หลายคนยังไม่รู้จริงว่าเกลเซอร์เป็นปลิงขนาดไหน
REdTurtle พิมพ์ว่า:
liean พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตนะครับท่าน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดธุรกิจสมัยนี้ส่วนใหญ่ในขั้นตอนการระดมเงินก็ทำทั้งออกเงินตัวเองทั้งกู้กันทั้งนั้น
นอกจากนี้การกู้เองแม้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็มักจะได้รับประโยชน์ในเรื่องของภาษีซึ่งในหลายๆครั้งการกูเงินมาจ่ายดอกคุ้มกว่าการยอมจ่ายภาษีจากกำไรด้วยซ้ำ (ผมไม่ฟันธงละกันว่ากฏหมายของอังกฤษจะเป็นแบบนี้เป๊ะๆแค่ผมคิดว่าน่าจะใช่ ผิดพลาดยังไงแก้ได้เลยครับ)
ดังนั้นเรื่องกู้และต้องจ่ายดอกไม่อยากให้เอามานั่งโทษเจ้าของทีมครับเพราะเผลอๆการจ่ายดอกอาจคุ้มกว่าจ่ายภาษี
ส่วนเรื่องปันผลเอาเงินเข้ากระเป๋าคงต้องถามว่าหากเล่นหุ้นจะไม่หวังปันผลเหรอฮะ หากทำธุรกิจการแสวงหาประโยชน์มันผิดอย่างไรเหรอครับ
ประเด็นจริงๆหากจะไล่(ถ้ามองด้านการเงิน)ก็คือบริหารงานขาดทุนหรือไม่ มีกระแสเงินสดเพียงพอหรือไม่ ไม่งั้นก็คือยอมให้งบประมาณในแต่ละปีหรือไม่
ซึ่งถ้าถามผมเกลเซออาจจะไม่ใช่นักบุญ แต่แกก็ยอมให้ใช้เงินเยอะอยู่นฮะไม่ใช่สักแต่จะโกย ส่วนเรื่องผลงานในสนามไม่ดี แกก็ไม่ใช่จะนิ่งเฉยให้เสริมทีมแทบจะตลอดใช่มั้ยฮะ
นอกจากนี้ในเรื่องการเอาเงินไปใช้หรือการจัดการองค์กรคนที่ต้องรับผิดชอบหลักคือผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของทีมนะฮะ ยกเว้นว่าเกลเซอเป็นผู้บริหารด้วยอ่ะนะผมไม่ได้ชัวร์เรื่องผังองค์กร
ดังนั้นหากแฟนๆกังวลเรื่องผลงานตอนนี้ผู้บริหารควรเป็นเป้ากว่าเกลเซอเยอะฮะเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าของคืออนุมัติงบ กับตรวจสอบผลงานผู้บริหารฮะ ไม่ได้มานั่งวานแผนงานทั้งหมดด้วยตัวเอง
ขออนุญาตตอบครับ เรื่องหนี้คุณเข้าใจผิดครับ หนี้ที่ถกเถียงกันนี้ คือ หนี้ที่เจ้าของก่อเพื่อมาซื้อสโมสร โดยเอาหลักทรัพย์ของสโมสรมาค้ำประกัน เรียกว่า leverage buyout ก้อนหนี้นี้ต่างจาก การที่ธุรกิจกู้ยืมเพื่อดำเนินธุรกิจโดยทั้วไปครับ ดังนั้นในทางปฏิบัติ สโมสรไม่ได้ประโยชน์จากหนี้ก้อนนี้ครับ เพราะ มันสูงกว่ากำไรสโมสรเยอะมาก ช่วงที่หนี้เพิ่มขึ้นไปสูง สโมสรอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงล้มละลาย เหมือนที่ลีดส์ หรือ ลิเวอร์ในยุคฮิคส์กับยิลเล็ต ยังโชคดีที่เกลเซอร์ ใช้วิธีออกบอนด์ refinace และ เอาเข้าตลาดหุ้นในภายหลัง ฐานะการเงินของสโมสรถึงพ้นน้ำขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณป๋าที่ยังพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทั้งๆที่โดนจำกัดงบซื้อนักเตะ ถ้าผลงานทีมช่วง 7 ปีแรกห่วยเหมือนยุคหลังป๋า เกลเซอร์อาจไม่สามารถระดมทุนได้เหมือนที่เกิดขึ้นก็ได้ครับ
เรื่องปันผล แสวงหากำไร ที่คุณพูดมา ถ้าเป็นธุรกิจทั่วไปก็พูดได้ครับ ผมไม่เถียง แต่นี่คือสโมสรฟุตบอล เป้าหมายหลักไม่ใช่การแสวงหากำไรสูงสุด หรือ ปันผลมากสุดให้ผู้ถือหุ้น สโมสร คือ สัญลักษณ์ มัน คือ ชีวิต จิตวิญญาณของแฟนบอลบางคน โดยเฉพาะแฟนบอลท้องถิ่น เกลเซอร์เป็นใครมาจากไหน ถึงเอาจิตวิญญาณออกไปจากสโมสร แล้วผันเป็นเครื่องมือปั้มเงินให้ตนเอง
การที่เกลเซอร์พาทีม จากทีมที่รวยที่สุดในอังกฤษ ไปสู่ทีมที่หนี้สินล้นพ้นตัว เฉียดการล้มละลาย แถมดึงเงินไปจากสโมสรมหาศาล มองว่าสโมสรเป็นแหล่งแสวงหากำไรส่วนตัว ดังนั้นแฟนบอลออกมาขับไล่ถูกต้องแล้วครับ ผมสนับสนุน แต่ที่แฟนบอลกลุ่มนี้ทำพลาด คือ ประท้วงจนต้องเลื่อนการแข่ง การที่แฟนบอลประท้วงเจ้าของทีมตนเอง เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก เคสอื่นคนเช้าร่วมมากกว่านี้อีก แต่เคสนี้วางแผนพลาด ออกจะไม่ฉลาดเท่าที่ควร ทำให้แมทซ์ที่คนรอดูทั่วโลกต้องเลื่อนแข่ง จนต้องกลายเป็นผู้ร้ายของสังคม
เรื่องเป้าหมายสูงสุดของสโมสรฟุตบอลไม่ใช่กำไรขาดทุน ผมคงเห็นด้วยไม่ได้จริงๆฮะ ถ้าคุณจะไม่แสวงหากำไรก็ไปทำองค์กรไม่แสวงหากำไรฮะ
ไม่ควรเอามาเข้าตลาดเพื่อระดมทุนหาเงินมาลงทุนจากนักลงทุนที่ต้องการกำไร
ผมเข้าใจแฟนบอลนะว่าแฟนบอลเองมีความผูกพันกับสโมสร แต่สุดท้ายแล้วหากสโมสรล้มคนที่ซวยที่สุดไม่ใช่แฟนบอลหรอกฮะคนที่ถือหุ้นต่างหาก
อีกนัยนึงการบอกว่าเป็นสโมสรที่หนี้สินล้นพ้นตัว มันต้องดูว่าเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดกำไร หรือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรครับ
ตราบใดที่เป็นหนี้ที่ช่วยปั่นให้เกิดกระแสเงินสดช่วยให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ผมไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกัน
เพราะอย่างที่บอกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ย(ผมเชื่อว่าหนี้ที่ท่านว่าเป็นหนี้รวมๆกันไม่ใช่แค่ก้อนเดียวที่กู้มาซื้อ) ดังนั้นดอกเบี้ยส่วนอื่นเอามาหักรายได้ ภาษีที่หักไปเยอะกว่าดอกเบี้ยที่จ่าย จึงคุ้มค่ากว่าการยอมจ่ายภาษีแบบไม่จ่ายดอกเบี้ยอีกฮะ
แน่นอนว่ามีหนี้มีความเสี่ยงแต่ถ้าเจ้าของบริหารความเสี่ยงดีรันสโมสรต่อไปได้จะไปโทษเจ้าของได้อย่างไรครับ