การที่บ่นโวยวาย ว่าไม่ยุติธรรมนู่นนี่ ทางแก้คืออะไร จะแก้ไขปัญหาอย่างไร มีใครเห็นด้วยมั้ย

อย่ามองว่าโลกหมุนรอบตัวคุณคนเดียว ถ้าอยากทำ ต้องมีคนเห็นด้วย แล้วเอาไปคุยในโรงเรียนให้เป็นเรื่องที่ครูกับนักเรียนควรเอามาคุยกัน ถ้าครูไม่คุยเลย ก็ทำให้คนอื่นเห็น ไม่ใช่ว่าทำเองคนเดียว ย้อมผมเองแม่งเลย บลาๆๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยซักนิด ไม่ต่างอะไรกับการติดสติ๊กเกอร์ที่โดนโจมตีตลอดว่าคนที่อยากติด ก็พวกคนที่อยากล้มล้างกษัตริย์

ส่วนตัวเลยนะ ผมคิดตลอดว่าเด็กรุ่นใหม่จะฉลาดและทำอะไรเป็นแผน หรือใช้โซเชี่ยลให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ ผมคาดหวังมากเกินไปจริงๆ

ส่วนเคสนี้ ผู้ใหญ่เองก็ต้องออกมาชี้แจงให้เห็นภาพอย่างชัดเจน ว่าทำไมถึงไล่ออก เพราะบางทีอาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมากกว่านี้ หรือถ้าไม่มีเลย ผู้ใหญ่ก็ห่วยแตกเกินไปเหมือนกัน

งั้นก็น่าหนักใจเหมือนกันครับ

คิดถึงลูกคนเล็กที่เอาแต่ใจ แค่เรื่องไม่เป้นเรื่องก็ปวดหัวพอละ

เจอเคสแบบนี้เข้าไป ถึงกับไปไม่เป็น เยอะเกิน

ตอนแรกผมคิดไปเองว่าพ่อแม่ก็สนับสนุนด้วยซะอีก เรื่องต่อต้าน ..

ในฐานะที่เรียนจิตวิทยามานิดหน่อย ผมว่าผมพอเข้าใจ norm ของน้องขึ้นมานิดนึงเเล้วล่ะ

รุ่นนี้สงสัยบอกไม่ฟัง เตือนไม่เชื่อ ปล่อยไปเหอะ ผมก็ว่าเยอะเกิน

ในเคสของเด็ก ทางอีกฝ่ายเอาไปเล่นกันเยอะอยู่ครับ ว่าเป็นเด็กโดนทางบ้านตัด ไม่มาประกันตัวให้ ศาลจึงปล่อยตัวไม่ได้เพราะเป็นผู้เยาว์(ไม่ยืนยันข้อมูล) แต่ฝั่งผู้เรียกร้องไปขยายเอาเองโทษศาล

ซึ่งในส่วนของคดีความเดิม ถ้าเอาเพียวๆก็ไม่น่าเชื่อนัก แต่จากการแสดงออกในภายหลัง และการแสดงออกของทางบ้าน ที่แม้กระทั่งเข้าลงทะเบียนเรียนยังต้องเป็นทาง ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกลมาออกหน้าแทน ผมค่อนข้างมีคำถามเหมือนกันครับ

ไม้รู้สิต่อให้ โรงเรียนไหน รับ คงแบบคิดหนักมากๆๆๆๆ เพราะไม่รู้ทำอะไรอีก แล้วจะมาอ้างใช้สิทอีก น้องก็ควรมองตัวเองอะ ว่าสิ่งที่ทำนั้นต้องการความเท่าเทียมหรือเอาแต่ใจ

เข้าใจสิ่งที่น้องเรียกร้อง แต่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่น้องทำมันยังไม่ถูกต้อง ทำแบบนี้มันไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ควรต้องมีคนดึงน้องบ้าง ตอนนี้มีแต่คนดัน เหมือนที่ชัชชาติบอกอ่ะ ถ้ามีแต่คนชมก็ไม่รู้จะปรับปรุงพัฒนาตรงไหน

อยากให้น้องได้เจออาจารย์ที่ดีๆ ที่สามารถเหลาน้องให้เฉียบคมกว่านี้ การวางแผนให้รบชนะบางครั้งมันทำไม่ได้ในเวลาสั้นๆ ขนาดเล่นเกมยังต้องฟาร์มเวลก่อนเลย

เรื่องทรงผม ผมเห็นด้วย 90% อะนะ แต่ควรเป็นหลังเปิดเรียน 1 ทิตย์ และให้รร.ให้ความรู้เรื่องพวกการย้อมผม การทำผม และการดูแลให้หน่อย.
ให้เด็กไปหาทำกันเอง บางคนงบน้อย คิดไปเอง หวังเท่ มีเละแน่นวล เคมีแต่ละตัวกับหัวแต่ละคนมันไม่เท่ากัน.

เสื้อผ้า เห็นด้วย 70% แต่ให้เหลือกฎไว้บ้างก็ดี วัยฮอร์โมนด้วย.

ลิฟ... เอ่อน้องจะเรียกร้องเพื่อ ค่าเทิอมน้องถ้ารวมค่าลิฟด้วยนี่พ่อน้องคงร้อง พูดไรคิดถึงพ่อน้องพ่อเพื่อนน้องด้วย.
ต้นทุนลิฟแต่ละครั้ง ยังไม่นับพวกชอบพิเรนในลิฟเกิดเรื่องขึ้นมาก็ไม่รับผิดชอบ เถียงบอกลิฟไม่ได้มาตรฐานอีก ถ้าให้เด็กขึ้นได้ต้องมี Operator เฝ้าโทรศัพลิฟอีก ยังช่างลิฟอีก ประกันเด็กอีก น้ำหนักอีก ฯลฯ งบบาน.
ถ้าน้องอยากใช้ลิฟ ผมว่าค่าเทิอม x2 ไม่ก็ x3 ผมว่าน้องไปหาโรงเรียนที่พร้อมสำรับน้อง และที่พ่อน้องพร้อมจ่ายดีกว่าครับ ดีกว่าเรียกร้องคนเดียวกระเทือนนักเรียนทั้งโรงเรียน(พ่อนักเรียนด้วย).

ไม่กี่เดือนมานี้ได้พาหลานไปหาที่เรียน ม.ต้น ใบชี้ชวนของ รร.ก็ให้ข้อมูลครบอยู่นะว่าให้นร.ใช้ลิฟ ได้ชั้น4-8.
ไม่รู้ รร.น้องไม่ได้ออกใบมาหรือน้องไม่ได้อ่าน อันนี้ก็เป็นกรณีควรศึกษาทั้งของ รร.และน้องๆอยู่นะว่าควรบอกให้ชัดอ่านให้ชัวร์.

เคสนี้ สงสารครูเลย
ต้องมาเจออะไรแบบนี้
มันเกินไป กฎระเบียบง่ายๆ ยังยอมรับไม่ได้ ก็ควนเกมไป
เรียกร้องจนเกินไปพอสมควรเลย

เข้าใจในการอยากมีสิทธิเสรี

แต่บางอย่างก็ต้องมีกฎ หรือระเบียบควบคุมไว้

เพื่อที่จะให้สังคมอยู่ด้วยกัน หรือดำเนินไปในทิศทางเดียวกันได้

พรรคส้มเพิ่งชนะการเลือกตั้ง ก็น่าจะอดใจรออีกสักหน่อย

ไม่อยากให้หุนหันพลันแล่น ด่วนเร็วจนเกินไป

ถ้าเทียบกันผมให้เนติวิทย์ ค่อนข้างชี้นำและแสดงออกได้โอเคกว่า

เสรีภาพสุดโต่ง ไม่มีอยู่จริงครับ

น้องมีอุดมการณ์ แต่ไม่มีหลักการ ในการยึดเหนี่ยว

คิดแบบก้าวหน้าก็จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด็กมาก ไม่รู้เท่าทัน การกระทำตัวเอง

อย่างหลักง่ายๆ เช่นการเรียกร้องแต่ไม่เคารพกฎ เนี่ยก็ผิดและ น้องึคิดว่าทุกกฎ ทุกระเบียบ ไม่จำเป็นต้องทำ ต้องอิสระเสรี ฉันอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร ต้องได้ทำ ซึ่งผิด ในเมื่อน้องต้องอยู่ในสถานที่ ที่คนอยู่ร่วมกันมากๆ การจะทำให้อยู่ด้วยกันได้ต้องเคารพกฎ(กฎที่เป็นธรรมกับทุกคน ในสิทธิและหน้าที่ต่างกัน)

เท่าที่ผมมอง ผมว่าน้องไม่เข้าใจเลยโดยสิ้นเชิง

น้องไม่ผิดนะที่ทำ แต่ โรงเรียนก็ไม่ผิดที่จะ ดีดคนแบบน้องออก เพื่อให้คนส่วนมาก ที่อาจจะมีคนคิดแบบน้องนะ แต่แสดงออกด้วยวิธีการอื่น โดยไม่สร้างความเดือดร้อง ให้คนในสังคมนั้นๆ เท่าน้องแค่นั้นเองครับ

อ่านคอมเม้นแล้วต้องขยี้ตา
เริ่มแยกไม่ออกระหว่าง voter ก้าวไกลกับกปปส (กุเปลี่ยนเป็นส้ม) แล้วตอนนี้

แต่หลายคนที่โวยวายว่าเด็กเรื่องเยอะ ไม่ต้องห่วง ก้าวไกลเขาตั้งใจจะทำให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว รีบๆปรับตัวให้ชินก่อนก้าวไกลคุมกระทรวงศึกษา
มีทั้งนโยบายลดอำนาจนิยมในโรงเรียน คืนพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กในโรงเรียน
ให้สิทธินักเรียนตามรัฐธรรมนูญ (รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายใหญ่สุดในประเทศ ใหญ่กว่ากฎโรงเรียน เผื่อใครไม่ทราบ)
เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นนักเรียนฟ้องครูขึ้นศาลปกครองบ่อยขึ้นแน่ๆ
รวมถึงโอกาสในการใส่ชุดไปรเวท ย้อมสีผม และไว้ผมยาว

เรื่องลิฟต์นี้มองได้ตื้นมากเลย

สมมุติวันนี้มีคนไป Apply เคสนี้กับพวกสถานีรถไฟฟ้า ที่ลิฟต์นั้นทำมาเพื่อช่วยเหลือผู้พิการ ถ้าทุกคนเห็นว่าจ่ายเหมือนกันใครจะขึ้นก็ได้ คนที่จำเป็นจะใช้จริงคงใช้ชีวิตลำบากกว่าเดิมเยอะเลย

ต้องสะสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้ หลายอย่างมันมีเหตุผลของมัน อันนี้น้องออกตัวแรงตลอดเลย ผมเป็นครูผมคงเหนื่อย