ต่างกันเยอะ แต่มันต่างเพราะมันไม่ได้ต่างแค่มหาลัยอะ มันต่างด้วยคุณภาพการศึกษาของเด็กตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนอนุบาลยันมหาลัยเลย

ลองสังเกตุดูเด็กจุฬา 80-90% บ้านมีตังค์ โอกาสทางการศึกษาดีเลยทำให้สามารถพัฒนาตนเองจนเก่งได้

เด็กที่เรียนโรงเรียนบ้านๆมาตั้งแต่เด็กโอกาสที่จะเก่งเท่าเด็กที่ได้เรียนพิเศษมาตลอดมันยากอะ ด้วยคุณภาพโรงเรียน คุณภาพการเรียนการสอนมันต่างกันเกินไป

โรงเรียนที่ผมจบมาไม่มีเด็กสอบติดจุฬาแม้แต่คนเดียวในรุ่นที่ผมเรียน คนที่เรียนเก่งสุดในรุ่นได้เกรด 4.00 ทุกเทอม แต่บ้านจนไม่เคยเรียนพิเศษเลยยังแอดมิชชั่นคะแนนไม่ถึงหมอสักมหาลัยเลย ได้แค่พยาบาล ม.มหิดล

โอกาสจะได้ทำงานดีๆ มันน้อยมากครับ ผมจบวิศวะ ม.เกษตรนะ ตอนเรียน จบก็เดินสายหางาน บ.ใหญ่ๆ รวมถึงรัฐวิสาหกิจด้วย พอเข้าถึงรอบสัมภาษณ์ บอกตามตรงเหลืออยู่ 2 มหาลัย เกษตรกับ ฬ (ฬ เยอะสุด) ทั้งที่ผมมั่นใจว่าผ่านข้อเขียนกันเยอะกว่านี้เยอะ บางบริษัท(ต่างชาติ) มาที่มหาลัยก็บอกเลยว่า เรารับแค่ เกษตรกับ ฬ นะ ผมก็สมัครแต่ไม่ผ่านสัมภาษณ์ ภาษาไม่แข็งพอ 55

แล้วผมมั่นใจเลยว่า มีบ.ใหญ่อีกเยอะที่ รับเฉพาะ ฬ แฟนผมทำ HR BIG 4 นโยบายตอนนั้นคือรับแค่ ฬ แค่นั้นเลย ถ้าเด็กที่อื่นจะเข้าต้องมีคนรู้จัก มีเส้น ถึงได้สัมภาษณ์

สังเกตสิ รู้สึกว่าเด็กCUเค้าไม่เคยมาโพสต์อะไรทำนองเดียวกันกับราชภัฏเลยครับ55555

ตรรกะของพวก loser ครับ

ผมสงสัยไง ไอประเด็น ฬ กับ ราชภัฏ มันเถียงกันทุกปี ประเทศฝรั่งมันมีดราไหมครับ จบม.ดัง vs. จบแค่ไฮสกูล หรือ จบม.ไม่ท็อป

ราชภัฏมันก็เกรดรองกว่าตามตาเห็น แต่ทำไมถึงไม่มีใครอยากจะยกระดับให้ดีขึ้น

มันไม่ต่างกับประโยคให้พอเพียง เรียนไปวันๆอย่างนั้นหรอ กับอีกฝั่งนึงมีทรัพยกรมากกกว่าโกยผลประโยชน์ได้มากกว่า

ผมจบราชภัฏผมก็รู้สึกเฉย ๆ นะ เรื่องของคุณภาพมันเห็น ๆ อยู่แล้วว่ามันต่างชัดเจนทุกด้าน

ถ้าได้เข้าไปดูจริง ๆ ราชภัฏตามตจว.ก็น่าจะเห็นอยู่แล้วแหละ ว่าเกิน 50% คุณภาพของผู้ศึกษาค่อนข้างต่ำเลย

บางคนเข้ามาโดยไม่ศึกษาทั้งหลักสูตรของสาขาที่เรียน / ศึกษาความถนัดของตัวเอง สุดท้ายก็ไม่พ้นออกกลางคันหรือโดนไทร์ไป

บางคนฝืนทนมาได้ก็จบไปแบบอาจารย์ช่วยเข็น แต่ก็จะมีผู้ศึกษาจำนวนนึงแหละที่ตั้งใจจริง ๆ เข้าทุกคลาสไม่ขาดได้ผลการเรียนดี

แต่พอจบมาก็พบความจริงว่าเนื้อหาในหลักสูตรที่ได้ร่ำเรียนจนจบมาคุณภาพยังตามหลังมหาลัยอื่น ๆ

คนเก่งจริง ๆ ก็มีแหละ อย่างสาขาวิชาที่ผมจบมาลักษณะการทำงานมันไม่ได้อิงจากตำราทั้งหมด

แต่ต้องร่วมด้วยการฝึกฝน สะสมประสบการณ์ ศึกษาเพิ่มเติมเอง จนเกิดเทคนิคจำเพาะเฉพาะบุคคล

ซึ่งมันก็ทำให้พอจะสู้มหาลัยที่เด่นทางด้านนี้โดยตรงได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันน้อยมากจริง ๆ (น่าจะไม่ถึง 10%) ที่จะมาถึงขั้นนี้

ตอนผมจบใหม่10ปีที่แล้ว ออดิทBIG4 รับ จุฬา มธ.ทุกคนครับ เพื่อนเกรด2.0X ก็เข้าได้ แค่จุฬามธ.สองที่ก็เกิน50%ของรุ่นละ

ผมมองว่า "งานดีๆ" ต้องทำการบ้านครับ ว่าสายงานไหน บริษัทแบบไหนเหมาะกับเรา
ส่วนตัวผม ไม่เคยมองบริษัทใหญ่ๆ หรือรัฐวิสาหกิจ ว่าเป็นงานดีเลยครับ

สายงานผม IT ผมไปเริ่มที่ SI เจ้าค่อนข้างใหญ่ ที่รับแต่เด็กม.รองเป็นหลัก
เพราะที่นี่ไม่สามารถให้เงินเดือนได้มากนัก แต่ได้งานใหญ่ๆ อยู่เรื่อยๆ
ทำให้ผมมีโอกาสได้ทำงานใหญ่และหลากหลาย จนตอนนี้ผมว่าผมติด 10% บนในสายงานอ่ะ
ซึ่งผมว่าบริษัทแบบนี้มีอยู่อีกเยอะครับ

ตรรกะแบบโคตรป่วย ที่ไหนที่สอบเข้ายากกว่า นั่นก็ดีกว่าเพราะมันก็คือเครื่องยนต์ชั้นดี บวกน้ำมัน

additive สูง เครื่องก็แรงครับ

เรื่องถ้าเทียบต่างประเทศก็โดนสิครับ Ivy League เทียบ ม บ้านเรา เค้าก็เหยียดอยู่แล้วธรรมดา

ปัญหานึง ที่ ม ไม่ดังไม่สำเหนียกคือ ไม่พัฒนาตัวผู้เรียนเท่าไหร่ ถามว่าอาจารย์อ่าน Journal เยอะแค่ไหน

เทียบ ม ชั้นนำ คนละชั้นกันเลยแหละครับ แล้วตัว มหาลัยเอง การกำหนดเกณฑ์ในการ

สอบก็ต่างกันมาก

ผมว่ามันเคลียแบบแทบไม่ต้องเทียบกันให้เสียเวลาอ่ะ

คุณภาพสถาบันมันคนละชั้นกันจริงๆ มันก็ผลิตบัณฑิตออกมาได้คุณภาพต่างกันเช่นกัน

Big 4 ผมเห็นเด็กบัญชีม.ระดับท๊อปเข้าไปได้หมดนะครับ ยังไม่เคยได้ยินว่า Firm ระดับ Big 4 แยกว่าสีชมพูเท่านั้น

แน่นนอนจุฬาต้องดีกว่าอยู่แล้ว เพราะยังไงเด็กเก่งๆก็เลือกสถาบันระดับประเทศก่อนละครับ

ส่วนคนเก่งหรือไม่เก่งตอนเรียนจบออกมาก็ขึ้นอยู่ที่คนแล้ว เพราะผมมองคนที่อยากพัฒนาตัวเองไม่ได้หาความรู้แค่ในสถาบันศึกษาแล้ว เพราะมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่ต้องต่อยอดการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันการหาข้อมูลความรู้เองแล้ว อาจจะมีพวกอินเตอร์เนต ที่มีสื่อหรือแหล่งข้อมูลให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น

ต่างนะ ผมเคยไปลองคุยกับเด็ก ป.ตรี จุฬา เเล้วเอามาเทียบกับที่ลาดกระบัง ( ผมจบลาดกระบัง )

คือ มันบอกไม่ได้หรอกว่าที่ไหนเก่งกว่า แต่เรื่องความเข้มข้นในการเรียน ผมว่า จุฬา นี่ใช้ได้เลยนะ
ไปคุยเรื่องที่เรียนมานี่ผมคุยไม่รุ้เรื่องอะ เก่งกันจัด..
จนผมรู้สึกว่าตามเขาไม่ทันเลยอะ เหมือนนักบอลไทย ไปเจลีก ไปยุโรปอะ ตอนอยู่บ้านเรา เราก็ว่าดีแล้วนะ ไปเจอนู่น โอ้ว ช็อคเลย

คนใน SS นี่อยู่บนโลกความจริงดีเฮะ
พวกตอบใน FB นี่ ทุกที่เท่าเทียม และไปผสมโรงด่า ฬ ทั้งนั้น

ข้ามเรื่องจบใหนไปก่อน
เอาเรื่องทำงานเลย
ผมรับเด็กพาททามทำงานช่วงปิดเทอม
หรือเด็กฝึกงาน
ใน10คน ถ้าเอามาตัดเกรด
เอาแบบkpiวัด พวกความรับผิดชอบ
ขยัน ถ้าอยากรับเข้าทำงานต่อ
ผมรับจุฬาทำงานต่อทั้ง10คน
ถ้าราชภัฏ อยากรับไม่เกิน2-3คน
ผมก็จบราชภัฏ ถึงมองแบบเป็นกลาง
ถุงอยากให้โอกาสรุ่นน้อง รับมาฝึกงานทุกปี
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องคุณภาพงาน
ต้องยอมรับว่าเรื่องพวกนี้ จุฬาสอนมาดีกว่าจริงๆ