไร?  


มันคือแบบนี้ครับ เวลามีผู้เห็นเหตุการณ์ มันไม่ได้เห็นชื่อเนอะ
“ผู้ต้องสงสัยเพชชาย สูงประมาณ170 ผมสั้น”
ฐานข้อมูลก็จะโฟกัสว่า เพชชาย(หายไปครึ่ง) สูง 170 ที่อยู่ในระแวกนั้น

ผมคิดว่าเป็นเรื่องของdatabase ในไทยหลายๆที่มีแค่ นาย/นาง/นางสาว ซึ่งถ้าเพิ่มมันก็มีค่าใช้จ่ายในอัลกอลึทึ่มต่างๆ
บริษัทนึง ฐานข้อมูลเช่น ลูกค้าผู้ชายชอบซื้อสินค้าประเภทนี้กี่โมง คู่กับสิ่งไหน ก็อาจจะเปลี่ยนไป เพราะตัวแปรเยอะขึ้น
แบบฟอร์มต่างๆก็เปลี่ยนไป ฐานข้อมูลเดิมก็ต้องมีคนแก้ไข ไม่งั้นก็จะดราม่า ไม่เคารพสิทธิlgbtqia+
แล้วทำไมถึงต้องลงทุนเพื่อLEBTQIA+ขนาดนั้น
ถ้าเราจะเคารพความเท่าเทียม ทำไม lgbtqia+ที่ใช้นาย ถึงไม่เท่ากับ lgbtqia+ที่ใช้นางสาว ควรจะปลูกฝังให้เท่าเทียมตรงนี้มากกว่า
ถ้าเป็นแบบนั้น ถึงเปลี่ยนคำนำหน้าอื่น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรรึเปล่า ยังไงการเหยียดก็เกิดอยู่ดี

เพิ่มเติมจากคำถามนี้
แล้วทำไมเพศที่ 3 จึงไม่ควรเปลี่ยนคำหน้านาม?
เป็นคำถามที่ดี มีเหตุผลอะไรที่เราจะสงวนสิทธิ์ในการขอเปลี่ยนคำหน้าของเพศที่ 3 ให้ตรงตามเพศสภาพหรือความต้องการ

มีใครเลือกคำนำหน้านามได้ด้วยหรอ
ตอนเด็กผมไม่อยากเป็น ด.ช.สมชาย อยากเป็น หนึ่งในทีมแอดเวนเจอร์สมชาย
หรือโตมาไม่อยากเป็นนาย อยากเป็น อัครอภิมหาเศรษฐีนายพลสมชาย งี้ได้ไหม
มันไม่มีใครเลือดได้ทั้งนั้นแต่แรก ไม่ว่า ผช ผญ lgbtqia+ แล้วทำไมถึงแก้เพิ่มให้กลุ่มนึงได้เพราะรู้สึกไม่อยากใช้นาย  


แล้วกรณีที่ท่านยกตัวอย่างมามันเกี่ยวข้องกับคำนำหน้ายังไงครับ
ในเมื่อมันเป็นการบอกรูปปะพรรณสันฐานจากรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลอะไรบน id card ด้วยซ้ำ ผมงง? ถ้าข้อมูลที่ได้คือเพศชาย ก็ต้องมองหาคนรูปลักษณ์เป็นชายอยู่แล้ว ไม่มีการตัดผู้ต้องสงสัยแค่เพราะคำนำหน้าเป็นนางสาว แต่รูปลักษณ์เป็นชายหรอก หรือถ้ามีคนพบเห็น เขาก็ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่แล้ว ไม่มีสิทธิ์ไปขอตรวจบัตรประชาชน หรือต่อให้เห็นบัตรประชาชนก็จะยึดรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่ดี การที่จะทำให้ข้อมูลรูปพรรณสัณฐานคลาดเคลื่อนไปได้คือต้องทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปเป็นอีกเพศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศัลยกรรม ไม่ใช่เรื่องของคำนำหน้าบัตร

เป็นคำถามที่ดีครับ แล้วมีเหตุผลอะไรถึงจะไม่ให้เพศที่ 3 ใช้คำนำหน้าตามต้องการ คำว่าตามต้องการนี้หมายความใครอยากใข้อะไรก็เดินไปที่อำเภอเปลี่ยนได้เลยหรอ? การขอเปลี่ยนคำนำหน้านามมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะครับ ต้องติดต่อราชการขอเปลี่ยนเอกสารประจำตัวกี่หน่วยงานให้ตรงกัน บัตรประชาชน, ใบขับขี่, ทะเบียนบ้าน, passport และการออก พรบ.เปลี่ยนคำนไหน้านามยังสามารถวางกฏเกณฑ์ได้หลายแบบ เช่น ต้องมีใบรับรองการทำศัลยกรรมเฉพาะทางการแพทย์ หรือ ใบวินิจฉัย dysphoria จากจิตแพทย์

การจะบอกว่าก็ไม่มีใครเลือกคำนำหน้าตามต้องการได้อยู่แล้ว ผมถามกลับว่าแล้วชีวิตท่านเคยมีปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติจากการมีคำว่านายนำหน้าชื่อไหมครับ? ผมเดาว่าไม่มี แต่เพศทางเลือกเขามีครับ เวลาที่ต้องแสดงข้อมูลในบัตรประชาชนแล้วคำนำหน้าชื่อมันไม่ตรงกับเพศสภาพของเขา ลองหาข้อมูลเรื่องนี้ได้ตาม internet มันเป็นประสบการณ์ร่วมของคนข้ามเพศทั้งหลายที่เจอแทบทุกคน แล้วจะบอกให้คนเหล่านี้อดทนต่อไปเพราะคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน แบบนั้นหรอครับ นี้คือแนวคิดที่ดีในระบอบเสรีนิยมที่ควรปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรอ?

ไอ้วิธีคิดแบบคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเช่นกัน ก้มหน้าใช้ชีวิตต่อไปเถอะ มันคือแนวคิดแบบทาสที่ยอมตกอยู่ในระบบอำนาจนิยม ผมแนะนำให้ลองไปหาข้อมูลดูและเปิดใจรับฟังคนที่เขาเรียกร้องให้ดีก่อนว่าเขาอยากเปลี่ยนเพราะอะไร แค่เพราะเขา "อยาก" แค่นั้นหรอ? แล้วไปคิดดูว่ามีเหตุผลอะไรที่ควรสนับสนุนให้รัฐจำกัดสิทธินี้จากเขา  


ที่ผมยกตัวอย่าง เพราะบ้านผมทำอาพาร์ทเมนท์ครับ รวมถึงคนที่ปล่อยเช่าคอนโด เวลารวมรวบข้อมูลผู้เช่า ผมใช้จากสำเนาบัตรปชชนะ เพราะไม่ได้เป็นคนนั่งอยู่ตรงออฟฟิตรับคนเช่าครับ ตอนโควิทก็เช่นกัน ส่งแค่สำเนาบัตรปชช เวลาเจ้าหน้าที่มาถามก็ดูจากประวัติในคอมก็มาจากบัตรปชชครับ

สำหรับปัญหาในการใช้ชีวิตเรื่องนำหน้าชื่อผมไม่มี เพศทางเลือกมีจริง แต่ที่ผมจะสื่อคือถึงเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็มีปัญหาอยู่ดี ต่อให้เปลี่ยนเป็นนางพอคนรู้ความจริงก็มีอยู่ดีไหมครับ มันแค่แก้ปัญหาแบบปกปิดปัญหาอะเรื่องคำนำหน้าชื่อ

เรื่องคิดแบบคนไม่มีสิทธิเลือก อันนี้ไม่ใช้และ เพราะถ้าทางเลือกที่3มีสิทธิเลือกเพศที่1และ2ก็มีสิทธิเลือกนะ ถามว่ากระทบอะไรก็ที่ผมยกตัวอย่างไป ผมและคนอื่นๆต้องเพิ่มเงินเพื่อแก้ปัญหา รวมถึงภาษีต่างๆ เพื่อปกปิดคำนำหน้าชื่อที่มองเห็นว่าไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เอาเงินไปทำกิจกรรม รณรงค์ ปลูกฝัง ให้ความรู้ ไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งจะทำจริงหรือไม่ทำตามสิทธิส่วนรวมก็ควรเคารพเสียงส่วนใหญ่ด้วย ไม่ใช่เสียงเฉพาะกลุ่ม
แก้ไขล่าสุดโดย littlel3ear เมื่อ Sat Jul 02, 2022 11:38, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Would you rather die a hero?
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 8343
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 02, 2022 12:01
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
littlel3ear พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
โดยส่วนตัวไม่มีปัญหานะ แต่กำลังสงสัยเรื่องการสืบค้นข้อมูลแหละ
เช่น นายAไปก่อคดีฆาตกรรม แล้วไปเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเปลี่ยนชื่อ แต่งตัวเป็นสาว มันจะสืบเจอไหม
จะมีอะไรบอกไหมว่าคนนี้เคยเป็นชาย หรือต้องสืบค้นประวัติเท่านั้น แล้วระบบราชการไทยมันลิงค์กันรึเปล่า
เช่นนายAไปเช่าห้องไปอยู่หอหญิงจะหลุดจากวงผู้ต้องสงสัยไหม
 


ในกรณีแบบนี้ การไม่ให้เปลี่ยนคำนำหน้านาม แต่เปลี่ยนชื่อได้ มันมีประโยชน์อะไร?  


มันคือแบบนี้ครับ เวลามีผู้เห็นเหตุการณ์ มันไม่ได้เห็นชื่อเนอะ
“ผู้ต้องสงสัยเพชชาย สูงประมาณ170 ผมสั้น”
ฐานข้อมูลก็จะโฟกัสว่า เพชชาย(หายไปครึ่ง) สูง 170 ที่อยู่ในระแวกนั้น

ผมคิดว่าเป็นเรื่องของdatabase ในไทยหลายๆที่มีแค่ นาย/นาง/นางสาว ซึ่งถ้าเพิ่มมันก็มีค่าใช้จ่ายในอัลกอลึทึ่มต่างๆ
บริษัทนึง ฐานข้อมูลเช่น ลูกค้าผู้ชายชอบซื้อสินค้าประเภทนี้กี่โมง คู่กับสิ่งไหน ก็อาจจะเปลี่ยนไป เพราะตัวแปรเยอะขึ้น
แบบฟอร์มต่างๆก็เปลี่ยนไป ฐานข้อมูลเดิมก็ต้องมีคนแก้ไข ไม่งั้นก็จะดราม่า ไม่เคารพสิทธิlgbtqia+
แล้วทำไมถึงต้องลงทุนเพื่อLEBTQIA+ขนาดนั้น
ถ้าเราจะเคารพความเท่าเทียม ทำไม lgbtqia+ที่ใช้นาย ถึงไม่เท่ากับ lgbtqia+ที่ใช้นางสาว ควรจะปลูกฝังให้เท่าเทียมตรงนี้มากกว่า
ถ้าเป็นแบบนั้น ถึงเปลี่ยนคำนำหน้าอื่น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรรึเปล่า ยังไงการเหยียดก็เกิดอยู่ดี

เพิ่มเติมจากคำถามนี้
แล้วทำไมเพศที่ 3 จึงไม่ควรเปลี่ยนคำหน้านาม?
เป็นคำถามที่ดี มีเหตุผลอะไรที่เราจะสงวนสิทธิ์ในการขอเปลี่ยนคำหน้าของเพศที่ 3 ให้ตรงตามเพศสภาพหรือความต้องการ

มีใครเลือกคำนำหน้านามได้ด้วยหรอ
ตอนเด็กผมไม่อยากเป็น ด.ช.สมชาย อยากเป็น หนึ่งในทีมแอดเวนเจอร์สมชาย
หรือโตมาไม่อยากเป็นนาย อยากเป็น อัครอภิมหาเศรษฐีนายพลสมชาย งี้ได้ไหม
มันไม่มีใครเลือดได้ทั้งนั้นแต่แรก ไม่ว่า ผช ผญ lgbtqia+ แล้วทำไมถึงแก้เพิ่มให้กลุ่มนึงได้เพราะรู้สึกไม่อยากใช้นาย  


แล้วกรณีที่ท่านยกตัวอย่างมามันเกี่ยวข้องกับคำนำหน้ายังไงครับ
ในเมื่อมันเป็นการบอกรูปปะพรรณสันฐานจากรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลอะไรบน id card ด้วยซ้ำ ผมงง? ถ้าข้อมูลที่ได้คือเพศชาย ก็ต้องมองหาคนรูปลักษณ์เป็นชายอยู่แล้ว ไม่มีการตัดผู้ต้องสงสัยแค่เพราะคำนำหน้าเป็นนางสาว แต่รูปลักษณ์เป็นชายหรอก หรือถ้ามีคนพบเห็น เขาก็ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่แล้ว ไม่มีสิทธิ์ไปขอตรวจบัตรประชาชน หรือต่อให้เห็นบัตรประชาชนก็จะยึดรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่ดี การที่จะทำให้ข้อมูลรูปพรรณสัณฐานคลาดเคลื่อนไปได้คือต้องทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปเป็นอีกเพศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศัลยกรรม ไม่ใช่เรื่องของคำนำหน้าบัตร

เป็นคำถามที่ดีครับ แล้วมีเหตุผลอะไรถึงจะไม่ให้เพศที่ 3 ใช้คำนำหน้าตามต้องการ คำว่าตามต้องการนี้หมายความใครอยากใข้อะไรก็เดินไปที่อำเภอเปลี่ยนได้เลยหรอ? การขอเปลี่ยนคำนำหน้านามมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะครับ ต้องติดต่อราชการขอเปลี่ยนเอกสารประจำตัวกี่หน่วยงานให้ตรงกัน บัตรประชาชน, ใบขับขี่, ทะเบียนบ้าน, passport และการออก พรบ.เปลี่ยนคำนไหน้านามยังสามารถวางกฏเกณฑ์ได้หลายแบบ เช่น ต้องมีใบรับรองการทำศัลยกรรมเฉพาะทางการแพทย์ หรือ ใบวินิจฉัย dysphoria จากจิตแพทย์

การจะบอกว่าก็ไม่มีใครเลือกคำนำหน้าตามต้องการได้อยู่แล้ว ผมถามกลับว่าแล้วชีวิตท่านเคยมีปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติจากการมีคำว่านายนำหน้าชื่อไหมครับ? ผมเดาว่าไม่มี แต่เพศทางเลือกเขามีครับ เวลาที่ต้องแสดงข้อมูลในบัตรประชาชนแล้วคำนำหน้าชื่อมันไม่ตรงกับเพศสภาพของเขา ลองหาข้อมูลเรื่องนี้ได้ตาม internet มันเป็นประสบการณ์ร่วมของคนข้ามเพศทั้งหลายที่เจอแทบทุกคน แล้วจะบอกให้คนเหล่านี้อดทนต่อไปเพราะคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน แบบนั้นหรอครับ นี้คือแนวคิดที่ดีในระบอบเสรีนิยมที่ควรปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรอ?

ไอ้วิธีคิดแบบคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเช่นกัน ก้มหน้าใช้ชีวิตต่อไปเถอะ มันคือแนวคิดแบบทาสที่ยอมตกอยู่ในระบบอำนาจนิยม ผมแนะนำให้ลองไปหาข้อมูลดูและเปิดใจรับฟังคนที่เขาเรียกร้องให้ดีก่อนว่าเขาอยากเปลี่ยนเพราะอะไร แค่เพราะเขา "อยาก" แค่นั้นหรอ? แล้วไปคิดดูว่ามีเหตุผลอะไรที่ควรสนับสนุนให้รัฐจำกัดสิทธินี้จากเขา  


ที่ผมยกตัวอย่าง เพราะบ้านผมทำอาพาร์ทเมนท์ครับ รวมถึงคนที่ปล่อยเช่าคอนโด เวฃารวมรวบข้อมูลผู้เช่า ผมใช้จากสำเนาบัตรปชชนะ เพราะไม่ได้เป็นคนนั่งอยู่ตรงออฟฟิตรับคนเช่าครับ ตอนโควิทก็เช่นกัน ส่งแค่สำเนาบัตรปชช

สำหรับปัญหาในการใช้ชีวิตเรื่องนำหน้าขื่อผมไม่มี เพศทางเลือกมีจริง และที่ผมจะสื่อคือถึงเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็มีปัญหาอยู่ดี ต่อให้เปลี่ยนเป็นนางพอคนรู้ความจริงก็มีอยู่ดีไหมครับ มันแค่แก้ปัญหาแบบปกปิดปัญหาอะเรื่องคำนำหน้าชื่อ

เรื่องคิดแบบคนไม่มีสิทธิเลือก อันนี้ไม่ใช้และ เพราะถ้าทางเลือกที่3มีสิทธิเลือกเพศที่1และ2ก็มีสิทธิเลือกนะ ถามว่ากระทบอะไรก็ที่ผมยกตัวอย่างไป ผมและคนอื่นๆต้องเพิ่มเงินเพื่อแก้ปัญหา รวมถึงภาษีต่างๆ เพื่อปกปิดคำนำหน้าชื่อที่มองเห็นว่าไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เอาเงินไปทำกิจกรรมรณรงค์ปลูกฝังไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งจะทำจริงหรือไม่ทำตามสิทธิส่วนรวมก็ควรเคารพเสียงส่วนใหญ่ด้วย ไม่ใช่เสียงเฉพาะกลุ่ม  


ระบอบเสรีประชาธิปไตยมันไม่ใช่แค่เรื่องมติเสียงส่วนใหญ่ครับ มันต้องปกป้องสิทธิของเสียงส่วนน้อยด้วย และผมยังไม่เห็นเหตุผลที่ดีพอมนการจะไปจำกัดสิทธิในการเปลี่ยนคำนำหน้าให้ตรงกับเพศสภาพ

ถามว่าเพศที่สามมีสิทธิ์เลือกแล้วเพศที่ 1 ที่ 2 มีไหม ถ้าแก้กฏหมายแล้วมันก็ต้องมีครับ มันจะเขียนแค่ให้เพศที่สามเปลี่ยนไม่ได้ ไม่งั้นมันก็เป็นการ discrimination ในมุมกลับ อย่างอเมริกาเพิ่งผ่านกฏหมายก็ให้เลือกไปเลยว่าอยากใช้อะไรระหว่าง M, F หรือ X บน passport โดยไม่ต้องตรงกับ birth certificate ก็ได้ หลังจากก่อนหน้านี้ให้คนข้ามเพศใช้ M หรือ F ให้ตรงกับเพศสภาพได้

ซึ่งจะร่าง พรบ. เราสามารถกำหนดให้มันมีเงื่อนไขได้ครับ เช่น ต้องมีใบรับรองแพทย์หรือจิตแพทย์ว่าเป็น dysphoria หรือมีการศัลยกรรมแปลงเพศหรือปรับระดับฮอร์โมนจนใกล้เคียงเพศอื่น ถ้าเพศที่ 1 หรือ 2 อยากจะเปลี่ยนก็ได้ครับ ถ้ามันเข้าเงื่อนไข เพราะจุดประสงค์มันคือการให้ใช้คำนำหน้าตรงกับเพศสภาพเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติ

ส่วนเรื่องแก้ปัญหาได้จริงไหม อันนี้ก็เป็นคำถามที่ดีครับ ผมก็ไม่คิดว่าการแก้กฏหมายจะแก้ปัญหาการเหยียดเพศได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับทัศนคติ แต่มันช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่งเมื่อจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลบนบัตรประชาชน ถามว่ารณรงค์เรื่องการยอมรับทางเพศดีกว่าไหม ผมถามกลับว่าแล้วทำไมจะทำพร้อมกันไม่ได้ถ้ามันจะช่วยยกระดับกฏหมายเราให้มีคุณค่าเรื่องสิทธิและเสรีภาพมากขึ้น และก้าวทัดเทียมกับประชาคมโลกที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ การมีชื่อเสียงด้านการเปิดกว้างทางเพศจะส่งผลทางอ้อมต่อธุรกิจท่องเที่ยวและชื่อเสียงประเทศด้วยซ้ำ มันมีกรณีกระเทยเวียดนามต้องบินมาแปลงเพศที่ไทย แต่กระเทยไทยกลับต้องไปของ citizenship ของออสเพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่อง title name

เรื่องค่าใช้จ่ายในการรณรงค์แก้ปัญหาระยะยาวมันมากกว่าการป้องกันปัญหาระยะสั้นครับ แค่มันแลกมาด้วยการแก้ปัญหาแบบนั่งยืน ผมถามว่ามาเสียดายภาษากับเรื่องการร่าง พรบ. ซึ่งใช้เงินไม่กี่หมื่นบาทหรอกในการนำเดินการค่าเบี้ยประชุมกรรมาธิการแต่ละครั้ง แต่เงินภาษีที่ใช้ไปกับแคมเปญรัฐที่เกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องเพศมันโครงการละกี่แสนกี่ล้าน แล้วมีการประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผลของโครงการไหม

ส่วนปัญหาที่ท่านหรือหลายคนในนี้ list ขึ้นมามันเป็นกรณีเฉพาะมาก ๆ เมื่อเทียบกับน้ำหนักของประสบการณ์ร่วมของคนข้ามเพศที่ต้องถูกเลือกปฏิบัติในการตรวจสอบข้อมูลเป็นพิเศษเมื่อรูปลักษณ์เพศสภาพไม่ตรงกับคำนำหน้าบนบัตรประชาชน ซึ่งจริง ๆ พวกท่านไม่จำเป็นต้องไปคิดเอาเองว่ามันจะเกิดนู้นนี้ครับ มันมีประเทศที่เขาอนุญาตให้เปลี่ยนได้แล้วเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก ท่านไปหาดูข้อมูลจากประเทศเหล่านั้นได้ว่าเปลี่บนแล้วมันมีผลกระทบอะไรในเชิงลบบ้างเพื่อชั่งน้ำหนัก ไม่ใช่มาคิดเอาเองจากอคิติหมู่มาก



0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2010
ตอบ: 644
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 02, 2022 23:10
[RE: ทำไมเพศที่ 3 ไม่ควรเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ?]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
โดยส่วนตัวไม่มีปัญหานะ แต่กำลังสงสัยเรื่องการสืบค้นข้อมูลแหละ
เช่น นายAไปก่อคดีฆาตกรรม แล้วไปเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเปลี่ยนชื่อ แต่งตัวเป็นสาว มันจะสืบเจอไหม
จะมีอะไรบอกไหมว่าคนนี้เคยเป็นชาย หรือต้องสืบค้นประวัติเท่านั้น แล้วระบบราชการไทยมันลิงค์กันรึเปล่า
เช่นนายAไปเช่าห้องไปอยู่หอหญิงจะหลุดจากวงผู้ต้องสงสัยไหม
 


ในกรณีแบบนี้ การไม่ให้เปลี่ยนคำนำหน้านาม แต่เปลี่ยนชื่อได้ มันมีประโยชน์อะไร?  


มันคือแบบนี้ครับ เวลามีผู้เห็นเหตุการณ์ มันไม่ได้เห็นชื่อเนอะ
“ผู้ต้องสงสัยเพชชาย สูงประมาณ170 ผมสั้น”
ฐานข้อมูลก็จะโฟกัสว่า เพชชาย(หายไปครึ่ง) สูง 170 ที่อยู่ในระแวกนั้น

ผมคิดว่าเป็นเรื่องของdatabase ในไทยหลายๆที่มีแค่ นาย/นาง/นางสาว ซึ่งถ้าเพิ่มมันก็มีค่าใช้จ่ายในอัลกอลึทึ่มต่างๆ
บริษัทนึง ฐานข้อมูลเช่น ลูกค้าผู้ชายชอบซื้อสินค้าประเภทนี้กี่โมง คู่กับสิ่งไหน ก็อาจจะเปลี่ยนไป เพราะตัวแปรเยอะขึ้น
แบบฟอร์มต่างๆก็เปลี่ยนไป ฐานข้อมูลเดิมก็ต้องมีคนแก้ไข ไม่งั้นก็จะดราม่า ไม่เคารพสิทธิlgbtqia+
แล้วทำไมถึงต้องลงทุนเพื่อLEBTQIA+ขนาดนั้น
ถ้าเราจะเคารพความเท่าเทียม ทำไม lgbtqia+ที่ใช้นาย ถึงไม่เท่ากับ lgbtqia+ที่ใช้นางสาว ควรจะปลูกฝังให้เท่าเทียมตรงนี้มากกว่า
ถ้าเป็นแบบนั้น ถึงเปลี่ยนคำนำหน้าอื่น ก็ไม่ได้ช่วยอะไรรึเปล่า ยังไงการเหยียดก็เกิดอยู่ดี

เพิ่มเติมจากคำถามนี้
แล้วทำไมเพศที่ 3 จึงไม่ควรเปลี่ยนคำหน้านาม?
เป็นคำถามที่ดี มีเหตุผลอะไรที่เราจะสงวนสิทธิ์ในการขอเปลี่ยนคำหน้าของเพศที่ 3 ให้ตรงตามเพศสภาพหรือความต้องการ

มีใครเลือกคำนำหน้านามได้ด้วยหรอ
ตอนเด็กผมไม่อยากเป็น ด.ช.สมชาย อยากเป็น หนึ่งในทีมแอดเวนเจอร์สมชาย
หรือโตมาไม่อยากเป็นนาย อยากเป็น อัครอภิมหาเศรษฐีนายพลสมชาย งี้ได้ไหม
มันไม่มีใครเลือดได้ทั้งนั้นแต่แรก ไม่ว่า ผช ผญ lgbtqia+ แล้วทำไมถึงแก้เพิ่มให้กลุ่มนึงได้เพราะรู้สึกไม่อยากใช้นาย  


แล้วกรณีที่ท่านยกตัวอย่างมามันเกี่ยวข้องกับคำนำหน้ายังไงครับ
ในเมื่อมันเป็นการบอกรูปปะพรรณสันฐานจากรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลอะไรบน id card ด้วยซ้ำ ผมงง? ถ้าข้อมูลที่ได้คือเพศชาย ก็ต้องมองหาคนรูปลักษณ์เป็นชายอยู่แล้ว ไม่มีการตัดผู้ต้องสงสัยแค่เพราะคำนำหน้าเป็นนางสาว แต่รูปลักษณ์เป็นชายหรอก หรือถ้ามีคนพบเห็น เขาก็ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่แล้ว ไม่มีสิทธิ์ไปขอตรวจบัตรประชาชน หรือต่อให้เห็นบัตรประชาชนก็จะยึดรูปลักษณ์ภายนอกเป็นหลักอยู่ดี การที่จะทำให้ข้อมูลรูปพรรณสัณฐานคลาดเคลื่อนไปได้คือต้องทำการเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปเป็นอีกเพศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศัลยกรรม ไม่ใช่เรื่องของคำนำหน้าบัตร

เป็นคำถามที่ดีครับ แล้วมีเหตุผลอะไรถึงจะไม่ให้เพศที่ 3 ใช้คำนำหน้าตามต้องการ คำว่าตามต้องการนี้หมายความใครอยากใข้อะไรก็เดินไปที่อำเภอเปลี่ยนได้เลยหรอ? การขอเปลี่ยนคำนำหน้านามมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะครับ ต้องติดต่อราชการขอเปลี่ยนเอกสารประจำตัวกี่หน่วยงานให้ตรงกัน บัตรประชาชน, ใบขับขี่, ทะเบียนบ้าน, passport และการออก พรบ.เปลี่ยนคำนไหน้านามยังสามารถวางกฏเกณฑ์ได้หลายแบบ เช่น ต้องมีใบรับรองการทำศัลยกรรมเฉพาะทางการแพทย์ หรือ ใบวินิจฉัย dysphoria จากจิตแพทย์

การจะบอกว่าก็ไม่มีใครเลือกคำนำหน้าตามต้องการได้อยู่แล้ว ผมถามกลับว่าแล้วชีวิตท่านเคยมีปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติจากการมีคำว่านายนำหน้าชื่อไหมครับ? ผมเดาว่าไม่มี แต่เพศทางเลือกเขามีครับ เวลาที่ต้องแสดงข้อมูลในบัตรประชาชนแล้วคำนำหน้าชื่อมันไม่ตรงกับเพศสภาพของเขา ลองหาข้อมูลเรื่องนี้ได้ตาม internet มันเป็นประสบการณ์ร่วมของคนข้ามเพศทั้งหลายที่เจอแทบทุกคน แล้วจะบอกให้คนเหล่านี้อดทนต่อไปเพราะคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน แบบนั้นหรอครับ นี้คือแนวคิดที่ดีในระบอบเสรีนิยมที่ควรปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรอ?

ไอ้วิธีคิดแบบคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเช่นกัน ก้มหน้าใช้ชีวิตต่อไปเถอะ มันคือแนวคิดแบบทาสที่ยอมตกอยู่ในระบบอำนาจนิยม ผมแนะนำให้ลองไปหาข้อมูลดูและเปิดใจรับฟังคนที่เขาเรียกร้องให้ดีก่อนว่าเขาอยากเปลี่ยนเพราะอะไร แค่เพราะเขา "อยาก" แค่นั้นหรอ? แล้วไปคิดดูว่ามีเหตุผลอะไรที่ควรสนับสนุนให้รัฐจำกัดสิทธินี้จากเขา  


ที่ผมยกตัวอย่าง เพราะบ้านผมทำอาพาร์ทเมนท์ครับ รวมถึงคนที่ปล่อยเช่าคอนโด เวฃารวมรวบข้อมูลผู้เช่า ผมใช้จากสำเนาบัตรปชชนะ เพราะไม่ได้เป็นคนนั่งอยู่ตรงออฟฟิตรับคนเช่าครับ ตอนโควิทก็เช่นกัน ส่งแค่สำเนาบัตรปชช

สำหรับปัญหาในการใช้ชีวิตเรื่องนำหน้าขื่อผมไม่มี เพศทางเลือกมีจริง และที่ผมจะสื่อคือถึงเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็มีปัญหาอยู่ดี ต่อให้เปลี่ยนเป็นนางพอคนรู้ความจริงก็มีอยู่ดีไหมครับ มันแค่แก้ปัญหาแบบปกปิดปัญหาอะเรื่องคำนำหน้าชื่อ

เรื่องคิดแบบคนไม่มีสิทธิเลือก อันนี้ไม่ใช้และ เพราะถ้าทางเลือกที่3มีสิทธิเลือกเพศที่1และ2ก็มีสิทธิเลือกนะ ถามว่ากระทบอะไรก็ที่ผมยกตัวอย่างไป ผมและคนอื่นๆต้องเพิ่มเงินเพื่อแก้ปัญหา รวมถึงภาษีต่างๆ เพื่อปกปิดคำนำหน้าชื่อที่มองเห็นว่าไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เอาเงินไปทำกิจกรรมรณรงค์ปลูกฝังไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งจะทำจริงหรือไม่ทำตามสิทธิส่วนรวมก็ควรเคารพเสียงส่วนใหญ่ด้วย ไม่ใช่เสียงเฉพาะกลุ่ม  


ระบอบเสรีประชาธิปไตยมันไม่ใช่แค่เรื่องมติเสียงส่วนใหญ่ครับ มันต้องปกป้องสิทธิของเสียงส่วนน้อยด้วย และผมยังไม่เห็นเหตุผลที่ดีพอมนการจะไปจำกัดสิทธิในการเปลี่ยนคำนำหน้าให้ตรงกับเพศสภาพ

ถามว่าเพศที่สามมีสิทธิ์เลือกแล้วเพศที่ 1 ที่ 2 มีไหม ถ้าแก้กฏหมายแล้วมันก็ต้องมีครับ มันจะเขียนแค่ให้เพศที่สามเปลี่ยนไม่ได้ ไม่งั้นมันก็เป็นการ discrimination ในมุมกลับ อย่างอเมริกาเพิ่งผ่านกฏหมายก็ให้เลือกไปเลยว่าอยากใช้อะไรระหว่าง M, F หรือ X บน passport โดยไม่ต้องตรงกับ birth certificate ก็ได้ หลังจากก่อนหน้านี้ให้คนข้ามเพศใช้ M หรือ F ให้ตรงกับเพศสภาพได้

ซึ่งจะร่าง พรบ. เราสามารถกำหนดให้มันมีเงื่อนไขได้ครับ เช่น ต้องมีใบรับรองแพทย์หรือจิตแพทย์ว่าเป็น dysphoria หรือมีการศัลยกรรมแปลงเพศหรือปรับระดับฮอร์โมนจนใกล้เคียงเพศอื่น ถ้าเพศที่ 1 หรือ 2 อยากจะเปลี่ยนก็ได้ครับ ถ้ามันเข้าเงื่อนไข เพราะจุดประสงค์มันคือการให้ใช้คำนำหน้าตรงกับเพศสภาพเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติ

ส่วนเรื่องแก้ปัญหาได้จริงไหม อันนี้ก็เป็นคำถามที่ดีครับ ผมก็ไม่คิดว่าการแก้กฏหมายจะแก้ปัญหาการเหยียดเพศได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับทัศนคติ แต่มันช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่งเมื่อจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลบนบัตรประชาชน ถามว่ารณรงค์เรื่องการยอมรับทางเพศดีกว่าไหม ผมถามกลับว่าแล้วทำไมจะทำพร้อมกันไม่ได้ถ้ามันจะช่วยยกระดับกฏหมายเราให้มีคุณค่าเรื่องสิทธิและเสรีภาพมากขึ้น และก้าวทัดเทียมกับประชาคมโลกที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ การมีชื่อเสียงด้านการเปิดกว้างทางเพศจะส่งผลทางอ้อมต่อธุรกิจท่องเที่ยวและชื่อเสียงประเทศด้วยซ้ำ มันมีกรณีกระเทยเวียดนามต้องบินมาแปลงเพศที่ไทย แต่กระเทยไทยกลับต้องไปของ citizenship ของออสเพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่อง title name

เรื่องค่าใช้จ่ายในการรณรงค์แก้ปัญหาระยะยาวมันมากกว่าการป้องกันปัญหาระยะสั้นครับ แค่มันแลกมาด้วยการแก้ปัญหาแบบนั่งยืน ผมถามว่ามาเสียดายภาษากับเรื่องการร่าง พรบ. ซึ่งใช้เงินไม่กี่หมื่นบาทหรอกในการนำเดินการค่าเบี้ยประชุมกรรมาธิการแต่ละครั้ง แต่เงินภาษีที่ใช้ไปกับแคมเปญรัฐที่เกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องเพศมันโครงการละกี่แสนกี่ล้าน แล้วมีการประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผลของโครงการไหม

ส่วนปัญหาที่ท่านหรือหลายคนในนี้ list ขึ้นมามันเป็นกรณีเฉพาะมาก ๆ เมื่อเทียบกับน้ำหนักของประสบการณ์ร่วมของคนข้ามเพศที่ต้องถูกเลือกปฏิบัติในการตรวจสอบข้อมูลเป็นพิเศษเมื่อรูปลักษณ์เพศสภาพไม่ตรงกับคำนำหน้าบนบัตรประชาชน ซึ่งจริง ๆ พวกท่านไม่จำเป็นต้องไปคิดเอาเองว่ามันจะเกิดนู้นนี้ครับ มันมีประเทศที่เขาอนุญาตให้เปลี่ยนได้แล้วเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก ท่านไปหาดูข้อมูลจากประเทศเหล่านั้นได้ว่าเปลี่บนแล้วมันมีผลกระทบอะไรในเชิงลบบ้างเพื่อชั่งน้ำหนัก ไม่ใช่มาคิดเอาเองจากอคิติหมู่มาก



 


สำหรับปัญหาที่หลายคนในนี้ลิสมาบางอันผมก็ไม่เห็นด้วยครับ แต่อย่าลืมว่าเกือบ80ประเทศทั่วโลกใช่ว่าจะเอามาอ้างอิงกับประเทศเราได้ ด้วยทัศนคติ กฎหมาย ที่แตกต่างกัน เสื้อผ้าคนอื่นใช่ว่าเราจะสวมพอดี

ผมติดอยู่ประเด็นเดียว คือค่าใช้จ่าย มันไม่ใช่หลักหมื่นแน่ๆครับด้วยระบบราชการไทยในปัจจุบัน
ถ้าคิดว่าร่างพรบแล้วจบคือตื้นมากๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือtaskที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปริมาณมหาสาร
เปลี่ยนคำนำหน้า แก้ไขแบบฟอร์มเอกสาร ทำใหม่จากแบบเดิมที่มีอยู่ทั้งหมดที่ปริ้นมาวางไว้คือทิ้งหมด เพราะมีแค่นาย นาง นางสาว
จัดทำเอกสารใหม่ เอกสารขอเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ จัดฝึกอมรมนายทะเบียนทุกภาคส่วน
แก้ไขฐานข้อมูลในระบบ ให้เพิ่มคำนำหน้าชื่อแบบอื่นเข้ามา และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ จากเดิมมี3code 00 01 10 อาจจะต้องเพิ่มเป็น3หลัก กี่หน่วยงานที่ต้องแก้ระบบit
ข้อมูลประชากร
ทำบัตรประชาชนใหม่
ระบบของธนาคาร บัญชีธนาคาร คำนำหน้าบนบัตรเครดิต ระบบธนาคาร แบบฟอร์มคำร้องต่างๆทำใหม่หมด
ฐานข้อมูลของภาคเอกชน สถิติ ดาต้าต่างๆที่วิเคราะห์ไว้เกี่ยวกับเพศ
บัตรผู้พิการ บัตรทอง บัตรพนักงาน บัตรโรงพยาบาล ฯลฯ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อแก้ฟอร์มใหม่หมด จัดอบรม เพิ่มการเปลี่ยนแปลงคำนำหน้าชื่อไว้บริการประชาชน
กี่สิบล้านแล้วครับ ยิ่งถ้าต้องจ้างบุคลากรมาตรวจสอบเพิ่มเกี่ยวกับฮอร์โมนอีก
ก็ต้องลองทำpro&conครับว่าคุ้มไหม เพราะสุดท้ายมันขึ้นกับทัศนคติของเพศ1,2ล้วนๆที่ต้องแก้ไข คนที่เป็นlgbtqai+ ถ้าไม่แปลงเพศจนสมจริงแล้วหละก็ ต่อให้ไม่ได้ดูบัตรปชชดูคำนำหน้า คนก็มองเห็นเป็นเพศทางเลือกอยู่ดี มันมีประโยชน์แค่ปกปิดให้กับผู้ที่แปลงเพศจนสมบูรณ์แล้วรึเปล่า
แก้ไขล่าสุดโดย littlel3ear เมื่อ Sat Jul 02, 2022 23:20, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel