[RE: ทำไมต้องเรียกร้องเรื่องคำนำหน้านาม?]
Noel Wong พิมพ์ว่า:
พิมพ์ด้วยความไม่รู้ และไม่มีอะไรในหัวสำหรับเรื่องประเด็นนี้เลยนะครับ
ผมกลับมองถึงกฎหมายระหว่างประเทศนะ ผมไม่แน่ใจจริงๆและไม่เคยศึกษาด้วย
แต่การออกเอกสารรับรองด้วยกฎหมายที่ใช้เองในประเทศ มันมีผลกระทบต่อการเดินทางขนาดไหน
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศ A ยอมรับแล้ว และสามารถออกเอกสารประจำตัวให้ตามเพศสภาพ แต่เอาเข้าจริงเวลาเดินทางไปประเทศอื่น ซึ่งไม่ได้ยอมรับตรงนี้ การที่เอกสารตรงกับเพศสภาพ แต่ดันไม่ตรงกับเพศจริงของเจ้าตัว จะเกิดปัญหาตามมาหรือไม่...ซึ่งในประเด็นนี้ ผมไม่คิดว่ามันเป็นสเกลที่ทำในประเทศแล้วจบนะ
อันนี้ไม่รวมถึงอีกหลายๆอย่างที่กลุ่มนี้เรียกร้องค่อนข้างสูงสำหรับสิทธิ์ต่างๆให้เท่าเทียม และเกิดปัญหาขึ้นแล้ว เช่น การแข่งกีฬาที่ใช้ตามเพศสภาพกลับเกิดปัญหาทางสรีระตามมาทีหลัง และก็ยังมีการเรียกร้องจากทั้งสองฝั่ง
หญิงแข่งกีฬาชายมันปั้นร่างกายได้ แต่ชายแข่งกีฬาหญิง ด้วยหลายๆอย่างมันเป็นกลายเป็นการเอาเปรียบแทน
โดยส่วนตัวผมไม่มีปัญหาอะไรนะ กับเรื่องกฎหมายเรื่องสิทธิ์อะไรพวกนี้ถ้ามันจบแค่นั้น จะมีระบุหรือไม่มีระบุเพศเลยผมรับได้ และฝ่ายเรียกร้องเองก็จำเป็นต้องยอมรับด้วยว่า ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง คุณไม่สามารถเทียบหรือได้ทุกอย่างแบบ 100% สิ่งที่ผมมองและกังวลกลับเป็นการขยับไปเรื่อยๆมากกว่า
แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเหตุผล(ที่ผ่านๆตาในนี้นะ)ที่เอาเรื่องเพศ เรื่องการกลัวจะมีเซ็กซ์กับบุคคลที่ไม่ใช่หญิงแท้ เรื่องที่อยากจะเรียกว่าปัญญาอ่อนมาเป็นข้อแย้ง...คิดได้ยังไงนั่น
จริง ๆ ก็ยังเป็นปัญหานั้นแหละครับ การแก้ปัญหาทางกฏหมายไม่ได้ช่วยเรื่องทางสังคมได้เสมอไป การแก้กฏหมายโดยที่ไม่เข้ากับความก้าวหน้าของสังคมไม่มีประโยชน์ในทางปฏิบัติ ในส่วนนี้ปัญหาทางกฏหมายระหว่างประเทศยังไม่เท่าปัญหาเรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่นครับ เรื่องกฏหมายเต็มที่คือถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม แต่ความเสี่ยงจากการถูกเปิดเผยข้อมูลทางเพศในประเทศเคร่งศาสนามีความเสี่ยงต่อสวัสดิภาพและชีวิตมากกว่าเยอะ และเรื่องนี้แก้ไม่ได้ด้วยแค่การเปลี่ยนกฏหมาย
แต่กรณีของไทยมันอีกเรื่องหนึ่ง สังคมเราให้การยอมรับสิทธิทางสังคมของเพศทางเลือกมากกว่าสิทธิทางกฏหมายอยู่แล้ว ก็ไม่รู้จะหวงสิทธิทางกฏหมายไว้ทำไมกับเหตุผลไม่เข้าท่าทั้งหลาย
เรื่องกีฬาเป็นอีกเรื่องเลยครับ คือระบบมันถูกคิดขึ้นมาสนับสนุนเพศกำเนิดไม่ใช่เพศสภาพ การจะมาสนับสนุนความเท่าเทียมโดยการจับคนข้ามเพศยัดเข้าไปในระบบเลยมันไม่ได้ มันต้องวางระบบการแบ่งประเภทตามเพศสภาพหรือศักยภาพทางร่างกายใหม่ไปเลย
การเรียกร้องทางสังคมก็เรื่องหนึ่ง การเรียกร้องทางกฏหมายก็เรื่องหนึ่ง ถึงจะคาบเกี่ยวกันแต่ไม่ใช่เรื่องเดียวกันซะทีเดียว การเรียกร้องทางสังคมอาจจะมี backlash ที่เกิดขอบเขตจนเอาเปรียบคนอื่นในสังคม (เหมือนที่ผมย้ำเสมอว่าผู้ชายเองก็เป็นเหยื่อของปิตาอธิปไตยได้เช่นกัน) แต่การเรียกร้องทางกฏหมายมันเกินขอบเขตจนสร้าง privilege สำหรับเพศทางเลือกไม่ได้อยู่แล้ว มันขัดหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ มีแต่จะทำยังไงให้สิทธิทางกฏหมายของคนกลุ่มนี้ขึ้นมาเท่าเทียมกับเพศชาย-หญิง หรือไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่มีความไม่เข้ากันทางเพศสภาพและเพศกำเนิด