(Part 1) Intensity : Inside Liverpool "Week 1 : ตลาดซื้อขายของเราคือการฝึกซ้อม"
ก่อนหน้านี้
Klopp พูดถึง Pep Lijnders ใน Intensity : Inside Liverpool
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2184990
มีต่อแล้วนะครับ
(Part 2) Intensity : Inside Liverpool "Week 1 : ตลาดซื้อขายของเราคือการฝึกซ้อม"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2185250
(Part 3) Intensity : Inside Liverpool "Week 1 : ตลาดซื้อขายของเราคือการฝึกซ้อม"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2185775
(Part 4) Intensity : Inside Liverpool "Week 1 : ตลาดซื้อขายของเราคือการฝึกซ้อม"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2186099
มาต่อกันที่บทแรกครับ ยังไม่จบบทนะครับกลัวยาวเกินไป แต่จะแปลมาบ่อยๆครับ
"Week 1 : ตลาดซื้อขายของเราคือการฝึกซ้อม"
ผมมั่นใจว่ามีบางคนในโลกภายนอกสงสัยว่าทำไมเราตัดสินใจเตะกระชับมิตรสองนัดภายในสองวันทันทีที่กลับมาถึงลิเวอร์พูล หลังจากไปตั้งแคมป์ฝึกซ้อมพรีซีซั่นมา 4 สัปดาห์ที่ออสเตรียและฝรั่งเศส โดยเราจะเตะกับ Athletic Bilbao และ Osasuna ในแอนฟิลด์ คือเอาตรงๆเลยนะ การเตะสองวันติดต่อกันในแอนฟิลด์เป็นสิ่งที่เราอยากจะทำมานานแล้ว มันเป็นเหมือนทัวนาเม้นท์เล็กๆสำหรับการจบพรีซีซั่น ซึ่งรูปแบบมันจะคล้ายกับ Audi cup ของบาเยิน มิวนิค มันต้องเตรียมตัวค่อนข้างมากก็จริงแต่เราเชื่อว่ามันจะมีประโยชน์กับเราแน่นอน
เรากลับมาถึงลิเวอร์พูลจากเอเวียงในช่วงเย็นวันเสาร์ ที่สนามบินจอน เลนน่อนฝนตกหนักสุดๆ แต่พวกเรายังมีสปิริตที่ดีอยู่ ทีมงานหลังบ้านเห็นตรงกันว่าเดือนที่ผ่านมานั้นถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและมันจะมีผลดีต่อเราเมื่อเปิดฤดูกาลใหม่ มีบรรยากาศค่อนข้างพิเศษภายในทีมทั้งสตาฟฟ์และนักเตะในระหว่างที่เราไปตั้งแคมป์ฝึกซ้อม และเราทำให้แน่ใจว่าบรรยากาศเหล่านั้นยังคงอยู่เมื่อตอนเรากลับมาที่ลิเวอร์พูล ดังนั้น เราจึงคุยกับ Mona Nemmer เกี่ยวกับการทำปาร์ตี้บาบีคิวริมระเบียง และคุยกับ Ray Haughan ให้จัดการแข่งขันปิงปองขึ้นมาในห้องโถงใหญ่ที่ AXA Training Centre
ในช่วงเช้าของวันที่มีคิวกรชับมิตรกับ Bilbao ผมนั่งอยู่ในห้องทำงานของคลอปป์เพื่อเตรียมจัดตัวผู้เล่นลงสนามทั้งสองเกมและช่วงเวลาการเปลี่ยนตัวของพวกเขา มันเหมือนกับเป็นการประชุมทีมอาทิตย์สุดท้ายของการฝึกซ้อมก่อนที่พรีเมียร์ลีคจะเริ่มต้นขึ้นซึ่งเราจะเปิดฉากโดยการไปเยือนนอริชในนัดแรก
สำหรับเกมกับบิลเบา เราประชุมกันจบตั้งแต่ที่โรงแรม เราจึงลงมาคุมซ้อมกลุ่มนักเตะที่จะต้องลงสนามกับโอซาซูน่าในวัดถัดไป ก่อนจะขับรถไปสมทบกับทีมที่จะต้องลงเตะวันนี้
ก่อนหน้านั้น ผมได้คุยกับหนึ่งในนักวิเคราะห์ของเรา Mark Leyland เกี่ยวกับรายละเอียดการเล่นลูกเซ็ทพีชของโอซาซูน่า จริงอยู่ที่มันเป็นแค่เกมกระชับมิตรแต่สำหรับเรามันไม่ใช่ และการเตรียมพร้อมคือกุญแจสำคัญ
เมื่อผมเดินไปเหยียบหญ้าในสนามฝึกซ้อม ผมใช้เวลาช่วงหนึ่งเพื่อซึมซับกับข้อเท็จจริงที่ว่า เรากลับมาถึง “บ้าน” ของเราแล้ว พื้นสนามใน AXA Training Centre ดูโตเร็วมากหากคุณสังเกตจากห้องทีมงานโค้ช เพราะระบบ Deso (ระบบหญ้าแบบ hybrid) ทำให้หญ้าดูโตเร็วขึ้น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราชอบเพราะมันจะช่วยพัฒนาการผ่านบอลของพวกเรา คุณจะรู้เลยว่าสนามของเราดีแค่ไหนหากคุณมาเล่นที่สนามของเราและจากนั้นกลับไปเล่นที่สนามทั่วไปที่คุณเคยเล่นมา และเครดิตทั้งหมดผมยกให้แก่สตาฟฟ์ที่ดูแลสนามทั้งที่นี่และที่แอนฟิลด์
ว่ากันว่า เมื่อเราก้าวเท้าออกไปข้างนอกเราจะรู้เลยว่าเราอยู่ใน Kirkby แน่นอน เหตุผลก็คือ ลม นั่นเอง แม้ว่าเราจะติดตั้งกระจกกันลมที่แพงแสนแพงแค่ไหนก็ไม่อาจหยุดยั้งมันได้เลยในช่วงเช้าวันนี้
หลายคนถามผมเกี่ยวกับการย้ายจาก Melwood มา Kirkby ว่ารู้สึกยังไง แน่นอนว่า ที่ Melwood นั้นเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความทรงจำมากมายที่นั่น ซึ่งเรารู้ดี แต่ว่า AXA Training Centre นั้นแตกต่างและเราต้องการสร้างความทรงจำใหม่ๆที่นี้ สร้างสัญลักษณ์ใหม่ ครอบครัวใหม่ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่
จริงอยู่ที่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมาจาก Melwood ตลอดในช่วงเวลาการทำงานของพวกเราทุกคน มันคืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สุดยอดตั้งอยู่บนประวัติศาสตร์ที่แข็งแกร่ง ทีมใหม่เกิดขึ้นที่นี่ กลยุทธ์ใหม่ๆ แผนการเล่นและพรสวรรค์กลายมาเป็นเอกลักษณ์ประจำทีม และสิ่งที่เราทิ้งไว้ที่นี่แชมป์พรีเมียร์ลีค แชมป์ UCL และสามารถใส่ชื่อเราไปในประวัติศาสตร์ของทีมอันเหลือเชื่อนี้ได้ และเมื่อคำนึงถึงสิ่งต่างๆแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ถูกต้องที่ย้ายออกมาจาก Melwood
กลับมาที่นัดกระชับมิตรที่แอนฟิลด์ ผมพบว่า Nat Phillips เจ็บแฮมสตริงจึงทำให้เขาไม่อยู่ในทีม ดังนั้นเราจึงตัดสินใจให้ Rhys Williams เล่น 20 นาทีกับบิลเบาและ 30 นาทีกับโอซาซูน่าในวันถัดไป ขณะที่โกเมสและเวอร์จิลยังไม่พร้อมเล่นเต็มเกม 90 นาที และ Rhys ก้าวหน้าขึ้นอย่างมากในช่วงที่อยู่กับเรา
Rhys ได้คุยกับเยอร์เก้นช่วงซัมเมอร์และถามว่ามีแผนอะไรสำหรับเขา เยอร์เก้นบอกว่า ระยะยาวเขาจะเป็นหนึ่งในกองหลังของลิเวอร์พูลแต่ระยะสั้นเรายังไม่แน่ใจ แต่เขาจะอยู่กับทีมจนกระทั่งจบพรีซีซั่นเป็นอย่างน้อย
Rhys and Nat ช่วยชีวิตเราในฤดูกาล 2020/21 พวกเขามีรูปอันโด่งดังซึ่งเป็นรูปหลังจากจบเกมที่เจอกับ Crystal Palace ในรูปนั้น ทั้งคู่ดูสบักสบอมยืนปรบมือให้เดอะค็อปหลังจากเราจบอันดับที่สามในลีค มันจะเป็นรูปที่ไม่แปลกตาเลยหากเราอยู่กันในยุค 80s
Nat เอาหัวของเขาไปอยู่ในที่ที่คนอื่นไม่กล้าทำ สิ่งที่พวกเขาทำจนช่วยเราจบท็อปโฟร์นั้นไม่ควรถูกลืมได้เลย มันไม่ง่ายเลยที่เราไม่แพ้ใครใน 10 นัดสุดท้าย แต่ก็ชัดเจนว่าเราต้องการกองหลังตัวกลาง 5 คนในฤดูกาลหน้า โดยเฉพาะเวอร์จิลและโกเมสกำลังจะกลับมาจากอาการบาดเจ็บ เราไม่ต้องการใช้ Fabinho เป็นตัวสุดท้ายของเราอีกแล้วถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะมันจะเป็นสถานการณ์ที่ไม่ใช่แค่ไม่มีกองหลังเท่านั้น แต่เรายังเสีย “ประภาคาร” (ฉายาของ Fabinho) ในแดนกลางไปอีกด้วย
ดังนั้นถ้าหาก Nat ย้ายออกไปในตลาดนี้ เราก็รู้สึกว่าเราควรเก็บ Rhys ไว้เพราะเขาเป็นนักสู้และสื่อสารได้ดีค่อนข้างดี
Nat ไม่ใช่แค่คนเดียวเท่านั้นที่จะไม่ได้อยู่กับทีม เพราะ Shaq ก็เจ็บแฮมสตริงจากการซ้อมเช่นกัน ดังนั้นเราจึงให้โอกาสกับ Kaide Gordon ดาวรุ่งพรสวรรค์ของเราที่เคยเล่นในช่วงพรีซีซั่น ผมมองไปถึงการที่เขาลงเป็นตัวจริงที่แอนฟิลด์จริงๆนะ เพราะว่าเขาทำให้เราประทับใจมาดตลอดพรีซีซั่นที่ผ่านมา ทัศนคติ ความต้องการชัยชนะ ทักษะการเลี้ยงบอล ความปราถนาที่จะทำประตูและวิ่งสู้ฟัด เขาจะเป็นนักเตะสำคัญของเราในภายภาคหน้า ตอนนี้เขาอายุแค่ 16 ปีเอง แมวมองของเราตาแหลมสุดๆ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker