คิวเททำตัวเเย่กับทีมงานยังไงก่อน เอาเเค่เนื้อหาในคลิปนะ ถ้าขยายความตรงนี้ไม่ได้ก้ไม่ต้องพูดต่อเเล้วมั้ง เลอะเทอะละ

เเล้วไอพวกนี้ไม่ได้เริ่มต้นมาด้วยกันกับซิมนะ มันมากันกลางทางทั้งนั้น ซิมมันเริ่มด้วยตัวคนเดียวตั้งเเต่ตอนเป็นเด็กไฮสคูลอินเตอร์ตอนยู่พัทยานู่น ไม่ใช่อารมณ์ซาน-กาน /จอร์จ-อิสระ ที่เริ่มมาด้วยกัน ซิมมันอุ้มขนาดนี้ก้ดีเเค่ไหนเเล้ว

ปล. พอจี้คำถามจริงๆเเล้วไม่โควทตอบเลยเน้อ

ผมว่าหลังจากนี้ คงเป็นบทเรียนให้ คิวเทละมั้ง จะเป็นนายคน ต้องเข้มต้องตึงบ้าง เอาคำว่า ครอบครัว ใช้ไม่ได้ เพราะพวกที่จ้า่งมา จะคิดว่าเป็นครอบครัวจริงๆ จนอยากได้ส่วนแบ่งกำไรมากกว่านี้ เหอะๆ

เอาง่ายๆเลยครับ ถ้าคิดว่าเงินที่ได้รับน้อยไป คุณออกไปรับที่อื่นที่ให้มากกว่าได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปเรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ

อีกมุมนึงคือ

คิวเท สปอนเซอร์ เยอะมากๆๆๆๆ

แล้วของจากสปอนเซอร์ที่ซัพพอร์ต หรือเอามาถ่ายรายการ

เชื่อว่าทุกคนในทีมได้จากจุดนี้ด้วยแน่ๆ

ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่คิวเทเปย์เองเลยนะ

ผมว่า 30,000 ต่อให้ไม่ได้มาแต่ตัว พอมีสกิล แค่นี้ก็โคตรจะฟินแล้วนะ

ถ้าให้คิดทุกอย่างเป็นเงินหมด 30,000+++ แน่นอนที่ได่ต่อเดือน

เริ่มจาก 0 ไม่มีวิชาติดตัวอะไร เค้าสอนให้ ให้เงินเดือน เค้าเรียกตัวแบบนี้ว่าอะไรดีละ ไม่รวมเอาเรื่องรวมหัวนินทา ขโมยของแบรนด์ไปขาย บลาๆๆ ขยะชัดๆๆอะตัวพวกนี้ มันจะไปเจริญได้ไง แล้วใครจะรับไอพวกขยะนี่เข้าทำงาน เบื้องหลังเป็นแบบนี้อะ เชื่อเถอะว่า ตัวแบบนีัถ้ามีโอกาสก็ทำอีกครับ

เงินเดือนน้อยก็ลองคุยตรงๆๆหรือไม่พอใจข้อเสนอก็แค่ลาออก ไม่ใช่ทำแบบนี้

ปัญหาควรจัดการกันภายในดีกว่า บางองค์กรปัญหาภายในเละกว่านี้เยอะ เขาก็จัดการกันภายใน แบบนี้ดูไม่มืออาชีพเลย

ส่วนคดีความก็เรื่องคดีความเอาให้ถึงที่สุด หลักๆแค่นี้เลย

เอาเขามาพูดแบบนี้ ผลก็แบบนี้โดนด่าเละ ฝีมือไม่มี อยากได้เงินเยอะไม่ดูตัวเอง เขาเลี้ยงดูดี ไม่สำนึกบุญคุณ ก็โดนชาวโซเชี่ยล พิพากษา ตามระเบียบ เรื่องแบบนี้ควรคุยกันภายในดีกว่า แล้วก็ให้จบๆไป

เอาเป็นว่า หลังจากนี้ ถ้าได้ลองเป็นเจ้านาย เป็นผู้บริหารช่องหรือกิจการของตัวเอง

ก็อย่าลืมแบ่งให้ลูกน้อง เท่าๆกับรายได้บริษัทนะ

คนบางคนไม่เคยทำงานที่ไหน คิดว่าที่ๆ ตัวเองอยู่งานหนัก ลำบาก ออกไปเจอโลกความจริงแล้วจะรู้

นี่นายจ้างเลี้ยงดูอย่างดี เลี้ยงข้าว ไม่ได้เลี้ยงธรรมดา วันนี้ใครอยากสั่งอะไร สั่งได้เลยโดยไม่ต้องถามก่อน MK KFC สั่งไปเลย ผมดูคลิปเข้าใจว่าเลี้ยงทุกวัน ไม่ใช่นานๆ เลี้ยงทีด้วย

เงินเดือนสามหมื่น มีค่าอาหาร ค่าเดินทาง อุปกรณ์ทำงาน ไอแพด คอมพิวเตอร์มีให้อันนี้เข้าใจนะ หลายๆ ที่ก็มี นี่ซื้อมือถือรุ่นท็อปให้ด้วย

ถ้าบอกงานหนักทำไม่ไหวนี่เข้าใจนะ นี่รวมหัวกัน 4 คน ขู่สไตรค์ลาออกมันปกติหรอ

ช่องคิวเทอยู่ได้ด้วยตัวคิวเทเขาเอนเตอร์เทนเก่งแบบเก่งมากๆ ขนาดคนตัดต่อรับเข้ามายังทำอะไรไม่เป็นสักอย่างช่องยังปั้นช่องจนบูมได้ขนาดนี้ คิดว่าเขาจะหาคนใหม่ไม่ได้หรือไง ยิ่งถ้าได้คนตัดเทพๆ นี่จะขนาดไหน

มันมีมุมอื่นให้มองด้วยเหรอนิท่าน

คอมไม่มี เครื่องมือทำงานไม่มี มาเอากับนายจ้าง เปย์ให้ทุกอย่าง

ถามจริงเหอะ ในประเทศไทย เอาแค่งานตัดต่อนะ

มีที่ไหนจ้างบ้าง จ้างลูกน้อง แต่ไม่มีคอมตัดนะพี่

อย่าเพิ่งพูดถึงฐานเงินเลยฮะ คอมไม่มี แล้วได้งาน แค่นี้ก็กราบละครับ

ยังไม่รวมลงรายละเอียดการสอนตั้งแต่ 0 ด้วย

ถ้าไม่พอใจ งานหนักจริงๆ ต้องขอคนเพิ่ม ไม่ก็ขอขยายเวลาทำงานเพิ่ม ลดงาน บลาๆ

ไม่ใช่ ไปด่าเขาลับหลัง

บุญคุณอ่ะ รู้จักบ้าง เขามอบโอกาสให้ คุณไม่พอใจ ไม่ใช่รวมตัวกันด่าเขา หรือเอาเขาไปด่าข้างนอก

ถ้าจากคลิปที่เล่า คิวเท เป็นแนวกลัวลูกน้องนะ เพราะตอนแรกเจอเรียกเข้าไปรุมด่าเพื่อขอเงินเดือนเพิ่ม

คิวเทขอโทษแล้ว แล้วก็เหมือนยอมทำตามแล้วด้วย(คือคงยอมขึ้นเงินเดือนให้นะ)

เพราะว่าใจเค้าให้ลูกน้องเต็มที่ แต่ก็ตกใจที่เจอแบบนี้

แต่เรื่องมันดันไม่จบแค่นั้น

หลังจากนั้น บังเอิญเข้าไปได้ยิน ลูกน้องมันสุมหัวกัน คุยกันเรื่องที่เพิ่งทำลงไป เป็นแผนชั่ว ไร้ความจริงใจกับตัวคิวเทเลย ก็เลยเฟลหนัก

นั่นแหล่ะครับ

ทำไมคิวเทเลือกรับเด็กที่ทำอะไรไม่เป็น หลักๆก็แบบนี้หมดเหมือนกันหมด
แรกๆคนไม่รู้จักไม่มีชื่อเสียง หาคนไม่ได้ แบบไหนก็เอาหมดรับหมด

เรื่องค่าจ้างหรือ เงินเดือน เราก็ควรมีความชัดเจนด้วย แนวทางการเติบโตในองค์กรณ์เป็นอย่างไร แบบไหน
ขอบเขตงานแบบไหน ถ้ามันชัดเจนปัญหาคงไม่เกิดนะ

ถ้าเริ่มจาก 0 มาด้วยกัน ถ้าจะอยู่แบบครอบครัว ผมไม่ให้เงินเดือนนะ มาเป็นหุ้นส่วนเลย คุณไม่มีเงิน คุณลงแรง ผมมีเงิน ผมลงเงิน ถ้ามันโต ก็โตด้วยกัน แฟร์ดี

จากประสบการณ์ส่วนตัวนะ ที่เป็นทั้งลูกจ้างตัวเล็ก เป็นเจ้าของ จนกลับมาเป็นผู้บริหารในองค์กร ผมว่ากรณีนี้มันผิดทั้งคู่นั่นแหล่ะ

ฝ่ายนึง ก็"คิด"ว่าเลี้ยงและดูแลคนของตัวเองดีแล้ว แต่ในความเป็นจริงมันอาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานในองค์กรเลยก็ได้ ซึ่งหลายๆที่ที่ขนาดเป็นองค์กรใหญ่ก็มีปัญหานี้เหมือนกัน ฉะนั้น อันนี้ก็พูดลำบาก มันเป็นความไม่ประสีประสาของตัวเจ้าของเองด้วย (ขาดประสบการณ์ในการบริหารคนและ resource นั่นแหล่ะ)

ในขณะที่ตัวพนักงานเอง ผมว่าสิ่งที่ได้อยู่ก็ไม่ได้ถือว่ามากไปนะ องค์กรดีๆสวัสดิการพวกนี้เค้ามีให้พนักงานอยู่แล้วในระดับนึง อาจจะไม่ spoil เท่านี้แต่มีแน่นอน (วงในก็มีอะไรแบบนี้ หรือพวก startup หลายๆที่ก็มี) อย่างบริษัทปัจจุบันผม บางตำแหน่งได้โทรศัพท์ บางตำแหน่งได้ค่าโทรอย่างเดียว ฯลฯ พวกนี้ผมเลยมองว่ามันเป็นเรื่อง"ปกติ"ไปแล้วกับองค์กรสมัยใหม่ และการบริหารองค์กรสมัยใหม่ มันก็มีคำพูดที่ว่า "If you're good enough, you're old enough" ซึ่งมันไม่เกี่ยวเลยว่าเด็กกว่านี้คุณทำอะไรได้ แต่ ณ ตอนนี้คุณทำอะได้ ซึ่งถ้าคุณทำได้แล้ว คุณก็ถือว่าแก่พอแล้วนั่นแหล่ะ -- ในทีมผมทุกวันนี้ คนจบปวส.ได้เงินเดือนสูงกว่าจบตรี/โทก็มีครับ ฉะนั้น อายุไม่น่าเอามาพูดแล้ว หรือการล้ำเลิกบุญคุณก็ข้ามๆไปเถอะ

แต่สิ่งที่พนักงานผิดจริงๆคือวิธีการที่จะได้มาในสิ่งที่ตัวเองมองว่า"ไม่แฟร์"ซึ่งถ้าตัวพนักงานเองมีความเป็นมืออาชีพพอ มันก็จะไม่เกิดปัญหานี้หรอก รวมถึงถ้าองค์กรมันเป็นมืออาชีพพอ มี HR จริงๆจังๆ ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดเช่นกัน เพราะจะมี HR เป็นตัวรับเรื่องจากพนักงานอยู่แล้ว

สุดท้ายนี้ ดราม่านี้ก็แสดงให้เห็นว่าทำไมเราควรจะจัดการอะไรให้มันเป็นระบบระเบียบ จะดีที่สุด ไม่ใช่พี่น้อง ครอบครัว พ่อปกครองลูก ฯลฯ หรือใดๆก็ตาม

มองอีกมุมนะ เขารับมาในช่วงที่เขาเริ่มต้น คนเก่งๆ เขาคงไม่มาทำกับคิวเท สมัยโนเนมนะ และคิวเทคงไม่ได้จ้างเริ่มต้นที่30000 แน่นอน ช่วงนั้นก็คงคิดว่าใครมีแวววเดี๋ยวเอามาปั้นเอาดีกว่าเพราะหาคนยาก

ตอนนี้ลองจบ ม.6 บอกคิวเทว่าทำไม่เป็นสักอย่างเลยคับ ขอทำงานด้วยได้ไหม คุณคิดว่าเขาจะรับไหมละคับ

ปกติบ.จ้าง เค้าต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือให้นะครับ ผมทำงานมา 6-7 บริษัท ไม่มีบ.ไหนที่ผมต้องเอาคอมตัวเองไปทำงานครับ (ตั้งแต่จบจนตอนนี้จะ 39 แล้ว)ขนาดบ.ล่าสุดผม macbook ขาดตลาดต้องรอเครื่อง ยังจ่ายชดเชยให้พนักงานตอนที่เค้าเอาเครื่องตัวเองมาใช้งานเลยครับ (คิดค่าเสื่อมต่อเดือนไป)