ผมยังกิน MK อยู่ครับ แต่หลังๆเข้า NEO บ่อยกว่า

ขออนุญาตแทรกนิดนึงนะครับไหน ๆ ก็พูดกันเกี่ยวกับเรื่องการตลาดแล้ว
รบกวนแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการตลาด หรือช่อง YT เกี่ยวกับการตลาดหน่อยได้ไหมครับ
อยากเริ่มศึกษาแบบความรู้เป็นศูนย์เลย ถ้าได้เป็น Textbook จะดีมากเลยครับ

Sizzler ทำ steak and more มาแข่ง Eat am are ได้ MK ก็ควรที่จะให้ บริษัทลูกแตกแบรนด์ ลด operation cost อะไรว่าไป supply chain แข็งอยู่แล้วรู้ว่าตัวเองต้องจัดการ ต้นทุนวัตถุดิบยังไง ถ้าทำไม่ได้ก็ รอตายไปเถอะ ตี๋น้อยมาทีหลังยัง ทำ economy of scale ได้ตัวเองเจ้าตลาดมากี่ปี

คนที่มองว่าตลาดเดียวกันนี่คือมองที่ Product base อ่ะครับ
ไม่ได้มองที่ consumer หรือ brand มองว่ามันคือชาบู สุกี้ แล้วทุกอย่างคือตลาดเดียวกันหมด มันสุดโต่งไป

การจะแบ่ง tier มันมีทั้งเรื่องราคา รสนิยม brand สถานที่ มาเกี่ยวตั้งหลายอย่าง
คนที่กินสุกี้ 300 มันก็กลุ่มนึง คนที่กิน 600+ มันก็อีกกลุ่ม (ราคาต่างกัน 2 เท่าเลยนะ)
จะเทียบกับรถคือ คนที่เล่นรถ Vios 600-700k กับ Altis อ่ะ 1.2 ล้านงี้อ่ะ ราคาต่างกัน 2 เท่า มันคนละกลุ่มกัน

แต่จะบอกว่าคนละกลุ่มแบบไม่มีปนกันเลย มันก็ไม่สุดโต่งขนาดนั้น
มันมีคนที่อยู่ตรงกลางๆ กินทั้งตี๋น้อย ทั้ง MK ตรงนี้ผมเชื่อว่า MK โดนแย่งไปแน่ๆ
กลุ่มคนที่คิดว่าตี๋น้อยคุ้มกว่า อร่อยกว่า สะดวกกว่า
เทียบกะรถคือคนที่สามารถกัดฟันซื้อ Altis ได้แต่คิดว่าไม่คุ้ม trade down ลงไป Vios ดีกว่า สบายใจ มันก็มี

แต่อีกกลุ่มที่เป็น Premium user MK โดนแย่งจากร้านย่อยๆ ผมว่าเยอะกว่า
ผมที่ไม่กิน MK แล้ว ก็ไม่ได้เลือกไปกินตี๋น้อยหรือ Lucky ผมกำตัง 1000 นึงไปกิน premium shabu ดีกว่า
ถ้า MK จะปรับตัวนะ เลิอกใช้ robot ปัญญาอ่อนกับ tablet ไถไม่ไปก่อนนะ ผมไปกินยังสั่งลำบาก

มันไม่ใช่คนละตลาด ถ้าจะพูดให้ถูกคือมันคนละ Target กันต่างหาก

คุณอย่าเข้าใจเรื่องพวกนี้ผิด สินค้า หรือ ร้านอาหาร มีคล้ายๆ กันหมดทั้งโลกอะ
แต่ target และ position ของแต่ละแบรนด์มากกว่าที่เป็นตัวแบ่งแยกผู้บริโภค
คนจะไปกินตี๋น้อย ลัคกี้ หรือ MK มันไม่ใช่คน คนละกลุ่มกัน บางทีมันก็ทับซ้อนกัน

เขาเรียกว่าอะไรอะ โอกาสที่จะไปกินมั้ง ตอนคุณไปกินกับเพื่อนอาจจะนึกถึง TN LK
แต่ถ้าคุณไปกินกับครอบครัวใหญ่ คุณอาจจะนึกถึง MK อะไรแบบนี้

ในวงการอาหารแค่หลักร้อยก็แยกกลุ่มแล้วครับ จะมาหลักพันหลักหมื่นอะไร เอาง่ายๆแค่บุฟเฟ่ต์หมูกระทะหัว99กับ599 ต่างกัน500 แต่ผมมั่นใจว่าลูกค้าสองกลุ่มนี้แทบไม่มีทางข้ามไปอีกฝั่ง

ก็มีผลนะครับ แต่ตลาดคนกินตี๋น้อยน่าจะไม่ได้แคร์วัตถุดิบขนาดนั้น

ใน SS สังคมมันเล็กครับ วัดอะไรมากไม่ได้
ยังไงสังคมจริง คนรายได้น้อยเยอะกว่าคนรวยอยู่แล้ว ตลาดเลยใหญ่ ใครยึดคนพวกนี้ได้เยอะก็ได้เปรียบเรื่องต้นทุน มันเลยกำไร
แต่ก็ต้องชมตี๋น้อยนะ บริหารต้นทุนกับ inventory ดี ทั้งที่จริงๆ MK จะทำของถูกก็ได้เพราะตัวเอง volume ก็เยอะ แต่ไม่ทำ อาจจะประมาทไป

ยูทูปช่อง โจ้การตลาดก็ได้ครับฟังง่ายดี
https://www.youtube.com/@joejitnarin

ที่ยอดขายน้อยลงเพราะส่วนนึงคนมองว่า "ไม่คุ้มค่า" กับราคาที่ต้องจ่ายปะ

จะปรับราคาลงหรือแตกแบรนด์ใหม่เพื่อไปแข่งกับตี๋น้อย ก็ต้องปรับราคาลงมาให้คนรู้สึกว่าคุ้มที่จะไปกินอะ

หรืออยู่ตลาดบนเหมือนเดิม แข่งกับพวก Neo , Momo ก็ต้องทำให้คนรู้สึกว่าคุ้มที่จะจ่ายในเรทนี้เหมือนกัน

ประเด็นที่ยอดขายลดเพราะคนมองว่าไม่คุ้มที่จะจ่ายในราคาสูงขนาดนั้นด้วย เทียบกับคุณภาพที่อาจจะไม่ได้แตกต่างจากเจ้าอื่นมากนัก ไม่งั้นแตกแบรนด์แค่ไหนคนก็ไม่กินอยู่ดี

แยกแบรนด์ mk บุฟเฟ่ต์ออกมาอีกตัว ทำตลาดแข่ง แล้วค่อย ๆ ลดสาขาหลักไปเรื่อย ๆ ให้มีทั้ง 2 อย่าง

MK แพง ไม่อิ่ม กับไม่ดึงดูดให้อยากไปกิน

ผมไม่ได้ชอบกิน MK เท่าไหร่ แต่ผมอยากรู้ MK นี่มันพรีเมียมจริงหรอ?

นานๆไปกินที ก็งั้นๆอ่ะนะ เนื้อนี่เอาเนื้อแบบเหนียวเป็นหนังสติ๊กเลย เอาส่วนน่องมาอ่ะนะ พูดจริงๆเนื้อ MK นี่ ขนาดตี๋น้อยยังดีกว่าเลย

ส่วนของอย่างอื่น วัตถุดิบผมไม่รู้สึกถึงความพรีเมียมได้เลย

มีไอ้ที่พรีเมียมจริงๆคือการบริการนี่แหละ บริการดีจนเขิน แต่ผมเป็นคนไม่ได้ต้องการการบริการขนาดนั้น ก็เลยอาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเค้า