ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: อย่าลืมโต๊ด บน ล่าง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 8861
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:12
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
ยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบคนละเรื่องกันเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Aug 2007
ตอบ: 6679
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:12
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
MachineRedz พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
MachineRedz พิมพ์ว่า:
แล้วเวลากู้เงินมาสร้างห้องเช่า เราต้องเอาเงินจากห้องเช่ามาจ่ายค่ากู้มั้ยครับ

ถ้าใช่ก็ไม่น่าต่างกันนะ สมมติว่า บริษัท A ลงทุนซื้อบริษัท B แล้วบริษัท A เสียเงินไป 200 ล้าน

บริษัท A ต้องการถอนทุนคืนมั้ย ? ยกตัวอย่างแต่ เชลซี / แมนซิ แล้วทีมอย่าง มาดริด บาซ่า

เค้าไม่ได้มีเงินจากเจ้าของมาอัดฉีดอ่ะ ก็ยังบริหารไปกันได้นิ่ ผมเข้าใจนะว่าปัญหาจริงๆมันน่าจะเป็น

ไปทุ่มในนักเตะที่ไม่ควรทุ่ม หรือ พลาดเป้าหมายหลักแบบน่าเขกกะโหลกเพราะการเจรจาหรือเหตุผลด้านฟุตบอลไม่ค่อยดี

ภาพด้านล่างเป็น Activities ของ Transfer ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานะครับ นอกจากแมนซิแล้วก็แมนยูเนี่ยแหละนะ ดูยอดสิ

ถ้าคนมันจะสูบอ่ะ แล้วเน้นแต่ตัวเงินมันต้องไม่ออกมาแดงแจ๋ขนาดนี้ครับ
 


เด็กหงส์หลายคนที่มาตอบไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นครับ เหมือนที่คุณกำลังอธิบาย มันไม่ใช่ต้นเหตุแห่งความเกลียดชัง ถ้าเด็กหงส์คิดว่าดี แล้วไล่ฮิคส์กับยิลเล็ตทำไม ฮิคส์ ยิลเล็ต กับ เกลเซอร์ ต่างกันแค่ ในตอนที่หนี้ครบกำหนด เกลเซอร์หาวิธี refinace หนี้ทัน ส่วนฮิคส์กับยิลเล็ต หาไม่ทัน ส่วนหนึ่งก็โดนบีบจากเจ้าหนี้ แฟนบอล บอร์ดบริหาร แม้แต่สภาเมืองก็มีส่วน ถ้าฮิคส์กับยิลเล็ต ไม่โดนรุมกระทืบ อาจ refinance ทันก็ได้ ด้วยดอกเบี้ยที่สูงกว่าเดิม แล้วมาโปะ ให้สโมสรจ่ายดอกเบี้ยแทน

ประเด็นงบซื้อนักเตะในยุคหลังป๋าวางมือ เพราะฐานะการเงินสโมสรดีขึ้นแล้ว จากการเข้าตลาดหุ้น ทำให้หนี้ลดบางส่วน แต่หนี้ก้อนใหญ่มันก็ยังคาไว้ที่เดิม งบลงทุน ถ้าเกลเซอร์ควักเงินส่วนตัว ผมจะซาบซึ้งมาก แต่ถ้าเอามาจากกระแสเงินภายในสโมสร แล้วมันดียังไงครับ สุดท้ายก็เงินสโมสรที่แบกทั้งหมด ทั้งดอกเบี้ย งบดำเนินธุรกิจทุกอย่าง ค่าตัวค่าเหนื่อยนักเตะ แล้วยังต้องปันผลให้เจ้าของอีก  

ผมอ่านคอมเม้นท่านก่อนหน้านี้แล้วครับ พอเข้าใจเบื้องหลังละ แต่สิ่งที่ยากมันก็มีอยู่จริงๆนะ คือ มูลค่าสโมสรมันไม่ง่ายที่ใครจะเทคได้เนี่ยแหละ

 


ปี 2010 มีกลุ่มแฟนบอลแมนยูฯ เรียกตนเองว่า Red Knight พบายามเข้าซื้อสโมสรด้วยเงิน 1 พันล้านปอนด์ แต่เกลเซอร์ปฏิเสธไม่ยอมขายครับ จะเอา 1.5 พันล้าน มองในแง่นักธุรกิจ โคตรฉลาด โคตรเขี้ยว แต่ในแง่แฟนบอล สโมสรเหมือนตัวประกัน กับ แหล่งสูบเงิน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 602
ที่อยู่: ขั้วโลกเหนือ
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:13
หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
rocky99 พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  


ขอบคุณที่ตอบให้ครับ แฟนบอลหลายๆคนไม่เข้าใจตรงนี้จริงๆครับ  

อย่างไรเหรอครับบอกผมได้หรือไม่ Leverage buyout ทำไมดอกเบี้ยเอามาลดภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่ได้เหรอครับ
ผมไม่เคยได้ยิน

หรือกฏต่างประเทศไม่เหมือนกันท่านพอจะมีแหล่งข้อมูลมั้ยครับ ที่ท่านอ่านมาก็ได้ ผมอยากลองศึกษาเรื่งนี้เพิ่มเติมครับผม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2006
ตอบ: 1729
ที่อยู่: KMITL
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:16
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

ท่านหมายถึงว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไม่สะท้อนในงบกำไรขาดทุนเพื่อผลประโยชน์ในทางภาษีเหรอฮะเรื่องหนี้ถ้าผมเข้าใจผิดก็โอเคฮะ

แต่ผมไม่ได้พูดถึงหนี้ทั้งก้อนนะผมพูดถึงดอกเบี้ยนะฮะ เพราะปกติดอกเบี้ยจะสะท้อนเป็นค่าใช้จ่ายในปีนั้นๆเพื่อลดกำไรและทำให้ต้องเสียภาษีน้อยลง

ผมไม่แน่ใจว่าในกรณีนี้ดอกเบี้ยในแต่ละปีถึงไม่ถูกสะท้อนในงบกำไรขาดทุน เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย แต่ถ้าท่านมั่นใจก็โอเคฮะ เพราะผมพิมพ์จากเซ้นส์ปกติที่ผมอ่านงบและไม่มีความรู้กฏหมายต่างประเทศขนาดนั้น

 


เงินซื้อสโมสร ไม่ใช่รายจ่ายของสโมสร แต่ดอกเบี้ยคือรายจ่ายเต็มๆ ภาษีที่ลดได้ก็ลดจากดอกเบี้ยเท่านั้น

ที่ได้ประโยชน์จากภาษี คือตัวเกลเซอร์เอง ไม่ใช่แมนยูได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ชมนางแบบจีนน่ารักๆได้ที่ >> https://www.facebook.com/preorderkk
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: LFC and Relax moment
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 20940
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:16
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
REdTurtle พิมพ์ว่า:
MachineRedz พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
MachineRedz พิมพ์ว่า:
แล้วเวลากู้เงินมาสร้างห้องเช่า เราต้องเอาเงินจากห้องเช่ามาจ่ายค่ากู้มั้ยครับ

ถ้าใช่ก็ไม่น่าต่างกันนะ สมมติว่า บริษัท A ลงทุนซื้อบริษัท B แล้วบริษัท A เสียเงินไป 200 ล้าน

บริษัท A ต้องการถอนทุนคืนมั้ย ? ยกตัวอย่างแต่ เชลซี / แมนซิ แล้วทีมอย่าง มาดริด บาซ่า

เค้าไม่ได้มีเงินจากเจ้าของมาอัดฉีดอ่ะ ก็ยังบริหารไปกันได้นิ่ ผมเข้าใจนะว่าปัญหาจริงๆมันน่าจะเป็น

ไปทุ่มในนักเตะที่ไม่ควรทุ่ม หรือ พลาดเป้าหมายหลักแบบน่าเขกกะโหลกเพราะการเจรจาหรือเหตุผลด้านฟุตบอลไม่ค่อยดี

ภาพด้านล่างเป็น Activities ของ Transfer ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานะครับ นอกจากแมนซิแล้วก็แมนยูเนี่ยแหละนะ ดูยอดสิ

ถ้าคนมันจะสูบอ่ะ แล้วเน้นแต่ตัวเงินมันต้องไม่ออกมาแดงแจ๋ขนาดนี้ครับ
 


เด็กหงส์หลายคนที่มาตอบไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นครับ เหมือนที่คุณกำลังอธิบาย มันไม่ใช่ต้นเหตุแห่งความเกลียดชัง ถ้าเด็กหงส์คิดว่าดี แล้วไล่ฮิคส์กับยิลเล็ตทำไม ฮิคส์ ยิลเล็ต กับ เกลเซอร์ ต่างกันแค่ ในตอนที่หนี้ครบกำหนด เกลเซอร์หาวิธี refinace หนี้ทัน ส่วนฮิคส์กับยิลเล็ต หาไม่ทัน ส่วนหนึ่งก็โดนบีบจากเจ้าหนี้ แฟนบอล บอร์ดบริหาร แม้แต่สภาเมืองก็มีส่วน ถ้าฮิคส์กับยิลเล็ต ไม่โดนรุมกระทืบ อาจ refinance ทันก็ได้ ด้วยดอกเบี้ยที่สูงกว่าเดิม แล้วมาโปะ ให้สโมสรจ่ายดอกเบี้ยแทน

ประเด็นงบซื้อนักเตะในยุคหลังป๋าวางมือ เพราะฐานะการเงินสโมสรดีขึ้นแล้ว จากการเข้าตลาดหุ้น ทำให้หนี้ลดบางส่วน แต่หนี้ก้อนใหญ่มันก็ยังคาไว้ที่เดิม งบลงทุน ถ้าเกลเซอร์ควักเงินส่วนตัว ผมจะซาบซึ้งมาก แต่ถ้าเอามาจากกระแสเงินภายในสโมสร แล้วมันดียังไงครับ สุดท้ายก็เงินสโมสรที่แบกทั้งหมด ทั้งดอกเบี้ย งบดำเนินธุรกิจทุกอย่าง ค่าตัวค่าเหนื่อยนักเตะ แล้วยังต้องปันผลให้เจ้าของอีก  

ผมอ่านคอมเม้นท่านก่อนหน้านี้แล้วครับ พอเข้าใจเบื้องหลังละ แต่สิ่งที่ยากมันก็มีอยู่จริงๆนะ คือ มูลค่าสโมสรมันไม่ง่ายที่ใครจะเทคได้เนี่ยแหละ

 


ปี 2010 มีกลุ่มแฟนบอลแมนยูฯ เรียกตนเองว่า Red Knight พบายามเข้าซื้อสโมสรด้วยเงิน 1 พันล้านปอนด์ แต่เกลเซอร์ปฏิเสธไม่ยอมขายครับ จะเอา 1.5 พันล้าน มองในแง่นักธุรกิจ โคตรฉลาด โคตรเขี้ยว แต่ในแง่แฟนบอล สโมสรเหมือนตัวประกัน กับ แหล่งสูบเงิน  

แต่มูลค่าสโมสรตอนนั้นมันเกิน 1 พันล้าน เลยนิ่ครับ เค้าไม่ตอบรับ ราคาเท่ามูลค่าไม่น่าแปลกนะ

เพราะราคาซื้อขายจริง ถ้ามีคนยื่นก็คงได้มากกว่านั้น
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Aug 2007
ตอบ: 6679
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:18
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

เรื่องเป้าหมายสูงสุดของสโมสรฟุตบอลไม่ใช่กำไรขาดทุน ผมคงเห็นด้วยไม่ได้จริงๆฮะ ถ้าคุณจะไม่แสวงหากำไรก็ไปทำองค์กรไม่แสวงหากำไรฮะ

ไม่ควรเอามาเข้าตลาดเพื่อระดมทุนหาเงินมาลงทุนจากนักลงทุนที่ต้องการกำไร

ผมเข้าใจแฟนบอลนะว่าแฟนบอลเองมีความผูกพันกับสโมสร แต่สุดท้ายแล้วหากสโมสรล้มคนที่ซวยที่สุดไม่ใช่แฟนบอลหรอกฮะคนที่ถือหุ้นต่างหาก

อีกนัยนึงการบอกว่าเป็นสโมสรที่หนี้สินล้นพ้นตัว มันต้องดูว่าเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดกำไร หรือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรครับ

ตราบใดที่เป็นหนี้ที่ช่วยปั่นให้เกิดกระแสเงินสดช่วยให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ผมไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกัน

เพราะอย่างที่บอกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ย(ผมเชื่อว่าหนี้ที่ท่านว่าเป็นหนี้รวมๆกันไม่ใช่แค่ก้อนเดียวที่กู้มาซื้อ) ดังนั้นดอกเบี้ยส่วนอื่นเอามาหักรายได้ ภาษีที่หักไปเยอะกว่าดอกเบี้ยที่จ่าย จึงคุ้มค่ากว่าการยอมจ่ายภาษีแบบไม่จ่ายดอกเบี้ยอีกฮะ

แน่นอนว่ามีหนี้มีความเสี่ยงแต่ถ้าเจ้าของบริหารความเสี่ยงดีรันสโมสรต่อไปได้จะไปโทษเจ้าของได้อย่างไรครับ  


ผมคิดว่าคุณยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่บ้างนะครับ ผมเองก็เก็บรายละเอียดไม่หมด ผ่านมาหลายปีแล้ว ลองอ่านจากข่าวนี้ก็ได้ครับ

https://www.theguardian.com/football/2021/may/02/timeline-glazers-and-their-turbulent-reign-at-manchester-united

ส่วนเรื่องสโมสรกับองค์กรแสวงหากำไร แล้วแต่มุมมองแต่ละคนครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 602
ที่อยู่: ขั้วโลกเหนือ
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:23
หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

ท่านหมายถึงว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไม่สะท้อนในงบกำไรขาดทุนเพื่อผลประโยชน์ในทางภาษีเหรอฮะเรื่องหนี้ถ้าผมเข้าใจผิดก็โอเคฮะ

แต่ผมไม่ได้พูดถึงหนี้ทั้งก้อนนะผมพูดถึงดอกเบี้ยนะฮะ เพราะปกติดอกเบี้ยจะสะท้อนเป็นค่าใช้จ่ายในปีนั้นๆเพื่อลดกำไรและทำให้ต้องเสียภาษีน้อยลง

ผมไม่แน่ใจว่าในกรณีนี้ดอกเบี้ยในแต่ละปีถึงไม่ถูกสะท้อนในงบกำไรขาดทุน เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย แต่ถ้าท่านมั่นใจก็โอเคฮะ เพราะผมพิมพ์จากเซ้นส์ปกติที่ผมอ่านงบและไม่มีความรู้กฏหมายต่างประเทศขนาดนั้น

 


หลังเกลเซอร์เทค สโมสรพลิกจากกำไรม่เป็นขาดทุนหลายปีมากครับ เพราะ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมันมากกว่ากำไรเยอะ หนี้ในลักษณะที่เกลเซอร์กู้มาเทคสโมสร ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยปกติครับ ถ้าจำไม่ผิดกู้จากพวก hedge fund ดอกปีนึง 10 กว่าเปอร์เซนต์ ไม่ใช่ดอกเบี้ยตามที่แบงค์ทั่วไปปล่อยกู้  

แล้วยังไงเหรอครับ มันไม่ช่วยเรื่องผลประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างไรเหรอครับ

จากที่ท่านพูดมามันก็คือมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเยอะซึ่งก็คือสะท้อนในงบกำไรขาดทุนใช่มั้ยฮะ

สรุปก็คือมันเพิ่มความเสี่ยงนั่นแหละ แต่หากมองด้านการเงินวิธีนี้ทำให้สโมสรได้กำไรสำหรับปีเยอะกว่าการลงทุนแบบไม่มีหนี้เลยนะฮะ

นอกจากนี้รู้สึกว่าหนี้ก็ได้เคลียไปตลอดๆจนเสี่ยงต่ำมากๆแล้ว ดังนั้นมีส่วนไหนที่เกลเซอร์ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้มาซื้อเหรอฮะ ผมคิดไม่ออกจริงๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Aug 2007
ตอบ: 6679
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:25
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

ท่านหมายถึงว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไม่สะท้อนในงบกำไรขาดทุนเพื่อผลประโยชน์ในทางภาษีเหรอฮะเรื่องหนี้ถ้าผมเข้าใจผิดก็โอเคฮะ

แต่ผมไม่ได้พูดถึงหนี้ทั้งก้อนนะผมพูดถึงดอกเบี้ยนะฮะ เพราะปกติดอกเบี้ยจะสะท้อนเป็นค่าใช้จ่ายในปีนั้นๆเพื่อลดกำไรและทำให้ต้องเสียภาษีน้อยลง

ผมไม่แน่ใจว่าในกรณีนี้ดอกเบี้ยในแต่ละปีถึงไม่ถูกสะท้อนในงบกำไรขาดทุน เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย แต่ถ้าท่านมั่นใจก็โอเคฮะ เพราะผมพิมพ์จากเซ้นส์ปกติที่ผมอ่านงบและไม่มีความรู้กฏหมายต่างประเทศขนาดนั้น

 


หลังเกลเซอร์เทค สโมสรพลิกจากกำไรม่เป็นขาดทุนหลายปีมากครับ เพราะ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมันมากกว่ากำไรเยอะ หนี้ในลักษณะที่เกลเซอร์กู้มาเทคสโมสร ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยปกติครับ ถ้าจำไม่ผิดกู้จากพวก hedge fund ดอกปีนึง 10 กว่าเปอร์เซนต์ ไม่ใช่ดอกเบี้ยตามที่แบงค์ทั่วไปปล่อยกู้  

แล้วยังไงเหรอครับ มันไม่ช่วยเรื่องผลประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างไรเหรอครับ

จากที่ท่านพูดมามันก็คือมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเยอะซึ่งก็คือสะท้อนในงบกำไรขาดทุนใช่มั้ยฮะ

สรุปก็คือมันเพิ่มความเสี่ยงนั่นแหละ แต่หากมองด้านการเงินวิธีนี้ทำให้สโมสรได้กำไรสำหรับปีเยอะกว่าการลงทุนแบบไม่มีหนี้เลยนะฮะ

นอกจากนี้รู้สึกว่าหนี้ก็ได้เคลียไปตลอดๆจนเสี่ยงต่ำมากๆแล้ว ดังนั้นมีส่วนไหนที่เกลเซอร์ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้มาซื้อเหรอฮะ ผมคิดไม่ออกจริงๆ  


ถ้าวิธีการที่คุณบอกมาดีจริง ทำไมไม่มีสโมสรอื่นใช้เลยครับ เคสที่ใกล้เคียงกัน เจ้าของก็โดนขับไล่หมด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Jan 2011
ตอบ: 6321
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:29
หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
คุณท่านจะต่อปีระมิดกันเหรอ​ spoil​ ก็ได้​ 555​ ปล.​จขกท​ อยากให้ลองทำธุรกิจเล็กๆดูครับ​ สิ่งที่เกลเซอลงทุน​ นักตะที่ซื้อ​กี่ตัวแล้วราคาเท่าไร​ ปลิงกับการลงทุนเก็บไปคิดนะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2006
ตอบ: 1729
ที่อยู่: KMITL
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:30
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

เรื่องเป้าหมายสูงสุดของสโมสรฟุตบอลไม่ใช่กำไรขาดทุน ผมคงเห็นด้วยไม่ได้จริงๆฮะ ถ้าคุณจะไม่แสวงหากำไรก็ไปทำองค์กรไม่แสวงหากำไรฮะ

ไม่ควรเอามาเข้าตลาดเพื่อระดมทุนหาเงินมาลงทุนจากนักลงทุนที่ต้องการกำไร

ผมเข้าใจแฟนบอลนะว่าแฟนบอลเองมีความผูกพันกับสโมสร แต่สุดท้ายแล้วหากสโมสรล้มคนที่ซวยที่สุดไม่ใช่แฟนบอลหรอกฮะคนที่ถือหุ้นต่างหาก

อีกนัยนึงการบอกว่าเป็นสโมสรที่หนี้สินล้นพ้นตัว มันต้องดูว่าเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดกำไร หรือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรครับ

ตราบใดที่เป็นหนี้ที่ช่วยปั่นให้เกิดกระแสเงินสดช่วยให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ผมไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกัน

เพราะอย่างที่บอกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ย(ผมเชื่อว่าหนี้ที่ท่านว่าเป็นหนี้รวมๆกันไม่ใช่แค่ก้อนเดียวที่กู้มาซื้อ) ดังนั้นดอกเบี้ยส่วนอื่นเอามาหักรายได้ ภาษีที่หักไปเยอะกว่าดอกเบี้ยที่จ่าย จึงคุ้มค่ากว่าการยอมจ่ายภาษีแบบไม่จ่ายดอกเบี้ยอีกฮะ

แน่นอนว่ามีหนี้มีความเสี่ยงแต่ถ้าเจ้าของบริหารความเสี่ยงดีรันสโมสรต่อไปได้จะไปโทษเจ้าของได้อย่างไรครับ  


กู้เงินมาเทคสโมสรมันไม่ถือว่าเป็นรายจ่ายสโมสร(มันคือรายจ่ายส่วนตัวของเกลเซอร์เอง)แล้วจะมาหักกับกำไรเพื่อลดภาษี แล้วบอกดอกถูกกว่าภาษี มันไม่ใช่แล้วครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ชมนางแบบจีนน่ารักๆได้ที่ >> https://www.facebook.com/preorderkk
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 602
ที่อยู่: ขั้วโลกเหนือ
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:30
หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
rocky99 พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

ท่านหมายถึงว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไม่สะท้อนในงบกำไรขาดทุนเพื่อผลประโยชน์ในทางภาษีเหรอฮะเรื่องหนี้ถ้าผมเข้าใจผิดก็โอเคฮะ

แต่ผมไม่ได้พูดถึงหนี้ทั้งก้อนนะผมพูดถึงดอกเบี้ยนะฮะ เพราะปกติดอกเบี้ยจะสะท้อนเป็นค่าใช้จ่ายในปีนั้นๆเพื่อลดกำไรและทำให้ต้องเสียภาษีน้อยลง

ผมไม่แน่ใจว่าในกรณีนี้ดอกเบี้ยในแต่ละปีถึงไม่ถูกสะท้อนในงบกำไรขาดทุน เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย แต่ถ้าท่านมั่นใจก็โอเคฮะ เพราะผมพิมพ์จากเซ้นส์ปกติที่ผมอ่านงบและไม่มีความรู้กฏหมายต่างประเทศขนาดนั้น

 


เงินซื้อสโมสร ไม่ใช่รายจ่ายของสโมสร แต่ดอกเบี้ยคือรายจ่ายเต็มๆ ภาษีที่ลดได้ก็ลดจากดอกเบี้ยเท่านั้น

ที่ได้ประโยชน์จากภาษี คือตัวเกลเซอร์เอง ไม่ใช่แมนยูได้  

ตามท่านบอกเลยครับภาษีของสโมสรถูกลดลงจากดอกเบี้ยจ่ายที่ถือเป็นต้นทุนทางการเงินในแต่ละปี

ซึ่งโดยปกติมันคุ้มค่ากว่าการดำเนินธุรกิจแบบปกติโดยไม่มีหนี้เลยไม่ใช่เหรอครับ มันก็เป็นวิธีที่บริษัทที่ทำธุรกิจทั่วไปทำมาโดยตลอด

ผมเลยไม่เข้าใจว่าแมนยูก็ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย(ซึ่งทำให้สโมสรได้กำไรในแต่ละปีเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำเทียบกับไม่มีดอกเบี้ยเลย)

แลกกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นซึ่งเจ้าของทีมก็บริหารจนเคลียหนี้ไปได้เยอะแล้ว

ดังนั้นส่วนไหนที่ผมเข้าใจผิดเหรอฮะท่าน
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย liean เมื่อ Tue May 04, 2021 00:31, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2006
ตอบ: 1729
ที่อยู่: KMITL
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:41
[RE: หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน]
liean พิมพ์ว่า:
rocky99 พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

ท่านหมายถึงว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไม่สะท้อนในงบกำไรขาดทุนเพื่อผลประโยชน์ในทางภาษีเหรอฮะเรื่องหนี้ถ้าผมเข้าใจผิดก็โอเคฮะ

แต่ผมไม่ได้พูดถึงหนี้ทั้งก้อนนะผมพูดถึงดอกเบี้ยนะฮะ เพราะปกติดอกเบี้ยจะสะท้อนเป็นค่าใช้จ่ายในปีนั้นๆเพื่อลดกำไรและทำให้ต้องเสียภาษีน้อยลง

ผมไม่แน่ใจว่าในกรณีนี้ดอกเบี้ยในแต่ละปีถึงไม่ถูกสะท้อนในงบกำไรขาดทุน เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย แต่ถ้าท่านมั่นใจก็โอเคฮะ เพราะผมพิมพ์จากเซ้นส์ปกติที่ผมอ่านงบและไม่มีความรู้กฏหมายต่างประเทศขนาดนั้น

 


เงินซื้อสโมสร ไม่ใช่รายจ่ายของสโมสร แต่ดอกเบี้ยคือรายจ่ายเต็มๆ ภาษีที่ลดได้ก็ลดจากดอกเบี้ยเท่านั้น

ที่ได้ประโยชน์จากภาษี คือตัวเกลเซอร์เอง ไม่ใช่แมนยูได้  

ตามท่านบอกเลยครับภาษีของสโมสรถูกลดลงจากดอกเบี้ยจ่ายที่ถือเป็นต้นทุนทางการเงินในแต่ละปี

ซึ่งโดยปกติมันคุ้มค่ากว่าการดำเนินธุรกิจแบบปกติโดยไม่มีหนี้เลยไม่ใช่เหรอครับ มันก็เป็นวิธีที่บริษัทที่ทำธุรกิจทั่วไปทำมาโดยตลอด

ผมเลยไม่เข้าใจว่าแมนยูก็ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย(ซึ่งทำให้สโมสรได้กำไรในแต่ละปีเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำเทียบกับไม่มีดอกเบี้ยเลย)

แลกกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นซึ่งเจ้าของทีมก็บริหารจนเคลียหนี้ไปได้เยอะแล้ว

ดังนั้นส่วนไหนที่ผมเข้าใจผิดเหรอฮะท่าน  


มันดียังไงครับ ดอกเบี้ยคือรายจ่าย 100% ภาษีคือลดได้สมมติ 40% ก้เท่ากับว่าต้องจ่ายดอกหักลดหย่อนแล้ว 60% เทียบกับ 0% มันคุ้มค่าตรงไหน ท่านเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนมั้ย

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะ

รายได้ 100 รายจ่าย(ดอก) 50 กำไร 50 ภาษี 40% = 20 สรุปเหลือกำไร 30

ถ้าไม่มีดอก รายได้ 100 รายจ่ายไม่มี ภาษี 40% = 40 สรุปเหลือกำไร 60

แต่เอาจริงๆ ดอกเบี้ยจากการเทคสโมสร อาจไม่ได้รับการลดหย่อนภาษีให้แมนยูก็ได้ เพราะมันไม่ใช่รายจ่ายโดยตรงของสโมสร ไม่เหมือนดอกเบี้ยจากเงินกู้สร้างสนามแบบอาเซน่อลหรือสเปอร์สนะครับ เพราะนั่นคือการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรโดยตรง



แก้ไขล่าสุดโดย rocky99 เมื่อ Tue May 04, 2021 00:46, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ชมนางแบบจีนน่ารักๆได้ที่ >> https://www.facebook.com/preorderkk
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 602
ที่อยู่: ขั้วโลกเหนือ
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:51
หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

ท่านหมายถึงว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไม่สะท้อนในงบกำไรขาดทุนเพื่อผลประโยชน์ในทางภาษีเหรอฮะเรื่องหนี้ถ้าผมเข้าใจผิดก็โอเคฮะ

แต่ผมไม่ได้พูดถึงหนี้ทั้งก้อนนะผมพูดถึงดอกเบี้ยนะฮะ เพราะปกติดอกเบี้ยจะสะท้อนเป็นค่าใช้จ่ายในปีนั้นๆเพื่อลดกำไรและทำให้ต้องเสียภาษีน้อยลง

ผมไม่แน่ใจว่าในกรณีนี้ดอกเบี้ยในแต่ละปีถึงไม่ถูกสะท้อนในงบกำไรขาดทุน เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย แต่ถ้าท่านมั่นใจก็โอเคฮะ เพราะผมพิมพ์จากเซ้นส์ปกติที่ผมอ่านงบและไม่มีความรู้กฏหมายต่างประเทศขนาดนั้น

 


หลังเกลเซอร์เทค สโมสรพลิกจากกำไรม่เป็นขาดทุนหลายปีมากครับ เพราะ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมันมากกว่ากำไรเยอะ หนี้ในลักษณะที่เกลเซอร์กู้มาเทคสโมสร ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยปกติครับ ถ้าจำไม่ผิดกู้จากพวก hedge fund ดอกปีนึง 10 กว่าเปอร์เซนต์ ไม่ใช่ดอกเบี้ยตามที่แบงค์ทั่วไปปล่อยกู้  

แล้วยังไงเหรอครับ มันไม่ช่วยเรื่องผลประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างไรเหรอครับ

จากที่ท่านพูดมามันก็คือมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเยอะซึ่งก็คือสะท้อนในงบกำไรขาดทุนใช่มั้ยฮะ

สรุปก็คือมันเพิ่มความเสี่ยงนั่นแหละ แต่หากมองด้านการเงินวิธีนี้ทำให้สโมสรได้กำไรสำหรับปีเยอะกว่าการลงทุนแบบไม่มีหนี้เลยนะฮะ

นอกจากนี้รู้สึกว่าหนี้ก็ได้เคลียไปตลอดๆจนเสี่ยงต่ำมากๆแล้ว ดังนั้นมีส่วนไหนที่เกลเซอร์ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้มาซื้อเหรอฮะ ผมคิดไม่ออกจริงๆ  


ถ้าวิธีการที่คุณบอกมาดีจริง ทำไมไม่มีสโมสรอื่นใช้เลยครับ เคสที่ใกล้เคียงกัน เจ้าของก็โดนขับไล่หมด  

วิธีที่ทีมอื่นไม่ใช้กันคือการเอาดอกเบี้ยจากหนี้มาลด TAX เหรอครับ ถ้าใช่ท่านถามได้มีประเด็นครับ

ผมเลยไปหางบของลิเวอร์พูลมา มีการดำเนินธุรกิจโดยใช้เงินจากเงินกู้ไม่ใช่น้อยครับและแน่นอนว่าดอกเบี้ยก็จะนำไปลดกำไรช่วยให้จ่ายภาษีนิติบุคคลสิ้นปีน้อยลงนะฮะ

อย่างไรก็ตามหากถามว่าแล้วทำไมไม่ใช้หนี้อย่างเดียวบริหารธุรกิจเลย มันจะเป็นอย่างที่ท่านบอกแต่แรกๆครับว่ามีหนี้มันก็เท่ากับมีความเสี่ยงเพิ่ม มันก็แล้วแต่ตัวเจ้าของครับว่าอยากให้เกิดหนี้ขนาดไหนรับความเสี่ยงได้ขนาดไหน

อย่างไรก็ตามหากมีสโมสรใหญ่สโมสรไหนไม่ใช้หนี้เป็นแหล่งนึงในการระดมเงินเลยผมคงแปลกใจฮะเพราะอย่างที่บอกมีหนี้ไม่ได้แปลว่ามีแต่ความเสี่ยงมันมีผลประโยชน์ที่เทรดออฟกันได้ครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 602
ที่อยู่: ขั้วโลกเหนือ
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 00:55
หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

เรื่องเป้าหมายสูงสุดของสโมสรฟุตบอลไม่ใช่กำไรขาดทุน ผมคงเห็นด้วยไม่ได้จริงๆฮะ ถ้าคุณจะไม่แสวงหากำไรก็ไปทำองค์กรไม่แสวงหากำไรฮะ

ไม่ควรเอามาเข้าตลาดเพื่อระดมทุนหาเงินมาลงทุนจากนักลงทุนที่ต้องการกำไร

ผมเข้าใจแฟนบอลนะว่าแฟนบอลเองมีความผูกพันกับสโมสร แต่สุดท้ายแล้วหากสโมสรล้มคนที่ซวยที่สุดไม่ใช่แฟนบอลหรอกฮะคนที่ถือหุ้นต่างหาก

อีกนัยนึงการบอกว่าเป็นสโมสรที่หนี้สินล้นพ้นตัว มันต้องดูว่าเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดกำไร หรือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรครับ

ตราบใดที่เป็นหนี้ที่ช่วยปั่นให้เกิดกระแสเงินสดช่วยให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ผมไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกัน

เพราะอย่างที่บอกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ย(ผมเชื่อว่าหนี้ที่ท่านว่าเป็นหนี้รวมๆกันไม่ใช่แค่ก้อนเดียวที่กู้มาซื้อ) ดังนั้นดอกเบี้ยส่วนอื่นเอามาหักรายได้ ภาษีที่หักไปเยอะกว่าดอกเบี้ยที่จ่าย จึงคุ้มค่ากว่าการยอมจ่ายภาษีแบบไม่จ่ายดอกเบี้ยอีกฮะ

แน่นอนว่ามีหนี้มีความเสี่ยงแต่ถ้าเจ้าของบริหารความเสี่ยงดีรันสโมสรต่อไปได้จะไปโทษเจ้าของได้อย่างไรครับ  


ผมคิดว่าคุณยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่บ้างนะครับ ผมเองก็เก็บรายละเอียดไม่หมด ผ่านมาหลายปีแล้ว ลองอ่านจากข่าวนี้ก็ได้ครับ

https://www.theguardian.com/football/2021/may/02/timeline-glazers-and-their-turbulent-reign-at-manchester-united

ส่วนเรื่องสโมสรกับองค์กรแสวงหากำไร แล้วแต่มุมมองแต่ละคนครับ  

ลิงค์ที่ให้มามีประโยชน์มากครับท่าน แมนยูเองเจอผลกระทบจากโควิดไม่ใช่น้อยๆเลยฮะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย liean เมื่อ Tue May 04, 2021 00:55, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 602
ที่อยู่: ขั้วโลกเหนือ
โพสเมื่อ: Tue May 04, 2021 01:02
หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
rocky99 พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น

นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)

ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี

ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ

ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่

ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ

นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร

ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง  


ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง

การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม  

เรื่องเป้าหมายสูงสุดของสโมสรฟุตบอลไม่ใช่กำไรขาดทุน ผมคงเห็นด้วยไม่ได้จริงๆฮะ ถ้าคุณจะไม่แสวงหากำไรก็ไปทำองค์กรไม่แสวงหากำไรฮะ

ไม่ควรเอามาเข้าตลาดเพื่อระดมทุนหาเงินมาลงทุนจากนักลงทุนที่ต้องการกำไร

ผมเข้าใจแฟนบอลนะว่าแฟนบอลเองมีความผูกพันกับสโมสร แต่สุดท้ายแล้วหากสโมสรล้มคนที่ซวยที่สุดไม่ใช่แฟนบอลหรอกฮะคนที่ถือหุ้นต่างหาก

อีกนัยนึงการบอกว่าเป็นสโมสรที่หนี้สินล้นพ้นตัว มันต้องดูว่าเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดกำไร หรือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรครับ

ตราบใดที่เป็นหนี้ที่ช่วยปั่นให้เกิดกระแสเงินสดช่วยให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ผมไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกัน

เพราะอย่างที่บอกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ย(ผมเชื่อว่าหนี้ที่ท่านว่าเป็นหนี้รวมๆกันไม่ใช่แค่ก้อนเดียวที่กู้มาซื้อ) ดังนั้นดอกเบี้ยส่วนอื่นเอามาหักรายได้ ภาษีที่หักไปเยอะกว่าดอกเบี้ยที่จ่าย จึงคุ้มค่ากว่าการยอมจ่ายภาษีแบบไม่จ่ายดอกเบี้ยอีกฮะ

แน่นอนว่ามีหนี้มีความเสี่ยงแต่ถ้าเจ้าของบริหารความเสี่ยงดีรันสโมสรต่อไปได้จะไปโทษเจ้าของได้อย่างไรครับ  


กู้เงินมาเทคสโมสรมันไม่ถือว่าเป็นรายจ่ายสโมสร(มันคือรายจ่ายส่วนตัวของเกลเซอร์เอง)แล้วจะมาหักกับกำไรเพื่อลดภาษี แล้วบอกดอกถูกกว่าภาษี มันไม่ใช่แล้วครับ
 

อย่างงี้ครีบท่าน สมมติว่าท่านมีกำไร 10 ล้านโดนภาษี 20% (เอาแบบไม่ต้องขั้นบันไดอะไรนะฮะเพื่อความง่าย)

หากท่านลงทุนด้วยเงินตัวเองล้วนๆไม่มีหักต้นทุนทางการเงินในแง่ดอกเบี้ยเพิ่ม ท่านจะต้องจ่าย 2,000,000 ถูกมั้ยฮะ

ในขณะเดียวกันถ้าท่านต้องจ่ายดอกเบี้ยสัก 1,000,000 เท่ากับว่ากำไรท่านเหลือ 9 ล้าน ภาษีปีนี้ท่านจ่าย 1,800,000 ถูกมั้ยฮะ

พอเอาล้านแปดมาบอกกับล้าน มันก็คือจ่ายทั้งหมด 1,900,000 ครับ

นี่คือส่วนผลประโยชน์ที่ได้จากการจ่ายดอกเบี้ยครับที่ผมพูดถึง ซึ่งว่ากันตรงๆมันคุ้มกว่าการไม่มีหนี้เลยครับ หากสามารถหาเงินมาหมุนเยอะกว่าเพื่อใช้หนี้คืนทันเวลาได้

อย่างไรก็ตามผมยินดียอมรับข้อถกเถียงอื่นๆนะฮะท่าน เพราะกฏที่อังกฤษอาจไม่เหมือนกันหรืออะไรก็ตาม ผมยอมรับได้ครับ

ขอบคุณที่ถกเถียงกันด้วยเหตุและผลครับ

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel