[RE: ในฐานะที่เป็นคนขาย อาหารตามสั่ง ขอชี้แจง ให้ผู้บริโภค เข้าใจในหลายๆเรื่อง]
Ki.Snito พิมพ์ว่า:
แต่ถ้าขึ้นกันหมดแบบนี้มันทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นนะ
ค่าพนักงานหรือลูกจ้างก็ต้องปรับขึ้นด้วย
และวัตถุดิบที่ร้านอาหารเอาไปทำราคาก็ต้องสูงขึ้นอีกจากค่าจ้างพนักงานที่ทำวัตถุดิบสูงขึ้น
สุดท้ายร้านอาหารก็ได้กำไรเท่าเดิมอยู่ดี
คนค้าขาย เขามีแค่สองทางเลือกครับ
คือ กัดฟันทน กับ ต้องขึ้นราคา
การขึ้นราคา ก็แค่ซื้อเวลา เพราะ ภาพรวม เราหนีเงินเฟ้อ กับ ค่าครองชีพที่ก้าวกระโดด ไวกว่า ค่าแรงขั้นต่ำไม่พ้น ผลพวงมาจาก การบริหารที่ไม่ดีของ ผู้มีอำนาจ
การที่เราต้องขึ้นราคา มีเหตุผลหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ เรื่อง หมู แต่ หมู มันคือตัวที่มากระชาก ต้นทุนที่คนค้าขาย อย่างผม ที่ไม่ได้ขึ้นราคา มานานแล้ว ต้องกระอักเลือด
บางที คนถามหมูขึ้น ขึ้นได้นะราคา แต่หมูลง ช่วยลงให้ด้วย
ในความเป็นจริง ตอนผมขายอาหารตามสั่งแรกๆ ข้าวหอมที่ผมใช้โลละ 37-38 บาท ตอนนี้ถีบตัวไป 40-42 แบบไม่มีวันหวนกลับ
น้ำปลา น้ำมันหมู พริกไทย ซีอิ๋วขาว ขึ้นแล้วก็ไม่ลงอีกเลย
ถุงพลาสติค ห่อกระดาษ ช้อนพลาสติค หลอด กระดาษทิชชู่ ยางรัดของ น้ำแข็งหลอด ขึ้นแล้วก็ไม่ลงอีกเลยเช่นกัน
ค่าเช่าที่ค้าขาย ค่าเช่าที่พัก ค่าอาหารแมว ค่าอาหารนอกบ้านเวลาผมไปกิน ขึ้นแล้วก็ไม่ลดอีกเลย
ค่ารถไฟฟ้า ค่าตั๋วหนัง ค่ากาแฟ ค่าหมูกะทะ ค่าปิ้งย่าง ก็ขึ้นแลล้วไม่ลดอีกเลย
ผมตอนปิดร้าน ผมก็ผู้บริโภคเหมือนพวกคุณ แต่ ทุกอย่างที่ขึ้นผมต้องแบกรับไว้ เพราะมันไม่ลงกลับมาที่เดิม
แต่อาหารตามสั่ง ที่ผมต้องแบก ต้นทุน ที่ขึ้นแล้วไม่ลง ผมไม่มีสิทธิ์ขึ้นถาวร เพราะทุกคน รุมประนาม ว่าหน้าเลือด ขายจนรวย บลาๆ
ผมไม่มีสิทธิ์ เป็นผู้บริโภคอีกเลยใช่มั้ย เมื่อผมลุกมาจับกะทะ จับตะหลิวแล้ว ผมไม่มีสิทธิ์ต่อรอง เวลาไปซื้อของ แล้วราคาขึ้น แต่ ผมต้องรับฟัง เวลา ลูกค้าบ่นด่า ที่ผมขึ้นราคาแล้ว ไม่ปรับลง
น่าเศร้านะครับ ถ้าผมกลายเป็น จุดสุดท้าย ลงสุดของห่วงโซ่ ที่ต้องแบกรับ ภาระเงินเฟ้อ และค่าครองชีพ โดยไม่มีสิทธิ์ปรับราคาขึ้น ตามเงินเฟ้อ อย่างชอบธรรม
ผมเข้าใจ ผู้บริโภค แล้ว ผู้บริโภค เข้าใจอะไรคนค้าขาย อย่างท่องแท้แล้วจริงหรือ?