KJKrono พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
KJKrono พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
KJKrono พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
KJKrono พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
KJKrono พิมพ์ว่า:
Saint's Knight พิมพ์ว่า:
KJKrono พิมพ์ว่า:
ถ้ามองอย่างตรงไปตรงมา แกคืออีกหนึ่งคนที่กำลังโลดแล่นหากินอยู่บนระบบนี้อยู่แหล่ะ ผมไม่ตัดสินว่าแกทำผิดหรือถูกนะ แต่เพราะระบบรัฐห่วยๆแบบทุกวันนี้ ทำให้แกได้มีพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือคนได้ สุดท้ายสิ่งที่แกได้รับจะเป็นชื่อเสียงเงินทองจากภาพลักษณ์คนใจบุญที่สปอนเซอร์จ่ายให้ หรือจะเป็นความสุขทางใจที่แกได้รับ สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมให้กับตัวเองก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากระบบรัฐดีขึ้น พื้นที่ของแกก็จะน้อยลงไปโดยปริยาย
ระบบรัฐจะดีขึ้น ต้องทำยังไงบ้างฮะ
ก็ต้องเริ่มจากไม่เอาภาษีไปละลายแม่น้ำอย่างเช่นสร้างซุ้มอะไรแบบนี้
ถ้าไม่สร้างซุ้ม ระบบรัฐจะดีขึ้นทันทีเลยเหรอ
พวกรถ emergency จะมาแทน กลุ่มรถมูลนิธิเลยใช่ไหม
ผมบอกว่า"เริ่มจาก"ครับ หลังจากนั้นก็ตัดเงินที่ซื้อพวกอาวุธเรือดำน้ำเครื่องบินรบบ้าง ค่าไปดูงานต่างประเทศของราชการไรงี้ก็ตัดๆบ้างก็ได้ เห็นข่าวว่ามีแบบไปเยอรมันอะไรแบบนั้นก็มีนะครับ น่าจะแพงอยู่
1. ถ้าตัดงบทหาร คิดว่าจะมีอะไรกระทบกับการส่งออกสินค้าของเราบ้างไหมครับ
2. ตัดงบดูงานของข้าราชการ ยากยิ่งกว่าข้อ 3 อีก คิดว่าจะทำกันได้ง่ายๆเหรอ
3. งบสถาบันทั้งหมดเท่ากับ 1 % กว่าๆ ของงบประมาณทั้งประเทศ
คิดว่าทำ 1 2 3 แล้วเพียงพอให้ระบบรัฐดีขึ้นจริงๆเหรอ
ถ้าคุณจะอยากเชื่อมโยงขนาดงบทหารกับการส่งออกขนาดนั้นผมก็โยงให้คุณได้
สมมติถ้าตัดงบทหารไป 1 หมื่นล้าน แล้วเอางบนี้ไปออกนโยบายคืนภาษีบางส่วนให้บริษัทส่งออก ก็มีผลกับส่งออกแล้วไหมครับ??
ข้อสอง เราไม่ได้ถกประเด็นว่าทำได้ง่ายหรือไม่ง่ายอยู่หนิครับ คุณถามผมว่าทำยังไงให้ดีขึ้น ผมเองก็ไม่ได้บอกว่าง่าย แต่ที่แน่ๆถ้ารัฐบาลนี้ยังอยู่ ก็คงยากกว่ารัฐบาลอื่น เพราะรัฐบาลนี้เน้นรัชราชการรวมศุนย์
ข้อ 3 ผมตอบด้วยภาพละกันพูดเยอะไม่ได้
ถ้าคุณเห็นว่า 1% มันน้อย และคุ้มค่าแล้ว คุณอาจจะถูกก็ได้ บอกผมหน่อยได้ไหมว่า 1% นี้ใช้ไปกับอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง เผื่อคุณจะเปลี่ยนใจหลายๆคนได้ว่า 1% นี้มันคุ้มค่าแล้ว[/img]
1. คิดตื้นๆไปรึป่าวครับ คิดว่าประเทศพวกนั้นรวยได้เพราะอะไร แล้วถ้าเราไม่ซื้ออาวุธกับเค้าคิดว่าเค้าจะรับสินค้าเราเหรอ ในเมื่อสินค้าอย่างเรา ประเทศอื่นๆก็มี ใช่เราจะปลูกได้ประเทศเดียวที่ไหน
ยกตัวอย่างง่ายๆ สัก 2-4 ปีก่อน อยู่ๆเมกามันกล่าวหาว่าซาอุดื้อๆ ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 911 ตอนแรกก็งง อะไรของทรัมป์อีกวะเนี้ย บ้าหนักเกิ๊น เลอะเทอะจัด มันก็กล่าวหาแบบเอาจริงเอาจังสักพักนึง
แล้วไม่กี่อาทิตย์ ข่าวก็ออก ซาอุซื้ออาวุธจากเมกา 1 หมื่นล้านเหรียญ ทีนี้พอจะเข้าใจละยังครับ ทำไมถึงต้องมีงบไว้ซื้ออาวุธ ทั้งๆที่ มันค่อนข้างจะไม่จำเป็นสักเท่าไหร่
ประเทศอื่นๆ เค้าก็ฉลาด ไม่ใช่มีแต่ไทยที่ฉลาด จะขายอย่างเดียวไม่คิดซื้ออุดหนุนคืนเลย แล้วใครจะมาค้าขายด้วยกันละ
ปัญหาจริงๆของการจัดซื้ออาวุธ คือค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายให้ทหาร ตรงนี้แหล่ะ ทั้งๆที่เป็นเงินของรัฐบาล มันต้องคืนค่าคอมเข้ารัฐสิ ไม่ใช่งาบไปกินเอาเอง 10-20%
2. ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็แก้ไม่ได้หรอก เรื่องงบประมาณมันมีกฎเกณฑ์ของมันอยู่ แต่ละหน่วยงานก็จัดแจงใช้กันจนหมดก่อนปิดงบ
3. เพิ่งพิมพ์ไปกระทู้นี้เอง
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1934853
เหอะๆ ผมเข้าใจแนวความคิดคุณละ คุณจะบอกว่า ที่เราส่งออกได้เพราะ ค่าคอมมิชชั่นอาวุธถูกไหม งั้นคิดตามผมนะ ถ้าสมมติผมเชื่อตามคุณเต็มร้อยเลยนะ งั้นทำไมไม่เอาเงินที่ต้องซื้ออาวุธ ทั้ง 100% ไปลดภาษีราคาสินค้าทั้งจำนวนเลยหล่ะ คนซื้อน่าจะพอใจกว่าอีกนะ ไม่ต้องผลิตอาวุธมาให้ด้วย หรือ จ่าย cashback คืนเลยก็ได้ (นี่อยู่ในสมมติฐานว่าเชื่อคุณนะ เอาจริงผมว่ามันมีทางอื่นที่จะสานสัมพันธ์ได้ดีกว่าการซื้ออาวุธอีกเยอะ)
ข้อ 2 คุณบอกมีกฏเกณ กฏเกณก็แก้ได้ไหมหล่ะครับ??
ข้อ 3 เอาเป็นรูปประธรรมหน่อยสิครับ ถ้างบที่จ่ายไปมันเกิดประโยชน์คุ้มค่าขนาดนั้นไม่น่าหายากนะ
ขอถามเพิ่มอีกข้อเอาแบบไม่ต้องใช้โลจิคเลย อีโมชั่น ล้วนๆ ท่านรัก 10 มากไหมครับ แล้วท่านรักแง่มุมไหนของ 10 มากที่สุดครับ อันนั้นอยากรู้เฉยๆ
1. คือคุณไม่เข้าใจเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ถ้าอยู่ๆคุณไปช่วยลดหย่อนภาษีแบบนั้น มันเข้าข่ายแทรกแซงการค้า เป็นการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อคู่แข่งรายอื่นๆ คุณก็โดนอีกอยู่ดี แทรกแซงการค้าก็คล้ายๆกับแทรกแซงค่าเงิน ตัวอย่าง เมกา-จีน ฟัดกันเละเทะ
2. ถ้าแก้ได้ แก้กันไปนานแล้วครับ ปชช เค้ารู้กันมาหลาย 10 ปีแล้ว
3. รูปประธรรมแบบไหน ผลงาน โครง หรืออะไร
ผมว่าคุณไม่เข้าใจมากกว่านะ การลดภาษี ไม่ใช่การแทรกแทรง บางประเทศ ฟรีเทรด ไม่เก็บ tax เลยก็มี การแทรกแทรงที่เขาโวยวายกันคือการ ตั้งกำแพงภาษีโหดๆต่างหากครับ โอเคถ้าทางประเทศปลายทางอยากป้องกันตลาดตัวเอง เขาสามารถตั้งกำแพงภาษีของเขาเองได้ แต่นั่นก็อยู่บนกระดานอย่างโปร่งใส บริษัทไทยเองจะแก้เกมส์โดยการไปตั้งฐานการผลิตในประเทศเขาอะไรก็ได้ แต่ที่แน่ๆ การซื้ออาวุธกินค่าคอมมิชชั่นใต้โต๊ะ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องหรือคุ้มค่าอยู่แล้วเพราะตรวจสอบไม่ได้เลย
ผมแถมให้อีกอย่างถ้าการลดภาษีมันไม่พอ มีเงินเหลือจากพวกอาวุธเยอะ รัฐเอามาค้นคว้าวิจัยสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าที่เป็น innovation จนประเทศอื่นอยากนำเข้าสินค้าเราโดยไม่ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ก็ได้เช่นกัน
ัมันมีวิธีไปได้อีกเยอะอ่ะครับ ถ้ามีงบประมาณอ่ะนะ
ข้อสองเลิกถกต่อเถอะคุยไปก็ตัน เหมือนคนว่ายน้ำไม่เป็น แล้วเอาแต่พูดว่าว่ายไม่ได้หรอก แล้วก็ไม่เริ่มฝึกแล้วก็ว่ายไม่ได้ไปตลอดชีวิตอ่ะ
ข้อ 3 ผมเจาะจงให้เลยก็ได้ ขอเป็นผลงานของ 10 ที่ท่านชอบและเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ได้ครับ
1. นโยบายการค้าเสรี หมายถึง เป็นการค้าโดยปราศจากการแทรกแซงใด ๆ จากรัฐบาลใน
กิจการค้าระหว่างประเทศ ทำให้การแข่งขันในตลาดเป็นการแข่งขันอย่างสมบูรณ์และราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกของตลาด
ลักษณะของนโยบายการค้าเสรี
https://sites.google.com/site/chanwid2555/khwam-rwm-mux-thang-sersthkic/13-nyobay-kar-kha-rahwang-prathes
ผมละปวดหัวจริงๆเลย การค้าแบบไม่มี tax มันก็อีกอย่างนึง ซึ่งต้องทำร่วมกัน
2. ผมดูมานานละ เห็นมานานแล้ว ไม่เห็นจะมีใครทำอะไรได้สักที เอาอย่างงี้เลย คุณคิดว่ากี่ปีถึงทำได้ ระบุมาเลย
3. ร.10 อ่ะเหรอ พูดกันตรงๆเลยนะ ที่เห็นชัดก็มีเรื่องไปหาซื้อเครื่องช่วยหายใจ 100 เครื่องตอนที่แต่ละประเทศต่างแย่งกัน ก็อาศัยราชวงศ์นั้นแหล่ะ หามาจนได้ 100 เครื่อง
ถึงผลงานจะไม่มากมาย แต่ราชวงศ์ยังคงต้องให้เป็นแบบเดิม จะไปบีบสาระพัดแบบนี้มันไม่ค่อยจะถูกต้องนัก
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
