[RE: "หยกสุดโต่งจริง หรือพวกเราเคยชินกับการถูกกดขี่?"]
badmoon พิมพ์ว่า:
RomeoIF พิมพ์ว่า:
badmoon พิมพ์ว่า:
งั้นเราก็ควรยอมรับกฎที่ส.ว.ตั้งนายกได้สิ เรียกร้องกันทำเหียกอะไร
คานธีพาคนอินเดียเดินไปทำเกลือก็เป็นมหากบฎเลยสิ
ม.44 ทำอยู่ใต้กฎทุกอย่างก็เป็นสิ่งถูกต้องสิ
กฎมันไม่ใช่สิ่งที่เป็น absolute
แล้วสิ่งที่เขาทำกันคือไปลงถนนเพื่อปฏิวัติ อีกรอบไหมล่ะ ?
สิ่งที่เขาทำ และคนส่วนใหญ่สนับสนุนแบบก้าวไกล คือการเล่นในเกมส์ และชนะในเกมส์ไง ไม่ได้ชนะนอกเกมส์
อยากแก้ รัฐธรรมนูญ อยากเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เอาม็อบ เอากำลังทหารมาข่มขู่ แต่คือการไปชนะในสภา ชนะตามกฎที่มันถูกเขียนขึ้นว่าถ้าอยากเปลี่ยนต้องทำยังไง ชนะแบบอดทนยืดหยัดบนจุดยืนที่ถูก แต่ไม่ได้เล่นแบบโง่ ๆ ซื่อ ๆ แต่ก็ทำตามเกมส์และทำอยู่บนจุดยืนที่ถูกต่างหาก
ทำไปโปรโมทไป เรียกร้องไป เล่นในเกมส์ไป อย่างงี้ถึงจะเรียกว่า "อารยะ"
นี่ก็อยู่ในเกมครับ
เสรีภาพการแสดงออก (Freedom of Expression) หรือเสรีภาพในการพูด (Freedom of Speech) เป็นสิทธิมนุษยชนตามกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ หมายถึง สิทธิที่เราสามารถที่จะแสดงออกหรือสื่อสารความรู้สึกนึกคิดหรือความเห็น ทั้งด้วยการพูด การแสดงท่าทาง หรือการสื่อสารด้วยตัวหนังสือ ไม่ว่าจะบนหน้ากระดาษหรือในโลกออนไลน์ ตลอดจนในรูปแบบอื่นๆ เช่น เสียงเพลง ภาพถ่าย ภาพกราฟฟิกหรือภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ [1] นอกจากนี้ยังรวมถึงสิทธิในการค้นคว้า หา เข้าถึงหรือได้รับข้อมูล ความรู้สึกนึกคิด ความเห็นที่มีการสื่อสารและเผยแพร่ด้วย [2]
สิ่งที่น้องมันทำไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย มันทำได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 34
บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อ
ความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติ
แห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน
เสรีภาพทางวิชาการย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัดต่อหน้าที่ของ
ปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องเคารพและไม่ปิดกั้นความเห็นต่างของบุคคลอื่น
ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกันเพราะเราไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน รุ่นเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างกับเสรีภาพในการแสดงออกที่จะตามมา เด็กๆรุ่นใหม่ก็ต้องเรียนรู้ถึงผลกระทบที่จะตามมาจากสังคมจนมันเจอตรงกลางนั่นแหละ
ท่านพูดถึงแต่ action แล้วท่านไม่ได้พูดถึง mean และ context ของการกระทำล่ะครับ ?
เสรีภาพในการพูด แปลว่าต้องริดรอน ต้องดุร้าย ต้องก้าวร้าว ต้องทำให้ผู้อื่นเสียประโยชน์ หรือเสียเวลาในการทำงานของตัวเองหรอครับ ?
ถ้าท่านพูดแค่ เสรีภาพ การลงถนน การเอาทหารมาข่มขู่ ก็ทำได้สิครับ ? ก็เสรีภาพในการแสดงออก ในการพูดเหมือนกัน ?
ถ้าท่านไม่สนว่าการลงมือทำ/การกระทำคือแบบไหนหรืออะไร ท่านก็ไม่ต่างจากตัวอย่างที่ผมพูดมาหรอก ท่านก็แค่หาเหตุผลให้ตัวเองมีความชอบธรรม ด้วยเหตุผลที่ต่างไปก็แค่นั้น
ท่านยังมอง กฎ ไม่ absolute แต่ท่านก็ยก Freedom เป็น absolute ท่านก็เลือกที่รักมักที่ฉังนั่นแหละ ท่านก็เลือกสิ่งที่ท่านต้องการ และไม่เลือกสิ่งที่ท่านไม่ต่องการ
ถ้าอารยะจริงมันก็ต้องรับได้ทั้งกฎที่ตัวเองชอบและไม่ชอบครับ แล้วก็แก้กฎเกณฑ์ไปตามแนวทางที่เขาตั้งไว้จนสุดความสามารถ ถ้าสุดท้ายมันอยุติธรรม ทั้งที่เราตามเกมส์แล้ว หลังจากนั้นต่างหากที่การทำกิจกรรมของคุณถึงจะมีคุณค่า เพราะท่านถูกอยุติธรรมจากการที่ท่านอดทนอดกลั้นมาตลอด
แต่ถ้าท่านจะเลือกอยากทำอะไรไม่ทำอะไร ตามแนวทางที่ตัวเองต้องการแค่นั้น มันก็แค่ "เอาแต่ใจ"