[RE: ทำไมต้องเรียกร้องเรื่องคำนำหน้านาม?]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
Indyvirus พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
Indyvirus พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
Indyvirus พิมพ์ว่า:
ผมว่าเรื่องกลุ่มข้ามเพศของอินเดียมันเป็นแค่กฎแบบผักชีโรยหน้าจากคำสั่งศาลสูงสุดอินเดีย แต่คนในสังคมต่างยังไม่ยอมรับเป็นวงกว้าง ซึ่งมักโดนกดด้วยชนชั้นวรรณะที่กลุ่มคนข้ามเพศ หรือ "ฮิจร่า" ในเมื่อก่อนแทบเรียกได้ว่าแทบไม่นับอยู่ในชนชั้นวรรณะเลย ต่ำกว่าจันฑาลซะอีก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเห็นคือกฎหมายราชการให้สิทธิ์การเปลี่ยนคำนำหน้าได้เพราะคำสั่งศาลเท่านั้น แต่เนื้อในแล้วยังไม่คงต่างจากเดิม และเพราะการโดนด้อยค่าทางสังคมอินเดีย เคสการหลอกหลวงจากกลุ่มข้ามเพศน้อยมากๆเมื่อเทียบกับเคสกลุ่มคนข้ามเพศโดนทำร้ายหรือโดนกีดกันออกจากสังคม เช่นไม่มีงานทำ ต้องเป็นนักเต้นนักดนตรีหรือเลวร้ายสุดคือการขายตัว
หรือยิ่งในกรณีใกล้ตัวสุดคืออินโดนีเซียหรือมาเลเซีย สังคมมุสลิมที่ต่อต้านการเป็นกลุ่มคนข้ามเพศ อาจจะเลวร้ายกว่าอินเดียด้วยซ้ำไป เพราะแทบมองเป็นตัวตนที่ไม่มีค่าอะไรเลย
สรุปง่ายๆ .. คือ กลุ่มข้ามเพศแทบไม่ได้รับความเป็นคนด้วยซ้ำในสังคมเหล่านี้ แม้จะมีเรื่องให้สิทธิ์ต่างๆในอินเดียเกิดขึ้นในหลายปีหลังมานี้ แต่ก็เหมือนมีไว้ลดกระแสรุนแรงด้านสิทธิมนุษยชนเท่านั้นครับ ไม่ใช่อินเดียให้สิทธิ์กลุ่มข้ามเพศเต็มที่หรอก
ใช่ครับ ผมถึงได้ยกตัวอย่างอินเดียว่าประเทศที่ conservative โคตรขนาดนั้น พอออกกฏหมายนำหน้าสังคมแบบนี้ออกมาแล้วทำไมมันถึงไม่มีปัญหาแบบที่หลายคนในนี้พยายามยกประเด็นขึ้นมาต่อต้าน เพราะถ้าจะมีประเทศไหนที่ออกกฏหมายแบบนี้มาแล้วต้องยกเลิกตามหลังก็อินเดียนี้แหละ ให้ผมไปดูข้อมูลของฝั่งสวีเดน ฟินแลนด์ มันก็น่าจะมีแต่แง่บวกเยอะกว่า ถูกไหมละครับ?
ซึ่งเอาจริง ๆ ถ้าพูดในเชิงสังคม สังคมไทยเป็นอันตรายต่อเพศทางเลือกน้อยกว่า ถ้าเทียบกับหลาย ๆ ประเทศที่ถึงแม้กฏหมายจะยอบรับ แต่ทัศนคติสังคมยังตามกฏหมายไม่ทัน
แต่เราโต ๆ กันแล้ว จะให้คำตอบกลุ่มคนที่มาเรียกร้องว่า "ทุกวันนี้ก็เปิดกว้างมากแล้ว จะเอาอะไรอีก" แบบนี้หรอ?
อย่างที่ผมทิ้งท้ายครับ ที่อินเดียที่ไม่มีผมกระทบกับเรื่องนี้เลย เพราะทางสังคมเขาไม่ได้ให้ค่ากลุ่มคนข้ามเพศเลยอยู่แล้ว คุณจะทำอะไรก็ทำไปในเรื่องเอกสารหรือบัตรประจำตัวของคุณ แต่ทางด้านสังคมก็ยังคงโดนกีดกันอยู่ดี โดนด้อยค่าอยู่ดี โดนลบตัวตนไปจากสังคมอยู่ดี ที่ออกกฎหมายก่อนเพื่อนก็เพราะลดกระแสเรื่องมนุษยชนในตอนนั้นซะมากกว่าที่จะเห็นความสำคัญของเรื่องนี้จริงๆ
ผิดกับสังคมไทยที่เห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้ครับ มันจึงเป็นประเด็นที่ผมมองว่ามันต้องชัดเจนให้มากกว่านี้
เหมือนประโยคที่คนชอบพูดกัน "ถ้าไม่รักกันจริงก็คงไม่เตือนให้รู้ตัว ปล่อยไปเฉยๆก็ได้ แต่หวังดีก็เลยต้องเตือน"
เมื่อยิ่งเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องยิ่งมีความชัดเจนครับ
ถ้าได้รับการยอมรับทั้งทางสังคมและกฏหมายมันจะไม่ดีกว่าหรือครับ ทำไมต้องหยุดแค่การยอมรับทางสังคม?
จริง ๆ อ่านคอมเม้นอื่นผมว่าท่านก็เข้าใจแหละ ท่านเสนอแนวทางที่ละเอียดอ่อนต่อเขามากกว่าที่เขาเรียกร้องเองด้วยซ้ำ ซึ่งในทางปฏิบัติยิ่งละเอียดในทางทฤษฎีมันจะยิ่งยากในทางปฏิบัติ แต่ก็เข้าใจได้ว่าควรมุ่งหวังไว้ที่ utopia
แบบนี้ถึงควรเป็น agree to disagree ไม่ใช่หลับหูหลับตาแย้งไม่เข้าท่า แล้วมาบอกให้เคารพความเห็นคนอื่น ตลก
ผมพูดในบริบทของอินเดียนะครับคุณ wolve กฎหมายมันเกิดขึ้นมาแล้วก็จริง แต่การยอมรับทางสังคม ต่างจากประเทศไทยลิบลับมากๆ ส่วนของไทยเพราะทางสังคมต่างยอมรับกันแล้วเป็นส่วนใหญ่เนี่ยแหละครับ เรื่องที่มันมีผลต่อกฎหมายทางสังคมเลยกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน
ซึ่งเท่าที่ผมอ่านคอมเม้นนะครับ ผมรู้สึกว่าทุกคนอย่างให้เปลี่ยนคำนำหน้าแหละครับ แต่ไม่ใช่การที่เปลี่ยนจากนายเป็นนางสาว แต่เปลี่ยนเป็นระบุตัวตนให้ชัดเจนแทนได้ไหมมากกว่า คุณเป็นทรานซ์ก็อาจใช้คำนิยามที่สามารถระบุได้ว่าเป็นทรานซ์ไปเลยหรือเปล่า? ก็เท่านั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องของการยอมรับตัวตนของตัวเองของกลุ่มคนข้ามเพศแล้วล่ะครับ ว่าความจริงคุณคือทรานซ์นะ คุณไม่ใช่สาวแท้หญิงแท้ คุณได้สิทธิ์เท่าเทียมกับมนุษย์ทุกคนแหละ แต่คุณแค่ยอมรับว่าคุณเป็นทรานซ์ เหมือนเรื่องกีฬาว่ายน้ำในอเมริกาใช่ไหมครับ ฝ่ายทรานซ์ก็จะดึงดันว่าก็ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงนี่แล้วทำไมฉันแข่งกับผู้หญิงไม่ได้? มันกลายเป็นเรื่องไม่ยอมรับตัวตนหรือเปล่า?
แต่ครับ .. เพื่อนๆผมมีคนเป็น LGBTQ ก็มีพอสมควร พวกเขายอมรับนะว่าพวกเขาเป็นเกย์ เป็นทรานซ์ เป็นทอม พวกเขาไม่ใช่ชายแท้หญิงแท้ เพราะฉะนั้นเพื่อนผมไม่อะไรเลย ขอแค่เปลี่ยนกฎหมายคำนำหน้าที่สมควรจะเป็นตามความจริงได้และสามารถนำไปใช้ตามกฎหมายได้ก็เท่านั้นเอง
เรายิ่งเห็นในทินเดอร์ชัดเจนเลยว่า กลุ่มคน LGBTQ ต่างปรับ gender ตัวเองเป็นทรานซ์ เป็นไบ เป็นอะไรต่างๆนานาได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องคิดว่าตัวเองเป็น men หรือ women ขอแค่มีผลตามกฎหมายที่เท่าเทียมก็พอ
เรื่องคำนำหน้าชื่อเป็นเรื่องทางกฏหมายครับ ไอ้เรื่องการยอมรับทางเพศทางสังคมก็อีกเรื่อง อย่างที่บอก ผมสนับสนุน แต่ผมไม่ได้เป็นนักรณรงค์เรื่องนี้
มีการพัฒนาทางสังคมก็ดี แต่จะห้ามการพัฒนาทางกฏหมายไปทำไม ถ้าบอกว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนเฉพาะไปเลยหรือไม่บังคับระบุไปเลย ก็ดีครับ ผมสนับสนุนแนวทางที่กฏหมายสนับสนุนสิทธิและเสรีภาพมากขึ้นทั้งหมด แต่ก็บอกได้เช่นกันว่ามีความยุ่งยากในเชิงนิติบัญญัติมากกว่าการออก พรบ. แก้ไขเพิ่มเติมการขอเปลี่ยนคำนำหน้านาม anyway แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ตั้งเป้าหมายที่ให้เสรีภาพกับประชาชนได้มากกว่า
แต่ผมไม่เห็นด้วยนะว่า คนส่วนใหญ่ในที่นี้เห็นด้วยกับแนวทางนั้น ลองดู top comments ของทุกกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ดูครับ
เรื่องกฎหมายในประเทศและต่างประเทศ มันคงเป็นเรื่องที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องผลักดันกันต่อไป หากสุดท้ายแล้วประเทศไทยจะเดินหน้าเรื่องนี้แบบจริงจังครับ อาจถึงขั้นแสดงให้เห็นเลยว่าประเทศไทยเราให้ความสำคัญสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ ถึงขั้นให้ประเทศอื่นยอมรับกฎหมายตัวนี้หากเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริง ซึ่งมันจะยุ่งยากแค่ไหน ถ้ามันสมควรทำก็ต้องทำนั่นแหละครับ
ส่วนเรื่องคนใน ss มีมุมมองอย่างไรก็คงได้แต่ยอมรับความคิดเห็นต่างแหละครับ เพราะสุดท้ายมันก็ไม่ต่างอะไรกับทุกเรื่องใน ss การเมือง ศาสนา wm ลิเวอร์พูลแมนยู บลาๆ มันมีเรื่องที่เห็นต่างจำนวนมากน้อยแตกต่างกันอยู่แล้วที่กลายเป็นประเด็นดราม่าได้ตลอด แต่คงมีเรื่องเดียวที่ ss ต่างพากันสามัคคีเป็นส่วนใหญ่ก็คงตอนเห็นกระทู้ขึ้นหัวว่า "18+" ครับ ฮาๆ
สุดท้ายเราเปลี่ยนความคิดคนอื่นทันทีทันใดไม่ได้หรอกครับ คงได้แต่ป้อนข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและขอไม่เอนเอียงเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวก็พอ ต้องยอมรับข้อมูลอันถูกต้องเท็จจริงของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน แม้บางครั้งบางเรื่องจะไม่มีเลยก็ตามที
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
