เจ้าของคือใครหาไม่ยาก งั้นก็ตอบเรื่องทับซ้อนได้แล้วสิ
ว่ารายได้มันควรเข้ารัฐหรือเข้าใครกันแน่

ถ้าน่าเบื่อก็ไม่ต้องแหลมมาตอบแต่แรกก็ได้ครับ

เลือกที่จะมาตอบแล้วก็ต้องยอบรับให้ได้ด้วยว่าจะโดน quote ตอบกลับ
ตอบได้แต่ห้าม quote นี่อย่ามาตอบแต่แรกเลยจะดีกว่า

ถ้าเกิดฉีดขึ้นมา แล้วมีผลข้างเคียง จะสามารถวิพากษ์บริษัทฯ ผู้ผลิตได้ไหม

* มันก็ควรจะได้แหละครับ เหมือนกับของไฟเซอร์ ซึ่งคนที่จะต้องมาชี้แจงรายละเอียด ก็ควรจะเป็น AZ ในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์ เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานการผลิต ก่อนที่จะอนุมัติให้เอามาฉีดได้ ซึ่งคงไม่เกี่ยวกับ ม.112


แล้วจะเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต

* เนื่องจากวัคซีนมันไม่ได้การันตีได้ว่าปลอดภัยหรือสามารถป้องกันได้ 100% เพราะในแต่ละบุคคลก็มีปัจจัยที่ต่างกัน ทั้งสภาพร่างกาย ความแข็งแรง ระดับภูมิคุ้มกัน ฯลฯ ดังนั้น มันก็มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงได้เหมือนกับของไฟเซอร์ ซึ่งก็ต้องมาศึกษากันต่อไปว่าเกิดจากอะไร วัคซีนตัวนี้ เหมาะหรือไม่เหมาะกับกลุ่มคนประเภทใดบ้าง แต่ถ้าเกิดฉีดไปแล้วกะจะฟ้องร้องกันอย่างเดียว เดี๋ยวก็คงมีการให้เซ็นต์ยินยอมก่อนฉีดอีกแหละครับ ว่าจะไม่รับผิดชอบหากมีผลข้างเคียง คราวนี้ก็ต้องเลือกเอาว่าจะเลือกฉีดแล้วเสี่ยง หรือไม่ฉีดแล้วไปเสี่ยงว่าจะติดไหม

เงินที่ได้จากการขายวัคซีนให้ประเทศอื่นๆจะเป็นของใคร❓

* อันนี้ก็ตามที่มีคนตอบแหละ ว่า AZ ได้ค่าวัคซีน ส่วน SBS ได้ค่าผลิต ซึ่ง จะได้ผลประโยชน์ระยะยาวไหม ต้องดูว่าสุดท้ายแล้ววัคซีนมีผลคุ้มครองกี่ปี ถ้าฉีด 2 โดส จบ หลังจากฉีดครบกันทั่วโลกแล้ว ต่อไปทั้งโลกอาจจะต้องการแค่ปีละ 300 ล้านโดส ซึ่ง ณ ตอนนั้นอาจจะมีวัคซีนหลายเจ้ามากกว่าตอนนี้ สุดท้าย AZ อาจจะได้ผลิตแค่ 50 ล้านโดสต่อปี ซึ่งที่ไทยอาจจะได้ผลิตแค่ 10-20 ล้านโดส ไม่ได้ผลิตถึง 200 ล้านโดส อย่างที่กำลังการผลิตสามารถทำได้ แต่ถ้าวัคซีนมีผลคุ้มครอง 5 ปี ก็น่าจะได้ค่าจ้างในการผลิตกันยาวๆ ไป

ส่วนถ้าให้รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ผลิต เงินที่ได้จากการขายวัคซีน จะเข้ารัฐหรือไม่ ก็ต้องดูสัญญาที่ทำไว้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ ว่าทำกันไว้อย่างไร รวมทั้งของ SBS ด้วย ซึ่งจริงๆ ผู้เกี่ยวข้องต้องเอามากางให้ดูได้แล้วเพื่อความโปร่งใสอย่างที่หลายๆ คนตั้งคำถามกัน

..งงกับคุณว่ะ astra เลือก ไปถาม astra เอาสิคุณ ไร้สาระโคตรๆ ตอบประเด็นนึงแผล่มมาอีกเป็นร้อย น่าจะอากาหนักกันหมดแล้ว การเมืองขึ้นสมอง

คล้ายๆหลายคนนะ พูดได้แต่ห้ามนักข่าวถามกลับ

หรือถ้าโยงไปหาทักกี้กับธรก็กระแทกกลับมาเลยว่าแน่จริงก็มาเป็นรัฐบาลให้ได้ก่อน

เว็บมีปุ่มตอบคุณยังกดตอบได้

เว็บมีปุ่มโคว้ทแล้วคุณเป็นใครวะครับเนี่ย ไปบอกเค้าอย่ามาโคว้ท

อึ๋ยยยยยยย~

ไอ้พวกการเมืองขึ้นสมอง ไปแกล้งน้อนทำไม

น้อนเบื่อ ss แล้วนะเว้ยไอพวก ss

โอเคครับ เห็นด้วยในใจความเรื่องทะเล่อทะล่าเกินตัวนะ และแม้แต่ทีมกฎหมายของศูนย์ทนายเค้าก็เตือนตั้งแต่วันแรกๆที่ตู่อันล็อค112 ว่าถ้าโดน112เค้าช่วยว่าความช่วยประสานงานแต่สุดท้ายคนโดนฟ้องก็คือโดนฟ้องกับตัวเอง ไม่มีใครหาร

สิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบมันคู่กันจริง ถ้าเราใช้คำพูดที่อาฆาตมาดร้ายขู่ฆ่าขู่พวกที่มันเกินไปไม่ว่ากับใครก็ตาม แต่ถามว่าที่ผ่านมานี่112ถูกฟ้องและถูกรับฟ้องกับเคสพวกนี้ไปซักกี่%เถอะ การบังคับใช้112กับการฟ้องกราดตามมูลเหตุห่วยๆเช่น เคสธนาธรถามถึงรัฐกับบริษัทนี้ เคสพี่ทราย(โพสเฟซว่ากล้ามาก) เคสเด็กใส่ครอปท็อปเดินห้าง(นี่เด็กม.ปลายที่มันไม่ได้ก็โดนพ่วงไปด้วย) พอเห็นแบบนี้มันเลยหงุดๆหงิดๆว่าไม่ใช่แล้วว่ะ มันลามปามโคตรๆ
มันไม่ใช่หลักสากล

http://www.soccersuck.com/users/blog/67916
ใครกันแน่การเมืองขึ้นสมอง
โดนแบนเพราะลากเข้าการเมือง 3 ครั้ง

รำคาญแล้วนะ ไอ้พวกไร้สาระ

มีคนหัวร้อน ไม่ต้องคิดไรมาก ลองเปลี่ยนชื่อตัวละครแล้วถามใจตัวเองดูว่ามันผลประโยชน์ทับซ้อนมั้ย

สยามไบโอไซเอน เป็น สยามดูไบชินวัตร
ผู้ถือหุ้นสยามไบโอไซเอน เป็้น ทักกี้ ชินวัตร
รัฐบาลตู่ เป็น รัฐบาลปู หรือ ธร

ส่วนเรื่อง Astra เลือก เค้าเลือกจากความพร้อมของผู้ผลิต ซึ่ง บ สยามไบโอ ได้เงินสนับสนุน จาก รัฐบาลตู่และ SCG ลองเปลี่ยนเป็น

บ สยามไบโอไซเอน เป็น ซัมมิทไบโอไซเอน
รัฐบาลตู่ เป็น รัฐบาลธร และ SCG เป็น Thai summit group

คุณว่า ปชช ควรตั้งคำถามกับเรื่องนี้มั้ย

สนุกอ่ะ

โครตงอแง อะ

ผมไม่ได้ถามค่าขายของ Astra
ผมถามถึงค่าจ้างผลิตที่สยามไบโอฯได้ เหมือนที่ธนาธรถามนั่นแหละ

แล้วมันถามได้มั้ยล่ะ ธนาธรโดนยัด 112 ไปตั้งแต่เริ่มอ้าปากถาม

ตอบผมหน่อยสิว่าถามได้ไหม