มองว่าเป็นเทรนด์ทางธุรกิจครับ แต่ละสายงานก็มีช่วงเวลาของมันมาตลอด ตัวอย่างเช่น ถ้าย้อนไปสัก 15-20 ปีก่อน ช่วงตลาดทุนเติบโตเร็ว งานสาย IB แย่งซื้อตัวกัน และโบนัสกันที 20-30 เดือน แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้นแล้ว

ตอนนี้องค์กรแทบทั้งหมดต้องการเข้าสู่ Digitalization ซึ่งต้องการคนสาย IT (มากๆ) ทำให้บุคลากรสายงานนี้ขาดตลาด นำไปสู่การแย่งซื้อตัว

แต่เชื่อว่าถึงจุดนึงตลาดก็จะเข้าสู่สมดุลอีกครั้ง และจะเป็นอย่างนี้เสมอ

สายนี้ไม่สนเกรดครับ สนที่ความสามารถ + มันวัดได้ด้วยสิ เพื่อนผมจบ ปัญญาภิวัฒน์ ตีเป็น ม.ไม่ดัง เกรด 3 นิดๆ แต่ทำงานได้ 2 ปีรายได้ 60K

อีกคน ไม่ตรงสาย จบสังคมธรรมดาภาษาอังกฤษ ราชมงคล เกรด 2.34 แต่เขียนโปรแกรมได้กลางๆ ทำมา 3 ปี เงินเดือน 54K

ผมเคยทำบริษัท Recruit Agency เคยเห็นคน ปสก 2-3 ปี รายได้ 75K เยอะเลยแต่ต้องได้ภาษา+เทสผ่านนะ คือเทสผ่านปุ๊บรับเลยไม่สน EXP ด้วยจบใหม่ก็รับถ้าเทศผ่าน แต่ส่วนมากที่ผ่านคือคนที่เคยทำมาแล้ว 2 ปี เพราะจบใหม่มักไม่รู้กระบวนการพวก Aglie , Scum, PN

ผมว่าสายนี่วัดที่ความสามารถมากกว่าครับ แต่นั่นแหละครับขึ้นอยู่กับ บ ที่ไปด้วยถ้าทำในไทยก็น่าจะอยู่ 25-50K นั้นแหละ แต่ถ้าได้ภาษาจะอีกโลกเลย

ผมทำงานสายโปรแกรมเมอร์มาเกือบ 10 ปี ได้ทั้ง font back หรือ full stack และใช้ ionic angular ได้ กำลังลอง react native กับ flutter

คำถามคือ เรตเงินเดือนต่างจังหวัดมะนน้อยครับ แล้วถ้าไปสมัครงาน กทม. จะสามารถเรียกสูงๆได้มั้ยครับ เคยลองไปสัมพาษ เค้าก็บอกว่าให้เยอะไม่ได้ต้องดูจากฐานเงินเดือนเดิม อยู่ต่างจัดหวัดเรต 18,000-20,000 เองครับ

ถ้าใก้ย้ายไป กทม แล้วได้ 3-4 หมื่น(เผลอๆน้อยกว่า) ผมเลยมองว่าอาจจะไม่คุ้ม

เริ่มเรียนตอนนี้ทันไหมครับ อ่านรายได้แล้วอิจฉา

ผมยกตัวอย่างผิด เอาเป็นคนที่ไม่เก่งคือแค่มีใบจบ แต่ทำงานไม่ได้ ทำได้แค่พื้นฐาน ผมว่าเด็กจบใหม่น่าจะเยอะอยู่นะแนวๆนี้

อย่างสายวิศวะ ก็มีรับแบบฐานต่ำๆเข้ามาเด็กจบใหม่15k แล้วก็ให้พวกซีเนียรปั้น หรือไม่ก็ไว้เป็นมดงานวิ่งงานง่ายๆ ส่วนงานยากๆก็ให้ตัวเทพๆทำ

ไม่รู้สายเทค มีแนวนี้ไหม

เพราะบางทีเด็กมัธยม มาเห็นอะไรแบบนี้ อู้ยฐานสูงๆไปเรียน แต่ลืมความจริงไปว่า จะได้ตัวเลขที่ดีต้องมีสามารถด้วย ไม่ค่อยมีใครบอกว่าถ้าจบมาไม่โดดเด่น แย่งงานไม่ได้ จะได้ตัวเลขเท่าไร่

เช่นกันครับท่าน ต้องหาวันว่างๆไปเรียนซะแล้ว อิจฉาฝุดๆ

ก็โอเครนะ Demand/supply ผมว่าที่เฟ้อหนักกว่าอาชีพนี้ คือ หมอสายเอกชน หมอเสริมความงามอ่ะ

ถ้าเลือก software house หรือ startup หรือ คอร์ป แบบประจำ
range 30-45k เป็นไปได้

ถ้าเลือก contact onsite corp
range 40-55k เป็นไปได้

แต่ถ้าหวังประจำ 50-70k ถ้าเป็น corp เลยจะยาก เพราะเขาจะมี role careerpath ขององค์กรอยู่

ตอบยากเหมือนกันแหะ เอาเป็นว่าไม่ต้องเทพ ความสามารถแค่กลางๆตามค่าเฉลี่ยพอ แค่ทำงานได้ตามสิ่งที่ควรจะเป็น สายนี้สามารถเงินเดือนแตะแสนก่อน 30 ได้ ถ้าได้ภาษาอังกฤษครับ ในขณะที่สายอื่นๆ สังคม วิศวะ การตลาด อาจจะต้องเป็นตัวเทพถึงจะทำได้

เทียบกับ HR คนที่ทำได้ตามค่าเฉลี่ยเงินเดือนอาจจะอยู่ที่ 30-35 K ตอน 30 แต่โปรแกรมเมอร์ไป 70-100 K ล่ะ

คนเลยมองว่าสายงานนี้เฟ้อครับ เอาจริงๆสายนี้ Supply มันมีนะ แต่ Quality แค่เขียนโปรแกรมได้ตามที่บริษัทต้องการ มันดันมีไม่เยอะและความต้องการสูง ม.ในไทยส่วนมหญ่ก็สอนไม่ทันต่อความต้องการของบริษัทด้วย และสายนี้ต้องอัพเดทข้อมูลตลอดเลยทำให้คนที่เป็นในสมัยเก่าอาจจะหายไปเลยเพราะตามภาษา เทคโนโลยีใหม่ไม่ทัน ขี้เกียจเรียน ทำให้ Supply น้อยลงไปอีก พวกเก่งแค่ค่าเฉลี่ย เลยยิ่งได้เงินสูงเข้าไปใหญ่ เพราะ บ ก็ต้องจ่ายคนค่าเฉลี่ยในเงินเดือนที่สูงเพราะถ้าไม่จ้างไม่มีคนทำ

เฟ้อแต่ใน กทม อะดิ ตจว โดนกดเงินเดือนชิหาย

ปัญหาของผมคือ ไอ้คำว่าเหมาะสมนั่นแหล่ะครับ จะเห็นว่านอกจากความเห็นของผมก็มีหลายคนเจอปัญหานี่เช่นกัน ที่ resource pool ที่มีคุณภาพที่เหมาะสมและเราพร้อมจะจ่ายมีน้อย เพราะส่วนใหญ่ที่เจอคือเรียกมากค่อนข้างแพงกว่าความสามารถที่มี (และผมเชื่อว่าบ.ผมจ่ายไม่น้อยนะ แพงกว่า market rate ในระดับนึงเลย)

อันนี้มันเหมือนหุ้นกลุ่มนึงราคาสูงทั้งกลุ่ม ทั้งๆที่หุ้นรายตัวนั้นมีแค่บางตัวที่พื้นฐานดีและราคาที่เหมาะสมของตัวมันเองน่ะครับ

บริษัท สาย tech/digital มีบ.อะไรบ้างครับ
ส่วนตัวทำอยู่ field สายการแพทย์


อ่อ เปิดเว็บนี้ พอเห็นภาพแล้วครับ
https://www.marketingoops.com/reports/metrix/nida-top-5-tech-digital-companies-to-work/

ถ้าบอกว่า Full Stack ประสบการณ์ 10 ปี แล้วผมเป็นคนสัมภาษณ์
ผมจะคาดหวังความเป็น Senior ที่มี Soft skill เพิ่มจากฝีมือการ Coding ครับ เช่น
- การ Manage งาน จัดลำดับความสำคัญงาน task ต่างๆ (เป็นผู้ช่วยทีมลีด)
- การคุมงานน้องๆ Junior ตรวจงานเบื้องต้น แนะนำ Solution ได้
- การวิเคราะห์ปัญหาในภาพรวม (Root cause analysis, Impact analysis) ที่นอกเหนือจากการ Debug issues แล้วบอกว่าผิดที่จุดนี้ๆๆ แต่บอกไม่ได้ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง
- ความรู้ทาง Business ในระดับหนึ่ง ตาม field ที่ตัวเองเคยผ่านงานมา ไม่ใช่เป็นแค่ coder ที่เขียนโปรแกรมตาม spec ที่ SA ส่งมาให้

พูดง่ายๆว่าผมคาดหวัง Senior Dev, Assist Lead นั่นแหละ

ถ้าทำพวกนี้ได้ ไม่ต้องมอง 30-40k ครับ
สำหรับ Corporate ใหญ่ๆมอง 60-70k ได้เลย
ถ้าเป็น Tech Startup ก็ 100k+ ครับ

แต่ถ้าเป็นแค่ Dev/Coder ทั่วไปผมคงให้สัก 30-50k ขึ้นอยู่กับฝีมือ (ต้องทำ test)

ผมว่าที่มันยากเพราะสายนี้มันไป Global ได้ง่ายครับ และ ค่าแรงสายนี้ในไทยเอาจริงถือว่าถูก เลยโดนต่างประเทศดูดไปเยอะครับ โดยเฉพาะพวกที่เก่งๆ เหลือแต่คนที่ฝีมือรองลองมา

เอาแค่ใกล้ๆเรา MY,SG จ้างจบใหม่ที่ 50-70 K โดยเฉลี่ย แค่มาจ้าง Outsource ในไทย ทำงานที่ไทยจ้างเรทจบใหม่ที่พอมีสกิลบ้างนิดหน่อย 40K ในมุมเขาก็ประหยัดไปเยอะแล้วครับ มุมลูกจ้างไทยก็เฮ้ย win ค่าแรงเยอะไปทำที่นั่นดีกว่า แต่ บ.คนไทยจะมองว่าอะไรวะแพงชิหาย เพราะ poolกลุ่มนี้มันแทบจะเป็น Global ไม่ใช่ในประเทศเหมือนสายอาชีพอื่นแล้วครับ ส่วนหนึ่งที่สายงาน Data, Low code โตก็เพราะหา Dev ยากนี่แหละครับ

ถ้าบริษัทยังกำไรดีอยู่ เงินเดือนเราแสนสองแสน สาย Senior/Lead dev ที่ยังอยู่ในตลาด สบายๆครับ คุณก็ต้องเลือกบริษัทแน่นๆแหละครับ เดี๋ยวนี้ใครบอกว่าองค์กรใหญ่ๆ ให้เงินน้อย เถียงขาดใจนะครับ เค้าอาจจะแค่ปรับตัวช้ากว่าตลาด แต่เค้าทุ่มเพื่อคนเก่งแน่นอนครับ แถมสวัสดิการณ์จัดเต็ม ในองค์กรผมคนที่กินตำแหน่งระดับบริหาร แต่ไม่มีลูกน้อง ก็เยอะครับอยู่ในแผนกพัฒนา software ด้วยกันกับผมทั้งนั้นเลยครับ เพราะฐานเงินเดือนมันบังคับตาม org structure

กลับมาที่ทำไมไม่แข่งค่าตัวแล้วหาคนไม่ได้ อันนี้ผมต้องบอกว่าไม่ได้แข่งกันเฉพาะในตลาดบ้านเรานะครับ EU, USA, Singapore, Japan พวกนี้ Recruit คนประเทศเราเยอะมากนะครับ แล้วให้เงินเดือน ุ6000-10000 USD ได้เลย คนแถวหน้าเราก็โดนแย่งไปเยอะครับ แถม support relocation กับสุดๆ หรือ Remote work ผมก็เห็นเยอะ อันนี้ที่ผมพูดได้เพราะมี Head hunter ทักมาใน Linkedin ผม แทบทุกวัน อาชีพนี้ห้ามหยุดพัฒนาตัวเองในทุกๆเรื่อง Technology ยาวไปยัน soft skill คนที่เก่งกลางๆในทุกๆด้าน ทำ Backend ก็ได้ Frontend ก็ได้ DevOps ก็ได้ Analyse ก็ได้ Document ได้ Communicate ก็ได้ แล้วแต่สถาณการณ์ ค่าตัวจะแพงกว่า คนที่เก่งสุดๆแค่ด้านเดียว โดยส่วนใหญ่อะนะครับ เพราะทุกวันนี้ Technology มันดิ้นได้ครับ ต้องปรับตัวเร็วตลอด