Sales per bill ต่ำครับถ้าเทียบกับร้านอาหาร
ต่อให้ขายเบเกอรี่ควบด้วยเลยก็ตามนะ

แล้วร้านกาแฟการจัดวางเลย์เอาท์โต๊ะห่างกว่าร้านอาหารด้วย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงกว่า

คิดง่ายเกิน

ต้นทุนไม่น่าใช่ 15 บาทนะ ค่าที่ ค่าเครื่องชง ค่าผงกาแฟถ้าของดีก็คงแพง

อีกอย่างเปิดกันเป็นดอกเห็ด ร้านที่อร่อยติดตลาดก็ดีไป ที่เหลือก็น่าจะเข้าเนื้อกัน

ง่ายๆเลยครับ ขายได้ไม่พอค่าเช่า+ค่าแรงพนักงาน

การคิดว่า วันๆนึงจะมีลูกค้า 100 คน เอาจริงๆ วันนึงขายได้ไม่ถึงครับ

ขายได้จริงแค่เฉลี่ยวันละ 20 คนก็เก่งละ ยอดได้วันนึง 1xxx บาท เดือนนึงได้แค่ 5-6หมื่น หักค่าเช่าค่าแรงพนักงานก็หมดแล้ว


กาแฟ โลละ 500-800 ก็มีคนกินระดับนึงแล้วครับ
ใช้กาแฟ 15-20กรัม ตกช๊อตละ 10-15 บาา รวมต้นทุนค่าของไม่เกิน 20 บาท
หนักไปทางค่าเช่า ค่าแรงมากกว่า

มันไปหมด ค่าที่กับค่าแรงพนักงานละมั้ง พวกกินเงียบๆน่าจะพ่อแม่ค้าชงกาแฟตามตลาดนัดมากกว่า 555 อันนั้นต้นทุนต่ำจริง

เพื่อนผมเพิ่งเปิดร้านกาแฟ แค่เครื่องชงมันก็หกแสนแล้ว ของอย่างอื่นในร้าน อุปกรณ์ รวมๆกันล้านกว่าบาทมาขายแก้วละ 60-100 ถ้าคนไม่เยอะ โอกาสเจ๊งสูงมากครับ อันนี้คือร้านใน กทม

แค่คิดค่าต้นทุนก็ผิดแล้วค้าบบบบ
ต้นทุนเพียวๆต่อแก้ว อาจจะใช่ แต่!!!!

สต็อคสินค้าเท่าไร ร้านกาแฟร้านนึงต้องเตรียม
วัตถุดิบไว้หลายอย่างแค่ไหน

ไหนจะ ค่าแรงตัวเอง ค่าสถานที่ ค่าแรงลูกจ้าง

ถ้าจะคิดเอาต้นทุนที่เจ้าของมู้ว่ามาเนี่ย ร้านกาแฟแบบในบ้าน ซื้อกลับหรือสั่งไรเดอร์อย่างเดียวไม่มีหน้าร้าน

ยังไม่พอเลยนะครับ 15 บาทเนี่ย ยิ่งร้านใหญ่ๆนี่แบกต้นทุนอื่นๆไว้อีกเยอะเลยนะครับ

ค่าจ้างพนักงาน + ค่าเช่า + ค่าของเสื่อม โหดมากครับ
ภาษี+vat อีกครับ ยิ่งถ้ารีโนเวททุกๆ 5 ปี นี่กำไรหมดได้เลย

เอาอะไร มา ทุน 15 บาท

กาแฟ โบราน ใส่ คาเนชั่น หรอ 15บาท

ร้านกาแฟส่วนใหญ่ เจ้ง เพราะไม่เข้าใจบริบทของคนดื่มกาแฟอย่างแท้จริง

เข้าใจแค่เปลือก มองผิดมุม ตั้งราคาผิด ทำดลผิด ทำเพราพอยากทำ

ไม่ได้ทำ เพราะ ตลาดในพื้นที่นั้นๆต้องการ

ค้าขายคิดแค่วัตถุดิบเจ๊งพอดีครับ

มันมีค่าอื่นๆอีก ทั้งค่าเครื่องชงที่เหมือนเอาเงินไปจ่ายล่วงหน้าหลายหมื่นถึงแสน
ค่ากรองน้ำ ค่าที่ ค่าไฟ เงินสต๊อคของ

เหมือนขายลูกชิ้นทอด คิดแต่ค่าลูกชิ้นนั่นแหละ เจอค่าน้ำมัน+ค่าน้ำจิ้มก็ยับแล้ว

เอาอะไรมาทุน 15 บาทน้อ

ตอบแบบกวนๆคือ ก็เพราะร้านที่เจ๊งส่วนมากคิดแบบท่านไง พอลงมือทำแล้วจึงเจอรายจ่ายที่คนภายนอกมองไม่เห็นอีกเยอะ มันก็เลยเจ๊งเป็นธรรมดา

1. ช่วงนี้ประชาชนไทยฮิตกาแฟกันเป็นอย่างมาก ทำให้...
a) ประชาชนหัดทำกินเอง b) ร้านเล็กๆเปิดแข่งเยอะขึ้นมาก ดีบ้างไม่ดีบ้าง
แต่ทั้ง a + b ก็เป็นเหตุผลให้ยอดขายตกทั้งคู่

2. เจ้าของร้านไม่มีความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจ เช่นเจ้าของร้าน...
a) คำนวนต้นทุนไม่เป็น ขายไปขายมาเข้าเนื้อซะงั้น b) ไม่มีความรู้เรื่องการตลาด ของดีแต่เข้าไม่ถึงลูกค้า ก็จบ
c) เก่งด้านธุรกิจ+การตลาดแต่สอบตกเรื่องของกาแฟ พูดง่ายๆมีเงินเปิดร้านแต่กาแฟห่วยแตก
ผมจะบอกว่าลูกค้าทุกวันนี้เก่งเรื่องกาแฟมากขึ้น กินกาแฟหลายๆร้านเขาจะรู้เองว่าร้านไหนดี ไม่ดี

3. ทำเลไม่ดีเอาซะเลย ต่อให้เก่งแค่ไหนแต่ถ้าทำเลมันไม่เอื้ออำนวยคนก็ไม่ไปกินครับ
มีร้านกาแฟร้านนึงมาเปิดในหมู่บ้านผม แบบเขาเปิดที่บ้านตัวเอง ทำร้านสวย ทำกาแฟดี แต่ทำเลเป็นหมู่บ้านจัดสรร มันไม่เหมาะ
ทำไปทำมาก็ต้องปิดร้านไป แล้วย้ายไปเช่าห้องแถวเล็กๆติดถนนที่มีคนผ่านไปผ่านมา อันนี้มียอดขายเพิ่มขึ้นเยอะมาก

เรื่องต้นทุนกาแฟผมมองว่าไม่สำคัญเท่าความรู้ด้านกาแฟ+การตลาด กล่าวคือกาแฟแก้วนึงอาจจะมีมาร์จิน 30%
แต่ถ้ากาแฟพื้นฐานดีราคาไม่เกิน 60* บาท (แก้ว 14oz) ยังไงก็ได้ขาย และสามารถอยู่ได้ในระยะยาวอันนี้สำคัญที่สุด
*ราคาเมล็ดกาแฟเกรด Specialty เพิ่มตามราคา +10 +20 +30 +40 +50 ก็ว่ากันไป

ผมสรุปร้านกาแฟ 3 ร้านที่สามารถประสบความสำเร็จจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้แบบนี้
1. ร้านเล็กแต่เทพกาแฟ - ต้นแบบคือร้าน Nameless coffee ที่จังหวัดระยอง ร้านเล็กแค่ล็อกเดียวแต่เจ้าของร้านเป็นเทพด้านกาแฟ(มีรางวัลคั่วเมล็ดกาแฟระดับประเทศติดมือ) กาแฟดีมีให้เลือกเยอะและราคาก็ดีมากๆ ลูกค้าก็ไปกินเยอะสุดๆ
2. ร้านใหญ่แต่ขายถูก - ผมนึกถึงร้านอย่างอเมซอนที่เป็นเชนขายกาแฟทั่วประเทศ ต้นทุนกาแฟต่ำ ราคากาแฟต่อแก้วขนาด 22oz ถือว่าคุ้มค่ากับลูกค้าที่ไม่ได้สนใจความหวือหวาในกาแฟ แต่กูอยากกินกาแฟ อยากกินคาเฟอีน
3. ร้านยังไงก็ได้แต่วิวต้องสวย - เชื่อว่าแต่ละจังหวัดจะมีร้านสวยๆให้คนไปถ่ายรูปได้ ผมสังเกตจากร้านที่มีวิวสวยๆ บรรยากาศร่มรื่น คนมักจะใช้บริการเยอะ ผมเคยไปร้านที่จังหวัดร้อยเอ็ดที่เป็นร้านกาแฟอยู่ในสวนป่าที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง ร้านสวยมากๆ คนก็เยอะมากๆ และอีกหลายๆร้านตามสถานที่ท่องเที่ยวเช่น เขาค้อ ภาคเหนือ ฯลฯ วิวดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอน

ฉะนั้นถ้าจะเปิดร้านกาแฟ ผมว่าควรอยู่ในสโคบทั้ง 3 นี้ ถ้าไม่มีเงินทำร้านใหญ่ขายถูก ขายเยอะแบบเมซอน ก็ควรใช้ความรู้ให้มาก ขายกาแฟดีที่ราคาจับต้องได้ หรือถ้าบ้านมีที่ดินวิวสวยก็มีลุ้นอยู่เหมือนกัน

หลักๆผมมองว่ามันคือ Red Ocean ที่เป็นมานานแล้ว

ห่างกันไม่เกินกิโล เผลอๆมีเป็น10ร้าน (กทมและปริมณฑล) คือส่วนแบ่งมันเยอะจัดๆ

แล้วยิ่งถ้าร้านธรรมดาๆ คนแทบไม่เข้า เพราะหลายๆคนมาคาเฟ่เพื่อถ่ายรูปอ่ะ กลายเป็นต้องลงทุนด้านการตลาดที่ต้องลงแพงจัดๆ