ถ้าคิดว่าตัวเองมีค่ากว่านั้นก็เจรจา ถ้าเจรจาไม่ได้ก็ไปหาเจ้าอื่นที่ให้ได้มากกว่า

ถ้าหาเจ้าอื่นไม่ได้ แต่คิดว่าเก่งจริง-แน่จริง ก็ออกไปทำช่องตัวเอง

ถ้าไม่พอใจ แต่ไม่อยากทำใดๆ ด้านบนสักอย่าง ก็ก้มหน้ารับชะตากรรมไปครับ

ถ้าคิดว่า ขายข้อมูล ขโมยของ เป็นอะไรที่รับได้ ก็ภาวนาขออย่าให้เราได้ร่วมงานกันเลย

งานบริษัทก็ทำกันแบบนี้ครับ

ในอดีตถ้าผมไม่พอใจบริษัท ไม่ขึ้นเงิน-ขึ้นเงินน้อย ผมก็ลาออกแล้วหางานใหม่ที่ได้เงินเยอะกว่า

ปล ลืมเติม เรื่องนินทานายผมว่าไม่แปลก ที่ไหนก็ทำทั้งนั้นแหละ

เห็นต่างไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องเห็นให้ถูกต้อง
จะผิดถูกต้องไปดูที่ข้อตกลง ว่าเค้าตกลงกันยังไง
เป็นนายจ้างลูกจ้างดูสัญญาจ้าง เป็นหุ้นส่วน เป็นผู้ถือหุ้น
ถ้าเข้ามาเป็นลูกจ้าง ตกลงแต่เงินเดือน ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
กำไรดีแจกโบนัสก็ว่ากันไป โบนัสไม่แจกก็ไม่ผิดกฎหมาย ไม่มีอะไรผูกพัน ยกเว้นไปการันตีให้
คนออกแบบตราไนกี้ คิดเงินไม่กี่สิบเหรียญ เค้าก็ได้เท่านั้น อันนั้นเป็นจ้างทำของ เค้าไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย

เคยดูสารคดีออกเรือจับปูของเมกา ในเรือจะมีห้าหกคน + กัปตัน พวกนี้ข้อตกลงเค้าจะเป็นแบบแบ่งผลประโยชน์ คือเจ้าของเรือหรือกับตัน จะได้%มากกว่าโดยต้องออกค่าเรือค่าน้ำมัน ที่เหลือแบ่งกัน จับมากได้มาก น้อยได้น้อย อันนี้คือเค้าตกลงกันแบบนี้ เพราะงานหนักหาคนยาก ให้น้อยก็ไม่มีคนอยากทำ ให้มากก็เสี่ยงถ้าจับได้น้อย

แต่ไอ้ที่คุณว่ามามันเป็นลูกจ้าง บริษัททั่วไปจะกำไรร้อยล้านพันล้านก็เงินเดือนเท่าเดิม แต่ถ้ารายได้ดีมาก แสดงว่าทำงานกันดีเค้าก็ให้โบนัสเเพื่อจูงใจ ถึงไม่ใช่บริษัทจ้างกันทั่วไปบ้านๆ ร้านรวง ก็คอลูกจ้างอยู่ดี มันจะตลกดีนะที่มาแยกว่าบริษัทจ้างกับ sme จ้าง

ถ้ารายได้ไม่พอ ทนอยู่ทำไมเล่า ถ้าคิดว่าที่หาได้หลายๆนั่นฝีมือตัวเองทั้งนั้น คนปกติทั่วไปเค้าออกไปทำเองแล้ว

แบบอาร์มชุติมา เค้าคิดว่าเพลงดังเพราะฝีมือเค้าแต่ง จะรับค่าแต่งหลักหมื่นทำไม ก็ไปทำเองหลักล้านดิวะ

เป็นขี้แพ้ในคอมฟอร์ตโซนแล้วมาเรียกร้องห่าอะไร


"หากเป็นทีมที่เริ่มต้นมาจาก 0 ด้วยกัน ผมคงแบ่งรายได้ให้เค้าเป็น Base Salary + Incentive (มากน้อยขึ้นอยู่กับรายได้บริษัท) มองเป็นเหมือนหนึ่งใน Partner เพื่อให้คนในทีมไม่มีความคิดที่เป๋ขนาดนี้"
วันที่เริ่มต้นแม่งไม่รู้หรอกว่าจะรุ่งหรือร่วง รวมทั้งไม่รู้ด้วยว่าจากทำอะไรไม่เป็นจะเก่งได้มั้ย
ถ้าเป็น base salary + incentive เจ้าตัวเอาจจะไม่ชอบก็ได้ ณ วันนั้นทำอะไรไม่เป็นสมมติ เงินเดือน 20,000 กับ 10,000 นึงแล้วเดี๋ยวบวกให้ตามยอดวิวเอามั้ย บริษัทเริ่มจาก 0 นะเห้ย ไม่ใช่ทุกคนจะอยากเสี่ยง หลายๆคนแน่ๆต้องเลือก 20,000

จากคำตอบผมเข้าใจ จขกท ว่ามองเป็นstratup or tech com จากพวกตะวันตกแต่ในที่นี้มันคือเอเซียอะ จะทำแบบนั้นก็ไม่ผิดแบบเลือกoptionหุ้น หรืออะไรยังไง แต่ความยากคือใครจะซื้อยิ่งเป็นเด็กๆกันไม่เข้าใจอะไรแบบนั้นแน่นอน
ทำแบบคิวเทก็ไม่ผิดถ้าบอกใช้งานหนักกดก็ถือว่านิสัยไม่ดี แต่มันเป็นงานที่รับรู้ด้วยกันว่าอะไรคือยังไง อยากได้เพิ่มต้องเจรจาแค่นั้นแหละ
ส่วนเรื่องเงินเยอะเงินน้อย เด็กก็เรียกสูงได้ถ้าเก่ง แต่มันงงๆเพราะทำงานกันไวแต่ไม่เป็นระบบไม่ได้จากการทำรูปแบบบริษัทหรือชัดเจนแบบstartupที่ต้องไปแย่งชิงทุนเลย มองว่าทำไมคิวเทรวยยับเราได้แค่เศษเงินเลยตัดสินใจไม่ดี

ไม่ต้องมองไกล แค่เมื่อวานมีข่าวว่าอยากจะกลับมาทำงานกับคิวเท แค่นี้ก็ตอบได้แล้ว ละโมบเกินไป พอไปเจอชีวิตข้างนอกถึงจะรู้ว่างานที่ตัวเองทำมันดีแค่ไหน

อินฟลูแบบนี้ ทุนหลักๆที่ลงผมบอกได้เลยว่าคือตัวตนของอินฟลูคนนั้น

คิวเทเริ่มทำเองขึ้นมาทุกอย่าง ผมดูตั้งแต่คิวเทยังไม่จบมัธยม ก่อนจะมีทีมงานนี้ช่องค่อนข้างติดตลาดแล้วด้วย ไม่ได้สร้างมาด้วยกันนะ นี่คือทุนที่คิวเทลงจนติดตลาดไปแล้ว ทีมงานลงทุนอะไรบ้าง

อีกอย่าง ต่อให้บอกว่ามาช่วยสร้างตอนหลัง สร้างที่ว่ามันก็คืองานมั้ยล่ะครับ ลูกจ้างถูกว่าจ้างให้สร้าง ตามสัญญาจ้างเป็นปกติทุกที่ ทำงานแลกเงิน ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย ถ้าเสียดายไอเดียที่คิดให้นายจ้าง ก็ออกมาทำเองครับ ไม่ก็ไม่ต้องตั้งใจทำงานมาก ทำให้เท่ากับที่เค้าจ้าง ไม่ต้องทุ่มเท200%

ผมถ่ายทอดจากมุมมองที่ตัวเองทั้งเป็นลูกจ้างของบริษัทหนึ่ง และเป็นนายจ้างให้อีกบริษัทหนึ่งนะ

ธุรกิจมันเป็นแบบนี้ครับ ไม่ใช่มูลนิธิหรือองค์กรไม่แสวงกำไร ถ้ารับตัวเลขเงินเดือนไม่ได้ก็ไปคุยกับนายจ้างแบบมืออาชีพเค้าทำกัน ขอเพิ่มไรว่าไป ไม่ได้ก็ลาออก ถ้าเค้าอยากได้จริงเค้าก็เพิ่มเงินรั้งไง้อยู่แล้ว ถ้าบริษัทไม่ไหวจริงๆ คนใหม่ก็มาแทน เผลอๆได้เด็กใหม่ไฟแรงงานดีกว่า ค่าตัวถูกกว่าอีกด้วยซ้ำ

ว่าไปตามกระบวนการและกฎหมายเลยครับ
1 กลับไปดูสัญญาจ้าง ตกลงกันไว้ว่าอย่างไร คิวเททำผิดสัญญาจ้างรึเปล่า
2 ถ้ารู้สึกว่าสัญญาจ้างไม่เป็นธรรม ก็เรียกร้องไปตามกระบวนการ ไปคุยตกลงกับนายจ้างใหม่

นี่คือกระบวนการที่ควรจะเกิดขึ้นครับ เพราะเป็นรูปแบบบริษัท ไม่ใช่เปิดแผงขายของแบ่งกำไร สิ่งที่พวกน้องทำมันผิดกฎหมาย แถมยังไม่เป็นมืออาชีพอีกด้วย พนักงานมีสิทธิ์เรียกร้องได้ถ้ารู้สึกว่าเงินเดือนไม่พอกับความสามารถ แต่ไม่ใช่ไปขโมยของเขา มันผิิดกฎหมายอาญา

อันนี้ มองในมุมหนึ่งนะ อาจจะไม่ถูก ผมเห็นพวกยูทูปเบอร์ชอบเอาคนในสตูมาถ่ายคลิปกันบ่อย ไม่รู้ว่าแบ่งส่วนกันตรงนี้หรือ เพราะว่าถ้าคุณจ้างงานแค่ตัดต่อ คุณก็ตัดต่อแค่นั้น หลายคลิปมากๆที่เอาคนในสตูมา มันอาจจะรู้สึกไม่แฟร์หละ แบบใช้พวกตรูออกคอนเทนท์ แต่ไม่แบ่งเงินส่วนนี้ให้ ส่วนเรื่องขโมยของก้ตามนั้น

ทำไมเอาไปเทียบกับ VRZO ละนิ

VRZO หุ้นส่วนกันหมด

คิวเท นายจ้างกับลูกจ้าง

เราอยู่กันแบบครอบครัวนี่ ทำวงแตกมาหลายที่แล้ว

ถ้าน้องไม่พอใจก้แค่ลาออกไปหางานใหม่ ไม่ใช่ไปขโมยของของเค้าไปขายหรือเอาข้อมูลบริษัทไปขาย

ไม่รุ้เหมือนกันว่ามีการเซ็นสัญญาอะไรไหม ถ้าปริมาณงานมันเท่าเดิมหรือถ้าเพิ่มก็มีโบนัส สวัสดิการครบ ล่วงเวลามีจ่ายโอที แสดงว่าน้องยอมรับเงื่อนไขแต่แรกแล้วนะผมว่า อยากได้เพิ่มเอานอกเวลาไปรับงานนอกแนบประสบการณ์ทำช่องสบายๆ ไม่ใช่เอาตรรกะลูกจ้าง หุ้นส่วนมาปนเปไปหมด

แล้วเค้าไม่แฟร์ตรงไหน ตอนเริ่มไม่เป็นอะไรกันเลย ประสบการณ์ , วุฒิการศึกษาบางคนก็ไม่ผ่านด้วย แต่ยังให้ในระดับที่ ป.ตรี ส่วนใหญ่ได้ไม่ถึง การทำงานที่เป็นบ้านเป็นกันเองที่นอนฟรี ข้าวฟรี ของกินฟรี อยากพักตอนไหนก็ได้ นี่ยังเครียดอีกหรอ แล้วถ้ามาทำบริษัทฯได้พักเที่ยง ชั่วโมงเดียว เงินกินข้าวก็ต้องจ่ายเองทำไงอะ เลิกงานหรือวันหยุดบางครั้งก็โดนตามงาน แบบนี้ไม่อกแตกตายหรอ อีกอย่างถ้าแบบทำงานหนักงานไม่โอเคกับรายได้ที่ได้รับแล้วทำไมไม่พูดกัน ถ้ามันมีน้ำหนักหรือฟังขึ้น ยังไงผมว่าเค้าก็ปรับให้ ขนาดรถเค้ายังให้คุณเอาไปใช้ ขับไปชนไปขูดเค้ายังไม่เก็บตังเลยดูแล้วกันแฟร์แค่ไหน

ลูกจ้างจะกลายมาเป็น partner ได้มีแต่พวกใช้ความสามารถคนที่ทดแทนได้ยากอย่างเช่น นักกฎหมาย หรือ พวกบริษัทที่ปรึกษาครับ

งานตัดต่อมันฝึกกันได้ไม่ยากทดแทนได้ตลอด และนี่พวกคนที่เข้ามาเริ่มจาก 0 คิวเทเสียเงินตั้งบริษัท ซื้อของต่างๆเข้าบริษัท เอาตัวเองเป็นแบรนด์ซึ่งผลกระทบก็เข้ากับตัวเขาโดยตรง มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เสี่ยงกว่าทุกอย่าง นี่ยังไม่นับตอนสร้างตัวจาก 0 นะครับ

ผมว่าให้ลองดูพวกช่อง YouTube ปั้นไม่ง่ายนะครับ ส่วนใหญ่ต่อให้คอนเท้นดี ก็ไม่ผ่านหลัก 1000 ด้วยซ้ำ

และพนักงานคือพนักงานไม่พอใจเงินเดือนก็พูดกันดีๆ ถ้าไม่ได้ก็ลาออกครับ ไปหางานใหม่ดูว่าได้เท่าไหร่

เงินซื้อกล้อง เงินซื้อขาตั้งกล้อง ห้องถ่าย ค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง น้ำมัน บลา ๆ

พนักงานออกด้วยไหมอะครับ

wtf มาก ครับ

เลอะเทอะจัด งี้ cp รวยเป็นแสนล้านต้องแบ่งให้ พนง. ด้วยนะ