ภารกิจซ่อมสร้าง ปีศาจแดง
ยาวนิดนึงต้องขออภัยล่วงหน้านะครับ
ผ่านไปแล้ว 5 นัดของพรีเมียร์ลีค เท่ากับว่าฤดูกาลนี้ได้เริ่มต้นไปประมาณ 10% จากโปรแกรมที่ทั้งฤดูกาลน่าจะได้เตะราว 60 นัด
มาลองดูกันว่าในช่วงเริ่มต้นนี้ภาพรวมในภารกิจซ่อมสร้างปีศาจแดงของ โอเล่ เป็นอย่างไรบ้าง
1 นักเตะใหม่
ที่เข้ามา 3 คน จากผลงาน 5นัด ถือว่าปรับตัวเข้ากับทีมได้เร็วมาก มีแววไปในทิศทางบวกทั้ง 3 คน
2 การปรับโครงสร้างทีม (Rebuild)
นักเตะเก่าแบ่งเป็น3 กลุ่มใหญ่ดังนี้ครับ
หมดสัญญา วาเลนเซียที่สภาพร่างกายและอายุไม่ไหวในระดับสูงแล้ว เอเรร่าที่ทางบอร์ดพยายามต่อสัญญาแต่ไม่สามารถสู้ 350,000 ปอนด์องปารีสได้
ปล่อยออกจากทีมแบบขาย และ ยืมตัว
ลูกากูที่อยากไปกัลโช่และทำให้สโมสรได้เงินมาจำนวนนึงซึ่งเท่ากับสมทบทุนไว้ในตลาดหน้า
อเล็กซิสที่สภาพร่างกายเจ็บบ่อยใช้งานได้ไม่เต็มที่ และ เพื่อปรับโครงสร้างค่าเหนื่อยของทีม
สมอลลิ่งที่ได้คุยกันกับโอเล่แล้วไม่สามารถการันตีการลงสนามสม่ำเสมอได้
ดาเมี่ยนที่ไม่มีตำแหน่งในทีมมาหลายปีแล้ว ได้กลับบ้านซะที
ลดสถานะภายในทีมสำหรับนักเตะอายุเยอะที่ขาลง (แฟนที่อังกฤษเรียกกันว่าพวก Deadwood)
ยัง ที่หลุดจากตัวจริงแล้ว โดยเป็นแบคซ้ายลำดับ 2 กรณีชอว์ไม่สามารถลงสนามได้
ฟิลโจนส์ ที่หลุดตัวจริงแน่นอนแล้วและกลายเป็น เซ็นเตอร์ลำดับ4ไปแล้ว
มาติช ที่หลุดเป็นสำรองของแมคโทมิเน และ ปอกบา ในตำแหน่งมิดฟิลด์
โรโฮ ที่หลุดทีมยาวโดยที่ถือว่าเป็นแบคอัพ เซ็นเตอร์ลำดับ6 และ แบ็คซ้ายลำดับ3
มาต้า ด้วยสภาพร่างกายและอายุก็ถดถอยเป็นเพียงแบคอัพในตำแหน่ง กองกลางตัวรุก
3 การต่อสัญญาของตัวหลัก หลังจากเดเกอาเป็นรายล่าสุดที่ต่อสัญญาเท่ากับวางอนาคตระยะยาวที่มั่นคงไปกับทีม (จากเคสนี้น่าเสียดายที่น่าจะทำให้ดีน เฮนเดอร์สันอาจจะโอกาสน้อยลง) และก่อนหน้านี้ มาซิอัล แมคโทมิเน แรชฟอร์ด ลุคชอว์ ได้ต่อสัญญายาวไปเรียบร้อย เมื่อรวมกับ 3 ตัวใหม่ที่พึ่งย้ายเข้ามาเท่ากับชุดนี้ มีอย่างน้อย 8 คนที่จะอยู่เป็นแกนหลักไป 3-5 ปี เท่ากับในชุด 11 ตัวจริง มีเพียง ปอกบา ลินเดอเลิฟ ลินกาด (คนนี้แฟนคงไม่อยากให้ต่อ 55) ที่ยังไม่ต่อสัญญาใหม่ และ ในความเป็นจริงยังไม่ต้องรีบร้อนเพราะทั้ง 3 คน เหลือสัญญา 2+1 ปี
4 ฟอร์มในสนามและผลงาน
จากผลงาน 5นัด ชนะ 2 เสมอ2 แพ้1 มี8คะแนน ยังถือว่าผลงานลุ่มๆ ดอนๆ แต่ยังโชคดีที่ทีมใหญ่ทีมอื่นก็ยังสะดุดไม่เข้าฟอร์มไม่ต่างก้นเท่าไร ทำให้ยังติดกลุ่มหัวตาราง
ฟอร์มในสนามยังมีสิ่งที่ขาดไปคือ ความสม่ำเสมอ ความเฉียบคม ความเก๋าในการปิดเกมส์
นัดแรก กับเชลซี รูปเกมส์เป็นรองแต่กลับมีความเฉียบคม สวนเป็นได้ ถึง4ประตู
นัด2 กับวูฟ ครึ่งแรกครองเกมส์ดักวูฟได้หมด แต่กลับทำลูกที่สองทิ้งห่างไม่ได้ จังหวะหลุดไปสุดท้ายขาดเกินไปนิดตลอด จนโดนตีเสมอ และ ท้ายเกมส์จุดโทษพลาด
นัด3 กับพาเลช ทีมเราจะมีปัญหามากเมื่อเจอจอดรถบัสเพราะขาดตัวสร้างสรรค์ในพื้นที่สุดท้าย และ กองหลังพลาดเป็นโดน นัดนี้แย่ของจริง
นัดที่4 กับเซาแธมตัน ขึ้นนำก่อน ครึ่งแรกคอรงเกมส์ได้หมด และปิดเกมส์ไม่ได้จนโดนตีเสมอแบบเดียวกับนัดวูฟเลย
นัดที่5 กลับมาจากเบรคทีมชาติ เจอกับเลสเตอร์ที่ฟอร์มแรงยังไม่แพ้ใครเลย ฟอร์มเราดีประมาณ 20 นาทีแรก ขึ้นนำก่อนเหมือนเดิม และ ก็ไม่เฉียบขาดในการปิดเกมส์หาลูกที่สองไม่ได้ แต่นัดนี้ยังโชคดีที่ เกมส์รับช่วยไว้ได้ พลาดบางจังหวะแต่คราวนี้รอดตัวไม่เสียประตูเลยประคองตัวเก็บ 3 คะแนนมาได้
ถ้าดูฟอร์มจากภาพรวม 5นัด มีจุดที่แปลกคือนัดไหนที่เล่นดีครองเกมส์ได้ มักจะพลาดไม่กี่ครั้งและโดนลงโทษทันที กลับกันนัดไหนเล่นไม่ดีเท่าไรกลับจะรักษาสกอร์ได้ ตรงจุดนี้ที่ต้องปรับแก้
รวมถึง ฟอร์มในสนามต้องสม่ำเสมอกว่านี้ ส่วนใหญ่จะเล่นดีอยู่ราว 30-45 นาที อย่างน้อยอยากให้ค่อยๆปรับให้เล่นดีนานขึ้นเป็น 50-60 และ ที่สำคัญเมื่อขึ้นนำและเล่นดีกว่าแล้วต้อง ทำประตูปิดเกมส์ให้เนียบกว่านี้ เพื่อให้เกมส์รับไม่โดนกดดันมาก
ว่าด้วยเกมส์รับ 5 นัดเสีย 4ประตู (เก็บคลีนชีทได้ 2นัด ที่เล่นในโอลด์แทรฟฟอร์ด สถิติเท่าฤดูกาลที่แล้วที่เล่นในบ้าน 19นัดแล้ว) ถือว่าดีขึ้นแต่ยังไม่น่าพอใจ แต่ถ้าดูถึงความมั่นคงของแผงแบคโฟร์ ดูนิ่งและน่าอุ่นใจขึ้น แต่เนื่องจากเป็นตัวใหม่ 2 จาก 4 ตัวอาจจะต้องใช้เวลาปรับจูนความเข้าใจกันสักพักโดยปกติน่าจะต้องใช้เวลาสัก 10 - 20 นัด เชื่อว่าจะประสานงานเข้าขามาขึ้น
แผงกลางและแนวรุก เล่นได้ฉาบฉวย และ รวดเร็วมากขึ้น แต่ยังขาดความสร้างสรรค์ในพื้นที่สุดท้ายเนื่องด้วยตำแหน่งเบอร์10 ของเรา ทั้งลินกาด มาต้า เปเรร่า ว่ากันตามตรงก็คือยังไม่ใช่ระดับท็อปเป็นได้แค่ตัวแบคอัพหมุนเวียน เรื่องตำแหน่งของปอกบาที่เป็นที่ถกเกียงกันว่าอยากให้ดันสูงขึ้นมาเล่นกัน คือผมเป็นแฟนทีมชาติฝรั่งเศสด้วยต้องบอกว่า ปอกบาไม่ใช่มิดฟิลด์ตัวรุกเบอร์10แบบธรรมชาติครับ ตำแหน่งที่ดีที่สุดของปอกบาคือ มิดฟิลด์ตัวกลางที่ลงมาเชื่อมเกมส์จากกลางไปหน้า ให้เหล่าตัวรุกพาบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย กับ การสอดขึ้นไปทำประตูในบางโอกาส
ปอกบาเป็นกองกลางที่จ่ายทะลุทะลวงดีในเวลามีพื้นที่กว้างๆ ทั้งการแทงบอล และ การสวิทช์บอล แต่ไม่ใช่เพลย์เมคเกอร์ท่ีจะไอเดียบรรเจิดเวลาอยู่หน้ากรอบเขตโทษโดนแนวรับอุดแล้วเหลือพื้นที่แคบๆ ซึ่งตรงจุดนี้คือจิกซอว์ ที่เราต้องตามหาต่อไปตอนตลาดเปิดรอบหน้า
ระหว่างนี้ 3เดือน (หรือ8เดือนถ้ารอตลาดซัมเมอร์เลย) ก็คงต้องอดทนใช้ กลางรุกเกรด B ไปก่อนเพราะแทบไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว โดยใน Shortlist ถ้าตามข่าวก็น่าจะเป็น เจมส์ แมดดิสันของเลสเตอร์อีกคน หรือ จะเป็นคริสเตียน อิริคเซ่น ไม่ก็บรูโน่ เฟอร์นานเดช ก็จะช่วยเติมเต็มระบบของเราได้
ส่วนไอเดียที่จะกลับมาเล่น 4-3-3 แบบมีมิดฟิลด์ตัวรับเพราะกลางรุกกาก ผมคิดว่าคงไม่ทำเพราะถ้าถึงตอนนั้นสามารถเสริมกลางรุกมาเพิ่มได้ก็ต้องปรับระบบ กลับมาใหม่อีก ในการติดตั้งระบบให้กับทีม ผมเชื่อว่าเหมือนกับที่บอกไว้ในการให้เวลาแนวรับปรับตัวจูนเช้ากัน ยิ่งเกมส์รุกผมว่ายิ่งต้องใช้เวลานานกว่า อาจจะต้องราว 20-30 นัดเลยกว่าลงตัว ระหว่างช่วงนี้เน้นบิ้วท์อัพ การตั้งเกมส์จาก หลังไปกลาง กลางไป พื้นที่สุดท้ายหรือริมเส้น ให้ดีขึ้นแล้วค่อยเติมด้วย กลางเบอร์10ระดับท็อปเชิงสูงมาเป็นตัวออกบอลสร้างสรรค์เข้ากรอบเขตโทษ
แต่ผมเห็นด้วยถ้ากรณีเรานำ 1หรือ2ลูกแล้วท้ายเกมส์จะเน้นผลแล้วส่งมิดฟิลด์ตัวรับมาแทนกลางรุกเพื่อลงมาช่วยเบรคบอลที่จะถึงแนวรับ
5 โอกาสของเหล่าดาวรุ่ง
ดาวรุ่งขาประจำ 4 คน (กรีนวู้ด โกเมส ชอง ทวนเซเบ้) )เริ่มได้มาป้วนเปี้ยนอยู่ใน Team sheet 18 คนทุกนัด แต่ที่หลายคนยังหงุดหงิด จำนวน “นาทีลงเล่น” ที่เหมือนโอเล่ยังให้โอกาสน้อยเหลือเกิน ไม่มั่นใจดาวรุ่งแล้วจะดันทำไม
ส่วนตัวผมคิดว่า โอเล่มั่นใจดาวรุ่งชุดนี้แน่นอน เพียงแต่สถานะตอนนี้คือการให้ดาวรุ่ง ค่อยๆ ปรับตัวกับการมีส่วนร่วมบรรยากาศในเกมส์ระดับชุดใหญ่ มีหลายท่าน เปรียบเทียบกับเชลซี ที่กล้าดันดาวรุ่งหลายคน แต่ต้องเรียนตามตรงว่า ดาวรุ่งของเชลซีแต่ละคน มีประสบการณ์กับเกมส์ระดับเข้มข้นมาแล้วจากการปล่อยยืมในลีคแชมป์เปี้ยนชิพ ต่างกับดาวรุ่งของเราที่ส่วนใหญ่ผ่านมาเฉพาะเกมส์ U18 U23 ส่วนถ้าเทียบกับ เอมป้าบเป้ เจา เฟลิกซ์ ที่สามารถได้ลงชุดใหญ่เลยตั้งแต่อายุ 17-18 ก็ต้องบอกว่าพวกนี้มันระดับเพชรเลยนะครับว่าที่ ผู้ท้าชิงบัลลงดอร์ยุคสมัยถัดไป ผมเป็นคนนึงที่ยอมจ่ายรายปี MUTV เพื่อจะดูเกมส์ U23 ทุกคืนวันศุกร์ ได้เห็นครับว่าดาวรุ่งเรามีแววดีแต่อยู่ในระดับที่ต้องเก็บประสบการณ์เพื่อพัฒนา ยังไม่ถึงระดับพวกปรากฏการณ์แบบป้าปเป้
และอีกส่วนนึงคือช่วงต้นแบบนี้ จำนวนความถี่กับนัดเตะยังไม่ถี่พอที่จะให้โอกาสดาวรุ่ง เมื่อ ยูโรป้า - คาราบาว - เกมส์ลีคเตะถี่ขึ้น แบบทุก3-4วัน ผมเชื่อว่า เหล่าดาวรุ่งจะได้โอกาสเยอะขึ้นแน่นอน โดยรวมคิดว่า 3 คนนี้แต่ละคนจะได้ลงรวมทุกถ้วยคนละประมาณ 20-25 นัด (จากการแข่งขันที่คาดว่ามีประมาณ 60นัด) ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนนัดกำลังดีแล้วสำหรับดาวรุ่งที่ขึ้นมาปีแรกครับ
6 สิ่งที่แฟนยูไนเต็ดเกือบทุกคนลืมไป
ว่าทีมชุดนี้คือ ซากปัญหาสะสมความล้มเหลวงของทีมเราตั้งแต่ยุค มอย ฟานกัล และ สุดท้ายมูริญโย่ ซึ่งเกินกว่า 60-70% แทบจะคือ Deadwood มาตั้งแต่ยุคมอยเลย พึ่งจะมีนักเตะที่เป็นของโอเล่เลือกเข้ามาเองจริงๆ แค่ 3 คน กับดาวรุ่งที่ขึ้นมาอีก 4คน นอกนั้นคือใช้ตัวเก่าทั้งนั้น ซึ่งที่ดูโอเคมีคุณภาพพอจะใช้งานจริงจังได้แค่ เดเกอา ชอว์ ลินเดอเลิฟ แมคโท ปอกบา แรชฟอร์ด มาซิอัล เท่ากับ Team Squad มีเพียง 10จาก 25 คนที่พอใช้งาน ได้เท่าโอเคเท่านั้นเอง รวมถึงความฟิตภาพรวมของทีมตอนที่โอเล่เข้ามายังแย่มากด้วย สิ่งที่โอเล่มีเวลาปรับโครงสร้างทีม ช่วงซัมเมอร์ แค่ 3 เดือนกับการปรับความฟิตทีม และเลือกเฟ้นนักเตะมาอุดจุดอ่อนใหญ่ของเราเมื่อปีที่แล้ว (ปีที่แล้วแฟนผีทุกคนรู้ดีว่า แบคขวา เซ็นเตอร์ ปีกขวา กลางตัวรุก เราห่วยขนาดไหน) ตลาดเดียวแก้มาได้ 2ตำแหน่งครึ่งทางแล้ว เหลืออีกแค่ 2ตำแหน่ง คือถ้าได้กลางรุกเจมส์แมดดิสัน หรือ อีริเคเซ่น และ ปีกขวา อย่างซานโช่ มาทีมนี้90% จะเป็นโฉมใหม่เลยและน่าจะลงตัวมากกว่านี้
สำหรับใครที่ไม่ชอบไม่โอเคจะด่าทีม ด่าโอเล่ไม่ว่ากันครับเข้าใจได้
ผมเชื่อว่า ยังไงเราทุกคนก็เชียร์ และ อยากให้ทีมดีขึ้นอยู่แล้ว ผมแค่มาเขียนแชร์จากมุมมองผมจากที่ติดตามทีมมาตลอดตั้งแต่ปิดฤดูกาล จนเปิดมา 5 นัด และ มองในมุมคนที่ทำงานบริหารมาที่การรันองค์กร ต้องพยายามแก้ปัญหาและมองมุมบวก เลยกลั่นกรองออกมาได้ประมาณนี้ครับ