บอกให้กินยาไขมัน ไม่เห็นมีใครอยากกิน พอเป็น stroke แล้วร้องทุกราย

ยายผมก็เป็น stroke กายภาพหลายปี ทุกวันนี้กลับมา 80-90% กลับมาได้มากน้อยแล้วแต่ตำแหน่งในสมองด้วย

ตามนี้เลยครับ ที่บ้านเป็นแบบยังไม่แตก มีอาการคือพวกตาตก ลืมตาไม่ได้ ขยับหน้าไม่ค่อยได้ไป 1 ซีก แต่หาหมอและผ่าตัดได้ทันก่อนจะแตก ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 6 เดือน สามารรถใช้ชีวิตได้เกือบปกติ (มีอาการเล็กน้อย แต่ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก )

ยาไขมันคืออะไรครับ

พ่อผมเส้นเลือดแตกตอนอายุ 59 ปี กายภาพแล้วเดินเหินสะดวก ปากเบี้ยวนิดๆ

เคยต้องกลับเข้า รพ.เพราะหยุดแอสไพรินเอง

เพราะบ่นว่ากินแล้วปวดหัว ส่งผลให้เส้นเลือดกลับมาตีบและเริ่มทรุดลงในช่วงอายุ 65 ปี

เริ่มเดินไม่ได้ ทิ้งตัวตอนอายุ 85 ปี เริ่มไม่พูดตอน 87 ปี เสียชีวิต 90 ปี

ภรรยาผมเอง มกราปีหน้าครบ 4 ปีละ เป็นแตกฝั่งขวา ปัจจุบันติดเตียง กระพริบตาอย่างเดียว ขยับตามสั่งเองไม่ได้ ปีแรกเร่งทำกายภาพ แต่ไม่เห็นผล การทำกายภาพแล้วแต่คนไข้แต่ละคน ปรึกษาหมอเจ้าของไข้และหมอกายภาพครับ

อายุเท่าไหร่ครับ
พ่อของผมเป็นตอน72
พูดได้ แค่ช้า คิดคำไม่ออก ซีกขวาหายไป50% ควบคุมได้แต่ไม่ค่อยมีแรง
อยู่ที่ว่าคนป่วยแข็งแรงแค่ไหนด้วย

stroke แบบอุดตันเกิดจากไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยง ตอนตรวจสุขภาพเจอไขมันสูงเกินเกณฑ์ผมจะแนะนำให้ปรับพฤติกรรมสุขภาพคู่กับเริ่มทานยาลดไขมัน แต่ส่วนใหญ่ 99% ขอไม่ทานยา จะลองปรับอาหารดูเองก่อน แล้วก็สุดท้ายทำไม่ได้ ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงหลายๆอย่างรวมกันก็จะเป็น stroke หรือ เส้นเลือดหัวใจอุดตันตามมา

ผมก็กินยาครับ Statin ตรวจสุขภาพแล้วความดันสูงและ LDL สูง มีตระกันที่เส้นเลือดใหญ่ที่คอด้านซ้ายประมาณ 50% ซึ่งมีความเสี่ยง พยายามปรับเองมา 2 ปี พอภรรยาเป็น Stoke เข้าใจเลยว่ามันไม่มีสัญญาณเตือน เลยไปหาหมอขอกินยา ตอนนี้กินมา 2 ปีกว่าแล้วควบคู่ยาความดัน ตรวจล่าสุด LDL ประมาณ 60 ตระกันที่คอเหลือแค่ 20% หมอบอกได้ผลดีมาก ส่วนเรื่องปวดกล้ามเนื้อ ผมไม่มีนะ ออกกำลังกายได้ปกติ

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ stroke ตามเม้นบนครับ

อาการมากน้อยขึ้นกับตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงความรุนแรงของการตีบ/เลือดออกด้วยครับ

สิ่งสำคัญมากๆหลังจากนี้มีสองประเด็นนะครับ
1. การฟื้นตัว "ต้อง" ทำกายภาพเยอะๆครับ ยิ่งทำเยอะจะยิ่งฟื้นได้ หลักการของการกายภาพคือเอาเซลล์สมองส่วนที่ยังไม่เสียหายมาทำงานทดแทนส่วนที่เสียหายไปแล้วครับ ยิ่งฝึกเยอะก็จะยิ่งฟื้น แต่ละคนจะฟื้นได้ไม่เท่ากัน แต่ต้อง cheer up เยอะๆครับ เพราะมีคนไข้ส่วนหนึ่งหลังเป็น stroke แล้วกลายเป็นซึมเศร้า ไม่กายภาพ กลุ่มนี้การฟื้นตัวน้อยกว่ากลุ่มที่ทำกายภาพดีอย่างชัดเจนครับ

หลักการของกายภาพมีหลาย step ค่อยๆไล่ไปนะครับ
- ถ้าอ่อนแรงมากๆ ขยับไม่ได้เลย เราจะกายภาพไม่ให้ข้อติด
- ถ้าพอกระดิกได้บ้าง เราจะช่วยให้ขยับเองได้มากขึ้น
- ถ้าเริ่มมีแรงในระดับต้านแรงโน้มถ่วงได้ (ยกแขน ยกขา) อันนี้ดี จะฝึกด้วยตัวเองได้ง่าย ให้ทำบ่อยๆ ทำทั้งวัน
- ถ้าแรงดีในระดับต้านแรงโน้มถ่วงได้แล้ว ให้ออกแรงต้านมากขึ้น ฟีลลิ่งเหมือนยกดัมเบลแบบนั้นครับ กำลังกล้ามเนื้อจะดีขึ้นอีก

2. การป้องกัน(ลดความเสี่ยง)การเป็นซ้ำ อันนี้ขึ้นกับสาเหตุของ stroke นะครับ ถ้าเป็นจากโรคร่วม ก็ต้องไปคุมปัจจัยเสี่ยงดีๆ เบาหวาน ความดัน ไขมัน สูบบุหรี่ ในบางกรณี stroke เป็นจากโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก็ต้องทานยาเพิ่มเติมเพื่อรักษาจุดนี้ด้วย

เน้นว่าการกินยาเปาหมายคือลดโอกาสการเป็นซ้ำ ไม่ได้กันได้ 100% ครับ แต่เราก็จะลดโอกาสให้ได้มากที่สุด


สรุป กายภาพเพื่อฟื้นฟู กระตุ้นให้ทำเยอะๆ และทานยาเพื่อคุมปัจจัยเสี่ยงลดการเป็นซ้ำครับ

แม่ผมเป้น สมองส่วนที่ทรงตัวเสียหายก็เดินไม่ได้ เดินแล้วถ้าหยุดจะล้มเลย
แกก็ใช้ชีวิตติดเตียง+ลุกขึ้นมาเดินแบบใช้ที่ช่วยบ้าง ราวๆ10ปีก็สโตรกอีกรอบแล้วเสียไป

น้องที่ทำงานเพิ่งตีบไปเมื่อกลางปีตอนนี้ปกติแล้ว
ไปหาหมอช้าไปวันนึงด้วย โชคดีมากๆ

พี่อีกคนที่รู้จักก็ตีบ แต่หายแล้ว ตอนนี้ออกปาร์ตี้กินเหล้าได้ปกติ -"-

แม่ผมเป็น intracanial hemorrhagic stroke เลย ตอนแรกดูฟิล์มพยาบาลเผลอบอกเลยว่าโอกาสรอดยาก แต่ตอนนี้หายกลับมา 100% แข็งแรง สมบูรณ์กว่าตอนแรกอีกครับ พอออกจากโรงพยาบาลหมอนัด follow up แม่ผมเดินเข้าไปห้องตรวจได้ หมอตกใจเลยทำไมไม่นั่งรถเข็นเข้ามา

ที่หายได้จริงๆของเคสแม่ผมนะ คือขอสแกนสมองอีกรอบ ตอนแรกหลังจากผ่าเสร็จเดือนนึง พูดไม่ได้ ไม่รู้สึกตัว หมอก็บอกว่าให้ทำใจ จะให้กลับบ้าน ได้แค่กายภาพไปเรื่อยๆ พ่อผมไปขอให้แสกนสมองอีกรอบ ก็ไปเจอว่ามีน้ำออกในสมอง ผ่าทำ ct shunt อีกรอบ วันต่อมาพูดได้เลย ถ้าเชื่อหมอกลับบ้านเลยวันนี้ก็คงยังพิการอยู่

20 กว่าปีก่อน พ่อผมเป็นสโต็ค ติดเตียงอยู่ 2 ปีแล้วก็เสียชีวิต เรื่องจะกลับมาเป็นปกติมั้ย หมอรู้ดีที่สุดเพราะหมอรู้ว่าสมองเสียหายแค่ไหนส่วนไหน หรืออาจไม่เสียหายเลยก็ได้ ของเคสญาติคุณโชคดีมากที่เหตุเกิดที่โรงบาล คงวินิจฉัยรักษาได้ทันท่วงที ผมว่าจากหนักคงเป็นเบา จากเบาก็ไม่เป็นอะไรเลย แต่เคสพ่อผมท่านไปทำงานพักอยู่คนเดียว กว่าคนจะมาเห็นก็หลายชั่วโมงผ่านไปแล้วสมองเลยเสียหายหนัก ขอให้ญาติคุณโชคดี ไม่เป็นไรมาก ทำกายภาพให้หนักห้ามขี้เกียจเพราะเอ็นตึงแล้วเอากลับคืนมายากมาก กำมือยังยากเลยถ้าเอ็นมันได้ตึง ด้วยการแพทย์สมัยนี้ทันสมัยมากและการรักษาที่รวดเร็วผมว่าญาติของท่านไม่เป็นไรมาก ขอให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว เหนือสิ่งอื่นใดให้เชื่อแพทย์ เขารู้ดีที่สุด อย่าลืมเรื่องเช็คกรมธรรม์ประกันด้วย(้ถ้ามี) โชคดีครับ

มีเพื่อนเป็น เพราะเส้นเลือดในสมองตีบ เค้าบอกการผื้นตัวว่ามันจะมีช่วงเวลาทองอยู่ ประมาณ 6 เดือนหลังจากที่ออก รพ. ในช่วง 6 เดือนนี้ ถ้าทำกายภาพ และควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด จะกลับมาได้เยอะ แต่ถ้าหลังจาก 6 เดือน ร่างกายแทบจะคงที่ หรือจะฟื้นตัวกลับมาได้อย่างช้าๆ แล้ว

แม่ผมแค่ตีบ ซีกซ้ายมีปัญหา ยาเกล็ดเลือดใช้ไม่ได้ล่ะ ต้องระดับลิ่มเลือด ยังไม่รู้เลยว่าจะดีขึ้นได้เมื่อไหร่ หมอก็บอกล่ะว่า 3 เดือนน่าจะดีขึ้น แต่ไม่รู้ดีขึ้นพอจะกลับมาทำงานแบบที่แกเคยทำได้ไหม ตอนไปฉุกเฉินเพื่อนที่เป็นพยาบาลก็บอกอยู่ว่าดีแล้วที่ไม่ Stroke ไม่งั้นยากมาก ยังดีที่เลือดไม่ได้ออกในสมอง

อายุไม่เยอะมาก ฟื้นฟูเร็ว ถ้าหมอบอกว่ากลับมาเดินได้ กายภาพเดียวก็เดินได้ปกติครับ

กลับมาได้เท่าเกือบคนปกติไหม = ไม่100%

เหมือนพูดไม่ได้ = เหมือนเด็กมาเรียนใหม่ครับ ท่องจำอ่าน ทำบ่อยๆเดียวก็กลับมาได้ แต่ก็อาจไม่100% กลับมาพูดได้ แต่บางคำอาจพูดไม่ได้ หรือพูดผิดๆถูกๆ เรียงคำผิดอะไรแบบนี้

บางเคสลามไปถึงการมองเห็น ลองเช็คเรื่องนี้อีกทีครับ