ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ถ้าคุณกรีดเลือดผมออกมา มันคงเป็นสีฟ้าแน่ๆ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 7938
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 16:43
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
SoFluffy พิมพ์ว่า:
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
SoFluffy พิมพ์ว่า:
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
จะถามหาความแฟร์จากกฎนี้มันไม่มีอยู่แล้วครับ ประเด็นหลักคือให้รายจ่ายต้องพอดีกับรายรับ
แล้วถามว่าทีมเล็กๆรายรับปีละกี่ล้าน เทียบกับทีมใหญ่ อย่างปีล่าสุดซิตี้รับรวมๆทั้งหมด 400 ล้าน++
หักค่าเหนื่อยนักเตะ 200ล้าน ค่าบริหารดูแลสโมสร ค่าจ้างพนักงานตีไปแพงๆเลยปีละ 100 ล้าน ยังเหลือให้ช็อปอีก 100 ล้าน

ลองย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว แมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี เป็นโคตรทีมในสมัยนั้น รายรับเฉลี่ย 2-3 ร้อยล้านต่อปี
ตอนนั้นเงินยังไม่เฟ้อเท่านี้ มีงบให้ซื้อนักเตะหลัก 30-40 ล้านได้หลายๆตัวสบายๆ

แต่กลับกันถ้าเป็นทีมเล็ก ปีๆนึงได้เงินรวมแค่ 100 กว่าล้าน จ่ายค่าคนงาน ค่าบำรุงสโมสร ค่าเหนื่อยนักเตะก็หมดแล้ว
จะเอาเงินที่ไหนไปช็อปนักเตะเพิ่ม ในสมัยนั้นถึงมีเคสทีมเล็กๆต้องยอมขายตัวเก่งเพื่อเอาเงินไปช็อปตัวใหม่ๆเข้าทีมไงครับ

แล้วถามว่ากฎนี้มันแฟร์ตรงไหน ถ้าอยากไต่เต้าจากทีมเล็กๆ ขึ้นไปเป็นโคตรทีมโอกาศแทบจะเป็น 0 เลย

เทียบง่ายๆเหมือน แมนยู ลิเวอร์ เชลซี เป็นลูกคนรวยในห้องเรียนอ่ะ มีตังเยอะอยู่แล้ว สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงินมรดกของที่บ้าน
กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก แต่โชคดีได้เสี่ยเลี้ยง เสี่ยก็เปย์ให้ทุกอย่าง จนมีเงินขึ้นมาเทียบกับพวกลูกคนรวยได้
แล้วถามว่าคนอื่นถ้าอยากขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับคนพวกนี้ต้องทำไง นั่นแหละถึงจะตอบเรื่องความแฟร์ได้

แค่จุดเริ่มต้นมันก็เหลื่อมล้ำกันแล้วครับ
 


ลองไล่ๆอ่านพอจะเข้าใจที่ท่านจะสื่อแล้วนะครับ เลยอยากทราบว่ากฎควรจะเป็นแบบไหนท่านถึงจะมองว่ามันแฟร์ครับ  


นั่นสิครับท่าน ผมก็ยังมองไม่ออกว่าต้องทำไงกฎนี้ถึงจะ"แฟร์" ถ้าจะจำกัดงบปีละไม่เกินเท่าไรๆ แบบที่ จขม. เสนอมามันก็ยาก ทีมใหญ่ก็ไม่ยอมอีก
ครั้นจะตั้งงบให้ช็อปได้สูงๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากตอนไม่มีกฎอีก
พอห้ามเอาเงินจากเจ้าของทีมอัดฉีดโดยตรง ก็เจออัดฉีดผ่านสปอนเซอร์แบบ ซิตี้ กะ ปารีสอีก
 


งั้นถึงกฎนี้มันไม่แฟร์สำหรับท่าน แต่มันก็ดูดีกว่าการไม่กำหนดเลยมั้ยครับ ไม่งั้นก็กลายเป็นทุกทีมแย่งกันอัดฉีด ตลาดก็น่าจะเฟ้อไปกว่านี้ ทีมเล็กที่ไม่มีเจ้าของรวยๆก็หมดโอกาสจะซื้อตัวนักเตะแข่งกันทีมอื่นเข้าไปอีก  


ใช่ครับ ผมไม่ได้บอกว่ากฎนี้ไม่ดี แต่แค่ในความรู้สึกส่วนตัว ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์าำหรับทีมเล็กๆตามชื่อมันเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 27323
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 16:43
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
จะถามหาความแฟร์จากกฎนี้มันไม่มีอยู่แล้วครับ ประเด็นหลักคือให้รายจ่ายต้องพอดีกับรายรับ
แล้วถามว่าทีมเล็กๆรายรับปีละกี่ล้าน เทียบกับทีมใหญ่ อย่างปีล่าสุดซิตี้รับรวมๆทั้งหมด 400 ล้าน++
หักค่าเหนื่อยนักเตะ 200ล้าน ค่าบริหารดูแลสโมสร ค่าจ้างพนักงานตีไปแพงๆเลยปีละ 100 ล้าน ยังเหลือให้ช็อปอีก 100 ล้าน

ลองย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว แมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี เป็นโคตรทีมในสมัยนั้น รายรับเฉลี่ย 2-3 ร้อยล้านต่อปี
ตอนนั้นเงินยังไม่เฟ้อเท่านี้ มีงบให้ซื้อนักเตะหลัก 30-40 ล้านได้หลายๆตัวสบายๆ

แต่กลับกันถ้าเป็นทีมเล็ก ปีๆนึงได้เงินรวมแค่ 100 กว่าล้าน จ่ายค่าคนงาน ค่าบำรุงสโมสร ค่าเหนื่อยนักเตะก็หมดแล้ว
จะเอาเงินที่ไหนไปช็อปนักเตะเพิ่ม ในสมัยนั้นถึงมีเคสทีมเล็กๆต้องยอมขายตัวเก่งเพื่อเอาเงินไปช็อปตัวใหม่ๆเข้าทีมไงครับ

แล้วถามว่ากฎนี้มันแฟร์ตรงไหน ถ้าอยากไต่เต้าจากทีมเล็กๆ ขึ้นไปเป็นโคตรทีมโอกาศแทบจะเป็น 0 เลย

เทียบง่ายๆเหมือน แมนยู ลิเวอร์ เชลซี เป็นลูกคนรวยในห้องเรียนอ่ะ มีตังเยอะอยู่แล้ว สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงินมรดกของที่บ้าน
กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก แต่โชคดีได้เสี่ยเลี้ยง เสี่ยก็เปย์ให้ทุกอย่าง จนมีเงินขึ้นมาเทียบกับพวกลูกคนรวยได้
แล้วถามว่าคนอื่นถ้าอยากขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับคนพวกนี้ต้องทำไง นั่นแหละถึงจะตอบเรื่องความแฟร์ได้

แค่จุดเริ่มต้นมันก็เหลื่อมล้ำกันแล้วครับ
 


โลกนี้มันจะมีคำว่าความพยายามไว้ทำไมล่ะครับ

จะเอามาเทียบว่าทีมแมนยู เชลซี ลิเวอร์พูล เป็นลูกคนรวย มันก็เทียบงั้นไม่ได้

ถ้าตะเทียบต้องบอกว่า แมนยู เชลซี ลิเวอร์พูลเป็นคนรวยเอง เพราะมันก็คือเงินที่ทีมหามาเองไม่ใช่เงินของพ่อแม่ ในทางกลับกัน ถ้าเทียบเคสแบบนี้ ผมกลับมองว่าแมนซิตี้เหมือนคนที่ใช้เงินจากทางบ้านเพื่อให้ตัวเองร่ำรวยมากกว่าทีมอื่นด้วยซ้ำ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
<___คนธรรมดา___>
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3903
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 16:46
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
ถ้าจะให้แฟร์ต้องให้ซิตี้มาแบกหนี้​ 700ลป​ บ้างครับถึงจะแฟร์
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
โค้ช A-License
Status: RVV-IRENE-YOONJO-YEBIN-SUJI-YUJEONG
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 15338
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 16:46
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
Apiban2526 พิมพ์ว่า:
เมื่อก่อน โรมันมาใหม่ๆช้วิธีแบบนี้ป่าวครับ จำได้ ตอนมาใหม่ๆๆ ซื้อ มาเพียบ ดาราในยุคนั้น  


เชลซีก็ทำแบบนี้เหมือนกันครับ แต่ตอนนั้นมันยังไม่มีกฎนี้ออกมา

พอมันมีกฎนี้ออกมาเชลซีก็ ปรับตัวให้เข้ากับกฎนั่นแหละ

ลองสังเกต ดูก็ได้ว่าหลังๆตลาดซื้อขายของเชลซีไมไ่ด้เป็นแบบนั้นแล้ว

เห็นซื้อตัวเข้ามาแพงก็จริง แต่ก็ได้ไม่มาก คนเดียว หรือสองคน ต่อตลาด

และก็ขายออกเหมือนกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ถ้าคุณกรีดเลือดผมออกมา มันคงเป็นสีฟ้าแน่ๆ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 7938
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 16:52
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
FI2eecIOM_BLuE พิมพ์ว่า:
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
จะถามหาความแฟร์จากกฎนี้มันไม่มีอยู่แล้วครับ ประเด็นหลักคือให้รายจ่ายต้องพอดีกับรายรับ
แล้วถามว่าทีมเล็กๆรายรับปีละกี่ล้าน เทียบกับทีมใหญ่ อย่างปีล่าสุดซิตี้รับรวมๆทั้งหมด 400 ล้าน++
หักค่าเหนื่อยนักเตะ 200ล้าน ค่าบริหารดูแลสโมสร ค่าจ้างพนักงานตีไปแพงๆเลยปีละ 100 ล้าน ยังเหลือให้ช็อปอีก 100 ล้าน

ลองย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว แมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี เป็นโคตรทีมในสมัยนั้น รายรับเฉลี่ย 2-3 ร้อยล้านต่อปี
ตอนนั้นเงินยังไม่เฟ้อเท่านี้ มีงบให้ซื้อนักเตะหลัก 30-40 ล้านได้หลายๆตัวสบายๆ

แต่กลับกันถ้าเป็นทีมเล็ก ปีๆนึงได้เงินรวมแค่ 100 กว่าล้าน จ่ายค่าคนงาน ค่าบำรุงสโมสร ค่าเหนื่อยนักเตะก็หมดแล้ว
จะเอาเงินที่ไหนไปช็อปนักเตะเพิ่ม ในสมัยนั้นถึงมีเคสทีมเล็กๆต้องยอมขายตัวเก่งเพื่อเอาเงินไปช็อปตัวใหม่ๆเข้าทีมไงครับ

แล้วถามว่ากฎนี้มันแฟร์ตรงไหน ถ้าอยากไต่เต้าจากทีมเล็กๆ ขึ้นไปเป็นโคตรทีมโอกาศแทบจะเป็น 0 เลย

เทียบง่ายๆเหมือน แมนยู ลิเวอร์ เชลซี เป็นลูกคนรวยในห้องเรียนอ่ะ มีตังเยอะอยู่แล้ว สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงินมรดกของที่บ้าน
กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก แต่โชคดีได้เสี่ยเลี้ยง เสี่ยก็เปย์ให้ทุกอย่าง จนมีเงินขึ้นมาเทียบกับพวกลูกคนรวยได้
แล้วถามว่าคนอื่นถ้าอยากขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับคนพวกนี้ต้องทำไง นั่นแหละถึงจะตอบเรื่องความแฟร์ได้

แค่จุดเริ่มต้นมันก็เหลื่อมล้ำกันแล้วครับ
 


โลกนี้มันจะมีคำว่าความพยายามไว้ทำไมล่ะครับ

จะเอามาเทียบว่าทีมแมนยู เชลซี ลิเวอร์พูล เป็นลูกคนรวย มันก็เทียบงั้นไม่ได้

ถ้าตะเทียบต้องบอกว่า แมนยู เชลซี ลิเวอร์พูลเป็นคนรวยเอง เพราะมันก็คือเงินที่ทีมหามาเองไม่ใช่เงินของพ่อแม่ ในทางกลับกัน ถ้าเทียบเคสแบบนี้ ผมกลับมองว่าแมนซิตี้เหมือนคนที่ใช้เงินจากทางบ้านเพื่อให้ตัวเองร่ำรวยมากกว่าทีมอื่นด้วยซ้ำ  


ที่ผมเทียบว่าทีมพวกนี้บ้านรวยเพราะ รุ่นก่อนๆเค้าทำมาดีครับ

แมนยูลิเวอร์พูลสะสมบารมีมาตั้งแต่แต่อดีตคว้าแชมป์ลีค แชมป์ยุโรปมาหลายสิบสมัย
เหมือพ่อแมตั้งใจทำงานหนักเพื่อหาเงิน ก็พอมีมรดกมาถึงรุ่นลูก ถึงตอนนี้จะผลงานไม่ดีก็ยังมีเงินมรดกใช้จ่ายอยู่

กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก เพราะพ่อแม่ไม่ได้มีอะไรไว้ให้เลย หาตังแค่พอกิน อดบ้างกินบ้าง อยากได้อะไรก็ไม่มีตังซื้อ
พออยากจะไปเข้าแก๊งกับพวกลูกคนรวยก็เลยต้องเอาร่างกายเข้าแลก หาเสี่ยเลี้ยง เงินที่ได้มามันก็ดูไม่สะอาดไงครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Captain_Kompany เมื่อ Wed Mar 25, 2020 16:52, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: เงียบไมละหนู
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 15813
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 16:54
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
ไปโดนตัวไหนมาละนั่น มั่วซั่วไปหมด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 27323
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 16:54
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
FI2eecIOM_BLuE พิมพ์ว่า:
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
จะถามหาความแฟร์จากกฎนี้มันไม่มีอยู่แล้วครับ ประเด็นหลักคือให้รายจ่ายต้องพอดีกับรายรับ
แล้วถามว่าทีมเล็กๆรายรับปีละกี่ล้าน เทียบกับทีมใหญ่ อย่างปีล่าสุดซิตี้รับรวมๆทั้งหมด 400 ล้าน++
หักค่าเหนื่อยนักเตะ 200ล้าน ค่าบริหารดูแลสโมสร ค่าจ้างพนักงานตีไปแพงๆเลยปีละ 100 ล้าน ยังเหลือให้ช็อปอีก 100 ล้าน

ลองย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว แมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี เป็นโคตรทีมในสมัยนั้น รายรับเฉลี่ย 2-3 ร้อยล้านต่อปี
ตอนนั้นเงินยังไม่เฟ้อเท่านี้ มีงบให้ซื้อนักเตะหลัก 30-40 ล้านได้หลายๆตัวสบายๆ

แต่กลับกันถ้าเป็นทีมเล็ก ปีๆนึงได้เงินรวมแค่ 100 กว่าล้าน จ่ายค่าคนงาน ค่าบำรุงสโมสร ค่าเหนื่อยนักเตะก็หมดแล้ว
จะเอาเงินที่ไหนไปช็อปนักเตะเพิ่ม ในสมัยนั้นถึงมีเคสทีมเล็กๆต้องยอมขายตัวเก่งเพื่อเอาเงินไปช็อปตัวใหม่ๆเข้าทีมไงครับ

แล้วถามว่ากฎนี้มันแฟร์ตรงไหน ถ้าอยากไต่เต้าจากทีมเล็กๆ ขึ้นไปเป็นโคตรทีมโอกาศแทบจะเป็น 0 เลย

เทียบง่ายๆเหมือน แมนยู ลิเวอร์ เชลซี เป็นลูกคนรวยในห้องเรียนอ่ะ มีตังเยอะอยู่แล้ว สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงินมรดกของที่บ้าน
กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก แต่โชคดีได้เสี่ยเลี้ยง เสี่ยก็เปย์ให้ทุกอย่าง จนมีเงินขึ้นมาเทียบกับพวกลูกคนรวยได้
แล้วถามว่าคนอื่นถ้าอยากขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับคนพวกนี้ต้องทำไง นั่นแหละถึงจะตอบเรื่องความแฟร์ได้

แค่จุดเริ่มต้นมันก็เหลื่อมล้ำกันแล้วครับ
 


โลกนี้มันจะมีคำว่าความพยายามไว้ทำไมล่ะครับ

จะเอามาเทียบว่าทีมแมนยู เชลซี ลิเวอร์พูล เป็นลูกคนรวย มันก็เทียบงั้นไม่ได้

ถ้าตะเทียบต้องบอกว่า แมนยู เชลซี ลิเวอร์พูลเป็นคนรวยเอง เพราะมันก็คือเงินที่ทีมหามาเองไม่ใช่เงินของพ่อแม่ ในทางกลับกัน ถ้าเทียบเคสแบบนี้ ผมกลับมองว่าแมนซิตี้เหมือนคนที่ใช้เงินจากทางบ้านเพื่อให้ตัวเองร่ำรวยมากกว่าทีมอื่นด้วยซ้ำ  


ที่ผมเทียบว่าทีมพวกนี้บ้านรวยเพราะ รุ่นก่อนๆเค้าทำมาดีครับ

แมนยูลิเวอร์พูลสะสมบารมีมาตั้งแต่แต่อดีตคว้าแชมป์ลีค แชมป์ยุโรปมาหลายสิบสมัย
เหมือพ่อแมตั้งใจทำงานหนักเพื่อหาเงิน ก็พอมีมรดกมาถึงรุ่นลูก ถึงตอนนี้จะผลงานไม่ดีก็ยังมีเงินมรดกใช้จ่ายอยู่

กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก เพราะพ่อแม่ไม่ได้มีอะไรไว้ให้เลย หาตังแค่พอกิน อดบ้างกินบ้าง อยากได้อะไรก็ไม่มีตังซื้อ
พออยากจะไปเข้าแก๊งกับพวกลูกคนรวยก็เลยต้องเอาร่างกายเข้าแลก หาเสี่ยเลี้ยง เงินที่ได้มามันก็ดูไม่สะอาดไงครับ
 


ครับ ถ้าเทียบแบบนั้น. วรรคสุดท้ายของคุณมันก็น่าจะตอบเคสนร้ได้แล้วนะครับ

ว่าที่มาของเงินมันดูไม่สะอาด

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
<___คนธรรมดา___>
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ถ้าคุณกรีดเลือดผมออกมา มันคงเป็นสีฟ้าแน่ๆ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 7938
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:04
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
FI2eecIOM_BLuE พิมพ์ว่า:
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
FI2eecIOM_BLuE พิมพ์ว่า:
Captain_Kompany พิมพ์ว่า:
จะถามหาความแฟร์จากกฎนี้มันไม่มีอยู่แล้วครับ ประเด็นหลักคือให้รายจ่ายต้องพอดีกับรายรับ
แล้วถามว่าทีมเล็กๆรายรับปีละกี่ล้าน เทียบกับทีมใหญ่ อย่างปีล่าสุดซิตี้รับรวมๆทั้งหมด 400 ล้าน++
หักค่าเหนื่อยนักเตะ 200ล้าน ค่าบริหารดูแลสโมสร ค่าจ้างพนักงานตีไปแพงๆเลยปีละ 100 ล้าน ยังเหลือให้ช็อปอีก 100 ล้าน

ลองย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว แมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี เป็นโคตรทีมในสมัยนั้น รายรับเฉลี่ย 2-3 ร้อยล้านต่อปี
ตอนนั้นเงินยังไม่เฟ้อเท่านี้ มีงบให้ซื้อนักเตะหลัก 30-40 ล้านได้หลายๆตัวสบายๆ

แต่กลับกันถ้าเป็นทีมเล็ก ปีๆนึงได้เงินรวมแค่ 100 กว่าล้าน จ่ายค่าคนงาน ค่าบำรุงสโมสร ค่าเหนื่อยนักเตะก็หมดแล้ว
จะเอาเงินที่ไหนไปช็อปนักเตะเพิ่ม ในสมัยนั้นถึงมีเคสทีมเล็กๆต้องยอมขายตัวเก่งเพื่อเอาเงินไปช็อปตัวใหม่ๆเข้าทีมไงครับ

แล้วถามว่ากฎนี้มันแฟร์ตรงไหน ถ้าอยากไต่เต้าจากทีมเล็กๆ ขึ้นไปเป็นโคตรทีมโอกาศแทบจะเป็น 0 เลย

เทียบง่ายๆเหมือน แมนยู ลิเวอร์ เชลซี เป็นลูกคนรวยในห้องเรียนอ่ะ มีตังเยอะอยู่แล้ว สามารถซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงินมรดกของที่บ้าน
กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก แต่โชคดีได้เสี่ยเลี้ยง เสี่ยก็เปย์ให้ทุกอย่าง จนมีเงินขึ้นมาเทียบกับพวกลูกคนรวยได้
แล้วถามว่าคนอื่นถ้าอยากขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับคนพวกนี้ต้องทำไง นั่นแหละถึงจะตอบเรื่องความแฟร์ได้

แค่จุดเริ่มต้นมันก็เหลื่อมล้ำกันแล้วครับ
 


โลกนี้มันจะมีคำว่าความพยายามไว้ทำไมล่ะครับ

จะเอามาเทียบว่าทีมแมนยู เชลซี ลิเวอร์พูล เป็นลูกคนรวย มันก็เทียบงั้นไม่ได้

ถ้าตะเทียบต้องบอกว่า แมนยู เชลซี ลิเวอร์พูลเป็นคนรวยเอง เพราะมันก็คือเงินที่ทีมหามาเองไม่ใช่เงินของพ่อแม่ ในทางกลับกัน ถ้าเทียบเคสแบบนี้ ผมกลับมองว่าแมนซิตี้เหมือนคนที่ใช้เงินจากทางบ้านเพื่อให้ตัวเองร่ำรวยมากกว่าทีมอื่นด้วยซ้ำ  


ที่ผมเทียบว่าทีมพวกนี้บ้านรวยเพราะ รุ่นก่อนๆเค้าทำมาดีครับ

แมนยูลิเวอร์พูลสะสมบารมีมาตั้งแต่แต่อดีตคว้าแชมป์ลีค แชมป์ยุโรปมาหลายสิบสมัย
เหมือพ่อแมตั้งใจทำงานหนักเพื่อหาเงิน ก็พอมีมรดกมาถึงรุ่นลูก ถึงตอนนี้จะผลงานไม่ดีก็ยังมีเงินมรดกใช้จ่ายอยู่

กลับกันซิตี้เหมือนเด็กบ้านแตก เพราะพ่อแม่ไม่ได้มีอะไรไว้ให้เลย หาตังแค่พอกิน อดบ้างกินบ้าง อยากได้อะไรก็ไม่มีตังซื้อ
พออยากจะไปเข้าแก๊งกับพวกลูกคนรวยก็เลยต้องเอาร่างกายเข้าแลก หาเสี่ยเลี้ยง เงินที่ได้มามันก็ดูไม่สะอาดไงครับ
 


ครับ ถ้าเทียบแบบนั้น. วรรคสุดท้ายของคุณมันก็น่าจะตอบเคสนร้ได้แล้วนะครับ

ว่าที่มาของเงินมันดูไม่สะอาด

 


ร่ายมายืดยาว เป็นว่าเข้าใจคนละเรื่องกัน ในเคสนี้ มู้นี้ ผมกล่าวถึงแค่กฎนี้ ที่มันโคตรไม่แฟร์สำหรับทีมเล็กๆ
ไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัว แล้วกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมกลางๆตารางได้ต้องใช้เวลากี่ปี
แล้วกว่าจะอัพขึ้นมาเป็นทีมลุ้นแชมป์แบบเต็มตัวต้องรออีกกี่ปี
โอเคแหละทุกทีมไม่ได้มีเงินมหาศาลเพื่อทุ่มซื้อแบบบ้าคลั่ง แต่ถ้ามีคนอยากทำบ้าง
ยกตัวอย่างสโมสรเอฟเวอร์ตันอย่างงี้อ่ะครัย พอจะอัดฉีดเงินก็กลายเป็นผิดกฎอีก ใช้ได้แค่เงินที่สโมสรหาได้
มีเงินแต่ทำอะไรไม่ได้งี้
แก้ไขล่าสุดโดย Captain_Kompany เมื่อ Wed Mar 25, 2020 17:04, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Mar 2008
ตอบ: 5462
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:10
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
ตูละเชื่อเลยจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ห นู น ย ม ทู ต
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 15296
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:10
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
เหมือนจะเข้าใจผิดเรื่องรายได้นะ

รายได้ที่ทีมได้จากการทำกิจการของสโมสรเอง (ค่าตั๋ว ค่าสปอน ค่าลิขสิทธิ์ ค่าฯลฯ) ก็คือส่วนที่สโมสรหาหมาได้ ก็ต้องใช้ได้สิ มันเป็นรายได้ที่สมกับฐานะของทีมนะ ถ้าหักลบกันแล้วไม่ติดลบก็โอเคนิ

เทียบกับรายได้ที่ไม่มีที่มา แต่มาจากการอัดฉีดเงินเข้าทีมของรายบุคคลหรือนิติบุคคล
โดยที่ไม่ได้เกี่ยวกับการทำกิจการของทีมเลย มันก็ย่อมไม่เหมือนกันสิ

กฏ FFP มันคือกฏที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรับมือเหล่านายทุนที่จะเข้ามาอัดเงินให้ทีมแบบไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง
แล้วพอถึงจุดนึงก็ถอนทุนออกไปและทีมก็ไม่สามารถยืนได้ด้วยตัวเองจนต้องล้มละลายต่างหาก

ลองคิดสภาพทีมที่ไม่มีพื้นฐานดีอะไร แฟนบอลไม่มากมาย ชื่อไม่ได้ดังมาก อยู่ดีๆมีนักธุรกิจทุ่มเงินไปเป็นพันๆล้าน นำเข้านักเตะดีๆ ค่าเหนื่อยบานตะไท เกินตัวเลขการเงินสโมสรไปเยอะ แล้วไมไ่ด้มีการพัฒนาอะไร แต่พอแข่งจริงไม่ได้ผลตามที่หวัง ทุ่มได้ไม่กี่ปี ซักพักนายทุนชักเงินกลับ ไม่ทุ่มอะไรให้แล้ว ไม่ปล่อยตายไป
ทีนี้้จะเกิดอะไรขึ้นละ ทีมต้องแบกภาระที่นายทุนเอามาจมไว้ไง แล้วถ้าแบกไม่ไหว ทีมก็ต้องล้มไป แล้วทีมศักยภาพแบบนั้นจะไปหาเงินเท่ากับทีมทุ่มไปก่อนหน้าได้จากไหน

จะไปเทียบกับทีมใหญ่ๆพื้นฐานดีที่สร้างทีม สร้างชื่อเสียงมานานแล้วได้ยังไง ทุกทีมก็ต้องหาจุดลงตัวของตัวเองไปนั่นแหละครับ

แต่แมนซิไม่ใช่ทีมแบบที่ผมว่านะ แมนซิต้องการพัฒนาตัวเองจริงและต่อเนื่อง
แต่การอัดเงินแบบนั้นมันก็๋ผิดตามกฏอะ





แก้ไขล่าสุดโดย Chokkz เมื่อ Wed Mar 25, 2020 17:50, ทั้งหมด 3 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
The Journey of new beginnings.
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jul 2006
ตอบ: 34061
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:14
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
สมัยลิเวอร์พูลครองความยิ่งใหญ่

แมนยูก็สร้างมาด้วยตัวเองนะ ตอนป๋าเข้ามา ไม่ต้องใช้เงินตัวเองเข้าเป็นสปอนเซอร์ กว่าจะขุึ้นมาขนาดนี้ได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Jan 2010
ตอบ: 4265
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:16
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
ตรรกะของคุณผิดไปมากเลยครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 4429
ที่อยู่: Buzz lightyear of star command
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:28
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
จะมาบอกคนที่หาได้1000ให้ใช้ได้แค่100เหมือนทีมเล็กอันนี้มันออกแนวเผด็จการไป
ให้คนทำงานเก่งกับคนทำงานไปวันๆใช้ตังได้เท่ากัน มันแฟร์กับความสามารถเค้ารึเปล่า
เอาแค่เจ้าของนิวคาสเซิ่ลกับเลสเตอร์ก็เห็นความแตกต่างของการใส่ใจในการทำงานแล้ว

จะมาบอกว่าดูไม่แฟร์ดูบริบทด้วยว่าโลกความจริงที่ไหนในโลกก็รีเซ็ตให้เท่ากันแบบนั้นไม่ได้ ยกเว้นเผด็จการ
แต่เราอยู่ในโลกทุนนิยมต้องหาจุดร่วมตรงกลางที่สุด แฟร์เท่าที่จะเป็นไปได้ เปิดโอกาสให้ทุกทีมได้แข่งขันกัน
นั่นคือที่มาของFFAกฏที่ทุกทีมมีโอกาสแสดงฝีมือในการบริหารจัดการ และเป็นจุดลงตัวของทีมในขณะปัจจุบัน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: รักน้อนแชว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 7186
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:29
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
ไม่แฟร์กับทีมเล็กยังไง ทีมเล็กๆไม่เห็นมาเรียกร้องอะไรเลย มีมากก็ใช้มาก มีน้อยก็ใช้น้อย เป็นสัจธรรมของโลกเลย

แค่ไม่ใช้เกินตัว ขอแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วมาบอกกฏไม่แฟร์ ??
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 6402
ที่อยู่: Sarcastic Society.
โพสเมื่อ: Wed Mar 25, 2020 17:38
[RE: แด่แฟนแมนซิครับ]
ตลกจริงโว้ยยยยยยย เกิดมาไม่เคยเห็นตรรกะอะไรบิดเบี้ยวขนาดนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel