ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 17 Jan 2015
ตอบ: 179
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 12:44 pm
[ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก
EP1 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1417742
EP2 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1417780
EP3 : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1418098

เสริมนิดก่อนจะเริ่มต่อนะครับ คือยังคงconceptเดิม ที่มองจากมุมพม่าเป็นหลักก่อน ศึกที่เกิดขึ้นหลังจากเสียกรุงนั้นไทยพยายามจะแยกเป็นศึกๆเป็นวีรกรรมไป ไปผมขอรวบรัดเอาให้สั่นที่สุดเลยนะครับ เพราะฝั่งพม่ามองศึกทั้งหมดนั้นเป็นศึกครั้งเดียวต่อเนื่องซึ่งจะดูจากเวลาก็น่าจะเป็นไปตามนั้น คือ

ศึกพระเจ้ากรุงธนร่วมปารตี้กับเจ้าเชียงใหม่ พศ.2316
ศึกพม่าบุกทางบางแก้ว พศ.2317
ศึกพิษณุโลกกับเจ้าพระยาจักรี พศ. 2318


ตามฝั่งพม่าจึงบอกว่านี้คือการwarต่อเหนื่องนับเป็นศึกเดียว

กลับเข้าเรื่องต่อจากตอนที่แล้ว อะแซหวุ่นกี้ ก็กำลังตั้งทัพแถวเมาะตะมะ เพื่อจะเข้าโจมตีไทยทางด่านเจดีสามองค์ ครั้งแล้วพระเจ้ามังระก็ยังให้ให้นายทหารคนสนิทยกทัพมาสมทบอีก 12กอง เพราะหมายมั่นว่าจะตีกรุงธนให้มันจบๆไป นายทหารที่ส่งมานี้เรียกตามตำแหน่งเลยคือปลัดศึก(จำชื่อไม่ได้ *-*) ปลัดเท่านี้พอมาถึงก็ประชุมทัพกันกับอะแซหวุ่นกี้และแม่ทัพนายกองท่านอื่นๆ ประเด็นประหาเริ่มเกิดตรงนี้ อะแซหวุ่นกี้ เสือเฒ่าของเรานี้ ไม่อยากใจร้อนมาเลยอยากส่งกองกำลังออกไปตีหยังเชิงทัพพระเจ้ากรุงธนดู โดยจะส่งไปเพียงหลักพัน และหนุนไปอีกพัน โดยทัพหน้านี้จะเอากำลังผสมมอญและทหารจากเมืองขึ้น ประมาณให้เป็นหน่วยการตายไปลองดู แต่เจ้าปลัดศึกนี้บอกไม่เอาแบบนี้ไม่เวิค เราต้องยกกองทัพทั้งหมดนี้ตีเข้าไปทีเดียวให้มันจบๆไปเลย เพราะปลัดศึกท่านนี้เคยมาตีสยามครั้งเสียกรุงทางเส้นทางนี้กับมังมหานรธาแล้ว มันจึงมันใจเลนนี้มาก ป่าทางนี้ขอให้บอก แต่อะแซหวุ่นกี้ เองยังใหม่มากกับทางใต้นี้ แต่ แต่ ... สุดท้ายปลัดศึกก็ยอมถ่อยก้าวหนึ่งยอมให้มีการตีหยังเชิงก่อน มีข้อแม้ว่ามันต้องเป็นแม่ทัพ อะแซหวุ่นกี้ก็บอกไม่ต้องเดียวให้พวกหัวหน้าพวกทหารมอญนี้ คุมทัพไป ตายจะได้ไม่เสียดาย ไอ้เจ้าปลัดศึกก็งอลดิครับแบบนี้ ไม่ได้ดังใจสักอย่าง ก็เลยหนีกลับเลย ยกกองทัพกลับด้วย ประกาศเลยว่าคงรวมปารตี้กันไม่ได้หรอกแบบนี้
ภายหลังแม้อะแซหวุ่นกี้จะส่งmessengerไปฟ้องเจ้ามังระ แล้วจังมังระก็สังให้กองทัพปลัดศึกกลับมาร่วมรบใหม่ก็ตาม แต่ศึกมันได้เริ่มไปแล้ว

มาสมัยนี้ไทยเราไม่ตั้งรับแล้วเปิดเกมรุกซะทุกเลนเลย จนบางครั้งต้องทำเวลาให้ได้เพื่อต้องกลับมาเดฟด้วย มาศึกครังนี้แม้เป็นแค่การตีหยังเชิง แต่ทางฝ่ายเราก็ถือว่าทำได้ดีมากโดยศึกครั้งนี้มีการประทะกันที่บางแก้ว .... ไม่เรียกว่าประทะดีกว่า ใช้คำว่าล้อมตีพม่า เพราะไทยเรานี้ใช้กลศึก ล่อทัพพม่าเข้ามาระตีกระนาบซะทุกทาง ทำให้ทัพพม่าติดในวงล้อม กลศึกครั้งนี้แทบจะลอกมาจากตำราพิชัยสงครามเปะๆเลย ใช้กันมานานตั้งแต่แผ่นดินจีนฮั่นแบ่งเป็นสามแผ่นดิน


(ชะอุ๊ย!!!ภาพใหญ่มาก ขอโทษนะครับ )
เส้นที่ตีบางแก้วนี้น่าจะเป็น ข. เมื่อแพ้ครั้งยังเชิงแล้ว อะแซหวุ่นกี้ ก็ได้ครุ่นคิดว่าจะเอาไงดี จะตีทางทาง ค. ก็ไม่เวิคเพราะมันจะไม่เหมือนเดิมครั้งมังมหานรธาแล้ว

แตกประเด็น 2 เส้นทางนี้ คือสรุปง่ายๆเลย ฝ่ายเราย้ายราชธานีไปแล้ว ไปอยู่กรุงธนซึ่งเป็นทางตกท้องช้าง เดินทัพก็ยากดีไม่ดีพาหลงทางกันทั้งกองอีก GPS ก็ไม่มี ถามทางไทยก็จะบอกมั่วอีก สรุปธนบุรีนี้เป็นภัยต่อทั้ง2ฝ่าย

กลับมาค่ายพม่าที่เมาะตะมะ(ตัดภาพมาที่อะแซหวุ่นกี้ นั้งดูดบุหรีใต้แสงจันทร์) อะแซหวุ่นกี้ ได้โชว์ผลของแม่ทัพสายอัพINTนำ ก็ตอนนี้ละ

ขอพรรณนาซักนิด

อะแซหวุ่นกี้ ถือเป็นแม่ทัพเก่าแก่และเก่งมาก ออกรบมาแต่หนุ่มมีส่วนช่วยพระเจ้าอลองพญารวมแผ่นดินได้เลยและถือเป็นการสถาปนาราชวงคองบอง อีกทั้งทำสงครามพิชิตแคว้นมณีปุระ และ ปกป้องกรุงอังวะจากกองทัพจีน จนมีฉายาว่า "มหาสีหสุระ" ซึ้งแปลได้ว่า ผู้กล้าดังราชสีห์ ... พอครับเดียวยาว

อะแซหวุ่นกี้ ได้คิดมาจนบุหรีหมดหลายมวนแล้ว ก็ปลงใจจะใช้เส้นทางโจมตีใหม่ จัดทัพกระบวนทัพใหม่หมด โดยเส้นทางโจมตีนี้ถือเป็นเส้นทางในตำนานเลยก็ว่าได้ โดยพม่าเรียกเส้นทางนี้ว่าเส้นทาง"บุเรงนอง" ถูกใช้ครั้งพระเจ้ากรุงหงสามาตีเอากรุงศรีอยุธยาได้ครั้งแรก นั้นคือเส้นทาง ก. อะแซหวุ่นกี้ ก็เดินทัพตามทางสีน้ำเงินไปเลย ตีไล่จากตาก กำแพง สุโขทัย พอมาถึงพิษณุโลก นี้จะเป็นศึกหนักอีกครั้งสำหรับ อะแซหวุ่นกี้ เพราะแม่ทัพที่ต้อง dual ด้วย จะเป็นแม่ทัพหนุ่มมากสกิลอย่าง พระยาจักรี นั้นเอง....

แค่นี้ก่อนละกันครับยาวเกิน 7 บรรทัดมามากแล้ว
[/b]
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 11973
ที่อยู่: ไม่เสือกดิ :D
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 12:45 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
ยาวไป เดี๋ยวอ่าน
0
0
เข้าร่วม: 18 May 2009
ตอบ: 7811
ที่อยู่: Paradise
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 12:49 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
ทำไมรีบจบ กำลังเคลิ้ม
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 15955
ที่อยู่: สุสานโบราณ
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 12:53 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
ขออภัย แต่หัวมู้ทำเอาผมคิดไปอีกเรื่อง
0
0


"You'll never walk alone "
เข้าร่วม: 13 Apr 2016
ตอบ: 3201
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 1:44 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
มีสาระเอาแผล่บไป

ปล ขออีกเลยท่าน ติดลมละ 5555
0
0
เข้าร่วม: 12 Mar 2008
ตอบ: 6987
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 2:30 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
แปะไว้เดวมาอ่าน
0
0
เข้าร่วม: 17 Jan 2015
ตอบ: 179
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 2:44 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
Afraid-Wifez พิมพ์ว่า:
ทำไมรีบจบ กำลังเคลิ้ม  


เกิน 7 บรรทัดเยอะละครับ
0
0
เข้าร่วม: 29 Mar 2009
ตอบ: 935
ที่อยู่: Outside your heart
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 3:10 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
รอตอนต่อไปอยู่นะ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 42385
ที่อยู่: Anfield ที่รัก ... :3
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 5:27 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
ทุ่งหญ้า บาเลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล
0
0
เรื่องบางเรื่อง ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด เพียงแต่สิ่งที่เราคิดมันต่างกัน
My Liverpool, the Kop will always rule
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 866
ที่อยู่: Thailand
โพสเมื่อ: Tue Oct 04, 2016 9:42 pm
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
ชอบมากคับ ขอติดตาม
0
0
เข้าร่วม: 19 Feb 2011
ตอบ: 3259
ที่อยู่: ตรัง นนทบุรี ปทุมธานี
โพสเมื่อ: Fri Nov 04, 2016 4:08 am
[RE: [ประวัติศาสตร์]ได้ทั้งรับทั้งรุก]
อ่านเพลินเลย แปบๆจบละ
0
0
เชียร์แมนยู ตั้งแต่ 2004 นะจ๊ะ ยุคแพ้บ่อยๆตอนดวลกับเชลชียุคมู 1,รับซ่อมมือถือ htc เปลี่ยนบอดี้ จอแตก สนใจทักได้