ขอบคุณที่มาแชร์ให้ฟังครับ ผมอยากสอบถามครับว่า ถ้าสมมุติขาย delivery อย่างเดียว ไม่มีหน้าร้าน

ท่านรับค่าเช่าต่อเดือนได้ที่เท่าไหร่ครับ ในพื้นที่ๆชุมชนหนาแน่น และคนอยู่เยอะมากๆ

ผมไม่เคยมองพ่อค้าแม่ค้าเป็นคนรับใช้ครับ แต่คุณอ่ะมองว่าลูกค้าติดหนี้บุญคุณเพราะคุณเสียสละมาทำอาหารให้คุณลูกค้ากิน ทำเป็นบ่นขายของเหนื่อยอย่างงั้นอย่างงี้ อาชีพไหนมันก็เหนื่อยทั้งนั้นแหละ ทำเหมือนทำมาแล้วทุกอาชีพ เป็นคนค้าขายแต่คิดแบบนี้แนะนำเลิกขายของไปเหอะ

เกิด มาค้าขาย ราคา เป็นธรรม ที่สุดละ แต่ มีแต่คนมอง พวกตามสั่งรวย พวกนี้เห็นแก่ได้ ไม่เห็นใจผู้บริโภค

เออ ดีเว้ย ผู้บริโภค จ้วงได้ฝ่ายเดียว ไอคนขาย กัดฟัน กลืนเลือด กลืนเนื้อ อดทนแบกต้นทุน ลดกำไรตัวเองไปในแต่ละปีที่ผ่าน ห้ามมีปากมีเสียง

คุณ เข้าใจ คนค้าขาย อย่างแท้จริง หรือ เพียงแค่ อยากปกป้องผลประโยชน์ผู้บริโภค จนลืม ว่าคนค้าขาย เขาก็ทำมาหากินเลี้ยงชีพ เหมือนเรา หลายๆคน ที่คิดว่า มันรายได้ดี ก้าวออกมาครับ ออกจากคอมฟอร์ทโซนของพวกคุณ เอาเงินเก็บ มาหาทำเล มัดจำเช่าที่ ซื้อโต๊ะ เก้าอี้ ร่ม จานชาม ช้อนส้อม ถังแก๊สเตาแก๊ส ติดท่อน้ำทิ้ง ท่อพักไขมัน ระบบไฟ เครื่องดูดควัน ให้พร้อม แล้วลุยเลยครับ เส้นทางเศรษฐี รอคุณอยู่ ผมไม่ได้ประชด แค่ถ้าคุณคิดว่าดี ก็ควรเลือกสิ่งที่ดีให้ชีวิตครับ อย่าดีแค่อย่างเดียว คือ "พูด"

ประโยคไหน ที่ผมคิดว่าลูกค้า เป็นหนี้บุญคุณผมครับ แคป ให้ผมดูหน่อย

แต่ประโยค ที่ลูกค้า มองตัวเองเป็นพระเจ้า ผมเห็นหลายโพส ในเว้ป ss เกี่ยวกับ ราคาอาหาร ในช่วงหมูแพง มีเพียบเลยครับ หลายโพส ที่ผมเห็นจน รู้สึกอีดอัดใจ ว่า ผู้บริโภค ใน ss นี่ วิสัยทัศน์แคบมาก มองอะไรฉาบฉวย เหลือเกิน

อาหารตามสั่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก

ขายเฉพาะทางเช่น ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู เหนื่อยน้อยกว่าแน่ๆล่ะ

เอาๆ เห็นใจครับ สู้ๆ

อันนี้ อ่ะเวิร์ค ผมคิดมาสักพักละ แต่ เลิกคิดละ ผม คิดว่าปีนี้ผมจะเลิกขายละ มีเงินพอ กลับบ้านเกิด ซื้อบ้าน ซื้อรถ ของตัวเอง แล้วเหลือลงทุน อีกพอสมควรละ

(ย้ำว่า ไม่ได้รวยจาก ขายตามสั่งนะ รวยเพราะรู้จักลงทุนครับ ไมไ่ด้หมายถึงเจ้าของโพสที่ผม โควทนะ แต่มีคนตามแขวะว่า ขายตามสั่งแล้วรวย ดีจัง อะไรทำนองนี้ เห็นแล้ว เพลีย อาชีพไหนมันก็ลงทุนได้ทั้งนั้นแหละ ถ้ารู้จักศึกษา หาข้อมูล ผมรู้จักเอาเงินไปต่อยอดลงทุน ถึงเห็นแสงในชีวิต และไม่ลืม กะทะ กับ ตะหลิว ที่พาผม เลี้ยงชีวิต แม่ และ แมว ผมมาได้เกือบสิบปี)

ผมเองทำเกี่ยวกับอาหารเหมือนกันแต่เป็นระดับอุตสาหกรรม อ่านๆดูแล้วผมอยากแนะนำให้ปรับราคาได้แล้วนะครับ

การทำอาหารมีต้นทุนแฝงเยอะซึ่งคุณเอวก็รู้ แต่อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดว่า แล้วมันแฝงอยู่เท่าไหร่
ตรงนี้ผมแนะนำให้คร่าวๆว่าถ้าเป็นร้านตามสั่งข้างทางทั่วๆไป หากควบคุมต้นทุนวัตถุดิบให้อยู่ที่ราวๆ 40-50% ก็จะได้กำไรสุทธิราวๆ 10%
แต่การทำงานของร้านคุณ จากที่บอกว่ามีค่าเช่าเดือนละหมื่น ค่าลูกจ้าง ฯลฯที่อาจจะยังไม่ได้บอก ผมคิดว่าคุณควรคิดในเรทร้านอาหารได้แล้วครับ ไม่ควรคิดเรทอาหารตามสั่ง
ซึ่งด้วยเรทนี้ คุณควรจะทำให้ภาพรวมต้นทุนไม่เกิน 35% ถึงจะได้กำไรออกมาราวๆ 10%
ตรงนี้เห็นได้เลยว่าราคา 40 บาทของคุณมันถูกเกินไปด้วยซ้ำ (ทั้งในแง่ต้นทุนและในแง่การแข่งขัน อาหารตามสั่งในกทม.เดี๋ยวนี้50บาทเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปแล้วครับ ถ้าคุณปรับผมมองว่าก็ไม่ได้สูงเกินไปนะ)

ฟังแล้วอาจจะดูเหมือนเยอะแปลกๆ แต่ลองนึกเทียบดีๆนะครับ ที่คุณบอกว่าขายมาราวๆ 5 ปี แต่เงินเก็บยังไม่ถึงแสนเลยใช่มั้ยล่ะครับ
ถ้าลงรายละเอียดคุณอาจจะใช้จ่ายอย่างอื่นร่วมด้วย แต่ถ้ามองจากโครงสร้างต้นทุนแล้ว คุณเองก็ตั้งราคาขายถูกเกินไปเหมือนกัน
คนขายอาหารเป็นแบบนี้กันเยอะครับ เพราะความที่มันมีเงินสดวิ่งหมุนทุกวัน คนขายหลายคนไปไม่ได้รู้ตัวว่าตัวเองกำไรมากน้อย หรือขาดทุนเท่าไหร่ จะรู้อีกตัวก็เมื่อเวลาสะสมไปมากแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นแค่คำแนะนำนะครับ รายละเอียดการตัดสินใจคุณเองจะรู้มากกว่าผม ว่ามันควรจะปรับแบบไหน ตัดสินใจยังไงดี

ยังไงก็สู้ๆครับ เข้าใจดีว่าช่วงนี้วงการนี้ปัญหารุมเร้าเหลือเกิน ขอให้ผ่านไปให้ได้ครับ

ขอบคุณครับ เหนื่อย สุดละ ในการขาย ของกินคือขายอาหารตามสั่ง

มีข้อดีคือ วัตถุดิบ เหลือยังแช่น้ำแข็งขายวันรุ่งขึ้นได้ จุดนี้ได้เปรียบ พวกข้าวแกง ที่ถ้าขายไม่หมด เสียของ

และตามสั่งประหยัดแก๊สกว่า ก๋วยเตี๋ยว เพราะไม่ต้องติดเตาตลอด

ขอบคุณ ที่เข้าใจจริงๆครับ

เห็นร้านหมูทอดเจ้จง นี่ผมอยากให้เอาเป็นแบบอย่างเลยนะ วัตถุดิบขึ้นแกรอสุดๆจริงๆ แกถึงขึ้น

และพอวัตถุดิบลง แกก็ปรับราคาลงมาเท่าเดิม แกขายข้าว+กับใส่ถุง อยู่ที่ 22 ก่อนปรับมาเป็น 25 ในตอนนี้

กับข้าวขาย 25 ปรับมาเป็น 30 บาท ผมอยากให้เอาร้านเจ้เป็นแบบอย่างมากครับ

ราคามีขึ้นลงตามวัตถุดิบ ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ ผัดอร่อยไม่อร่อยไม่รู้

แต่ผมโคตรรู้สึกดีกับอะไรแบบนี้เลยนะ อยากอุดหนุน เพราะเค้าเห็นใจผู้บริโภคดี

ขอบคุณท่านก่อนครับ ที่มาชี้แจงรายละเอียด ว่ามีค่าใช้จ่ายตรงไหนบ้าง

ส่วนตัวผมเห็นใจทั้งคนซื้อและคนขาย แต่เห็นใจคนขายมากกว่า เพราะว่า

จะปรับราคาทีลูกค้าก็บ่นครับ แล้วก็ขายราคาเดิมๆมานาน เราทำงานเงินเดือน

เงินเดือนยังขึ้นทุกปีเลยนะครับ แต่พ่อค้าเค้าคงราคาเดิมมาหลายปีกว่าจะขึ้น

หมายถึงร้านที่คงราคาเดิมนะ ไม่ใช่ร้านที่ขึ้นราคาทุกปี ปกติผมก็กินตามสั่ง เตี๋ยว

ตลอดนะ แต่พักหลังกลัวโควิดเลยทำอาหารกินเอง ลดการเจอผู้คนเยอะๆ

ผมก็มองว่าของแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคาตามสั่งแถวโซนที่ผมอยู่ไม่ขึ้นเลย

น่าจะปรับขึ้นกันได้แล้ว เห็นก็ขายราคานี้ตั้งแต่ผมย้ายมาทำงานหลายปีแล้ว

ส่วนตัวผมไม่มีปัญหากับการขึ้นราคาครับ ยิ่งถ้าปรับขึ้นเพราะต้นทุนขึ้น ผมยิ่งเข้าใจ

ผมว่าของกินถ้ามีคุณภาพและอร่อยยังไงก็ขายได้ครับ อย่างแถวบ้านผมเค้าขายกะเพราหมูสับ 50 + ไข่เจียว 10 บาท ผมก็กินได้เกือบทุกวันนะครับ

เพราะครัวเค้าสะอาด ใช้วัตถุดิบดี ใส่ใจลูกค้า สั่งอะไรได้ตามนั้น ใส่หมวกผัดไม่เคยเจอเส้นผมในอาหาร ไม่แช่ของปนกับน้ำแข็งที่ให้ลูกค้ากิน แก้วน้ำก็ล้างจริงๆไม่ใช่จุ่มน้ำแล้วมาคว่ำเลย

ร้านแบบนี้ผมคิดว่าถ้าเค้าขึ้นเป็น 60-70 ผมก็กินอยู่ดีครับ

กลับกันร้านแถวตลาดในออฟฟิศ สกปรกมาก เอามือเปล่าหยิบวัตถุดิบ หมูสับก็เกรดห่วย แบบที่มันเยอะ แล้วเคยกินเจอเศษกระดูก เศษขนหมูอ่ะ

แบบนี้ขาย 40 ผมก็ว่าแพง กินสองสามครั้งก็เลิกครับ

ถามได้มั้ยครับ ทำไมถึงเลิกทำร้าน เพราะโควิดรึเปล่าครับ

คิดว่าจะปรับราคา แต่ยังไม่ได้ปรับ รอดูสัก กพ 2565 ดูทิศทางราคาหมูอีกที ถ้าแพงขึ้นกว่า 220 คงอยู่ไม่ได้ละ แต่ถ้าทรงๆแถว 190-210 ยังพอกัดฟันไหว และผมคงขายปีสุดท้ายแล้วครับ เลยไม่ได้มองกำไร เป็นหลักมาก เพราะ ตอนนี้ หักค่าใช้จ่าย ก็พอเหลือ จ่ายค่าที่พักอาศัย และเหลือกิน แม้จะไม่เหลือเก็บ เพราะตัวผมไม่มีหนี้สิน และแม่ ไปอยู่กับ ครอบครัวน้องสาวแล้ว เลยไม่ได้มีภาระอะไรมาก แต่ที่ ออกหน้าพิมพ์ เป็นหนังหน้าไฟ เพราะ ไม่อยากให้ ผู้บริโภค มองแบบ ฉาบฉวยเกินไป คิดแค่ หมูห้าบาท ข้าวห้าบาท แก๊สเครื่องปรุงห้าบาท อยากให้ สังคม ss มองให้ลึกซึ้งกว่านั้น ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำครับ ใครคิดจะค้าขาย ควรดูโพสนี้ เป็นแนวทางครับแนะนำ

ผมก็ขายอาหารอยู่บ้านนอก
ไก่ตัว จากโลละ 60กว่า ตอนนี้ 80ละคร้าบ จะซื้อไก่มาย่างขายยังคิดแล้วคิดอีก ตอนนี้ดีหน่อย ยังมีไม้ให้เผาถ่านใช้เอง

จะทำลาบทำน้ำตก เห็นราคาหมูเลยพักไว้ก่อน ขายแต่ส้มตำกับไก่ย่างไปก่อน

ในมุมของลูกค้า ก็แล้วแต่เลย ถ้าคิดว่าแพง ก็ไม่ต้องซื้อ ทุกคนอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งนั้น พ่อค้าก็อยากมีเงินไว้ใช้ไว้เก็บ จะให้มาขายเอากำไรนิดหน่อย ได้เงินมากกว่าการเป็นลูกจ้างแรงงาน ผมก็คงจะไม่ทำ

ถ้ารับราคาไม่ได้ ก็เชิญร้านอื่น แค่นั้นเอง อย่ามาแขวะคนทำมาหากินเลย

เขาทำได้ เพราะ ที่เขาเอง ไม่มีต้นทุน ค่าเช่าที่ กับ การโดนชาร์จ ค่าน้ำ ค่าไฟ ผมก็ขายราคาเดิม 35 บาท ได้เหมือนกัน หมูเกรดดี ข้าวหอมมะลิ 100%

แต่ผม เจอค่าที่ ขึ้นทุก 3 ปี ค่าเช่าที่พักก็ขึ้นมารอบนึง ถ้ายังขายราคา แรกที่ร้านเปิด 35 บาท นี่ รายได้ไม่พอ เลี้ยงชีพแน่ๆครับ