ผมว่าปัญหาของ taxi ตอนนี้คือเค้ามองแต่ด้านเค้าด้านเดียว

taxi มันก็คือสินค้าชนิดนึง เป็น serviced product มันมี branding ของมัน

สิ่งที่มันเป็นอยู่คือ branding มันพังไปแล้ว แต่คนขายยังไม่รู้ตัว จะเรียกร้องเอาโน่นนั่นนี่ โดยไม่คิดจะปรับตัว

มันก็คงจะขายได้แหละนะ สินค้าห่วย ไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้ว แต่จะขายราคาแพงขึ้น

ทางเดียวที่คนจะซื้อคือ เค้าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ต้องจำใจซื้อ กับยังมีกฏหมายคุ้มกะลาหัวอยู่ พวก grab เลยยังทำอะไรไมไ่ด้

อยากกลับมาแข่งกับคนอื่นได้ ต้อง rebranding แต่ผมว่าเป็นเรื่องยากมากๆ นะ เหมือนพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนไทยเลิกมักง่ายนั่นแหละ

ทำไมแท็กชี่ปัญหาเยอะจัง

ปัญหาจะหมดไป ถ้าทางรถไฟฟ้ารอบเมือง รับรองคราวนี้ได้อดตายสมใจแน่ๆ

ข้างบนท่านนึง พูดถูก ที่ว่าวันนี้คนนั่งเขาไม่ง้อแท็กซี่แล้ว เพราะเขามีทางเลือกที่ดีกว่าแล้ว แต่แท็กซี่ดันยังมันเรียกร้องขึ้น 50 บาทอีก คือเราไม่ง้อคุณแล้ว แล้วคุณยังจะต่อรองอะไรได้ ??

มันก็ถูกของท่านบนนะ จริงๆโมเมนตั้มตอนนี้ แท็กซี่ต้องง้อผู้โดยสารสิ

หรือไม่ก็ถ้าไม่ง้อผู้โดยสาร แท็กซี่เหล่านี้ก็น่าจะไปสมัคร grab taxi ปฏิเสธรับผู้โดยสารผ่านแอพได้สบายๆ ผู้โดยสารก็ดูในมือถือรอคันใหม่ๆต่อไป วินวินทั้งสองฝ่าย ไม่มีการโกรธกัน

เป็นไปได้ว่าแท็กซี่คงจบแล้วล่ะ ถ้าไม่มี offer ที่จูงใจผู้โดยสารได้

การเข้ามาของ uber grab นี่มันฆ่าแท็กซี่จริงๆนะ มิน่าท่านอธิบดีอะไรนั่น จึงต้องออกโรงปราบ uber ให้ราบคาบ ไม่งั้นไม่มีกำไรเข้ากระเป๋าแน่ๆ

สมมุติ คุณนั่งแทกซี่ 10,000 ครั้ง เจอดีๆ แค่ 1 คันเองหรอครับ 0.01% ที่ว่ามาเนี่ย

สมมุติคุณนั่งแทกซี่ น้อยกว่า 10,000 ครั้ง แสดงว่าเจอ ดีๆไม่ถึง 1 คันถูกไหมครับ ถ้าตามที่คุณเจอกับตัวเอง

คนขับแท๊กซี่ดีๆเยอะนะครับ ไม่ได้เฉียดคุกด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ได้โดนไล่ออกมา ไม่ได้เหลือขอด้วย ผมว่าเกิน 50% ด้วยซ้ำ เพราะเวลามนุษย์เจอสิ่งดีๆ ไม่ชอบพูด เวลาเจอแย่ๆถึงมาพูด

ถ้าพูดกันตรงๆ taxi เจอผู้โดยสารเรียกไปโซนรถติดสักวันละ 10 รอบก็ไม่ได้อะไรแล้วครับ
เพราะค่ามิทเตอร์ที่ขึ้น พอไปหักลบกับเวลาที่เสียไปมันก็ไม่คุ้มอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ก็น่าเห็นใจ
แต่ว่าความห่วยของtaxi มันก็เรื่องจริงอีกนั่นแหละ

ประเทศนี้มีอะไร ตลก ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ

จองล่วงหน้าจ่ายเพิ่ม50พอรับได้แต่ทำไมชม.เร่งด่วนต้องจ่ายเพิ่มด้วยแล้วไม่ต้องบอกด้วยว่าจ่ายเพิ่ม50ไปแน่นอนจริงๆกฎก็บอกว่าห้ามปฎิเสธผู้โดยสารอยู่แล้วนิ

จะด่าไงดีว๊าาาาา

ขอเเรกด้วยการสอบ Taxi liecence ปีละครั้ง เเละควบคุม จำนวนคัน ที่ขับ ครับ

ผมยอม ถ้า 50 บาท เเล้วมีการเเสดงให้เห็นถึงมาตรฐาน ที่ยกระดับขึ้น
ทั้งคุณภาพรถ เเละ คนขับ

แค่บริการในแบบที่ควรจะเป็น ราคาตามมิเตอร์
แบบเดียวกันหมด เรียกแล้วรับ แค่นี้กลัวจะเกิดเงินไม่ทันแล้ว
ที่เค้าจะหนีพวกคุณก็เพราะเหลวแหลก หวยแตก
ทำให้คนขับแท็กซี่ดี เค้าอยากยากไปด้วย

แล้วมันมีอะไรให้ผู้โดยสารเพิ่มมั้ย แลกกับ 50 บาทที่ต้องจ่ายเพิ่มอะ?

service ที่เรียกผ่านแอพนั่งรอชิลๆ ในออฟฟิศได้ ไม่ต้องไปยืนโบกกลางแดดรอโดนปฏิเสธ
รีวิวที่เรา feedback คนขับได้ถ้าขับรถหวาดเสียวอันตราย รถเหม็นบุหรี่ พูดจาไม่ดี
หรือเวลาเราขึ้นรถ มีระบบ assign มั้ยว่าเราขึ้นรถคันไหน ใครเป็นคนขับ?

กระทั่งเรื่องง่ายๆ อย่างป้ายที่แปะหน้ารถตรงกับคนขับจริง แท็กซี่ทุกวันนี้ยังทำให้เราไม่ได้เลย
แล้วจะให้เชื่อได้ยังไงว่าที่พูดมามันเชื่อถือได้

หลังๆ มานี้เราไม่ค่อยเรียกแท็กซี่ปกติแล้ว แต่สมัยก่อนเคยเรียกคันนึงจากพาหุรัดไปสยาม แท็กซี่แม่งกลับรถกลางแยกดื้อๆ แบบเหมือนเป็นจุดที่เค้าห้ามกลับนะ แล้วรถเมล์พุ่งมาเฉียดไปนิดเดียว เราแทบร้อง

แล้วยังเจอแท็กซี่แบบ เวลาเราบอกทางว่าไปทางนี้ๆ ไม่วิ่งตาม แล้วพอเราบอกว่างั้นจอดหน้าโลตัสข้างหน้าแล้วกัน แม่งไม่ยอมจอดอะ เหยียบพุ่งเลย ไม่รู้จะไปไหน นี่กดเบอร์กรมขนส่งเลย

เคยเจอแบบเรียกจากหน้าห้างดัง ตอนแรกก็ถามว่าไปไหน เราก็ตอบไป แท็กซี่ก็กดมิเตอร์แล้ว พอเราหันไปคุยกับแม่ มันพูดเลยว่าคนไทยไม่รับ คือแบบ...

ส่วนแท็กซี่ดีๆ ก็มี แต่น้อยมาก ที่เจอแล้วจำได้แม่นเลยมีลุงคันนึงเราเรียกจากสยามไปมาบุญครองใกล้ๆ แต่พอดีรีบ แล้วดันเจอรถติด ลุงก็บอกว่าลงไปเลย ไม่ต้องจ่าย แต่เราก็จ่ายบวกจากราคามิเตอร์ไปหน่อยให้ลุง

แต่ชีวิตนี้เจอแท็กซี่แย่ๆ เยอะกว่าแท็กซี่ดีๆ 50 เท่า เพราะงั้นความน่าเชื่อถือของแท็กซี่ไทยมันเลยต่ำมากในสายตาเรา

ทำเหมือนพวกเราไปขอความช่วยเหลือมันอ่ะ

แทนที่จะเพิ่มค่าโดยสาร 50 บาทในช่วงเร่งด่วน เปลี่ยนเป็นลดจำนวนแท็กซี่ในชั่วโมงเร่งด่วนในเขตตัวเมืองดีกว่า

เพราะปกติพวกพี่ก็ไม่ไปอยู่แล้ว จะวิ่งให้รถมันติดเพิ่มทำไม แถมพี่ต้องมาเปลืองแก๊สอีก

เพิ่มอีก500ก็ไม่จบ