[RE: ย้อนรอย: ศักดิ์ ปากรอ : จากนักโทษประหาร เหลือโทษจำคุก 13 ปี,]
pprrnncchh พิมพ์ว่า:
oniznightss พิมพ์ว่า:
รู้ดีรู้เยอะในหลายๆเรื่อง แต่เรื่องการพิจารณาอภัยโทษ กับ การออกกฏหมายดันทำเป็นไม่รู้ แค่นี้ก็พอเข้าใจละว่า ความคิดของคนนั้นคืออะไร
บอกว่า คนมีอำนาจตัดสินชี้ขาดมีคนเดียว ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าจริงๆแล้ว ไม่ได้มีหน้าที่พิจารณาโดยตรง เหมือนเลือกตั้งมาแล้ว ก็ต้องเซ็นรับรอง ไม่เซ็นไม่ได้ ต่อให้ไม่ถูกใจ หรือต่อให้รู้แก่ใจว่าพวกนั้นไม่ชอบก็ต้องเซ็น
ผมไม่อยากโยงนะ ในที่สุดก็หางโผล่ ว่าทำไมสนับสนุนหลักการที่ทำให้รัฐอ่อนแอ
ก็เพราะมันคือปัญหาไงครับ ที่ต้องแก้ทั้งระบบ ถ้าไม่พูดถึงเลย มันก็หมักหมมอยู่อย่างนี้ ไม่ใช่ว่าผมอยู่ฝั่งไหน หรือเอียงไปทางไหน แค่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการแบบนี้ และมันก็เป็นปัญหาจริง ไม่ใช่รู้ว่าเป็นปัญหาแค่ไม่กล้าพูดเพราะกลัว
ต้องแก้ทั้งระบบ แต่คุณพุ่งเป้าไปที่คนคนเดียว คุณก็เป็นคนนึงที่รู้มาก แต่คุณดันแกล้งคิดไม่ออกเรื่องแค่นี้ คุณรู้ว่า ตั้งแต่ เปลี่ยนระบอบการปกครองมา อำนาจจริงๆอยู่กับใคร และใครอยู่แค่ในนามเท่านั้น อะไรอะไรก็ตาม กำเนิดโดยกลุ่มคนฝ่ายบริหาร รวมหัวกันออกกฏหมายต่างๆเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง ตั้งแต่เปลี่ยนระบอบมาแล้ว
อภัยโทษ เสนอโดยใคร คิดจากใคร สมัยอดีตเพื่ออ้างว่าเสริมสร้างพระบารมี แต่จริงๆเป็นการจำกัดอำนาจ เพราะแบบปัจจุบันนี้ ทำให้คนโจมตีได้ว่า การอภัยโทษนี้ไม่ดีน่าจะเอาออกๆไป แต่แตะต้องไม่ได้เพราะ.... ทั้งๆที่จริงๆ อะไรก็ตามในประเทศไทย สามารถปรับเปลี่ยนได้ถ้ามันไม่ทันสมัย แต่บางอย่างไม่เปลี่ยน เพื่ออะไรละ เพื่อผลประโยชน์แก่พวกเดียวกันเอง เพื่อทำให้ตัวเองมีอำนาจขึ้น
ในประเทศไทยคนคนเดียวไม่มีอำนาจที่จะออกฏฏหมายอะไรก็ได้ตามใจฉัน หรืออยู่ดีๆจะยกเลิกกฏหมายบางฉบับก็ไม่ได้เช่นกัน ถ้าไม่มีกลุ่มคนที่ถืออำนาจอยู่อย่างแท้จริงอยู่เสนอมาให้เซ็น
แล้วอำนาจนี้ก็ส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น ทำว่าทะเลาะกันจะเป็นจะตาย แต่สุดท้ายคือไรละ รู้ว่าต้องพึ่งพากัน ร่วมกันกินโต๊ะจีน