สำหรับผมมันคือการโฆษณาชวนเชื่อโฆษณาเกินจริง ผมเชื่อว่าตปทคนที่ได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของทั้ง Biden Fauci ยิ่ง2คนนี้คือคนที่น่าเชื่อถืออันดับต้นๆของประชาชนที่เค้าจะฟัง ของ Fauci ยิ่งใช้ความเชื่อไปใหญ่ They can feel safe they are not going get infect
ถ้าจะถกเรื่องเกินจริงหรือไม่ก็พอถกได้นะครับ เพราะช่วงที่ Biden กับ Fauci ออกมาพูดดังกล่าว เข้าใจว่าเป็นช่วงที่ผลวิจัยจาก field trial ออกมาว่าประสิทธิภาพสูงกว่า 95% (ผมจำได้ลางๆว่า 97-98%) ซึ่งถ้าเรียนสถิติมา (ไม่รู้ว่าคุณเรียนมากี่ตัวแต่ตอนป.ตรีผมได้เรียนแค่ตัวเดียว เพราะงั้นความรู้เรื่องสถิติผมถือว่าค่อนข้างน้อยมาก) น่าจะพอจำได้ว่าการกระจายปกติหรือ normal distribution ที่เป็นรูประฆังคว่ำ มักจะกำหนดช่วง outlier ไว้ทั้ง 2 ฟากๆละ 2.5% รวมกันเป็น 5% ซึ่งเป็นที่มาของพวกค่าต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางสถิติอย่าง 95% interval หรือค่า p ที่ต้องน้อยกว่า 0.05 ถึงจะแสดงถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05 ก็คือ p น้อยกว่า 5%) ซึ่ง 5% นี้เค้าเผื่อไว้สำหรับปัจจัยความคลาดเคลื่อน (ทั้ง human error หรือปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้อื่นๆ เช่น ความแตกต่างทางพันธุกรรม ฯลฯ) เพราะงั้นการที่ผลการวิจัยประสิทธิภาพของวัคซีนออกมาสูงเกิน 95% มันก็แทบจะเปรียบได้ว่ามันคือ 100% ลบ 5% จากความแปรปรวนในการทดลองได้ไงครับ ถ้าแบบนี้มันก็ไม่ใช่โฆษณาเกินจริงใช่มั้ยล่ะครับ
"you're not going get covid if you have these vaccination." มันแปลได้แบบเดียวเลยนะคับถ้าฉีดก็ไม่ติดโควิด โคตร bullshit ครับนั่นละครับมันอยู่ที่ว่าคนพูดอยู่ฝั่งไหนซะมากกว่าถ้ามาจากฝั่งที่เราไม่ชอบมันก็คือการบูลชิท แต่ถ้าฝั่งที่เราชอบมันก็จะมาบอกแนวว่าเข้าใจไม่มีปัญหา... ซึ่งก็ให้เห็นง่ายๆเคสซิโนแวคไทยที่่คนด่าเละเทะกับวัคซีนตปท
สำหรับผมมันคือการโฆษณาชวนเชื่อโฆษณาเกินจริง ผมเชื่อว่าตปทคนที่ได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของทั้ง Biden Fauci ยิ่ง2คนนี้คือคนที่น่าเชื่อถืออันดับต้นๆของประชาชนที่เค้าจะฟัง ของ Fauci ยิ่งใช้ความเชื่อไปใหญ่ They can feel safe they are not going get infect
ถ้าจะถกเรื่องเกินจริงหรือไม่ก็พอถกได้นะครับ เพราะช่วงที่ Biden กับ Fauci ออกมาพูดดังกล่าว เข้าใจว่าเป็นช่วงที่ผลวิจัยจาก field trial ออกมาว่าประสิทธิภาพสูงกว่า 95% (ผมจำได้ลางๆว่า 97-98%) ซึ่งถ้าเรียนสถิติมา (ไม่รู้ว่าคุณเรียนมากี่ตัวแต่ตอนป.ตรีผมได้เรียนแค่ตัวเดียว เพราะงั้นความรู้เรื่องสถิติผมถือว่าค่อนข้างน้อยมาก) น่าจะพอจำได้ว่าการกระจายปกติหรือ normal distribution ที่เป็นรูประฆังคว่ำ มักจะกำหนดช่วง outlier ไว้ทั้ง 2 ฟากๆละ 2.5% รวมกันเป็น 5% ซึ่งเป็นที่มาของพวกค่าต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางสถิติอย่าง 95% interval หรือค่า p ที่ต้องน้อยกว่า 0.05 ถึงจะแสดงถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05 ก็คือ p น้อยกว่า 5%) ซึ่ง 5% นี้เค้าเผื่อไว้สำหรับปัจจัยความคลาดเคลื่อน (ทั้ง human error หรือปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้อื่นๆ เช่น ความแตกต่างทางพันธุกรรม ฯลฯ) เพราะงั้นการที่ผลการวิจัยประสิทธิภาพของวัคซีนออกมาสูงเกิน 95% มันก็แทบจะเปรียบได้ว่ามันคือ 100% ลบ 5% จากความแปรปรวนในการทดลองได้ไงครับ ถ้าแบบนี้มันก็ไม่ใช่โฆษณาเกินจริงใช่มั้ยล่ะครับ
"you're not going get covid if you have these vaccination." มันแปลได้แบบเดียวเลยนะคับถ้าฉีดก็ไม่ติดโควิด โคตร bullshit ครับนั่นละครับมันอยู่ที่ว่าคนพูดอยู่ฝั่งไหนซะมากกว่าถ้ามาจากฝั่งที่เราไม่ชอบมันก็คือการบูลชิท แต่ถ้าฝั่งที่เราชอบมันก็จะมาบอกแนวว่าเข้าใจไม่มีปัญหา... ซึ่งก็ให้เห็นง่ายๆเคสซิโนแวคไทยที่่คนด่าเละเทะกับวัคซีนตปท
สำหรับผมมันคือการโฆษณาชวนเชื่อโฆษณาเกินจริง ผมเชื่อว่าตปทคนที่ได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของทั้ง Biden Fauci ยิ่ง2คนนี้คือคนที่น่าเชื่อถืออันดับต้นๆของประชาชนที่เค้าจะฟัง ของ Fauci ยิ่งใช้ความเชื่อไปใหญ่ They can feel safe they are not going get infect
ถ้าจะถกเรื่องเกินจริงหรือไม่ก็พอถกได้นะครับ เพราะช่วงที่ Biden กับ Fauci ออกมาพูดดังกล่าว เข้าใจว่าเป็นช่วงที่ผลวิจัยจาก field trial ออกมาว่าประสิทธิภาพสูงกว่า 95% (ผมจำได้ลางๆว่า 97-98%) ซึ่งถ้าเรียนสถิติมา (ไม่รู้ว่าคุณเรียนมากี่ตัวแต่ตอนป.ตรีผมได้เรียนแค่ตัวเดียว เพราะงั้นความรู้เรื่องสถิติผมถือว่าค่อนข้างน้อยมาก) น่าจะพอจำได้ว่าการกระจายปกติหรือ normal distribution ที่เป็นรูประฆังคว่ำ มักจะกำหนดช่วง outlier ไว้ทั้ง 2 ฟากๆละ 2.5% รวมกันเป็น 5% ซึ่งเป็นที่มาของพวกค่าต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางสถิติอย่าง 95% interval หรือค่า p ที่ต้องน้อยกว่า 0.05 ถึงจะแสดงถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05 ก็คือ p น้อยกว่า 5%) ซึ่ง 5% นี้เค้าเผื่อไว้สำหรับปัจจัยความคลาดเคลื่อน (ทั้ง human error หรือปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้อื่นๆ เช่น ความแตกต่างทางพันธุกรรม ฯลฯ) เพราะงั้นการที่ผลการวิจัยประสิทธิภาพของวัคซีนออกมาสูงเกิน 95% มันก็แทบจะเปรียบได้ว่ามันคือ 100% ลบ 5% จากความแปรปรวนในการทดลองได้ไงครับ ถ้าแบบนี้มันก็ไม่ใช่โฆษณาเกินจริงใช่มั้ยล่ะครับ
"you're not going get covid if you have these vaccination." มันแปลได้แบบเดียวเลยนะคับถ้าฉีดก็ไม่ติดโควิด โคตร bullshit ครับนั่นละครับมันอยู่ที่ว่าคนพูดอยู่ฝั่งไหนซะมากกว่าถ้ามาจากฝั่งที่เราไม่ชอบมันก็คือการบูลชิท แต่ถ้าฝั่งที่เราชอบมันก็จะมาบอกแนวว่าเข้าใจไม่มีปัญหา... ซึ่งก็ให้เห็นง่ายๆเคสซิโนแวคไทยที่่คนด่าเละเทะกับวัคซีนตปท
อ่อ มีวิดีโอใหม่ใน Twitter ของ Peter A. McCollough ด้วยนะ เป็นหนังแอ็คชั่นสนุกน่าดู เห็นแล้วนึกว่าหนีงฮอลลีวูดเลย แต่ไม่รู้ทำไมวิดีโอพวกนี้ต้องมาจาก Twitter ตลอดเลย ทำไมหน่วยงานรัฐบาลถึงบล็อค Twitter ไม่ได้บ้างน้า
5555 google คือ source ที่น่าเชื่อ โง่จริงๆ google มันจ่ายตังโฆษณาได้นะรู้ไม 555 google มันคือ serrch engine รู้จักไม SE อะมันไม่ใช่มีแค่ google พอๆ คุยไปก็ไม่มีวันจบอมไข่ไบเดนไปเยอะๆ
สำหรับผมมันคือการโฆษณาชวนเชื่อโฆษณาเกินจริง ผมเชื่อว่าตปทคนที่ได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของทั้ง Biden Fauci ยิ่ง2คนนี้คือคนที่น่าเชื่อถืออันดับต้นๆของประชาชนที่เค้าจะฟัง ของ Fauci ยิ่งใช้ความเชื่อไปใหญ่ They can feel safe they are not going get infect
ถ้าจะถกเรื่องเกินจริงหรือไม่ก็พอถกได้นะครับ เพราะช่วงที่ Biden กับ Fauci ออกมาพูดดังกล่าว เข้าใจว่าเป็นช่วงที่ผลวิจัยจาก field trial ออกมาว่าประสิทธิภาพสูงกว่า 95% (ผมจำได้ลางๆว่า 97-98%) ซึ่งถ้าเรียนสถิติมา (ไม่รู้ว่าคุณเรียนมากี่ตัวแต่ตอนป.ตรีผมได้เรียนแค่ตัวเดียว เพราะงั้นความรู้เรื่องสถิติผมถือว่าค่อนข้างน้อยมาก) น่าจะพอจำได้ว่าการกระจายปกติหรือ normal distribution ที่เป็นรูประฆังคว่ำ มักจะกำหนดช่วง outlier ไว้ทั้ง 2 ฟากๆละ 2.5% รวมกันเป็น 5% ซึ่งเป็นที่มาของพวกค่าต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางสถิติอย่าง 95% interval หรือค่า p ที่ต้องน้อยกว่า 0.05 ถึงจะแสดงถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05 ก็คือ p น้อยกว่า 5%) ซึ่ง 5% นี้เค้าเผื่อไว้สำหรับปัจจัยความคลาดเคลื่อน (ทั้ง human error หรือปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้อื่นๆ เช่น ความแตกต่างทางพันธุกรรม ฯลฯ) เพราะงั้นการที่ผลการวิจัยประสิทธิภาพของวัคซีนออกมาสูงเกิน 95% มันก็แทบจะเปรียบได้ว่ามันคือ 100% ลบ 5% จากความแปรปรวนในการทดลองได้ไงครับ ถ้าแบบนี้มันก็ไม่ใช่โฆษณาเกินจริงใช่มั้ยล่ะครับ
"you're not going get covid if you have these vaccination." มันแปลได้แบบเดียวเลยนะคับถ้าฉีดก็ไม่ติดโควิด โคตร bullshit ครับนั่นละครับมันอยู่ที่ว่าคนพูดอยู่ฝั่งไหนซะมากกว่าถ้ามาจากฝั่งที่เราไม่ชอบมันก็คือการบูลชิท แต่ถ้าฝั่งที่เราชอบมันก็จะมาบอกแนวว่าเข้าใจไม่มีปัญหา... ซึ่งก็ให้เห็นง่ายๆเคสซิโนแวคไทยที่่คนด่าเละเทะกับวัคซีนตปท
อ่อ มีวิดีโอใหม่ใน Twitter ของ Peter A. McCollough ด้วยนะ เป็นหนังแอ็คชั่นสนุกน่าดู เห็นแล้วนึกว่าหนีงฮอลลีวูดเลย แต่ไม่รู้ทำไมวิดีโอพวกนี้ต้องมาจาก Twitter ตลอดเลย ทำไมหน่วยงานรัฐบาลถึงบล็อค Twitter ไม่ได้บ้างน้า
5555 google คือ source ที่น่าเชื่อ โง่จริงๆ google มันจ่ายตังโฆษณาได้นะรู้ไม 555 google มันคือ serrch engine รู้จักไม SE อะมันไม่ใช่มีแค่ google พอๆ คุยไปก็ไม่มีวันจบอมไข่ไบเดนไปเยอะๆ