ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ผู้จัดการทีมชุดเยาวชน
Status: Red Devil & Nerazzurri & The Yellow Wall
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 17612
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 21:48
[บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999
มีบทความเรื่อง ทริ้ปเปิ้ลแชมป์ ของยูไนเต็ดเมื่อปี 1999 ที่ผมได้รวบข้อมูลเก็บไว้สักพักแล้ววันนี้เลยเอามาฝากกันครับ
เนื่องด้วยเป็นปีที่ผมทันดูทั้งปี
ในปี 1998-99 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จที่สุดของประวัติศาสตร์ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

โดยที่ทุกคนคงจำได้ดีว่าสโมสรสามารถกวาดแชมป์ พรีเมียร์ลีค ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค และ เอฟเอคัพ ได้พร้อมกันในปีเดียว โดยตลอดทั้งซีซั่น แมนฯยูไนเต็ดพ่ายแพ้ไปเพียง5นัดเท่านั้นจากทุกรายการโดยรวมการแพ้ในแชริตี้ชิล และ ลีคคัพ และ สามารถทำสถิติไม่แพ้เลย 33 นัดต่อเนื่องในทุกรายการ โดยการแพ้ครั้งสุดท้ายคือการแพ้ให้กับเดอะโบโร่ มิดเดิ้ลสโบรท์ ในวันที่ 19 ธันวาคม 1998 หรือก็คือหลังจากนั้นเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนตั้งแต่เดือน มกราคม 1999 แมนฯยูไนเต็ดลงสนามทั้งพรีเมียร์ลีค เอฟเอคัพ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีค โดยครึ่งฤดูกาลหลังในปีปฏิทิน 1999 ทีมไม่แพ้ใครเลยสักนัดซึ่งถือว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากครับ



ช่วงเริ่มต้นของปีนั้น ขุนพลคู่กายเซอร์อเล็กซ์ที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานที่เป็นตัวสำคัญช่วงเริ่มยุค Alex Ferguson Era อย่าง ช็อคชี่ และ พัลลี่(ไบรอัน แมคแคลร์ และ แกรี่ พัลลิสเตอร์) ถึงวัยโรยลาและจากทีมไป และเป็นการเข้ามาของ กองหลังที่แพงที่สุดในโลกตอนนั้น อย่าง ยาป สตัม จากพีเอสวี และ ดไวท ยอร์ค ที่มาจับคู่เป็นคู่หู่นิลกาฬสะท้านโลกจากแอสตันวิลล่า รวมถึงเจสเปอร์บรอมควิสต์ ที่มาคอยแบ็คอัพ ไรอัน กิกซ์ที่มีอาการบาดเจ็บบ่อย นอกจากนั้น ปีเตอร์ เดอะเกรท ชไมเคิ่ล ก็ประกาศล่วงหน้าว่าจบซีซั่นนี้จะอำลาจากโอลด์แทรฟฟอร์ดหลังจากอยู่ช่วยทีมมา8ปี

ทั้งสตัมและยอร์ค เข้ามายกระดับทีมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เกมส์รับของยูไนเต็ดกลับมามั่นคงมากเมื่อสตัมมาผนึกกำลังกับ รอนนี่ ยอนเซ่น เดนิส เออร์วิน แกรี่ เนวิลล์ และมี ปีเตอร์ ชไมเคิ่ลยืนอยู่ข้างหลังแบ็คโฟร์ ส่วนด้านหน้ามีรอยคีน ที่คอยยืนคุ้มกันเป็นด้านหน้าให้
ส่วน ดไวท ยอร์ค มาจับคู่กับแอนดี้ โคล เข้าขาลงตัวอย่างสุดๆ โดยคู่หูนิลกาฬสะท้านโลกยิงรวมกันได้ถึง 53 ประตูเมื่อรวมทุกรายการ

สำหรับโมเม้นต์สำคัญในแต่ละรายการมีดังนี้ครับ




ในลีคปีนั้นแมนฯยูไนเต็ดต้องคั่วแชมป์กับแชมป์เก่าที่เป็นอริตัวฉกาจแห่งยุคของขงเบ้งลูกหนังอย่าง อาแซน แวนเกอร์ ที่ปั้นทีมปืนโต ได้อย่างโหดมาก ทั้งแข็งแกร่ง และ สไตลการเล่นบอลที่สวยงามมีประสิทธิภาพสูง
โดยช่วงครึ่งฤดูกาลแรกแมนฯยูไนเต็ดฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ เข้าช่วงคริสต์มาสโดยอยู่อันดับ 3 และแพ้ไปถึง 3 นัด ก่อนที่จะติดเครื่องโกยแต้มรัวยาว ไม่แพ้ในลีคตลอดครึ่งฤดูกาลหลัง



เรียกได้ว่าเบียดกันยันนัดสุดท้ายเลย โดยช่วงโค้งสุดท้ายต้นเดือนพฤษภาคมที่เป็นเดือนสุดท้าย
อาร์เซนอลที่แข็งแกร่งเบียดเราตกไปเป็นอันดับ 2
สถานการณ์ตอนนั้นเป็นรองแล้วแต่โค้งสุดท้ายในช่วง 3นัดก่อนปิดฤดูกาล
เราสามารถแซงกลับมาได้หวุดหวิดทีเดียว





มาต่อกันที่เอฟเอคัพ ก็มีโมเม้นต์ที่สำคัญคือ การเฉือนชนะอริตลอดกาจลิเวอร์พูล2-1ในรอบ4
โดยเป็นการยิงในนาทีที่ 88 และ 90 และ
จับมาเจอเชลซีทีมแกร่งที่จบฤดูกาลเป็นอันดับ 3 ในซีซั่นนี้
แต่สุดท้ายแม้จะต้องเล่นถึงนัดรีเพลย์แต่ก็ยังสามารถผ่านไปได้









และการชนะอาเซน่อล คู่แข่งตัวฉกาจที่กำลังเบียดแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีคกันอยู่
ในรอบเซมิไฟน่อลแบบดราม่าสุดๆ ซึ่งทั้ง2ทีม ต้องสู้กันถึงนัดรีเพลย์
ในช่วงต่อเวลาที่เสมอกันอยู่ 1-1 แมนฯยูไนเต็ดสถานการณ์ตกเป็นรองอย่างหนักเหลือ 10 คน
เมื่อรอย คีนกัปตันทีมโดนใบแดง หลังจากนั้นมาเสียจุดโทษ แต่ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
โชว์การซุปเปอร์เซฟจุดโทษของเดนิส เบิร์กแคมป์ ก่อนที่ ไรอัน กิกซ์จะลากเลื้อยหลบ
ผู้เล่นอาเซน่อล 5 คนไปยิงแสกหน้าเดวิด ซีแมน
เสยคานเข้าประตูโดยเป็นประตูสุดยอดตลอดกาลใน FA Cup จนทุกวันนี้
ส่งให้ทีมเข้าชิงก่อนไปชนะนิวคาสเซิ่ล 2-0 คว้าโทรฟี่เป็นรายการที่ 2 ของปี




ทางด้านเส้นทาง UCL ตั้งแต่รอบแรกที่จับสลากอยู่นกรุ๊ปออฟเดธ
ร่วมกับบาร์เซโลน่าในยุคที่มีนักเตะระดับบัลลงดอร์ ริวัลโด้ และ
บาเยิร์นมิวนิคยุครวมสตาร์ทีมชาติเยอรมันอย่าง โลธาร์ มัธเทอุส โอลิเวอร์ คาห์น
สเตฟาน เอฟเฟนแบค เมเม็ต โชล และ มาริโอ บาสเลอร์
ซึ่งเราก็เอาตัวรอดเข้ารอบไปได้อย่างหวุดหวิดโดยเข้าไปได้เป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม




ส่วนรอบน็อกเอาท์เราต้องเจอ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีลีคที่รวมซุปตาร์ไว้อย่างมากมาย
โดย อินเตอร์ยุคนั้นมี โรนัลโด้ สุดยอดกองหน้าปีศาจ
ที่สำหรับผมแล้วขอยกให้เป็น Perfect Striker หรือกองหน้าที่ดีที่สุดที่ผมเคยเห็นมาและเกิดทัน
(ผมไม่นับเมสซี่ กับ คริสเตียโน่นะ พวกนี้ผมนับเป็นปีกตัดยิง)
รวมถึงยูเว่ ที่มี Classic Playmaker no.10 ที่ดีที่สุดในยุคที่ผมเกิดทันเช่นกัน
(ผมเชียร์ฝรั่งเศสก็เลยจะมีความเห็นส่วนตัวว่าซีดานคือสุดยอดที่สุดครับ)
แต่เราก็สามารถผ่านทั้ง 2ทีมไปได้อย่างหวุดหวิดที่สุด
จากการที่ยิงประตูตัดสินได้ในช่วงท้ายเกมส์ในนัดที่ 2 ของทั้งรอบควอเตอร์ และ เซมิไฟน่อล








และสุดท้ายในรอบชิงที่จนทุกวันนี้ยังเป็นหนึ่งในรอบชิงยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคที่คลาสิคที่สุดนัดนึง
เมื่อสามารถพลิกจากการตามหลังบาเยิร์นมิวนิคที่เคยเจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม
ก่อนจะมาเจอกันรอบชิงอีกครั้ง ซึ่งบาเยิร์นเล่นได้อย่างเหนือกว่า
และนำเราอยู่ 0-1 จนถึงนาที90 แต่เรื่องที่ไม่มีใครเชื่อก็เกิดขึ้น
เมื่อจบเกมส์ด้วยชัยชนะ 2-1 ของแมนฯยูไนเต็ด
ที่ทำประตูได้2ลูกพลิกแซงในช่วงทดเวลา





ซึ่งถึงแม้แมนฯยูไนเต็ด จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมได้
ในครึ่งฤดูกาลหลังที่ไม่แพ้ใครเลยอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
แต่คะแนนที่ทำให้คว้าแชมป์คือการเบียดกับอาเซน่อลไปแค่ 1 คะแนนเท่านั้น
และ จากความสูสีนี้เองทำให้พวกตัวหลักของขุมกำลังชุดนี้แทบไม่ได้พักเลย
นอกจากความแข็งแกร่งทางร่างกายที่ต้องลงเล่นเกือบทุกรายการ
ยังต้องชื่นชมความแข็งแกร่งทางจิตใจด้วยที่มีบ่อยครั้งที่โดนนำ
หรือ โดนยันเสมอไว้ได้จนถึงท้ายเกมส์ แต่ทีมก็จะสู้และกลับมาทำประตูได้ในช่วงท้าย
หรือไปถึงทดเวลาบาดเจ็บหลายต่อหลายครั้งจนมีการบัญญัติคำว่า Firgie Time ขึ้นมาหลังจากนั้น
ทั้งประตูสำคัญที่ตีเสมอยูเว่ในนาที 90+2 ของไรอัน กิกส์ ใน UCL รอบรองชนะเลิศนัดแรก
ประตูชัยในนาที90ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาที่ยิงลิเวอร์พูล ในเอฟเอคัพรอบ4
และ 2ประตูในนัดชิงที่พลิกแซงบาเยิร์นในนาที 90+1 และ 90+3




นี่คือจำนวนแมทช์ที่ขุมกำลังชุดนั้นต้องลงเล่นเรียกได้ว่า
การต้องต่อสู้เพื่อจะคว้าให้ได้ถึง 3รายการนักเตะตัวหลักต้องทำงานหนักแบบสุดชีวิตเลยทีเดียว
นักเตะอย่าง ชไมเคิ่ล แกรี่ สตัม คีน เบคแฮม ต้องลงเล่นถึง 50นัดขึ้นไป
เรียกได้ว่าหนักหน่วงกับร่างกายนักเตะมากจริงๆ
และนี่คือเรื่องราวการเกิดตำนานที่ขับขานกัน
ว่าเป็นหนึ่งในปีที่เข้มข้นดุเดือด ดราม่า และ ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ในประวัติศาสตร์ลูกหนังของสโมสรแห่งเกาะอังกฤษครับ



มีเกร็ดน่าสนใจอีกเรื่องคือ แมนฯยูไนเต็ดในซีซั่นนั้น
ได้มีการออกชุดแข่งถึง 2แบบ สำหรับ
ใส่ลงแข่งในประเทศ และ อีกแบบคือออกแบบย้อนยุคเพื่อสำหรับลงเล่นในยุโรป
โดยเฉพาะทำให้ในปีนั้นจะใส่เสื้อไม่เหมือนกันครับ
ซึ่งเมื่อปีที่แล้วสโมสรได้ผลิตเสื้อ ucl เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี
ผมเองก็ไปสอยมาใส่ตอนดูยูไนเต็ดเกือบทุกนัดเลยครับ


ข้อมูลประกอบจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/1998–99_Manchester_United_F.C._season#FA_Cup
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
แก้ไขล่าสุดโดย AlfaZero เมื่อ Tue Mar 03, 2020 01:48, ทั้งหมด 3 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Aug 2009
ตอบ: 730
ที่อยู่: Trafford, Sir Matt Busby Way, Old Trafford M16 0RA United Kingdom
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 21:58
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
เป็นปีแรกที่จำความได้ว่าดูแมนยู และเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอินกับความเป็นแชมป์ของแมนยูมากๆ บอกเลยว่าที่ชอบแมนยูไม่ใช่แค่เพราะเล่นเกมรุกสนุกอย่างเดียว แต่การเล่นทุกๆครั้งของแมนยูคือการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8413
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 22:04
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
นักเตะแมนยูยุคนั้น วิ่งกันเป็นม้าเลย
ต้องยอมรับเลยว่าเซอร์สร้างทีมนี้ได้สุดจัดจริงๆ
แทบไม่ได้ซื้อสตาร์มาเลย แต่สร้างสตาร์ขึ้นมาเอง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้จัดการทีมชุดเยาวชน
Status: Red Devil & Nerazzurri & The Yellow Wall
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 17612
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 22:06
[RE][บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999
yoktai พิมพ์ว่า:
นักเตะแมนยูยุคนั้น วิ่งกันเป็นม้าเลย
ต้องยอมรับเลยว่าเซอร์สร้างทีมนี้ได้สุดจัดจริงๆ
แทบไม่ได้ซื้อสตาร์มาเลย แต่สร้างสตาร์ขึ้นมาเอง  

สตาร์ของโลกช่วงนั้นมีเยอะครับแต่ส่วนใหญ่เล่นในอิตาลีกับสเปนกันเยอะ
ยุคนั้นที่มีซีดาน โรนัลโด้ บาติสตูต้า อยู่กัลโช่
ริวัลโด้ อยู่บาร์ซ่าครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 34697
ที่อยู่: Digital World
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 22:06
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
แมตช์ท้ายๆจำได้ว่า เล่นกันโคตรเกร็ง ตอนเสมอลีดส์ผมนี่อย่างหลอนอะ
เพราะอานอลยังนำอยู่เลยตอนนั้น ดีว่านัดท้ายๆมีแพ้มั้ง แมนยูเลยแซงเข้าวิน


แต่อย่างน้อย จนถึงปัจจุบัน ยังเป็นทีมอังกฤษทีมเดียวที่ได้3แชมป์ใหญ่
แต่ไม่รู้ปีนี้หงส์จะทำได้เป็นทีมที่สองมั้ย
แก้ไขล่าสุดโดย BRADY350V2 เมื่อ Mon Mar 02, 2020 22:11, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 22:25
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
BRADY350V2 พิมพ์ว่า:
แมตช์ท้ายๆจำได้ว่า เล่นกันโคตรเกร็ง ตอนเสมอลีดส์ผมนี่อย่างหลอนอะ
เพราะอานอลยังนำอยู่เลยตอนนั้น ดีว่านัดท้ายๆมีแพ้มั้ง แมนยูเลยแซงเข้าวิน


แต่อย่างน้อย จนถึงปัจจุบัน ยังเป็นทีมอังกฤษทีมเดียวที่ได้3แชมป์ใหญ่
แต่ไม่รู้ปีนี้หงส์จะทำได้เป็นทีมที่สองมั้ย
 



แต่ลีดก็ช่วยแมนยูนะ ยิงท้ายเกม จาก ฮัต เซลแบง พาลีดชนะปืนนัดตกค้างและถึือว่าเป็นเกมรองสุดท้ายของปืน ฤดูกาล 1998-1999 นะ


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 22:32
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
AlfaZero พิมพ์ว่า:
มีบทความเรื่อง ทริ้ปเปิ้ลแชมป์ ของยูไนเต็ดเมื่อปี 1999 ที่ผมได้รวบข้อมูลเก็บไว้สักพักแล้ววันนี้เลยเอามาฝากกันครับ
เนื่องด้วยเป็นปีที่ผมทันดูทั้งปี
ในปี 1998-99 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จที่สุดของประวัติศาสตร์ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

โดยที่ทุกคนคงจำได้ดีว่าสโมสรสามารถกวาดแชมป์ พรีเมียร์ลีค ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค และ เอฟเอคัพ ได้พร้อมกันในปีเดียว โดยตลอดทั้งซีซั่น แมนฯยูไนเต็ดพ่ายแพ้ไปเพียง5นัดเท่านั้นจากทุกรายการโดยรวมการแพ้ในแชริตี้ชิล และ ลีคคัพ และ สามารถทำสถิติไม่แพ้เลย 33 นัดต่อเนื่องในทุกรายการ โดยการแพ้ครั้งสุดท้ายคือการแพ้ให้


ข้อมูลประกอบจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/1998–99_Manchester_United_F.C._season#FA_Cup  


33 นัดก่อนเกมนัดชิง ucl จ้า แต่ถ้ารวมนัดชิงด้วยคือ 34 นัด ไม่แพ้ใครติดต่อกันทุกถ้วย ย้ำ ว่าไม่แพ้ติดกันรวมทุกถ้วย ต่อเนื่องเลย แถมเป็นข้อมูลเพิ่มให้จ้า เพระบิ๊กจ๊ะพูดก่อนเกมนัดชิงแล้ว ว่า 33 ถ้าทำได้ จะ 34 แล้วจะโกนหนวด

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 705
ที่อยู่: _lll_
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 23:03
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
ตอนเด็กผมชอบคันโตน่านะก็เลยชอบแมนยูด้วยเลยแต่ก็ไม่ได้ติมตามแบบจริงจึงเท่าไหร่
จนได้ดูuclรอบแบ่งกลุ่มกับบาซ่าที่เสมอ3-3นี่แหล่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าเส้นละตามทุกนัดเลยทีนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 1597
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 23:27
[บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999
ผมชอบเพราะตอนนั้นเราเป็นทีมที่ชื่อชั้นรองทุกด้านเทียบกับบาเยิน บาซ่า ยูเว่ ยุคนั้นสิ โคตรต่างดาวยิ่งกว่า บาซ่าตอนนี้อีก แต่เราผ่านเข้ามาได้ และเราก้เขียนประวัติศาสตร์โลกลูกหนังได้สำเร็จ

แม้ทุดวันนี้ทีมจะไม่เคยเข้าใกล้ชุดตำนานชุดนั้นอีกเลยไม่ว่าจะผลงานหรือตัวนักเตะ ได้แต่หวังว่าสัดวัน แมนยูจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ของเราได้อีกครั้ง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้จัดการทีมชุดเยาวชน
Status: Red Devil & Nerazzurri & The Yellow Wall
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 17612
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Mar 02, 2020 23:43
[RE][บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999
มินจุงโฮ พิมพ์ว่า:
AlfaZero พิมพ์ว่า:
มีบทความเรื่อง ทริ้ปเปิ้ลแชมป์ ของยูไนเต็ดเมื่อปี 1999 ที่ผมได้รวบข้อมูลเก็บไว้สักพักแล้ววันนี้เลยเอามาฝากกันครับ
เนื่องด้วยเป็นปีที่ผมทันดูทั้งปี
ในปี 1998-99 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จที่สุดของประวัติศาสตร์ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

โดยที่ทุกคนคงจำได้ดีว่าสโมสรสามารถกวาดแชมป์ พรีเมียร์ลีค ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค และ เอฟเอคัพ ได้พร้อมกันในปีเดียว โดยตลอดทั้งซีซั่น แมนฯยูไนเต็ดพ่ายแพ้ไปเพียง5นัดเท่านั้นจากทุกรายการโดยรวมการแพ้ในแชริตี้ชิล และ ลีคคัพ และ สามารถทำสถิติไม่แพ้เลย 33 นัดต่อเนื่องในทุกรายการ โดยการแพ้ครั้งสุดท้ายคือการแพ้ให้


ข้อมูลประกอบจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/1998–99_Manchester_United_F.C._season#FA_Cup  


33 นัดก่อนเกมนัดชิง ucl จ้า แต่ถ้ารวมนัดชิงด้วยคือ 34 นัด ไม่แพ้ใครติดต่อกันทุกถ้วย ย้ำ ว่าไม่แพ้ติดกันรวมทุกถ้วย ต่อเนื่องเลย แถมเป็นข้อมูลเพิ่มให้จ้า เพระบิ๊กจ๊ะพูดก่อนเกมนัดชิงแล้ว ว่า 33 ถ้าทำได้ จะ 34 แล้วจะโกนหนวด

 

อ้าวเหรอครับ พอดีอ่านไวๆในวิกิพีเดียเค้าเขียน33งั้นเด่วผมแก้ไขข้อมูลก่อนนะครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 793
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 03, 2020 01:25
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
นัดชิงUCL1999 ตัวหลักก็เป็นรอง แถมบาสเลอร์ยังยิงได้ตั้งแต่ต้นเกม ตอนนั้นพูดตรงๆว่าลูกตีเสมอแหกปากลั่นบ้าน ส่วนลูกขึ้นนำเงียบสนิทเพราะโคตรชอค ซีนนั่นอึ้งไปเลย

โมเม้นท์แบบนั้นในยุคป๋าจบไปแล้ว ป๋าสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้แล้ว
ตอนนี้ เหลือเพียงแค่มองไปข้างหน้า ค่อยๆสร้างมันอีกครั้งให้มันยั่งยืน ผมไม่หวังให้มันยิ่งใหญ่แบบในอดีตหรอก แค่กลับไปลุ้นแขมป์ทุกๆปี ได้เล่นรายการใหญ่ๆต่อเนื่อง ได้มองเห็นทีมรักเติบโตอีกครั้ง ถ้ามันจะใช้เวลาสักหน่อยผมก็ยินดีนะ

ปล.ขอบคุณสำหรับบทความ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 03, 2020 01:41
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
.
แก้ไขล่าสุดโดย มินจุงโฮ เมื่อ Tue Mar 03, 2020 01:44, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 03, 2020 01:47
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
AlfaZero พิมพ์ว่า:

อ้าวเหรอครับ พอดีอ่านไวๆในวิกิพีเดียเค้าเขียน33งั้นเด่วผมแก้ไขข้อมูลก่อนนะครับ  



ข้อมูลท่านอาจจะถูกแล้ว เราอาจจะจำผิดมาตลอด ขออภัยจ้า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 1710
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 03, 2020 06:43
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
ยิ่งใหญ่จริงๆปีนั้น ยอมรับเลย เพราะทุกถ้วยคือเจอทีมใหญ่ทั้งนั้น

แมนยูกวาดเรียบ

เป็นปีที่ไม่ว่าแฟนทีมไหนๆก็จำได้อ่ะครับ

สำหรับผมคือ ตอนถอดมัทเธอุสออกแล้วโดนตีเสมอ

ยังหวังว่าต่อเวลามึงโดนแน่ พอโดน 1-2 ผมปิดทีวีนอนเลย

อิจฉามากกกกกก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: EPL / NBA / NFL
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 388
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 03, 2020 11:38
[RE: [บทความ] ตำนานทริ้ปเปิ้ลแชมป์ 1999]
จุดเริ่มต้นของการเชียร์แมนยู
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel