พวกพรี่ๆเค้าชอบให้นับฤดูกาลเดียว ถ้านับมาตลอด เค้าบอกยึดติดอดีต

อยากรู้ก็แจ้งความไปสิคณับ ว่ายูสนี้เล่นหลายไอดี ให้เต้าเช็คจะได้สบายใจพวกพรี่ๆ

ดีใจก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะมันเปนทีมที่คุณเชียร์ แล้วทีมก็ลงทุนไปเยอะ
ถ้าว่าวหมด ก็คงเฟลอยู่แล้ว

ความพอใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ถ้าหงส์ใช้งบแค่นี้ แต่ได้ 3 แชมป์
ซิตี้ใช้งบเพียบ แต่ได้แชมป์เดียว
อันนี้ยังดีใจอยู่ไหม (หรือแค่โล่งใจที่ไม่ว่าว) อันนี้ก็แล้วแต่คน

แต่ถ้ากลับกัน สมมุติหงส์ผมใช้เงินเยอะ แต่ได้แชมป์เดียว
แล้วทีมคู่อริอย่างแมนยูล่อกวาดไป3แชมป์ ผมไม่ดีใจแน่ๆ แค่โล่งใจว่าไม่ว่าว

มันก็มีทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ 2 ทีมแหละครับ ที่มีสถิติทุ่มซื้อนักเตะและให้ค่าเหนื่่อยบวกโบนัสมากที่สุดในลีค เพราะมีรายได้มากที่สุด
ทีมอื่น ๆที่ให้ค่าเหนื่อยเยอะมีลิเวอร์พูล เชลซี
ผมก็อยากให้ใช้เงินซื้อนักเตะดี ๆ กันทุกทีมแหละครับ จะได้ดูบอลสนุก ๆ

ใช้เงินมากน้อยไม่ใช่ประเด็น ฟุตบอลขับเคลื่อนด้วยทีมทุกรูปแบบ

แมนยูเองก็ใช้เยอะ มาดริดก็เยอะ บาซ่าก็เยอะ หลายๆทีมก็เยอะมานานแล้ว

แต่ที่สำคัญคือต้องถูกต้องตามกฎด้วย รายได้ รายจ่าย มันต้องไปด้วยกันได้ นั่นคือทีมฟุตบอล

แต่พวกเศรษฐีด้านนอกที่รวยจากอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟุตบอล แล้วมาเล่นทางลัดนำเงินเข้ามาโดยไม่ให้ตรวจสอบ

แบบนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ การบริหารโดยไม่ได้เป็นไปตามกลไกฟุตบอลแบบนี้ มันสะเทือนทำลายไปถึงทีมอื่นด้วย

แล้วผมไม่เคยอิจฉาทีมต่างๆที่อาหรับเทคจนรวยเลยนะ เพราะถ้าชื่อ อย่างมาดริด บาซ่า แมนยู ลิเวอร์ กางบนตลาดเมื่อไหร่

พวกนี้พร้อมได้คนรวยสุดต้นๆของโลกมาเทคอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ แต่รายได้ก็เมคเซ้นท์ที่จะลงทุนด้วย

เพียงแต่เจ้าของสโมสรปัจจุบันหรือใครก็ตามไม่ว่าเขาทำธุรกิจแบบไหนเราก็ควรเคารพเขาไปด้วย ไม่ใช่เอะอะต้องทำตามทีมอื่นอย่างเดียว

ผมชื่นชมการทำทีมของแมนซิตี้นะ ทั้งระบบที่สร้างรวมถึงโค้ช แต่หากต้นทางยังไม่ถูกต้องผมก็มองว่ามันไม่ควรไปภูมิใจกับเรื่องแบบนั้นอะ

เหมือนแฟนเซลซีอะ ผมเห็นเขายอมรับกันตรงๆนะว่าเงินของเจ้าของเขาสีเทา เขาก็ไม่ได้เอามาทำให้มันขาวหรือไปข่มใคร แต่ตอนนี้เขากลับมาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องแล้วเขาก็ดำเนินต่อไปอะ แบบนี้ผมว่ามันน่าชื่นชมกว่าอีก เราไม่ได้เป็นคนกำหนดตัวเงินนำเข้า เราไปเปลี่ยนแปลงทีมไม่ได้ หรือไปเลิกเชียร์ทีมไม่ได้ แต่เราก็ควรยอมรับความจริงที่มาของเงินด้วย

ไม่ใช่บอกว่า FFP ไม่ผิด จับไม่ติดแล้วคือแมนซิขาว ผมว่าเราน่าจะดูกันออกนะ ว่าเงินที่มาของแมนซิแต่เริ่มไม่พอให้ทุ่มได้ขนาดนี้หรอก แต่เอาเหอะ อย่างที่เพื่อนๆในนี้แจ้งแหละครับ ในเมื่อหลักฐานเป็นแบบนั้นก็ว่ากันไป

แต่ผมไม่เห็นด้วยนะ หากใครสักคนจะเอาเรื่องนี้มาแล้วข่มทีมอื่น ทั้งๆที่ที่มาเงินเป็นแบบนี้อะ เข้าใจแหละไม่ชอบให้โดนแขวะก่อนว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ แต่ผมว่าถ้าใช้เงินซื้อแล้วเงินมันถูกกฎหมายอะ มันก็ไม่มีอะไรต้องแคร์ อย่างผมก็ไม่แคร์ มาดริดก็เป็นทีมทุ่มเยอะทีมนึงเหมือนกัน

แต่ประเภทที่ว่า รวยเข้าว่า รวยเข้าไว้ ทำอะไรก็ไม่ผิด ถ้าเป็นชั้นก็เลือกเงิน อันนี้ผมว่าหน้ามืดไป ตั้งแต่เคสเป้ละ เราจะสนับสนุนคนผิดให้แนวทางผิดๆไม่ได้หรอก ทีตอนนักเตะหรือทีมอื่นโดนภาษีเอย อะไรเอยย้อนหลัง หรือบางทีมก็ต้องเซทการเงินใหม่อย่างบาซ่า ทำให้ตกที่นั่งลำบากแบบนี้ก็เพราะพวกเขาอยู่ในกฎนั้นแหละ แล้วมันแฟร์หรอที่ทีมอื่นๆต้องโดยลงโทษหรือโดนย้อนหลังจากกฎ แต่กับบางทีมกลับเลี่ยงจนไม่ผิดกฎหรือกฎเอาผิดไม่ได้อะ มันแฟร์หรอครับ

เอาจริงๆทุกทีมใช้เงินหมดอ่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเงินจะไปลงตรงไหนแค่นั้น

เรื่องใช้เงินเยอะมันไม่ใช่ปัญหาหรอก ใครมีเยอะก็ใช้เยอะเรื่องปกติ

ปัญหาคือที่มาของเงินต่างหาก

จำได้ว่าศาลยกฟ้องเพราะที่มาของหลักฐานไม่ถูกต้องเท่านั้นเอง

พูดถึงแมนยูใช่มั๊ย ทุ่มซะเยอะ ไม่ได้อะไรเลย

คงไม่ใช่หงส์อ่ะ เพราะหงส์ในลีคเสมอเรือ และไปชนะเอฟเอ น่าจะเป็นทีมแดงๆอีกทีมที่โดนถลุงถังขี้ไปกลับอ่ะ

กำไรลิ้วพูลพอมีบ้างครับ แต่ที่ผ่านมาเอาไปทำสนามซ้อม เอาไปขยายสนามแข่ง ไม่เหลือแล้วครับ รายได้หลักก็มาจากสปอนเซอร์ ค่าตั๋ว กับเงินรางวัล เงินจากเจ้าของตรงๆเอาไปลง พัฒนาสโมสรระยะยาวหมด

ทุกทีมใช้เงินจริง แต่การที่เจ้าของอัดเงินให้ เค้าไม่ได้อัดเข้าไปเปล่าๆ ส่วนมากจะเป็นการให้กู้ยืมแบบมีดอกเบี้ยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเชลซีก็กู้เสี่ยหมี แมนยูเองก็เป็นหนี้เกลเซอร์โดนดึงดอกเบี้ยคืนทุกปี ส่วนลิพูเองก็มีหนี้กับ FSG เหมือนกันแต่ล่าสุดน่าจะเหลือต่ำกว่า 100 ล้านแล้ว ซึ่งเงินกู้พวกนี้จะเอาไปใช้ปรับปรุงสาธารณูปโภคและการบริหารงานได้เท่านั้น เอาไปซื้อตัวไม่ได้

แต่ที่เชลซีกับแมนยูซื้อตัวได้เยอะ นั่นเพราะว่าเค้าหาเงินได้เยอะเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น เชลซีเป็นทีมที่ทำเงินจากการขายผู้เล่น (ทั้งตัวจริงและดาวรุ่ง) ได้มากสุดในลีก ในช่วง 10 ปีหลังทำเงินไป 600 ล้านมั้ง เยอะกว่าที่สองเท่าตัว (จำไม่ได้ว่าที่สองลิพูหรือสเปอร์ แต่ยอดอยู่ประมาณ 300 ล้านเองนี่แหละ) ถ้านับเฉพาะ 5 ปีหลังก็ยังเยอะสุดอยู่ดี



ในขณะที่แมนยูเป็นทีมที่มีรายได้ Matchday และ Commercial รวมกันสูงสุดในลีก สองทีมเลยใช้เงินพวกนี้มาซื้อตัวได้ และใช้เงินเจ้าของมาช่วยการบริหารงานและปรับปรุงสาธารณูปโภคต่างๆแทน



แม้ซิตี้จะหารายได้มาได้มากขึ้นหลังโดนเทค แต่ก็ไม่ได้ถือว่าได้เยอะกว่าทีมอื่นในลีกแบบทิ้งขาด ซึ่งถ้านับ 10 2012 - 2020 รายได้ Top 6 คือ

1. Man United : 4333 ลป
2. Man City : 3602 ลป
3. Chelsea : 3140 ลป
4. Liverpool : 3093 ลป
5. Arsenal : 3007 ลป
6. Tottenham : 2416 ลป

รวมๆแล้วซิตี้เองหารายได้ได้น้อยกว่าแมนยู 600 ล้าน มากกว่าลิพู เชลซี และอาเซนอล 600 ล้านเท่าๆกัน

ต่อมาคือส่วนของหนี้สิน



ซึ่งก็น่าสนใจ เพราะซิตี้ลงทุนสาธารณูปโภคเกี่ยวกับสนามแข่งและสนามซ้อมเยอะมาก อย่าง Etihad Campus จ่ายไป 200 ล้านมั้ง แพงกว่า AXA ของลิเวอร์พูล (50 ล้าน) และเลสเตอร์อีก (100 ล้าน) ในขณะที่การซื้อตัวก็กดไปพันกว่าล้านมาพอๆกับแมนยู แต่กลับไม่มีหนี้สินเลย

แมนยูหาเงินได้เยอะ ซื้อตัวเยอะ ลงทุนน้อย มีหนี้
ลิเวอร์พูลหาเงินได้กลางๆ ซื้อตัวกลางๆ ลงทุนเยอะ มีหนี้
เชลซีหาเงินได้กลางๆ ซื้อตัวกลางๆ ลงทุนกลางๆ มีหนี้

ซิตี้หาเงินได้กลางๆค่อนไปเยอะ ซื้อตัวเยอะ ลงทุนเยอะ ... ไม่มีหนี้

แมนซิตี้ ตั้งแต่ โดนเทคมา 200m เมื่อปี 2008 ก็ถลุงเงินปีละ100-300ล้านเกือบทุกปี

ดู Squad ของทีม คือสามารถจัด2ทีมแข่งกันเองยังได้ โกงจัดๆ ซื้อนักเตะ100mมาสำรองได้

โค้ชที่เข้ามาคุม คือมีเงินช๊อป อย่างน้อย100mขึ้น ไม่ต้องห่วงเพดานค่าเหนื่อยนักเตะ เล่นดีตัวหลักก็ต่อสัญญาสบายๆ

ช่วงแรกๆทุ่มนักเตะ20-40m ช่วงนั้น 40m คือแพงเกือบสุดของพรีเมียร์ คล้ายๆช่วงเชลซีโดนเทคแรกๆ แต่บริหารดีจนเจ้าของ ไม่ต้องควักเงินมาทุ่มมาก

ตอนนี้ส่วนใหญ่จะโดนเทียบกับหงส์ ที่คลอปเข้ามา งบไม่ได้เยอะ ต้องขาย ซัวเรส สเตอริ่ง คูตินโย่ถึงจะมีเงินเสริม เพดานค่าเหนื่อยก่อนหน้าก็แค่200k เพิ่งจะมาเพิ่มตอนต่อสัญญา ฟานไดจ

มันเลยทำให้ทีมท่าน ไม่ค่อยได้รับเกียรติมากเหมือนตอนหงส์ได้แชมป์ ส่วนแฟนทีมอื่นอย่างปืน โคตรไม่ชอบแมนซิตี้ เพราะ ชอบมาดูดนักเตะ อเดบายอ คลีชี่ ซานย่า นาสรี่ ตูเร่

ช่วงแรกเหมือน ทีมตกถังข้าวสาร ช๊อปแหลก ช่วงเปีปคุมดีหน่อย ซื้อตัวที่อยากได้จริงๆ

โรบินโย่ 43m
โช 24m
เตเบส 29m
อเดบายอ 29m
เลสคอต 27.5m
ซานตาครูส 21.2m
โคโร่ตูเร่ 18.7m
เชโก้37m
ยาย่า 30m
บาโรเตลี่ 29.5 m
ซิลบา 28.75m
โคราลอฟ 23.86 m
มิลเนอ 22 m
เอลกุน 40 m
นาสรี่ 27.5 m
โจเวติส 26 m
มองกาล่า 45 m
โบนี่ 32.3 m
โอตาเมนดี้ 44.5 m
ดานิโล่ 30 m
เฟอราน 33.5 m
ซาเน่ 52m

ใช้มากใช้น้อยไม่เกี่ยว ถ้าหาเงินได้เยอะพอใช้ (แม้จะดูเทาๆถ้าคนคุมกฏบอกไม่ผิดก็คือไม่ผิด)
ประเด็นน่าจะอยู่ว่าใช้มากและสำเร็จมั้ย
เหมือน ซิตี้ เชลซี ลงทุนเยอะก็ประสบความสำเร็จ
หงส์ใช้เยอะเหมือนกันและสำเร็จด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะไม่เยอะแบบบ้าเลือดก็ตาม

ส่วน ผี ปืน เอฟ ก็ใช้เยอะแต่ก็ยังไม่สำเร็จมากนัก เอฟนี่หนักสุด
เท่าที่ดูโค้ชนี่สำคัญสุดๆ ปีหน้าผมเดาว่า ซิตี้ สิงห์ หงส์ ไก่ ทีมหลักแย่งแชมป์
ผี ปืน ลุ้นสอดแทรก (ไม่ให้ผีเต็งเพราะคิด ETH ต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับทีม)

จะนับอะไรตอนไหนก็แล้วแต่คุณเลยครับตามสบาย