อันนี้ผมตั้งข้อสังเกตให้นะครับ แล้วกฏที่ออกมาสอดคล้องกับหลักการสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามจุดมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญหรือไม่?

ในระบอบเสรีประชาธิปไตยการลงมติเสียงข้างมากเพื่อลิดรอนเสียงข้างน้อยไม่สามารถกระทำได้นะครับ

จริง ๆ ในต่างประเทศก็มีโรงเรียนที่ออกกฏอะไรประมาณนี้ครับ แต่ส่วนใหญ่เป็น private school เลยไม่มีปัญหาอะไร

คนที่ซีเรียสเรื่องอยู่ในสังคมก็ต้องทำตามกฏเกณฑ์สังคมเนี่ย ผมสงสัยว่านอกจากตั้งคำถามกับเด็กที่แหกกฏ ได้ลองตั้งคำถามไหมว่าการที่โรงเรียนรัฐส่วนใหญ่ยังใช้กฏเกณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของสิทธิและเสรีภาพที่รับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญเนี่ย มันถูกต้องไหม?

เด็กได้รับสิทธิหลายอย่างมากกว่าประชาชนทั่วไปครับ โดยแลกมากับการถูกริดรอนเสรีภาพบางอย่างไป เช่น ห้ามเข้าผับ ห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ทั้งหมดเป็นไปเพื่อปกป้องสวัสดิภาพของผู้เยาว์ ก็ต้องตั้งคำถามว่าการบังคับใส่ชุดนักเรียน และการไปหยุมหยิมเรื่องผมของเด็กมันช่วยปกป้องสวัสดิการภาพของเด็กได้จริงไหม?

อันนี้ไม่ได้ตอบ จขกท โดยตรงนะครับ

การที่น้องทำผิดอย่างนึง เลยถูกเหมารวมไปหมดว่าสิ่งที่น้องทำมันผิด ไม่แค่นั้น ยังเหมารวมไปถึงการเรียกร้องอย่างอื่นด้วยว่าพวกนี้มันจะเอาแต่ใจตัวเองทุกอย่าง กลายเป็นว่าพอเห็นไอน้องคนนี้มันไปสุดเกิน กุไม่เอาแล้วเสรีประชาธิปไตย

คนที่มาดีเฟนด์เรื่องหยก เค้าไม่ได้ดีเฟนด์ทุกการกระทำของหยก เค้าแค่สนับสนุนหลักการเสรีประชาธิปไตย ขอแค่อยู่ในกรอบ(ที่มีเหตุมีผล) เราไม่ห้ามทั้งนั้น

ไอ้ที่เกินกรอบของหยก เราไม่อยากให้ทำอยู่แล้ว

การเรียกร้องสิทธิเสรีถาพ ในซักสิบปีมันมีคนแบบนี้โผล่มาไม่กี่คนหรอก

ผมเห็นเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจ

ดูจากแถลงของโรงเรียนน่าจะหนักจริง เหมือนตามใจตัวเองมากกว่า


ไม่มีเหตุผลต้องมานั่งสนใจ เด็กคนเดียวที่ทำตัวแบบนี้


ไม่อยากทำกฏ โรงเรียนนี้


ก็ไปเรียนที่อื่น ไม่ใช่มาบังคับให้ โรงเรียนต้องเปลี่ยนตามใจตัวเอง

เหมือนท่านกำลังเคลมว่าชุดนักเรียนจัดอยู่ในหมวดหมู่จารีต ประเพณีเหมือนชุดงานศพนะ

ผมว่ามันคนละเรื่อง

ด้วยความเคารพ

เค้าก็สื่อว่ามันผิด กฎรร ไงครับ ทั้งพี้กัญชา ทั้งเล่นมือถือ

แต่เด็กมันสวนว่าไม่ผิดกฎหมาย กรณีเดียวกัน

ผมว่าเค้าเขียนเคลียนะ ถ้าอ่านไม่เข้าใจ แนะนำอ่านใหม่ครับ

ถ้าคุณเป็นครู

ถ้าคุณเป็นพ่อและแม่ จะทำอย่างไร

ตอนที่ผมเป็นครู อยากให้เด็กนักเรียนเท่าเทียมกัน

การแต่งกายในชุดนักเรียนที่เหมือนกันนั่นมันหมายถึงว่า

ไม่ได้แบ่งแยกความรวยความจน ชุดนักเรียนเหมือนกัน

อีกทั้งหากเกิดเหตุการ์ณภายในโรงเรียนสามารถแยกแยะได้ว่า

กรณีฉุกเฉินก็ได้พาเด็กนักเรียนออกไปได้ง่าย แบ่งแยกจากบุคคลภายนอกชัดเจน

เป็นครูก็อยากให้นักเรียนทุกคนได้ดี เคารพกฎ กติกา ให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน

แต่หากมีนักเรียน 1 คนไม่ทำตามและบอกว่าเป็นสิทธิเสรีของหนู

ไม่ชอบเรียนคณิตหนูก็ขอไม่เข้าเรียน อยากเรียนแต่พละ หนูก็จะเรียนแต่พละ

คนที่เป็นครูจะทำยังไง ไม่ให้เข้าโรงเรียนก็ปีนเข้า

คือผมเข้าใจในความอยากมีสิทธิเสรีภาพ การลุกขึ้นยืนหยัด

แต่น้องต้องเข้าใจและรอได้ ทุกเรื่องถ้ามันไม่ดีเขาก็กำลังจะแก้ไข

ผมสงสารครูเลยกรณีนี้ เงินเดือนถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆก็ไม่ได้มากมายอะไร

แล้วคนที่เป็นคุณพ่อคุณแม่เขาล่ะ จะทำยังไงในกรณีนี้

มีที่อื่นๆในตัวเลือกเยอะแยะมาก ที่สามารถเรียนแบบอิสระเสรีได้

ก่อนเข้ามาเรียนโรงเรียนก็ต้องแจ้งกฎ ระเบียบก่อนแล้ว

ถ้าไม่ยอมรับก็ควรเลือกในพื้นที่ หรือสถานที่ๆเหมาะสมกับตัวเรานะครับ

ปล. ถ้าความเห็นไม่ถูกใจก็ขออภัยนะครับ

ไม่มีถูกไม่มีผิด ไม่มีแตกแยก ทุกคนก็สามารถแสดงความเห็นได้

อาจจะมี 2 แนวความคิด แต่สุดท้ายก็หาทางออกที่ดีที่สุดได้

อยากให้น้องมาเรียกร้องที่บริษัทฯให้หน่อย ไม่อยากใส่ยูนิฟอร์ม อยากไว้ผมทรงอะไรก็ได้

ใครพอมีข่าวเกี่ยวกับพ่อแม่ของน้องมั่งครับ ว่ามีความเห็นยังไง ความจริงกรณีแบบนี้จะต้องเห็นคนหยิบยกพ่อแม่มาด้วยแต่นี่ไม่มีข่าวเลย

ผมอ่านเข้าใจสิครับ ในเมื่อกรณีหยกใช้กฎโรงเรียน

พวกสูบกัญชาก็ใช้กฎโรงเรียนได้นี่ครับ จะไปกำหมัดทำไม?

นี่คือคำถามผมครับ

ผมยังหาคนตอบไม่ได้เลยว่าทำไมโรงเรียนเพิ่มระเบียบข้อ13.1 และ13.2เข้าไป
แต่ก็อย่างว่า ประเด็นนี้มัน"เล็ก" กว่าเรื่องความagressiveของคนเรียกร้อง

ข้อเรียกร้องนี่ผมไม่ติดเลยออกจะเห็นด้วย แต่ออกมาซีนแย่ก็ต้องมาเริ่มใหม่กันหมดเป็นจุดอ่อนให้สลิ่มไปโดนล้างสมองฟินๆ

ไม่เอาbiasนะไม่ต้องเอาปมด้อยที่ตัวเองต้องใส่ชุดนักเรียนมาผูกไว้กับน้องมัน

ถามจากใจจริงคิดว่าสิ่งที่หยกทำ เจตนาเพื่อความเปลี่ยนแปลงจริงๆเล็งเห็นถึงผลลัพธ์ที่จับต้องได้

หรือทำเพราะเจตนาอื่น

ต้องแยกเป็นกรณีไปนะตอนน้องโดน112ผมแม่งโกรธมากอารมเสียทั้งวัน แต่สิ่งที่น้องทำคราวนี้ผมมองไม่เห็นเจตนาเพื่อผลลัพธ์เลย ทุกคนเอาแต่พูดเรื่องชุดเพราะเถียงได้เรื่องที่อยากเข้าคาบไหนก็เข้าไม่อยากทำไรก็ไม่ทำ เรื่องพวกนี้เอามาถกกันบ้าง หลายๆคนไม่เห็นด้วยเรื่องพฤติกรรมรวมๆไม่ใช่แต่เรื่องชุด กลายเป็นสลิ่มเป็นไดโนเสาไปซะแล้ว โถไอพวกมนุษย์วิวัฒนาการขั้นสุดยอด

สุดโต่งไหมไม่รู้ แต่เอาใจตัวเองเกินไปหน่อยผมว่า

สำหรับผมคิดว่ามันเยอะเกินไปเปล่า ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมีความจำเป็นไม่ใส่ชุดนร.มาเรียนก็ควรจะมีเหตุผลอะไรก็ว่ามา จะอ้างแค่สิทธิ์บุคคล(พื้นฐาน) โดยไม่สนส่วนรวมอะไรเลยรึ ถ้าหนึ่งคนทำได้คนอื่นก็ต้องทำได้รึเปล่าครับ

และกฎและความระเบียบโรงเรียน มันน่าจะเป็นแค่สิ่งพื้นฐานของสังคม แต่กฎอะไรก็ไม่เหมาะสมก็สามารถแก้ไขได้ เพราะโตไปก็ต้องใช้กฎและระเบียบของสังคมต่อไป