EP1 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1417742
EP2 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1417780
EP3 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1418098
EP4 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1419604
EP5 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1419936
EP6 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1420292

คุยกันก่อนนะครับ
ประเด็นของสงครามครั้งนี้ผมอยากจะยกแต่ประเด็นสำคัญๆมา ซึ้งใจความของการรบครั้งนี้คัวแปรหลักๆมีแค่2เรื่อง ตามที่เคยฟัง อ.ดร.สุเนตร พูดตอนแลคเชอร์ให้นักศึกษา จึงจะดึงเอาใจความสำคัญนั้นมานำเสนอเป็นหลัก หากเพื่อนๆอ่านEpก่อนแล้วก็จะรู้ว่าทางฝั่งพม่านั้นไม่ได้แยกเป็นศึกๆเหมือนไทยเราจึงมีความต่อเนื้องมากกว่า หากท่านใดเคยอ่านทางไทยมาอย่างแตกฉานแล้ว ขัดใจยังไงก็ขออภัย



กลับเข้ามาที่สงครามกันครับ สงครามครั้งนี้ฝ่ายไทยเองก็จะตั้งชื่อให้ว่า "สงคราม 9 ทัพ" ซึ่งดูแล้วมันน่ากลัวมาก แต่อยากให้เข้าใจอย่างนี้นะครับ จะเรียกให้เป็น สงคราม 8ทัพครึ่ง 19ทัพ หรือ 69ทัพ ก็แล้วแต่ความพอใจ

ใจความสำคัญที่บันทึกไว้คือ พม่าบุกมา "5 เส้นทาง" ...นี้คือหลักแท้จริง ซึ่งทั้งเส้นทางและกำลังพลก็เยอะกว่าทุกครั้งที่เคยบุกมา ซึ้งนั้นก็คือความตั้งใจของเจ้าปดุงที่จะมาตีเมืองสยามให้แตกยังไปยันบ่อน้ำพุเลย ซึ้งการฟรอมทีมหลายเส้นทางขนาดนี้ ต้องมีการประชุมกันพอสมควร มีทั้งเลนใกล้เลนไกล ...(การวางแผนนั้นยากแล้ว การอธิบายให้ฟังนั้นยากกว่า แต่ไม่เป็นไร ผมหายไปนั้งแก่ไขแผนที่มาให้ดูแล้ว ด้วยความสามารถใช้แอฟระดับโพโต้สแคปอย่างผม แผนที่นี้จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น เฉกเช่น เตียวสงมอบแผนที่ทางเข้าเสฉวนให้เล่าปี้ ฮ่าๆๆๆ เพ้อไปนู้น)



(เอ้า ที่แบบนี้ละรูปเล็ก)

ทัพแรก ตามสีเหลืองไปเลยครับ ทัพนี้ถูกส่งลงมาก่อน เพราะหน้าที่ของทัพนี้ คือต้องสะสมเสบียงไว้รอทัพหลวง ซึ้งดูตามรูปคือพม่าเองจะใช้เมืองเมาะตะมะเป็นจุดนัดรวมพลกัน ส่วนทัพแรกนี้พอรวบรวมเสบี้ยงให้ได้มากที่สุดแล้ว มีmission ต่อไปคือลงไปตีไทยตอนล่างทางมริดลงไปชุมพร และทัพนี้ไม่มีหน้าที่มาตีกรุงเทพเลยนะครับ เพราะmission คือตีชิงทรัพยากรแถบนั้น ยึดแถวนั้นได้ ก็ได้ดีบุก ตะกั่วด้วยมั้งครับ เพาะแถวนั้นมีชื่อ อำเภอหรือตำบล ตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง แสดงว่าเส้นทางนี้ตัดไปเลย เหลืออีก 4 เส้นทางที่จะบุกกรุงเทพจริงๆ


ทางที่สองนี้คือสีเขียว ตีเชียงใหม่ กวาดขึ้นไปถึงเชียงแสนเพื่อสะสมเบี้ยงและละดมพล เพื่อที่จะบุกไทยเราจากทางเหนือตามเส้นทางที่เนเมียวสีหบดีเคยเดินทัพ


ทางที่สามเอาเป็นสีม่วง บุกมาทางด่านแม่ละเมาเข้าทางตาก ซึ่งคือเส้นทางบุเรงนองนั้นเอง เพื่อรอสมทบกับทางเหนืออีกที่


ประเด็นจะอยู่ที่เส้นสีน้ำเงินนี้ ซึ้งคือทัพหลวงนั้นเอง หลังจากเจ้าปดุงแบ่งทัพออกไปแล้วทัพหลวงนี้ก็มีขนาดเหลือ80,000 กว่าๆ พอมาถึงเมาะตะมะจุดรวมพล ก็ได้พบกับความจริงที่น่ากลัวมาก นั้นก็คือสเบียงมันไม่พอ *-* ไอ้ทัพสีเหลือสะสมทิ้งไว้ให้นั้นก็เยอะพอสมควร แต่มันก็ยังไม่พอเลี้ยงทัพหลวง ได้นานพอบุกตีไทยได้ เวลานั้นเจ้าปดุงก็โกรธจัดฟาดงวงฟาดงาไปเรื่อย ระบายอารมลงโทษแม่ทัพนายกองเป็นว่าเล่น เจ้ามีขุนนาง่านหนึ่งเสนอว่า ให้แยกทัพออกไปอีกสักหน่อย ลงไปตีทางทวาย ซึ้งเส้นนั้น มังมหานรธาเคยใช้ตีโอบจากทางใต้ได้เข้าพระนครได้เลย อีกอย่างทัพหลวงนี้อย่าตื่นตัวไป ไม่ใช้ว่าเดินทัพเร็วแล้วจะชนะ ค่อยๆเดินทัพปล้นสเบียงตามทางหรือเก็บของป่าเอาก็ได้ เจ้าปดุงจึงอารมเย็นลง ประชุมกันจัดทัพใหม่อีกรอบ และครั้งนี้ก็ไปอันตกลงว่า จะยกทัพหลวงผ่านทางด่านเจดีสามองค์....

ขอแทรกหน่อยนะครับ ทางด่านเจดีย์สามองค์เนี้ย ถึงแม้เจ้าปดุงจะเห็นเป็นเส้นทางที่เดินทัพได้เร็ว เพราะไม่ต้องไปติดหัวเมืองต่างอย่างลำปางพิษโลก แต่เส้นทางนี้ถือว่าอาถรรพ์พอสมควร

คือพม่าที่ยกมาทางนี้ไม่เคยชนะไทยเราได้เลย จะย้อนไปพระเจ้าอลองพญา หรือย้อนไปนู้นตอนตเบงชเวตี้ ตอนที่เราเสียพระสุริโยทัย ครั้งชนช้าง ส่วนบุเรงนองนั้น มีการเสียงทางก่อนออกรบด้วยกระดูกไก่kfc จึงได้เลือกเดินทัพทางด่านแม่ละเมาเข้าตาก จึงสามารถตีไทยได้ถึง 2 ครั้ง

-------------------------------------------------------
เข้ามาทางไทยบ้าง ไทยเราตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่าพม่าบุกมา สิ่งสำคัญที่สุดของเราตอนนี้เลยก็คือ การข่าว ลองคิดดูว่าไทยเราจะรู้และตั้งรับได้ไงเพราะภาพถ่ายดาวเทียมก็ไม่มี และถือเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของเราเลยสำหรับพวกกองสอดแนม เสื้อมอบแมวเซา ทางพระพุทธยอดฟ้า ได้รับข่าวสารอยู่เรื่อยๆไม่ขาดสาย ก็ประชุมแม่ทัพกัน ครั้งนี้ไทยเราถือว่าเก่งมากทั้งว่างแผนตั้งรับ และยังจี้ใจดำพระจ้าปดุงเรื่องใหญ่อีกเรื่องนั้นคือเรื่องสเบียงอาหารนั้นเอง ก่อนจะถึงขั้นนั้นมาว่าถึงการตั้งรับศึกของไทยเราก่อนดีกว่า


(แผนที่นากิน 555+ )

เนื่องจากที่รู้แล้วว่าทัพหลวงพม่าจะยกทัพมาทาง ด่านเจดีย์สามองค์ จึงได้โปรดให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามาหาสุรสิงหนาทเป็นแม่ทัพ คอยไปรับทัพหลวงของพระเจ้าปดุงที่เข้ามา จุดที่ประทะกันนั้นก็จะเป็นที่เมืองกาญ

และยังส่งแม่ทัพไทยฝีมือฉกาจยกทัพไปสกัดทางเหนือไว้อีก รับศึกสองทัพ จุดประทะที่นครสวรรค์

และด้วยข่าวสารที่แม่นยำของฝ่ายไทยเรา ก็ยังโปรดให้มียกทัพมาตั้งรับที่ราชบุรี เพื่อป้องกันศึกจากทางฝ่ายใต้ไม่ให้กรุงเทพเรานั้นถูกตีโอบ

ส่วนพระพุทธยอดฟ้า เป็นทัพที่4 เตรียมตัวในพระนครรอฟั่งข่าวสารว่า ทางไหนเสียเปรียบก็จะยกพลไปช่วย


นี้คือเรื่องของการตัดสินผลแพ้ชนะกันได้เลยนะครับเรื่องการข่าว ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องจากเรื่องสะเบียง ทำให้ไทยเรานั้นรบได้คล่องตัวมากขึ้น การส่งกองหนุนไปนั้นถึงทำให้การรบไทยแม้คนน้อยกว่ามาก แต่ก็นำเอาประสิทธิภาพมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องอาหารและสะเบียงของไทยนี้ไม่ต้องห่วง ...ดินดีสมเป็นนาสวนนนน เพื่อนเอ๋ยเราชักชวน ร่วมช่วยกันทำนาาาาาาาา


เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา มาดูจุดตัดสินสงครามกันเลยครับ จุดนี้เรียกได้ว่าAllCen เลยก็ว่าได้ นั้นคือตรงเมืองกาญ ตอนนี้ทัพหลวงปดุง มีจำนวน เกือบๆแปดหมื่น ส่วนเจ้ามาหาสุรสิงหนาทมี 3 หมื่น สรุปเลย เจ้ามาหาสุรสิงหนาทชนะ จบ.

เรื่องราวที่ชนะได้ไงนั้นต้องมาดูดีเทลฝั่งเจ้าปดุงกันครับ คือ ทัพ8 หมื่นนี้ สงทัพหน้าออกมาตีแค่ 2หมื่นก่อน เพราะมีปัญหาด้านสเบี้ยงนั้นเอง ถ้าไปหมดก็อาจอดตายทั้งกองทัพ ทัพหน้าที่มารบนั้น ซึ่งพูดได้เลยว่าสู้เจ้ามาหาสุรสิงหนาท ไม่ได้อยู่แล้ว

พระพุทธยอดฟ้ายังจี้ใจดำเจ้าประดุงอีก ขณะที่ทัพหน้ารบกันไป ไทยเราอย่างที่บอกรู็ข่าวสารดีอยู่แล้วว่าพม่าเดือดร้อนในเรื่องสเบียง จึงตั้งกองกำลังพิเศษ เพื่อปล้นหรือเผ่าทำลายสเบี้ยง พม่าตามเส้นทางต่างๆ กองละ 5ร้อยคน เพื่อความคล่องตัว ทหารก็เลือกคัดเอาแต่สายAGI ทำการรวดเร็วตามเส้นทางต่างๆ เรื่องนี้พระพุทธยอดฟ้า ซีเรียสมากเลยนะครับถึงกับประหาร เจ้าพยามีชื่อ 3คน และยังเอาหัวไปเสียบประจานอีก เพราะว่าตัดสะเบียงไม่สำเร็จนี้ละ

กลับมาดูทางพม่า หลังจากแนวหน้ารบได้สักพักเห็นท่าไม่ดี เลยจะส่งทัพลงมาเสริมทัพหน้าอีก จึงเรียกขุนนางที่ดูแลแนวหน้ามาถามว่าทางนั้นโอเคไม ขุนนางท่านนั้นก็กลัวถูกประหารดิครับ เลยตอบกลับไปว่า ทางนี้ OK เจ้าประดุงก็ส่งทัพลงมาเสริม โดยหารู้ไม่ว่าทัพหน้านี้ อดอาหารจะตายอยู่ละ ยิ่งมาเสริมอีก จะกินอะไรกัน จนมีบันทึกไว้ว่า ทหารพม่านี้ขุดเผือกขุดมันกินกัน หนักเข้าถึงกับฆ่าม้าเพื่อทำอาหาร ...


แต่สุดท้ายพระเจ้าปดุงก็ได้รู้ความจริง จึงต้องถ่อยทัพไป และพม่าไม่เคยจะยกทัพมาตีกรุงเทพอีกเลย(ครั้งหลังจากนี้จะเป็นรบปะปายที่ทางใต้มากกว่า) จบความคิดรุกรานพระนครเพื่อความเชื่อราชาแห่งชมพูทวีป...


จากใจจขกท....ไม่ว่าจะขึ้นครองราชยังไง พระพุทธยอดฟ้าก็ทำสิ่งสำคัญเทียบเคียงเจ้าตากหรืออาจจะมากกว่าในภายหลัง สำหรับไทยเรานั้นถ้าได้รบวอมฝีมือหน่อยไม่เป็นรองใครหรอกครับแถบนี้ ส่วนเรื่องที่มั่วมาทั้งหมดนั้นไม่ขอลงลึกถึงลายระเอียดวีรกรรมต่างๆ ต่อขอเล่าภาพรวมๆให้พอเข้าใจ...สวัสดีครับ

สงคราม 9 ทัพ แต่บุกมา 5 ทาง

มีสาระะ

เล่าสงครามท่าดินแดงต่อไหมครับ ท่านเล่าสนุกดี

อ่านเพลินเหมือนเคย ไม่ทราบว่าท่านเป้น อ.สอนประวัติศาสตร์ที่ไหนหรือปล่าวครับ ถ้าผมเป้นนักเรียนนะ อ่านทั้งวันก็ไม่เบื่อนะ สนุกดี








ปล.แต่ขอแนะเรื่องคำสะกดผผมเห็นไม่น้อยเลยที่เขียนผิดนะครับ

auto click fol3 ไป พิมพ์ไป ก็ประมาณนี้ละครับ ฮ่าๆๆๆ ละไม่แก้ด้วยครับ เพราะแก้ไปยิ่งผิดไปอีก

อยากได้เรื่องเกี่ยวกับสงครามระหว่างคองบอง(พม่า)กับต้าชิง(จีน)

ตอนนั้นรู้สึกพม่าจะโดนจีนด้วยมั้ง เลยรีบกลับ

อยากรู้ประวัติกรุงธนแบบละเอียด มีหนังสือแนะนำบ้างมั้ยท่าน


อ่านท่านพิมพ์แล้วเพลินดี

จะมีเรื่องอื่นอีกมั้ยอ่า อยากอ่านอีก

อ่าว จบอวสารแล้วเหรอ

มีมาอีกครับ ศึกท่าดินแดง คราวนี้เตรียมตัวมาดีกว่าตอน 9 ทัพอีก คือพม่าแก้ปัญหาขาดแคลนเสบียงได้แล้ว

คราวนี้ ร.1 กับ วังหน้า ชิงจู่โจมก่อนที่ทัพหลวงพระเจ้าปดุงจะมาถึง ทัพสยามตีค่ายพม่าแตกพ่ายย่อยยับ ช้าง ม้า ปืนใหญ่ โดนริบเกลี้ยง กระทั่งพระมหาอุปราชาแม่ทัพใหญ่พม่ายังเกือบถูกจับตัวได้

พม่าแพ้กลับไปคราวนี้ สร้างความตื่นตระหนกไปทั้งอาญาจักร กระทั่งบาดหลวงฝรั่งเศสยังกล่าวไว้ หากไทยยกทัพตามมาก็ทีสิทธิ์ตีได้ถึงอมรปุระเลยทีเดียว

ยังมันอยู่เลยคับมีอีกมั้ย

อันที่จริงผมคิดมากไปเอง กลัวคนจะเบื่อ เพราะผมก็เข้ามาบอร์ดเพื่อรอดูแต่ห้อง 18+


โดยเดิมนั้น ว่าจะรวบเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่สุริโยทัยมาเลย แต่กลัวมันยาวไป เปลื่องดาต้าเบสเว็ปเข้า หรือจะให้เราย้อนกลับไปก็ยังไงอยู่



ช่วงนี้ก็พักกลับไปอ่านหนังสือเก่า ทบทวนเล่นๆไปก่อน

จากการแผล่บแล้ว ผมว่ามีคนรออ่านเยอะแน่ๆครับ จัดมาเบยยยย