เอาจริงๆ นะ ครู ก็ไม่ชอบใส่ชุด กากี มันร้อน แล้วชุดลูกเสือ เนตรนารี มันก็ร้อน
ครูร้อนไม่ได้ นักเรียนร้อนต้องอดทน

ตากแดดตอนเช้า นักเรียนหันหน้าสู้แดด ผอ.โม้ เป็นชั่วโมง หันหลังให้แดด แล้วบอกตากแดดเหมือนกัน ครูก็ร้อนเหมือนกัน แล้วเมิง ไม่รีบพูดให้ได้ใจความล่ะ

ชุดนักเรียนข้อดีก็มี ดูออกทันทีว่าเป็นนักเรียน

ข้อเสียก็มี ชุดแพง และใส่เที่ยวไม่ได้ (ความคุ้มค่าอยู่ตรงไหน ชุดคนทำงานยังใส่ไปเที่ยวได้)
ยิ่งมัธยม วัยเติบโต ไม่มีหรอก ใส่ตัวเดียว 3 ปี โดยไม่หลวมไป สั้นไป และต้องมี หลายตัวด้วย

ถ้าอยากให้ใส่ชุดนักเรียน อย่างน้อยๆ รัฐบาลก็จ่ายให้สิ เรียกร้องจังตังค์อยู่ครบ

เรื่องผม ก็เหมือนกัน ตัด 2 อาทิตย์ครั้ง (ลูกชายผมยาวเร็ว).... ปั๊ดโถ่วววว ....

เรื่องที่ควรจะไปถามเด็กกลับไม่ไปถาม ถามแต่ผู้ใหญ่แล้วผู้ใหญ่ก็ไปคิดแทนเด็กมันหมด ถ้าเด็กจะใส่ชุดอะไรไปเรียนผมว่ามันก็เรื่องของเค้านะก็สิทธิของเค้าอะ

ขอแย้งข้อ 1 ครับ จากการที่เคยไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศมา โรงเรียนก็ไม่มีชุดนักเรียน เค้าแยกนักเรียนโดยการห้อยบัตรประจำตัว ทุกคนห้อยบัตรหมด แม้กระทั่งครู วิธีการตรวจสอบคือให้ครูฝ่ายปกครองเดินเลยครับ ใครไม่ห้อยเรียกไปตักเตือน ใครลืมเข้าห้องปกครอง บัตรไม่ได้มีหน้าที่แค่แสดงตัวตนเท่านั้น ใช้สแกนเข้าห้อง (เพราะเดินเรียน) ใช้ซื้อของกิน ใช้ยืมหนังสือ ใช้เป็นส่วนลดขึ้นรถสาธารณะ

นร.ใส่เสื้อประชาไทด้วย อย่างเดือด 555



https://www.facebook.com/IsaanRecordThai/posts/3552895701426904

กลายเป็น ประเด็นทางความคิด บวกความเชื่อทางอายุ คนรุ่นก่อนก็คิดและเชื่อแบบนี้
แต่เด็กรุ่นนี้เค้าก็คิดแบบนึง ผมว่าสุดท้ายมันก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคขอเค้านะ เอาความคิดของเราไปเชื่อว่าผลต้องเป็นอย่างงั้นงี้
ในรุ่นเค้าไม่ได้ ยุคมันเปลี่ยนแล้ว ผู้ใหญ่ต้องฟังเด็กให้เยอะ และเปิดกว้างและต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงนะครับ
แต่ก็สามารถแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ แต่ด้วยความแก่กว่า ผมเห็นคนรอบตัวอะไรเกี่ยวกับเด็กจะอคติผสม ว่าเค้าเด็กกว่า
เรารู้มากกว่า อยากให้รับฟังกันมากกว่านี้ รับฟังกันจริงๆแล้วมันจะเกิดการหาทางออกร่วมกันจริงๆ
ลึกๆ ชุดนักเรียนมันส่งผลลึกๆหลายอย่างจริงๆ และมันก็มีข้อดีข้อเสียในความเห็นของแต่ละคน ซึ่งความเห็นแต่ละคนเนี้ยต้องเริ่มจากการเปิดรับฟังจริงๆอย่างที่บอก

ไม่ชอบชุดนักเรียน เพราะผ้าสาลูห่วยๆ อะ ขนาดชุดนักเรียนแบรนด์ที่เป็นของมีราคามันก็ผ้าแข็งๆ อยู่ดี แถมปักชื่อโรงเรียน สุดท้ายก็ใช้ได้อย่างมากสามปี เปลืองสิ้นดี

ส่วนตัวคิดว่าคนละครึ่งทางอะ โรงเรียนก็กำหนดกว้างๆ ว่าให้ใส่ชุดสุภาพไป โดยเป็น เสื้อเชิ้ต/เสื้อยืดคอกลม/เสื้อโปโล กับกระโปรง/กางเกง ส่วนนักเรียนก็เลือกเอาจากในช้อยส์ว่าจะใส่แบบไหน

เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดเนื้อผ้าดีๆ ตัวนึงใส่ได้เป็นสิบปี

เหมือนวัดความสามารถเลยว่า รร ไหนมีประสิทธิภาพในการสื่อสารให้เข้าใจถึงกฎระเบียบ

ขอตอบในฐานะผู้ปกครองหลานได้ไหมครับ ชุดนักเรียนที่ขายๆกันนี้ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อดีๆ คุณภาพกากมากเอาถูกไว้ก่อน ต่อมาหลานผมเรียน ปวช. เป็นช่างโรงเรียนให่ใส่ชุดนักเรียน กางเกงขายาว แต่เป็นขายาวแบบวอม แล้วมันช่วยไรได้ ทุกๆเทอมผมต้องซื้อเสื้อใหม่ เกงวอมใหม่ให้หลานทุกรอบ รอบละ 1 ตัว บางตัวโดนสเก็ตขาดบ้าง กางเกงเหม็นคาบน้ำมันบาง ไม่เห็นจะมองว่าดีเลยสำหรับผม แถมอันตรายด้วยในการเรียน

ผมขอแย้งครับ เอาประสบการณ์ตรงเลย ขนาด รร เอกชนชื่อดังแถวบ้านผม ที่มีแต่ลูกคนมีตังเรียน แถมครูเป็นคนเช็คยังปล่อยผ่านง่ายๆ
เลยครับ แค่ห้อยบัตรไว้ก็ไม่เชคว่าตรงกับหน้าละครับ จะเอามาตรฐานต่างประเทศกับเมืองไทยมาวัดแบบนี้มันไม่ได้ครับ สภาพแวดล้อม
กำลังทรัพย์เราไม่เหมือนกัน แบบที่ผมบอกไงระบบแบบนี้จะทำได้กับแค่พวก รร ลูกคุณหนู กับ รรชื่อดังเท่านั้น พวก รร ทั่วไปตามต่างจังหวัดจะไปเอาเครื่องแสกนมาติดจากไหน อย่าลืม รรเมืองนอกค่าเทอมตีเป็นเงินไทยเฉียดแสนถึงหลายแสนนะครับ งบแค่นี้ก็ต่าง รร บ้านเรารัฐบาลค่าเทอมหลักพันต้น จะไปเอาเงินจากไหนมาติดตั้งเครื่องแสกนทุกๆจุดสำคัญ ไหนจะงบเรื่องบัตรที่ต้องสแกนอีก ค่าจัดวางระบบฐานข้อมูลใน รร ไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วยที่จะทำนะ แต่แค่ในทางปฏิบัติปัจจัยเมืองไทยมันไม่เอื้อครับ

ผมว่าคำตอบเค้ามีมานานแล้วครับ แต่คำตอบไม่ถูกใจนักเรียน และ ผมก็เชื่อว่า ไม่มีคำตอบไหนถูกใจนักเรียนได้หมดหรอก

ใครอยากใส่ก็ใส่ ใครไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่ แค่นั้นเองงง ประเด็นคือการไปกดเด็กไว้นั่นแหละ แล้วครูตาม รร ก็พวกบ้าอำนาจ เด็กๆวัยนี้เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าต้องพูดกับเขาแบบใจเย็นๆ ไปแรงใส่เด็ก จะมาคาดหวังให้เด็กเชื่อฟังง่ายๆหรอ

ถ้าเป็นผมนะ ปล่อยเลยครับ ปล่อยให้ลองใส่ไปเลยครับ ปล่อยแบบยาวๆ ไปเลย ใครยังอยากใส่ชุดนักเรียนก็สามารถใส่มาได้ ใครไม่อยากใส่ก็ให้อิสระกับเด็กเต็มที่ แล้วอีก 2-3 ปี ค่อยมาคุยกันอีกที
พอผ่านไป 2-3 ปีก็ทำแบบสำรวจว่าจะเอาแบบไหนดี
ยกตัวอย่างถ้าเด็กรุ่นนี้ที่ไม่ใส่ชุดนักเรียนมาเรียน เปลี่ยนใจบอกว่าควรจะใส่ชุดนักเรียนเหมือนเดิม เด็กรุ่นหลังก็ไม่เชื่ออยู่ดีและครับ ก็อยากลองด้วยตัวเองอยู่ดี ก็วนลูปอยู่ดีและครับ พอจะนึกออกไหม ถ้าไม่สนใจกฏระเบียบ อะไรกันขนาดนี้แล้ว

คือแค่ทีมี ยังไม่พอ เพิ่มอีกอย่างคงไม่เป็นไร ถ้าจะมีต่อไปอีก สาม สี่ ห้า ก็ไม่เป็นไร แนวคิดลดความเหลื่อมล้ำจริงๆ

พบกันคนละ​ครึ่ง​ทางคับ​ จันทร์​-พฤหัส​ ชุดนักเรียน​ วันศุกร์​ ฟรีสไตล์​

ดูจากคลิปและภาพนิ่ง มีคำถามเกิดขึ้นมาในหัวแล้ว
ว่า รองเท้าแตะ เสื้อยืด อันนี้เรียกสุภาพมั้ย
เราแต่งตัวเข้าโรงเรียน คำว่าสุภาพ แค่นี้ก็ถกกันยังไม่จบเลย
เห็นแต่งๆกันไปคือตามใจอยากที่จะแต่ง ไม่สนด้วยซ้ำว่าสุภาพไม่สุภาพ
อันนี้เด็กแยกแยะยังไง สุภาพในความคิดของผู้ใหญ่ กับสุภาพในความคิดเด็ก
คือตรงไหนที่สุภาพ
เรายังตอบเรื่องนี้กันไม่ได้ แต่ข้ามขั้นไปอีกเรื่องแล้วหรือเปล่า
อันนี้ผมตั้งคำถามนะ ไม่ได้ คัดค้านเสียทีเดียว