บางทีก็ต้องทำความเข้าใจระหว่าง กติกาพื้นฐานของสังคม กับ ข้อบังคับที่ควรหมดไปกับสังคมปัจจุบัน

ง่ายๆ ทำไมคนทำงานต้องแต่งตัวเรียบร้อย แม้ไม่มีกฏตายตัวว่าเรียบร้อยยังไง แต่ทุกคนรู้เป็นมาตรฐานสังคม

เหมือนไปงานศพ ใส่ขาว-ดำ หรือสีทึบ ถ้าไม่ได้เป็นความประสงค์เจ้าภาพ จะมีใครทะลึ่งใส่สีแดง สีส้ม สีเหลืองไปมั๊ย


ถึงกฏบางข้อจะดูเข้าใจยาก ว่าทำไปทำไมวะ แต่กฏบางข้อมันทำความเข้าใจง่ายนะ

ลิฟท์ เค้าไม่ได้ละเมิดสิิทธฺ์ อันนี้ไม่เห็นด้วยเลย รร ทำไงก็ได้ตามนโยบาย

สีผม เจาะหู ร่างกายตัวเอง ตามสะดวกจ้า คิดว่าสวยดี ทำเลย

ชุดไปรเวท เอาจริง มุมนึงก็ว่าดี มุมนึงก็กังวลเรื่องวัตถุนิยม ก็กำหนดไปเลย รร ไหน ทำได้ ไม่ได้ เด็น ผู้ปกครองชอบแบบไหนไป รร นั้น

ผลผลิตของพวก woke ครับ เหม็น

เยอะไป เหมือนเด็กเอาแต่ใจ เขามีกฏจะแหกทุกข้อไม่ได้

เรียกร้องได้แต่ต้องปฏิบัติตามกฎก่อน ต้องหาเหตุผล ว่ากฎข้อนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

กฎนี้ควรจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร หากเราไปละเมิดกฎซะก่อน เราก็ต้องยอมรับว่าการละเมิดกฎมันมีบทลงโทษ

ซึ่งในมุมมองของผมมันได้ไม่คุ้มเสีย

ถ้าอยากเคลื่อนไหวจริงๆ ไม่เบียวๆนะ

ต้องทำแบบ เนติวิทย์ อะ

คือก็เล่นตามกฏนะ แต่ก็ออกมาเรียกร้องด้วย

ของแก๊งหยก ผมว่า มันออกไปในทางเบียวประชาธิปไตย์ มากกว่าอะ

แทนที่น้องค่อยๆคุยดีๆ แบบที่แก๊งๆ น้องมายด์ คุยอย่างมีวุติภาวะ ในรายการจอมขวัญแบบนั้นอะ

แล้วให้พวกสลิ่ม มันปรี๊ดแตกไปเอง

คือผมว่า น่าจะยังขาดวุติภาวะ ด้านอารมณ์ พอสมควรนะ เมื่อน้องโตขึ้นน่าจะคิดอะไรให้มันสุขุมขึ้นอะ

เวลาออกมาพูดอะไร แบบ แล้วอีกฝั่งมันจะอยากจะคุยด้วยจริงๆหรอ

คนอย่างเนติวิทย์หายากครับ เพราะมันทำยากต้องใช้วุฒิภาวะสูง ซึ่งไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะมี แต่เนติวิทย์ทรงนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว ความคิดล้ำ การกระทำล้ำ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงให้เร็วคงต้องมีคนแบบนี้เยอะๆแหล่ะ


ส่วนหยก เหมือนแว๊นท่อดังทั่วไปอ่ะ กุถูก กูจะทำ แรกๆคนก็ดูว่า OK แต่พอเยอะไปมันทำให้ดูไร้ค่า เจ้าตัวอาจจะหลงทาง ทำอย่างแรกมีแต่คนสนับสนุน คนซัพพอร์ต แล้วได้ใจ ฮึกเหิม อยากทำอะไรตามใจ โดยไม่คิด เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็มีคนซัพพอร์ต แต่รอบนี้ไม่น่าใช่

ในคหสตนะ ผมว่าน้องเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องสิ่่งต่างๆนะ ไม่ว่าทรงผม เครื่องแต่งกาย และการแสดงออกของน้องเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้นะ (ดีกว่าไปแอบทำ)และผลจากการกระทำของน้องควรจะได้รับการปฎิบัติตามกฎของโรงเรียน มีการลงโทษตามกฎอะไรก็ว่ากันไป ผมไม่รู้ว่าครูได้อธิบายเหตุผลให้น้องเค้าฟังไหมเกี่ยวกับกฎระเบียบในโรงเรียน ฟังจากที่อธิบายมาแล้ว ครูน่าจะอธิบายกฎให้น้องเค้าฟังนะ แล้วถ้าน้องเค้ารับไม่ได้ในกฎนั้น การลาออกหรือการไล่ออกก็น่าจะเป็นผลดีด้วยกันทั้ง 2ฝ่ายนะ

เรียกร้องไม่ผิดหรอก แต่แหกกฎไปเรียกร้องอะผมว่าทำไม่ถูก มันไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยเรื่องไหนก็แหกกฎได้เลย มันต้องค่อยๆปรับเปลี่ยน แหกกฎเรียกร้องมันไม่มีทางได้การยอมรับจากอีกฝั่งหรอก

ผมให้เด็กใช้ห้องน้ำครูบนตึกได้

แลกกับอะไรรู้ไหมครับ

ผมต้องเช็คอุจาระที่กระเด็นติดชักโครก ปัสสาวะที่ไม่กด กระดาษชำระทิ้งเรี่ยราด

คราบต่าง ๆ นานา ...

ตึกอื่น อาคารอื่นใช้กุญแจล็อคห้องน้ำเรียบร้อย

ตึกผมผมก็ยังทำหน้าที่นักการต่อไป ......

มันคือตัวอย่างของความรับผิดชอบ ที่เด็กส่วนใหญ่ยังไปไม่ถึง

กรณีลิฟท์ ถ้าเด็กคนนึกพิเรนทร์ทำอะไรขึ้นมา มันจะมีอันตรายเกิดขึ้นไหม ? อาจจะไม่มี

ผมว่าเด็กเข้าใจยากแล้ว ผู้ใหญ่บางคนเข้าใจอะไร ๆ ได้ยากกว่าเด็กอีก

จริง ๆ ก็อยากให้เบรคน้องกันไว้บ้าง บางเรื่องก็รู้สึกสปอยล์กันเกินไป จนได้ใจแล้วแสดงออกได้ไม่ค่อยดี
เรื่องระเบียบต่าง ๆ ทรงผม เครื่องแต่งกาย ของแต่ละ รร ตามหลักก็จะว่าด้วยการประชุมของแต่ละฝ่าย
ทั้งจากกรรมการสถานศึกษา คณะบริหาร สมาคมครูและผู้ปกครอง อะไรแบบนี้ที่จะลงข้อตกลงร่วมกัน
(ซึ่งโดยปกติก็จะไม่ค่อยเปลี่ยนหรอก เพราะหลาย ๆ รร ยิ่ง รร มีประวัติ ยิ่งอยากรักษาประวัติตรงนั้น)
แถมโดยส่วนมาก จากหน่วยงานต้นสังกัดอย่างกระทรวง ก็มักประกาศกฎแบบกว้าง ๆ ให้แต่ละ รร จัดการ
ก็เลยกลายเป็นจุดที่แต่ละ รร ต้องมาวางแผนกันว่าจะปรับใช้อย่างไร ให้เหมาะกับบริบทของ รร ตัวเอง


การเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงผมว่ามันเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ถ้าเลือกทำผิดกฏ ณ ปัจจุบัน ที่ รร ประกาศไว้
รร ก็จะมีสิทธิ์ในการตัดสิน ลงโทษ หักคะแนน ต่าง ๆ นานา ตามที่ประกาศเอาไว้ นั่นคือหน้าที่ของ รร
ซึ่ง ผปค ทุกคนต้องทำความเข้าใจและยอมรับในกฏต่าง ๆ ก่อนเข้ามาเรียนอยู่แล้ว ก็ว่าไปตามระบบนั้น ๆ


ผมว่าการสร้างแรงกระเพื่อมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามหลักการและเหตุผลที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ดี
แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าตราบใดที่กฏเกณฑ์ต่าง ๆ มันยังคงมีอยู่ก็ต้องเข้าใจและยอมรับผลของการกระทำด้วย

เด็กที่ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น เขาก็คิดว่ามันคงไม่มีปัญหาแบบนั้นตามมาจากการใช้งานของ นร
แต่ดันลืมไปว่า ไม่ใช่เด็กทุกคนที่สามารถมีพฤติกรรมที่เหมาะสม หรือเป็นเหมือนตัวเองได้ - -'

อย่างเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างขยะใน รร เงี้ย ถ้าคนคิดได้ เขาก็แค่เก็บขยะตัวเองไปทิ้งก็จบ
ซึ่งถ้าทุกคนคิดแบบนั้นได้ ไม่มีขยะแน่นอน แต่ในความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นน่ะซิ ปัญหาเลยมี

ผมว่าน้องเค้าไม่ใช่ Woke ความหมายเดียวกับฝั่งเมกานะ
Woke ฝั่งนั้นจะเป็นแนวชูเรื่องเชื้อชาติ เพศสภาพต้องได้ Privilege แบบสุดๆเลยเกินความเท่าเทียม

แต่น้องเค้า+เพื่อนๆเป็น Activist แบบดิบๆเลย
คือยังเด็กความคิดยังไม่นิ่งแต่หลักการได้รับชุดความคิด คือต่อต้านอำนาจนิยม แต่ต่อต้านแบบสุดขั้ว

อยากให้ลองเทียบ
New gen ซ้ายสุดแบบพวกน้องหยก
กับ
New gen ขวาสุดแบบนักเรียนนายร้อยบ่มเพาะอำนาจนิยม ตัวอย่าง ที่พึ่งยิงตัวตายไปกับแฟนสาว