ผมนิแหละครับที่เป็นคนก่อ Toxic ทุกอย่าง เพราะทะเยอทะทาน
อยากทำทุกอย่างให้ออกมาดี จนก่อเป็นความเครียด กดดัน
แล้วสุดท้ายภรรยาผมต้องมารับ Toxic แย่ๆ จากผม

ผมก็คิดนะ ถ้าการเงินอะไรทุกอย่างมันราบรื่น ก้อคงไม่ก่อความเครียด
ความ Toxic แย่ๆ แบบนี้ทั่งกับภรรยาและตนเอง

ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องถาม ณ วันนั้นมันรักกัน วันนี้ไม่รักกันแล้วก็ปล่อยมือกันไปครับ
มันไม่มีอะไรมาการันตีหรอกว่ารักกันมา 10 แล้วจะรักกันตลอดไป
ท่านอาจจะรักกันไปอีก 15 ปีแล้วเลิกกันปีที่ 16 ก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปถามถึงวันที่ผ่านมา
อย่าเอาตัวเลข 10 ปีมาเป็นประเด็น

ช่วงนี้แผลสด อะไรๆก็ยังยากอยู่ แต่เวลาจะช่วยให้เลือนแต่อาจไม่ลืมนะครับ แล้วเอาสิ่งที่ผิดพลาดมาเป็นบทเรียนให้กับวันข้างหน้า ผมก็เคยพบกับความผิดหวังในหลายๆเรื่องในชีวิตจนอยากที่จะจบมันลงไปแต่ตอนนั้น คิดว่าอยากเห็นหน้าลูกถ้าตัวเองจะมีลูก และผมก็ได้เจอหน้าลูก ตามที่ผมตั้งใจไว้จริงๆและมันโค ตรคุ้มที่ผมสู้กับมันต่อปัญหาชีวิต

คืนอิสระให้กัน แล้วแยกย้านกันเดินหน้าใช้ชีวิตกันต่อไปครับ
ไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านจะรู้สึกอะไรอยู่ แต่ผมจะบอกว่ารักษาชีวิตตัวเองไว้
แล้วเดินหน้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เราควรต้องทำยังไงหรือครับท่านที่จะให้ผ่านความทรมานนี่ได้

มันคือจุดเปลี่ยนในชีวิตครับ บางสิ่งหวนคืนไม่ได้ แต่ถ้าท่านเอาเป็นบทเรียนและผ่านไปได้

ท่านจะเป็นคนเปลี่ยนตัวเองไปทางที่ดีขึ้น

สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือ อดทน ครับ ผ่านมันไปให้ได้


ผมเคยผ่านอะไรแบบนี้มาก่อน แต่เชื่อเถอะว่ามันจะผ่านไปได้อย่างแน่นอน เป็นกำลังใจ มีอะไรมาพูดคุยกันครับ

นี่ก็เป็นเรื่องที่ยังกังวลใจว่าอยู่สู้ต่อที่นี้ต่อไปดีไหม
รายได้จากงานราชการ อาจไม่เพียงพอแต่ก็สู้รับจ๊อบไปเรื่อย
บ้านก็ยังอยากจะเก็บไว้ครับ แม้จะคนเดียว แต่ก็อยู่ที่ธนาคาร
จะให้ผ่อนคนเดียวหรือไม่ เพราะขายคิดว่าไม่น่าขายปิดยอดหนี้บ้านได้แน่นอนครับ

มันไม่ใช่ที่ของเราแล้วครับ

เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอครับ เป็นกำลังใจให้

อีกสิบปีมองย้อนกลับมาท่านจะภูมิใจที่ผ่านมันมาได้

ปล่อยไปครับ ผ่านมาแล้วแก้อะไรไม่ได้ อย่าโทษตัวเองเยอะ เอาเป็นบทเรียนในชีวิตเพื่อไม่ทำซ้ำกับคนใหม่ในอนาคตดีกว่า

การทะเยอทะยานในหน้าที่การงาน ไม่ผิดนะ คนเราอยากเติบโตเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ควรแยกแยะและให้เกียรติภรรยานิดนึง เขาอยู่ข้างเราเพื่อ support ไม่ใช่รองรับอารมณ์

ตอนนี้ก็กลับมาอยู่ กทม ถ้าการเงินไม่โอเค ก็คงต้องทำงานหาเงิน แบ่งเงินออกไปหาหมอนะ แนะนำจากคนที่เคยมีปัญหาจนอยากวาปไปจากโลกเหมือนกัน

แอคชั่นเท่ากับรีแอคชั่น toxic ไปก็โดนกลับ วินๆ รับผลไปแล้วก็อย่าไป toxic ใส่ตัวเองละกัน ทำตัวให้มันชิวๆก่อน ให้อะไรๆมันไปช้าๆ ช่วงนี้ค่อยๆคิด เดวเวลามันจะช่วย อย่าไปกดดันตัวเองมาก อะไรไม่ไหวจริงๆปล่อยมัน รวมถึงทรัพย์สินที่ผ่อนไม่ไหวด้วย

ไม่รู้จะให้คำแนะนำอย่างไรดี ประสบการณ์ชีวิตน้อย แต่อยากฝากบทเพลงให้ฟังสักหนึ่งบทเพลงครับ

ไม่เป็นไรนะเพื่อน

จบละครับแบบนี้ เซ็นใบหย่าตามที่เธอต้องการ เพื่อให้ท่านและอดีตภรรยาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กัน เป็นกำลังใจให้ครับท่าน

ไล่ตามอ่านมาหมดละ ที่บอกอารมณ์หลุด 4 ครั้ง ณ จุดนั้น ผมเห็นด้วยกับภรรยาว่าคุณเปลี่ยนตัวเองไม่ได้หรอก เรื่องภาระหาเงิน หนี้สิน ผมว่าเรื่องเล็กแค่ข้ออ้าง ถ้าอารมณ์ร้อนหลุดง่ายขนาดนี้ ไม่มีเรื่องหนี้ก็ต้องมีเรื่องอื่น คุณเป็นคนที่แคร์คนที่ข้างๆน้อยเกินไป

คำแนะนำผมนะ ถ้าตัดใจไม่ได้จริงๆ ขอโอกาสเปิดอกคุยกับภรรยาว่า ตั้งแต่อยู่คนเดียวมาหลายเดือน ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าข้อบกพร่องของตัวเองคืออะไร จะพยายามแก้ไขให้ได้ ไม่ให้เป็นแบบนั้นอีกแม้แต่ครั้งเดียว (ต้องบอกรายละเอียดด้วยว่าจะแก้ขตัวเองอย่างไร ไม่ใช่แค่พูดลอยๆ) คือคุณต้องหาคำที่สามารถอธิบายให้ภรรยาเชื่อว่าคุณเปลี่ยนสิ่งที่ภรรยารับไม่ได้ในตัวคุณได้ และต้องทำตามที่พูดให้ได้ด้วย

ถ้าภรรยายังไม่ยอม แสดงว่าเค้าไม่เหลือความเชื่อใจในตัวคุณแล้วแม้แต่เสี้ยว ก็ขอให้เอาเหตุการครั้งนี้ ปรับปรุงข้อบกพร่องตัวเองให้ดีขึ้น ตัดใจจากคนนี้แล้วรีบเริ่มชีวิตใหม่ จะเป็นการดีกับทั้งคู่มากกว่า บ้านก็ควรตัดใจขายราคาต่ำกว่าตลาดไป