ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: ใจเป็นเช่นไร การกระทำและคำพูดจะเป็นเช่นนั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Nov 2006
ตอบ: 3412
ที่อยู่: ผลเท่ากันกับเหตุ เหตุเท่ากันกับผล
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 21:22
มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น
ประวัติ Jürgen Klopp ไม่รู้มีใครเคยลงไว้ยัง แต่ผมอ่านแล้วน่าสนใจมาก เลยอยากนำมาให้เพื่อนสมาชิกอ่านครับ

เป็นที่รู้กันดีว่า คล็อปเป็นลูกหม้อของ Mainz แต่ ไมน์ ในเวลานั้นเป็นแค่ สโมสรเล็กๆในโซนตกชั้นของดิวิชั่นสอง
ในปี 1992 - ออฟฟิศของสโมสรคือโชว์รูมขายรถของประธานสโมสร
CEO ขายตั๋วเองในเช้าวันที่มีแข่ง ลูกจ้างพาทไทม์ จะเข้ามาอาทิตย์ละสองครั้งเพื่อเก็บกวาดและตอบจดหมาย แฟนบอลผลัดเวรกันทำอาหารมาเลี้ยง และ ถือกล่องเรี่ยไรหาเงินค่าชุดซ้อมของทีมเยาวชนในจตุรัสกลางเมือง
คล็อปเองเตะบอลไปด้วย กัดฟันเรียนปริญญา Sport Science ที่มหาวิทยาลัยแฟรงเฟิร์ต ไปด้วย แล้วก็ทำงานทุกอย่างที่มีคนจ้าง วิ่งซื้อโค้ก หรือเป็นนักข่าวฝึกหัดก็ทำมาแล้ว

ก่อนแข่งแต่ละนัด ไฮเดล - ประธานสโมสรจะเข้าโบสถ์ไปสวดขอพร
"ถ้าใครรับแทงว่าไมน์จะได้ขึ้นบุนเดสลีก้าในสิบปีนะ ผมขายบ้านขายช่องแทงสวนเลยแหละ" เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งของคล็อปว่าไว้

ชีวิตนักฟุตบอลของคล็อปลุ่มๆดอนๆ จากกองหน้าฝีเท้าจัด ก็ค่อยๆถอยลงมาเป็นกองหลังตัวโย่ง ด้วยความที่อยู่ทีมเล็ก คล็อปก็มีปัญหาทางการเงินอยู่บ่อยๆ

คล็อป : ผมได้เงินเดือนดีมาก เดือนละ 2500 มาร์ก โบนัสอีกสองพันต่อนัดที่ชนะ - ปัญหาเดียวที่มี คือทีมไม่เคยชนะ!
* คล็อปประชด เงิน 2500 มาร์กนี่แทบไม่พอยาไส้ คล็อปบอกทำงานไปจนแขวนสตั๊ด คงซื้ือรถที่ไฮเดลขายไม่ได้แม้แต่คันเดียว

ความขัดสนทางการเงินรุนแรงกระทั่ง แม้จะเจ็บ ก็เจ็บไม่ได้นาน คล็อปทำสถิติฟื้นตัวจากเอ็นเข่าไขว้หน้าขาดได้เร็วเป็นประวัติการณ์ - 8 อาทิตย์ เพราะทีมในลีก 2 จ่ายเงินเดือนแค่ 6 อาทิตย์เท่านั้นถ้าไม่ได้ลงเตะ และถ้าทีมตกชั้น อาชีพของเขาก็อาจจบลง เขารู้ดีว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า กับค่านมลูกเป็นยังไง

ประสบการณ์เจ็บ ท้อแท้ สิ้นหวังมาก่อน ทำให้คล็อปเป็นพ่อพระ ของ "ลูกทีมในอนาคต" หลายๆคน

คล็อปมีแพสชั่นต่อชัยชนะที่รุนแรง เขาเคยบ่นใส่เพื่อนร่วมทีมบ่อยๆว่า เขารู้ว่าควรส่งบอลไปทางไหน หรือวิ่งไปทางไหน แต่เท้าเจ้ากรรมชอบส่งบอล ไม่ขาด ก็ล้นอยู่เรื่อย สมองระดับบุนเดสลีก้า กับเท้าระดับลีกสมัครเล่น ก็เลยพาเจ้าตัวติดแหง็กอยู่ในลีก 2 เมื่อเท้าไม่ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็น คล็อปจึงหมกมุ่นกับแท็กติกตั้งแต่ยังหนุ่ม หาทางให้ทีมฝีเท้าดาดๆ เจอชัยชนะ เพื่อคว้าโบนัสกับเขาบ้าง

แล้ววันหนึ่งชะตาของคล็อปก็เปลี่ยนไป

พบสุดยอดอาจารย์

ตอนนั้นไมน์ 05 อยู่ท้ายตารางดิวิชั่น 2 (เช่นเคย) มีแค่ 12 คะแนนจากครึ่งฤดูกาล นสพ บอก "ตกชั้น 100%" ไม่มีโค้ชคนไหนอยากมาทำ
แล้วสโมสรก็ได้โค็ชชื่อ วูฟกัง แฟรงค์ เข้ามา



วูฟกังเอาเสาไปปักในสนาม นักเตะโดนสั่งให้วิ่งทั้งวัน โดยไม่มีบอล
"ไม่มีสวีปเปอร์" แฟรงค์ยืนกราน "หลังน้อยลงหนึ่งคน ก็มีมิดฟิลด์เพิ่มขึ้นหนึ่งคน" - ไมน์ เป็นทีมแรกที่เล่น back 4 ในเยอรมัน ยุคที่ทุกทีมในสมัยนั้นมีลิเบโร่
"เราจะเพรสซิ่งตั้งแต่แดนหน้า บีบให้เขาเล่นลูกยาว แล้วยักษ์คล็อปก็จะเก็บบอลมาให้เราบุก" - คุ้นๆนะ

คล็อป : "เราไม่มีแต้มเลย อย่าว่าแต่วิ่งทั้งวัน ให้ปีนต้นไม้แลกแต้มก็เอาเหอะ"
เช้าวันจันทร์ เป็นวันดูเทป
คล็อป : "วูฟกังไปเก็บนักศึกษาจากมหาลัยข้างๆมาคนนึง หมอนั่นจะนั่งตัดต่อวีดีโอ แล้วก็มาให้เรานั่งดู จ้ำจี้จ้ำไชว่าต้องวิ่งแบบโน้นแบบนี้ตลอดวัน" - หมอนั่นคือ ปีเตอร์ คราเวียซ มือซ้ายคล็อปตอนนี้

ปีนั้นครึ่งฤดูกาลหลัง ไมน์ทำได้ 32 แต้ม เป็นอันดับสองของดิวิชั่นสอง - ทีมขยับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มลุ้นเลื่อนชั้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

แฟรงค์กลายเป็นเทพเจ้าของสโมสร
"ถ้าแฟรงค์บอกพรุ่งนี้ต้องทุบสเตเดี้ยมทิ้ง - ทุกคนก็คงวิ่งไปคว้าค้อน" ประธานเขาว่างั้น
คล็อปยิ่งกว่าประทับใจ วูฟกังพาความเปลี่ยนแปลงมาที่สโมสร สเตเดี้ยมเริ่มมา สปอนเซอร์เริ่มเข้า

โค้ชพเนจร
วูฟกัง เป็นแฟนพันธ์แท้ของอาริโก้ ซาคคี่ ทั้งวันเอาแต่ดูเทป จดโน้ต แล้วก็พยายามเอาไปใช้ในสนาม ในยุคที่ไม่มีใครรู้จักเพลสซิ่ง
วูฟกัง ชุบชีวิตไมน์ได้สำเร็จ คล็อป - ทำตัวเป็นเจ้าหนูจำไม ถามทุกอย่าง ทำไมต้องซ้อมแบบนี้ ทำไมต้องวิ่งทางนั้น แฟรงค์สอนกระทั่งวิธีบรีฟทีม และคล็อปก็จดทุกอย่าง

แต่วูฟกังไม่ใช่คนติดที่ เขาพยายามเผยแพร่ว่าทฤษฏีฟุตบอลของเขาดีกว่า เจ๋งกว่า และไม่ลังเลที่จะย้ายงาน
ทีมใหญ่ๆไม่ยอมรับเขา เขาทำงานได้ดีกับทีมเล็กๆมากกว่า โค้ชรุ่นหลังจำนวนมากได้อิทธิพลจากวูฟกัง - หนึ่งในนั้นคือศูนย์หน้าของทีมดิวิชั่นสอง โยอัคคิม เลิฟ

แต่การพเนจรของวูฟกัง สร้างผลสะเทือนอย่างร้ายแรงต่อ ไมน์ - ทีมที่อยู่รอดด้วยแท็คติกของ ผจก ทีมมากกว่า ฝีมือนักเตะ
เมื่อวูฟกังจากไป ทีมก็ทรุดลง โค้ชที่เข้ามาใหม่ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทีมทรุดลงอย่างต่อเนื่อง ไปจมท้ายตารางอีกครั้ง

ไฮเดล - ประธานสโมสร ยอมรับว่า เขาไม่รู้จะหาโค้ชที่ไหน - ในยุคนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ตที่จะหาข้อมูลโค้ชได้ง่ายๆ "และถึงหาได้เราก็ไม่มีปัญญาจ่าย"
สุดท้าย ไฮเดล ตัดสินใจ โทรเรียกคล็อปมาพบ แล้วบอกว่า คุณเป็นผู้จัดการในเกมถัดไป

คล็อปขุดเล็คเชอร์เก่าของวูฟกังขึ้นมา ปักเสาลงพื้นสนาม แล้วพยายามนึกว่าตอนนั้นวูฟกังทำอะไร
คล็อปพาทีมชนะสองนัดรวด และพาทีมรอดตกชั้นได้สำเร็จ - คล็อปได้สัญญา ผจก ทีม สองปี - เขายอมรับในภายหลังว่าเขาโชคดีที่ไม่ทิ้งการเรียน คล็อปเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาไปด้วย พร้อมๆกับเตะบอล ความรู้ในชั้นเรียนช่วยเขาไว้ ตอนต้องเป็นโค้ชจริงๆ

คล็อป กับ แฟรงค์ ผู้เป็นอาจารย์แทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ยกเว้นอย่างเดียว ความกระหายต่อชัยชนะ
แฟรงค์ พูดไม่เก่ง และไม่ชอบสังคม เวลามีเสียงโห่ร้องอื้ออึงเขาจะทำตัวไม่ถูก แต่เขาหัวเสียทุกนัดที่ทีมแพ้ ครั้งหนึ่งไมน์แพ้บาร์เยิร์นมิวนิค ในบอลถ้วย แฟรงค์ หงุดหงิดมากจนรื้อข้าวของในห้องทำงานตัวเองหมด แล้วนั่งจัดใหม่อยู่ทั้งวัน บ่มพึมพัมตลอดวันว่า "ถ้าเราเล่นดีกว่านี้อีกนิด บาร์เยิร์นพลาดมากขึ้นอีกหน่อย"
ส่วนไฮเดล ก็ต้องไปไล่ตอบคำถามคนอื่นๆว่า "อ๋อ เราจะรีโนเวท"

ส่วนคล็อปก็อย่างที่เรารู้ๆกัน - กล่อมลิงตกต้นไม้ คำพูดคำจาคมคาย แพสชั่นต่อชัยชนะของคล็อปแสดงออกมาในอีกแบบ
วัคเค่ : คล็อปไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแพ้ซักเกม - เขาเดินหน้าฆ่ามันตลอด ถ้าแพ้ก็เอาใหม่
ไฮเดล : ตั้งแต่ตอนเป็นนักเตะ แม้แต่ตอนซ้อม ถ้าใครอยู่ข้างเขาแล้วแพ้นะ คุณเอ๊ย แทบจะโดน-หัว แล้ววันรุ่งขึ้นคล็อปก็ลืม

นิสัยของคล็อปทำให้เขาเป็นที่รักของทุกคน จากกองหน้าดาวรุ่งตีนจรวด ค่อยๆถอยลงมาเป็นกองหลัง นักเตะใหม่มีปัญหา - ไปหาคล็อป
บาดเจ็บยาวท้อแท้ - ไปหาคล็อป ไม่เข้าใจแท็กติก - ไปหาคล็อป

แม้แต่เมื่อเขาเป็นผู้จัดการทีม - วันเกิดแม่เหรอ - ไปสิ ผมไปอวยพรด้วยได้มั้ย
ลูกคลอด? วันครบรอบ - ลาเล้ย คล็อปไม่ว่า
พักอยู่ที่เดียวกัน ? ติดรถไปสนามซ้อมก็ได้

แต่วินัยต้องเป็นวินัย - คล็อปตั้งกฏ ปรับ 500 ยูโร สำหรับการมาซ้อมสาย วันหนึ่งกองหน้าของไมน์ตื่นสาย พลอยทำให้คล็อป(ที่ไปรับ)สายไปด้วย
500 ยูโร เป็นเงินที่ใหญ่มาก สำหรับคล็อปในสมัยนั้น - ทั้งโค้ชทั้งนักเตะวิ่งแข่งกันเข้าสนามซ้อมสองวินาทีก่อนเส้นตาย

ความเฮฟวี่ เมทัล ของคล็อป ปลุกไมน์ให้ตื่น แต่พอเจ้าตัวได้โปรโมทเป็นโค้ชชุดใหญ่ของไมน์ - ตอนนี้เจ้าตัวก็เจอปัญหาแล้ว ต่อหน้า(อดีต)เพื่อนร่วมทีม คล็อปต้องวางมาดว่ารู้ทุกอย่าง และไม่มีใครให้ถามด้วย หลังพ้นฤดูกาลแรก คล็อปโทรเรียกเพื่อนร่วมทีมเก่า - เซลโก้ บูวัค - เดอะ ชัคกี้ กลับมาช่วยงาน
นี่ช่วยแก้ปัญหาโค้ชไลเซนต์(คล็อปไม่มี แต่บูวัคมี) อีกด้วย
ดังนั้นตำแหน่งโค้ชที่ลงทะเบียนกับ DFB ว่าเป็นโค้ชไมน์คือ บูวัค โดยมีคล็อปเป็นหัวหน้าทีม



คล็อป - เซลโก้ เป็นตัวเลือกแรกของผม เป็นตัวเลือกที่สอง และ ตัวเลือกที่สามด้วย - เซลโก้ คือสารานุกรมฟุตบอลกลับชาติมาเกิด
เซลโก้ พูดน้อย ในช่วงสามปีที่ไมน์ แจน โดลิ่ง ผู้สื่อข่าวประจำไมน์ได้ยินเซลโก้ พูดแค่ "คำเดียว" ว่ากันว่าไม่มีใครเคยได้ยินเซลโก้ พูดนอกสนามซ้อมเลย
นั่นคนละเรื่องกับในสนามซ้อม และห้องวางแผน
"แผนเฮงซวย - ไอ้กร๊วก" แล้วเซลโก้ ปิดประตูใส่หน้าคล็อป เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป......

โดลิ่ง - คล็อปเป็นเซลแมน เขาขายฝันได้ อ่านภาพใหญ่ออก ตัดสินใจเด็ดขาด ประเมินจุดดีจุดด้อยได้คม เซลโก้ คือมนุษย์รายละเอียด เขาไล่เก็บตามปิดช่องโหว่ทุกเม็ด ทั้งในแผน และในการฝึกซ้อม

ทันทีที่บูวัค เข้ามา แผนหยาบๆ ที่คล็อปพาทีมรอดตกชั้นอย่าง 4-4-2 โดนปรับเป็น 4-3-3 ไมน์ขยับจากทีมหนีตกชั้น ขึ้นไปอยู่บนหัวตารางทันที (รู้เลย แผน 4-3-3 ของลิเวอร์พูลปัจจุบันนี้ความคิดใคร อิอิ)

คล็อป - การซื้อตัวที่ดีที่สุดที่เคยทำมา - และน่าจะดีที่สุดตลอดกาลของผมด้วย - คือไปฉกเซลโก้ มาเป็นผู้ช่วย

ทีมลุ้นเลื่อนชั้นทันทีในปีที่สอง แต่ไม่ดีพอ ไมน์ได้ 64 แต้ม - แต้มสูงสุดตลอดกาลของทีมที่ไม่ได้เลื่อนชั้น
ปีถัดไป ทีมยังไม่ยอมแพ้ - ไฮเดลมั่นใจเอามากๆว่าทีมต้องได้เลื่อนชั้นแน่ๆ ถึงขนาดเริ่มรีโนเวทสเตเดี้ยม - ในนัดสุดท้าย ไมน์ต้องชนะ และต้องการประตูได้เสียดีกว่าแฟรงค์เฟิร์ต 1 ประตู - ไมน์ชนะ 4-0 แต่แฟรงเฟิร์ตยิ่งประตูในช่วงทดเวลา ไมน์ อกหักอีกครั้ง
ไฮเดล บากหน้าไปขอลดดอกเบี้ยค่าสเตเดี้ยม ทีมใกล้แพแตก แต่คล็อปยังคงปลุกใจในแง่ดีว่า ปีก่อน ขาดหนึ่งแต้ม ปีนี้เราขาดประตูเดียวเอง.... คล็อปเก็บผู้เล่นเกือบทั้งหมดให้พยายามด้วยกันได้อีก 1 ซีซั่น

ปีที่สามของคล็อป Michael Thurk กองหน้าตัวเก่งเซ็นสัญญาย้ายทีมไป FC Energie Cottbus ตัวเก็งว่าจะได้เลื่อนชั้น แต่ Third time lucky ไมน์จบอันดับสาม และ Energie Cottbus จบที่สี่(เอาสามทีม) เพราะประตูได้เสียแย่กว่า

ในขณะที่ทุกคนฉลองกันสุดเหวี่ยง Thurk หน้าเป็นตูด บ่นอุบอิบว่า "ต้องย้ายทีมจริงเหรอวะ"

ผลงานของคล็อปที่ไมน์ ทำให้วัคเค่สนใจ - ดอร์ทมุนอยู่ในสถานการณ์ลำบาก - ใกล้ล้มละลาย และไม่มีเงิน วัคเค่ตามดูไมน์อย่างใกล้ชิดอยู่เป็นปี ก่อนติดต่อกับไฮเดล

ไฮเดล : ถ้าผมบอกว่าเขาไม่เจ๋ง ผมก็โกหก ถ้าผมบอกว่าเขาเจ๋ง คุณก็จะเอาเขาไป แต่เอาเหอะ เขาเจ๋ง

แล้วในที่สุดคล็อปก็ไปดอร์ทมุน

การซื้อนักเตะ

ไฮเดล - ไมน์มีงบน้อย ดังนั้นเราจะพลาดไม่ได้
เรามักจะเชิญ นักเตะ พร้อมกับภรรยามาที่ไมน์ - คล็อปเอานักเตะไป ส่วนผมจะพาแฟนนักเตะไปเที่ยว พาไปดูจุดช้อปปิ้ง จุดกินข้าว ฯลฯ

คล้อป - เราจะโฆษณาสโมสร ความน่าตื่นเต้นของฟุตบอลที่เราเล่น สิ่งที่เราคาดหวัง แล้วก็เรื่องอื่นๆ แล้วก็รอดูว่านักเตะจะว่ายังไง
ถ้าเขาบอก ผมไม่ชอบซ้อม แต่ผมเล่นดีนะ - โอเค ประตูอยู่ทางโน้น ถ้าคุณบอกกำลังรอคุยกับอีกสโมสร - โอเค ประตูอยู่ทางโน้นเหมือนกัน
ถ้าคุณไม่ว้าว กับวิธีที่เราเล่น เราก็ไม่ต้องการ และจริงๆมันก็จะไม่เวิร์คสำหรับคุณด้วย
เราต้องการนักเตะที่พร้อมทำงานหนัก และเป็นทีม ไปพร้อมๆกับคนอื่น เราบอกกันตรงๆว่า ถ้าเป็นเรื่องเงิน - บอกกันได้ตรงๆ เราเข้าใจ แต่โดยมาก เราจะได้ตัวนักเตะ
หนึ่งในนั้นคือ โมฮัมเม็ด ซีดาน เขาตื่นเต้นซะจนจะย้ายมาไมน์เพียงทีมเดียว ท่ามกลางความงุนงงของเอเย่นต์เพราะมีทีมอื่นให้สูงกว่า และเขาไม่สนจะไปคุยอีกแล้ว

กุนโดกัน - คล็อปกำลังอยากได้คนไปแทนซาฮิน - เขาทวีตชวนผมตั้งแต่ตอนทีมเจอกันในเนิร์นแบก ตอนนี้ก็เลยมีการคุยกันจริงๆจังๆ เขาถามว่า "ถ้าคุณย้ายมาที่นี่คุณคาดหวังอะไร"
"ได้ลงเล่นเยอะๆ และเล่นให้ดี"
คล็อป "ฟังนะ ผมสัญญาไม่ได้ว่าคุณจะได้ลงเล่นเยอะ แต่คุณจะได้เรียนรู้เยอะ และถ้าผลงานคุณดีพอ คุณจะได้ลงเล่น"
มันแบบว่า ว้าวววว นี่ ผจก คนแรกเลยนะ ที่ชวนผู้เล่นโดยไม่สัญญาว่าจะได้ลงสนาม - ซื่อสัตย์สุดยอด ผมก็เลย เอาวะ ย้ายเป็นย้าย

แล้วเป็นไง?

กุนโดกัน - ผมโดนหลอกกกก เซสชั่นแรก ผมโดนสั่งให้ไปเจอชัคกี้(บูวัค) เราเริ่มจากวิ่งรอบสนาม 11 รอบ แล้วมายิงบอลจากครึ่งสนามให้ชนคาน คนทำไม่ได้ไปวิ่งรอบที่ 12 ต่อ
นรกโคตร - โหด อิ๋บอ๋าย แต่อย่างน้อยก็มีเพื่อนบ่นวะ ฮุมเมลล์ นี่ก่นด่าโคตรเหง้าศักราช ทุกวันที่ซ้อม
ฮุมเมล - ปีแรกมันยาก ผมพึ่งย้ายมาจากบาร์เยิร์นแบบยืมตัว ผจก บอกว่า เขาไม่เคยเล่นในบุนเดสลีก้า ดังนั้นเขาจะไม่บอกว่าผมต้องทำอะไร แต่ถ้าผมมีปัญหาอะไร เรามาคุยกัน
ซูโบติช - จริงๆแล้วเพรสซิ่งมันช่วยได้มาก แดนหน้าไล่เพรส ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องสาดบอลทิ้ง ปีแรก เราก็แค่เห็นก่อน มีเวลาตั้งตัว ปีที่สอง เราเริ่มเดาได้ ปีที่สาม ทุกอย่าง "คลิ้ก" เรารู้เลยว่าถ้ากองหน้าเพรสแบบนี้ บอลจะโดนโยนทิ้งไปทางไหน

ตารางซ้อม
จันทร์ - พัก
อังคาร - ยิม/สปรินซ์/เกมสี่คน คนชนะเล่นต่อ (ซูโบติช : มันส์ แต่จะตายเอา วิ่งตลอด แย่งบอลตลอด นี่เป็นการซ้อม แต่เราไม่รู้สึก)
พุธ - แบ่งข้างซ้อม ครึ่งละ 10 นาที
พฤหัส - ยิงประตู - ทุกคน รวมถึงกองหลังด้วย อาจมีเพิ่มนิดหน่อย เช่น ซ้อมครอสบอล แต่ยังไงต้องมียิงประตู
ศุกร์ - ฟรีคิก เตะมุม แบบแข่งกันเอง เราใช้สนามเล็ก (30 ม) เราซ้อมโต้กลับทันทีที่เคลียร์บอลจากเซตพีซได้ (ซูโบติช : โคตรมันส์ วิ่ง 200 km/ชม ราวๆห้านาที สลับข้าง แล้วเล่นต่อ)

ซูโบติช - การซ้อมมันเข้มจนเราไม่ต้องคิดอะไรเลย กระแสมันพาไป ใครไม่วิ่งก็จะค่อยๆตกขบวนแล้วหลุดทีมไปเอง

ในช่วงปลายการคุมทีมของ มอยส์ "เดอะโชสเซนวัน" เอ็ด วู้ดเวิร์ด ติดต่อไปที่คล็อป - "มันเป็นเหมือนดิสนีย์แลนด์สำหรับผู้ใหญ่" ถัดจากนั้นก็เป็น ซิตี้ กับสเปอร์ และลิเวอร์พูล- แต่คล็อปยังต้องการอยู่ที่ดอร์ทมุนต่อไป
เป็นที่รู้กันดีในหมู่ผู้ใกล้ชิด คล็อปต้องการคุมสโมสรแค่สองชาติ - เยอรมันกับอังกฤษ คล็อปรู้ดีว่าอาวุธที่ดีที่สุดของเขาคือ คำพูด เขาจะไม่ยอมใช้ล่าม เขาเริ่มเรียนอังกฤษในปีสุดท้ายของเขาที่ดอร์ทมุน

อย่างที่รู้กัน ปีสุดท้ายของคล็อปจบไม่สวย
คราเวียซถอดรหัสปีที่เลวร้ายของดอร์ทมุนว่า - ขาดทั้งแกนของทีม และ ขาดพรีซีซั่น
นักเตะที่ไปทีมชาติมารายงานตัวช้า โอกาสซ้อมน้อย อิมโมบิเล่มีเวลาน้อยไปที่จะทำตัวให้เข้าระบบ
เกเก้นเพลสซิ่ง อาศัยสัญชาติญาณอย่างมาก ในการพุ่งเข้าเพรสใน 1-2 วินาทีแรก แค่ความเข้าใจเกมมันไม่พอ มันจำเป็นต้องฝังเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ในค่ายนรกของพรีซีซั่น
นั่นทำให้ฟอร์มของดอร์ทมุนกระเตื้องขึ้น หลังมีเบรกปีใหม่ ที่มีโอกาสทำ mini pre-season แต่ต้นฤดูกาลแรกมันก็แย่เกินกอบกู้แล้ว

คล็อปตัดสินใจลาออกจากสโมสร - เขารู้ตัวดีว่ามันมีแค่สองทางเลือก - เปลี่ยนแกนของทีมเพื่อให้ตอบรับกับแท็กติค หรือ เปลี่ยนผู้จัดการเพื่อเปลี่ยนวิธีเล่น - ดอร์ทมุนไม่พร้อมสำหรับทางเลือกแรก
คราเวียซ - สโมสรโตเร็วเกินไป - เราสร้างนักเตะอย่างเลวานดอฟสกี้ /เกิซเซ่ /รอยด์/คากาวะ ความสำเร็จขนาดนั้นคู่ควรกับเงินเดือนที่มากขึ้น แต่เราจ่ายไม่ไหว เราจำเป็นต้องขาย แต่ขายแล้วก็หาตัวทดแทนไม่ได้
แล้วคล็อปก็ไปพักร้อน

กับการมา Liverpool

ในปีสุดท้ายของ BR, ไมค์ กอร์ดอน เริ่มทำ รีเสิร์ทตัวคล็อปอย่างเข้มข้นก่อนทาบทาม ด้วยสันดานนักการเงินเก่า กอร์ดอนพยายามวิเคราะห์ทางปริมาณเพื่อให้มั่นใจว่า แกจะไม่โดนสเน่ห์ของคล็อป "ตก" ก่อนมั่นใจว่าใช่แน่ แล้วเชิญไปคุยที่นิวยอร์ค คล็อปใส่หมวกเบสบอล อ้างกับทุกคนที่เจอว่าจะไปดูบาสเก็ตบอล แต่ตอนนั้น NBA ยังไม่เริ่มแข่ง - เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ข่าวไม่รั่ว

- สุดท้ายก็รู้ๆกันดีว่า FSG โดนคล็อป "ตก" ทั้งก๊วน กลายเป็นโอตะยกทีม หลังตกลงดีลกันได้ คล็อปทวีตตอบข้อความยินดีว่า "Woooooooooooowwwww"

คราเวียซ - ปัญหาของการเริ่มงานในสโมสรใหม่ก็คือ เราไม่รู้ว่านักเตะจะยินดีรับแท็คติกแค่ไหน พอประชุมทีมวันแรก เราเห็นนักเตะตื่นเต้นกันเราก็ใจชื้น
เราบอกว่าต้องการให้นักเตะเล่นให้มีชีวิตชีวาขึ้น "เกเก้นเพรสซิ่งใช่มะ บอส ด้ายยย จัดให้" เราคิดว่างานนี้ง่ายวุ้ย ก่อนที่การซ้อมจะจบในสิบนาที เพราะทุกคนไล่เสียบกันมั่วไปหมด - เราต้องทำความเข้าใจกับนักเตะใหม่ว่า เพรสซิ่ง ไม่ใช่ไล่เตะฝ่ายตรงข้าม
คนที่ปรับตัวได้เร็วกว่าเพื่อน คือ ลัลลาน่า - เขาเล่นเพรสซิ่งกับพอช มาก่อน เฟอร์มีโน่ กับ ฮอฟเฟนไฮม์ แล้ว ก็ลูคัส - ผู้ฉลาดเป็นกรด และเข้าใจระบบได้แทบจะทันที หลังซ้อมไม่กี่ครั้ง

ที่ไม่เวิร์คอย่างชัดแจ้งคือ เบนเตเก้ ซ้อมไม่กี่หน คล็อปก็รู้ทันทีว่าไม่เข้าระบบ เล่นไม่ได้ และเป็นความยากลำบากอย่างสุดแสนที่จะอธิบายว่า ทำไมเขาไม่ได้ลงสนามทั้งๆที่คล็อปเคยทาบทามมาก่อน



คราเวียซ - มันพูดไม่ได้น่ะ ว่าคล็อปน่ะเจ้าชู้ เขามีนิสัยเกี้ยวนักเตะทุกคนที่เขาคิดว่าอาจจะมีแวว เรียกว่าส่ง text หากันเป็นล่ำเป็นสันเลยแหละ แล้วค่อยไป scout ทีหลังว่าจะเข้าระบบไม่เข้าระบบ อย่างเควิน เด บรอยด์ นี่คล็อปก็เกี้ยวมาตั้งแต่สมัยเชลซี ตั้งแต่ยังไม่มีแผนซื้อเลย

สภาพจิตใจก็เรื่องใหญ่
-ตอนเข้ามาใหม่ๆ นักเตะทุกคนคิดว่าเขาเป็นทีมที่ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร สภาพจิตใจย่ำแย่มาก เราแก้ปัญหานี้ได้ หลังผลงานที่ดีในครึ่งฤดูกาลแรก ก่อนที่ฤดูกาลถัดมาเราเจอเรื่องใหญ่กว่า
นักเตะเชื่อว่า แพ้ทีมเล็กเป็นธรรมชาติของลิเวอร์พูล พูดกันว่า ทีมเราก็งี้แหละ คล็อปโกรธควันออกหู เราพยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ปัญหาสภาพจิตใจมันแก้ไม่ได้ในข้ามวัน

เกเก้นเพรสซิ่ง กับเกมรับต่ำ
คราเวียซบอกว่า เรายังโฆษณาว่าเกเก้นเพรสซิ่งเป็นเพลเมกเกอร์ที่ดีในสุดในโลกอยู่ "มันดีต่อการขายหนังสือ" - คราเวียซว่างั้น แต่เบื้องหลังทีมโค้ชรู้ดี
คราเวียซ - เรารู้ดีว่า ทีมเล็กๆ จะทิ้งเกม ลงไปรับต่ำ ซึ่งเป็นที่ๆ เกเก้นเพลสซิ่งเล่นไม่ได้ ดังนั้นในปีที่สองเราซ้อมเน้นหนักไปกับการหาทางเจาะรถบัส คุณมีทางเลือกไม่กี่ทางหรอกตอนเจอรถบัส - ทางเลือกนึงก็คือซื้อซูเปอร์สตาร์มาเยอะๆ ซึ่งเราไม่มี และก็คงไม่มีปัญญาจ้าง
ทางเลือกที่เราใช้ทางหนึ่งคือ dummy run - นักเตะ 1-2 คน จะวิ่งเพื่อชักนำตัวประกบให้หลุดโซน และสร้างพื้นที่ให้เพื่อนคนอื่นๆเข้าทำ ไม่ต้องการเทคนิคหรือทักษะลึกซึ้ง แต่ต้องการทีมเวิร์คและความเข้าใจกันอย่างยิ่ง
คราเวียซ - เรามีแพทเทิร์นพวกนี้เยอะ แต่ยังซ้อมไม่เข้าที่

มีปัญหากับเซตพีซ
คราเวียซ - มาตรฐานเซตพีซที่นี่สูงมาก ผมไปไล่ดูเกมตั้งแต่ดิวิชั่น 4 ทุกทีมมีนักเตะที่หยอดบอลเข้าจุดตายได้ มีนักเตะตัวใหญ่ๆโถมเข้าชาร์จ ผู้รักษาประตูก็ไม่ค่อยได้รับการปกป้อง ที่บุนเดสลีก้าแค่แตะชายเสื้อก็ฟาวด์แล้ว ที่นี่ไม่ใช่ - เราได้บทเรียนเยอะ แสนสาหัสเลยล่ะ แล้วต้องแก้มันให้ได้

ฟอร์มหลุดกลางปี
- เราประเมินผลของการไม่มีเบรกหนีหนาวน้อยไป ผลคือเกมช็อต ความฟิตแย่ ฟื้นตัวไม่ทัน ปีหน้าเราจะคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย

เสียใจมั้ยที่ไม่เสริมทีมในเดือนมกรา
คราเวียซ - เราทำงานกับนักเตะที่มี
ไมค์ กอดอน (ประธาน FSG)- ผมคงจะเสียใจ ถ้าผมไม่ได้พยายามทำอะไร แล้วผลมันออกมาแย่ แต่เรารีวิวนักเตะที่พร้อมย้ายทีมทั้งหมดกับคล็อปแล้ว ได้ข้อสรุปตรงกันว่าไม่ซื้อดีกว่า ดังนั้นนี่เป้นแอ็กชั่นที่ดีที่สุดที่เราทำได้แล้ว เราไม่มีเหตุผลให้ต้องเสียใจ

นักข่าว
คราเวียซ - ปัญหาใหญ่ของนักข่าวที่นี่ก็คือยึดมั่นกับความคิดลบๆเหลือเกิน พอเค้าเชื่ออะไรซักอย่าง - เช่นโกล์มันกาก เขาก็จะรอจนกว่าโกลพลาด แล้วก็จะเขียน ด่ากระหน่ำไม่ยั้ง ไปๆมาๆ นักเตะก็เริ่มพลอยเชื่อไปด้วยจริงๆว่า ตูนี่กาก
เราโดนมันทุกตำแหน่งเลยมั้ง ตั้งแต่ซิมง / ลอฟเรน /เฮนโด้ ผมก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน

เกมนัดชิงกับเซบีญ่า
คราเวียซ - ทีมรู้ตัวก่อนหน้ามาสองเดือนแล้วว่าทรัพยากรไม่พอเอาที่สี่ เราก็เลยเบนเข็มมายูโรป้าเต็มตัว และด้วยสภาพร่างกายที่กรอบเต็มที เล่นเต็มที่ได้ครึ่งเดียว ก็วางแผนใช้พลังหมดเกลี้ยงไปแล้วตั้งแต่ครึ่งแรก พอครึ่งหลังโดนตีเสมอเร็ว ก็เลยช็อต - ไม่เหลือแรงจะแก้คืนอีก

เราไม่ได้เลือกคล็อป แต่คล็อปเป็นคนเลือกเรา ไมค์ กอร์ดอน CEO พูดสู่ฟัง
อ่านแล้วรักบอสขึ้นเยอะไปอีก
ขอบคุณที่เลือกเรา
ขอบคุณเจ้าของกระทู้จากเวปพันทิพย์มา ณ โอกาสนี้ https://pantip.com/topic/37370446
100
0
หากโดน 171 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2010
ตอบ: 1032
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:04
Top Comment [RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ความคิดเห็นที่ 53
เล่าขำๆต่ออีกนิด

เช้าวันพุธ คล็อปจัดให้เป็นวันซ้อมทีมจริง VS ทีมสำรอง สำหรับเกมสุดสัปดาห์
เช้านั้น กุนโดกันตื่นมาพบว่าน่องตึงนิดหน่อย - ปกตินักเตะบาดเจ็บจะได้รับคำสั่งให้ไปพบหมอก่อนซ้อม 2 ชม เพื่อที่ ผจก จะได้หาคนอื่นมาแทนทัน
ด้วยความที่ย้ายมาใหม่ กุนโดกันอยากเล่น แต่แล้วก็สลัดความกังวลไม่ได้ ไปหาหมอก่อนตารางซ้อม ครึ่ง ชม

หมอ : มันดูไม่ดีนะเนี่ย คุณอาจเจ็บได้ ผมต้องบอกโค้ช
กุนโดกัน : แต่ผมเล่นได้นะ

ห้านาทีจากนั้น ยักษ์ปักหลั่นก็เผ่นพรวดเข้ามา พร้อมตะโกน
"นี่มันห่าจวกอะไรกันวะ"
กุนโดกัน : แต่บอส - ผมเล่นได้

คล็อปหัวเสีย แหกปาก "เออ เอาอย่างที่ชอบๆ" แล้วเดินปึงปังลงไปสนามซ้อม ในขณะที่กุนโดกันหน้าซีด - ซวยแล้วกู

พอเดินลงไปถึงสนามซ้อม คล็อปที่ใจเย็นลงแล้วเดินเข้ามาโอบไหล่
"อิลคาย เธอเข้าใจใช่ไหม"
"ใช่ บอส ผมจะลงเล่น"
คล็อป หน้าตาผิดหวัง "ไม่ใช่ เธอไม่เข้าใจอะไรเลย เธอต้องถนอมตัวเองกว่านี้ เล่นไม่ได้ก็คือไม่ได้ ถ้าไม่แน่ใจ โทรถามหมอ ถ้าหมอไม่ว่าง โทรหาผม กลางคืนก็ได้ ครั้งหน้าคุณต้องบอกผมนะ" - "วันนี้เธอจะวอร์มอัพ แล้วกลับบ้าน"
"แต่บอส ผมเล่นได้"
คล็อปหันมาแยกเขี้ยวใส่ "ไม่ - วอร์มอัพเสร็จแล้วไปพัก"

กุนโดกัน - "ผมเหมือนได้พ่ออีกคนเลย ผมรักเขามาก"

ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 3859
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:50
Top Comment [RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ผมเคยให้ความเห็นไว้แล้วว่า ผมให้โอกาสคลอปทำทีม 6 ปีเลย เพระจากที่ดูๆมาเป็นผู้จัดการทีม ที่กล้าจะทำตามแนวทางตัวเอง ขอแค่มีคนสนับสนุนเค้าและเหมือนเจ้าของทีมจะชอบคลอป ผมว่าเป็นโชคดีของทีมเรานะที่ได้คลอปมาทำทีม ถึงอาจจะไม่ได้แชมป์เลยก็ได้ แต่อย่างน้อยผมว่าสโมสรเราก็ดูมีราคาขึ้นมามากเลยในรอบหลายๆปีมานี้ และดูมีราศี กว่าตอน เบนิเตสคุมเสียอีก อันนี้ตามความรู้สึกผมนะ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: -# PUNCH #-
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 16753
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 21:25
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
บทความนี่ดีมากๆเลย ผมอ่านในพันทิปมาก่อนละ อย่างเพลิน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 1978
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 21:28
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
เพลินมาก เสียดายอ่านจากพันทิปไปแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Aug 2008
ตอบ: 15937
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 21:34
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
อ่านจากพันทิพย์มาแล้ว โคดมัน โคดฮา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Nov 2007
ตอบ: 147
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 21:43
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ใครแฟนหงส์ ควรอ่านอย่างยิ่ง

จะทำให้เข้าใจคล็อปและสตาฟโค้ช

เรื่องใครลงไม่ลง
เรื่องซื้อใคร หรือไม่ซื้อใครในมกราคม
เรื่องขายเบเทเก้
เรื่องแผนการเล่น
เรื่องซื้อนักเตะทำไมมักตัวเดียวกับสเปอร์ส
เรื่องซื้อนักเตะเซ้าท์แธมตัน
เรื่องวินัย(กฎ)
เรื่องให้ใจกับนักเตะ นักเตะรัก
เรื่องทำไมกับดอร์ตมุน ถึงตกต่ำในปีสุดท้าย แล้วแก้ไขด้วยการลาออก
และอื่นๆ

แก้ปัญหาเรื่องรับต่ำ แก้ปัญหาเซ็ตพีท ทีมต้องค่อยๆสร้าง

ทุกอย่างมีเหตุผล

แก้ไขล่าสุดโดย ApachE1892 เมื่อ Thu Feb 15, 2018 21:49, ทั้งหมด 2 ครั้ง
-Poker
-โกะ
-หมากรุกไทย
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 14977
ที่อยู่: Somewhere
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 21:48
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ชอบที่แกเรียนรู้ตลอดเวลา ตั้งแต่ซีซั่นแรก ไปยังซีซั่นที่แล้ว แกบอกทีมกรอบเกินไป เพราะแกเพรสทุกเกม แล้วเบรกหนีหนาวก็ไม่มี แกก็ปรับแท็คติคให้รับมากขึ้น แต่แค่มันยังไม่สำเร็จแค่นั้นแหละ เอาใจช่วยครับ ชอบคนแบบนี้มาก
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 May 2011
ตอบ: 1568
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 21:55
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
เคยอ่านมารอบหนึ่งเขียนได้ดีมาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน




ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2010
ตอบ: 1032
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:04
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ความคิดเห็นที่ 53
เล่าขำๆต่ออีกนิด

เช้าวันพุธ คล็อปจัดให้เป็นวันซ้อมทีมจริง VS ทีมสำรอง สำหรับเกมสุดสัปดาห์
เช้านั้น กุนโดกันตื่นมาพบว่าน่องตึงนิดหน่อย - ปกตินักเตะบาดเจ็บจะได้รับคำสั่งให้ไปพบหมอก่อนซ้อม 2 ชม เพื่อที่ ผจก จะได้หาคนอื่นมาแทนทัน
ด้วยความที่ย้ายมาใหม่ กุนโดกันอยากเล่น แต่แล้วก็สลัดความกังวลไม่ได้ ไปหาหมอก่อนตารางซ้อม ครึ่ง ชม

หมอ : มันดูไม่ดีนะเนี่ย คุณอาจเจ็บได้ ผมต้องบอกโค้ช
กุนโดกัน : แต่ผมเล่นได้นะ

ห้านาทีจากนั้น ยักษ์ปักหลั่นก็เผ่นพรวดเข้ามา พร้อมตะโกน
"นี่มันห่าจวกอะไรกันวะ"
กุนโดกัน : แต่บอส - ผมเล่นได้

คล็อปหัวเสีย แหกปาก "เออ เอาอย่างที่ชอบๆ" แล้วเดินปึงปังลงไปสนามซ้อม ในขณะที่กุนโดกันหน้าซีด - ซวยแล้วกู

พอเดินลงไปถึงสนามซ้อม คล็อปที่ใจเย็นลงแล้วเดินเข้ามาโอบไหล่
"อิลคาย เธอเข้าใจใช่ไหม"
"ใช่ บอส ผมจะลงเล่น"
คล็อป หน้าตาผิดหวัง "ไม่ใช่ เธอไม่เข้าใจอะไรเลย เธอต้องถนอมตัวเองกว่านี้ เล่นไม่ได้ก็คือไม่ได้ ถ้าไม่แน่ใจ โทรถามหมอ ถ้าหมอไม่ว่าง โทรหาผม กลางคืนก็ได้ ครั้งหน้าคุณต้องบอกผมนะ" - "วันนี้เธอจะวอร์มอัพ แล้วกลับบ้าน"
"แต่บอส ผมเล่นได้"
คล็อปหันมาแยกเขี้ยวใส่ "ไม่ - วอร์มอัพเสร็จแล้วไปพัก"

กุนโดกัน - "ผมเหมือนได้พ่ออีกคนเลย ผมรักเขามาก"

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: วิถีฟุตบอล
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 2033
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:13
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ดิสนีย์เเลนด์ของผู้ใหญ่ ทั้ง เเมนยุ เเมนซิ สเปอ เเต่เลือกมาหงส์ซะงั้น
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 6050
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:13
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
เท่าที่สัมผัสคนที่ชอบลิเวอร์จริงๆ
มักไม่ค่อยมีปัญหากับการทำทีม หรือการตัดสินใจของคล็อปนะ

ที่มีปัญหาคือคนที่มักจะดูแค่นัดนึง สองนัด แล้วก็ร่ายไปเรื่อยแหละ

ถ้าดูทั้งฤดูกาลน่าจะเห็นภาพทั้งหมดชัดกว่า
8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 1196
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:16
มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น
แฟนแมนยูอย่างผม ยังยอมรับในตัวคล๊อป
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 10 Jan 2011
ตอบ: 14255
ที่อยู่: CNX
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:21
ถูกแบนแล้ว
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
แผนเฮงซวย ไอ้กร๊วก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: You only Live once
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 26302
ที่อยู่: Spion Kop
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:22
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ผมชอบอันนี้ว่ะ เจ๋งดี

อ้างอิงจาก:
ปี 2008 ในค่ายเก็บตัวที่ประเทศสเปน ไฮเดลสะดุดใจเมื่อโทรศัพท์มือถือของคล็อปดังขึ้น - เบอร์นั้นไม่รู้จัก และคล็อปนั่งหลังตรงเป็นเด็กดีทันที
"ครับผม" "ครับ" "ได้ครับท่าน"
ผู้โทรมาคือมีผู้มีอิทธิพลนอกกฏหมายอันดับหนึ่ง ดอน อูลี่ เฮอเนส แห่ง บาร์เยิร์น มิวนิค แฟมิลี่

"ข้ากำลังมองหาตัวเลือก" ดอนว่า "นอกประเทศคนนึง - แล้วก็ตัวสำรองในประเทศ - เจ้า หวังว่าข้าจะได้รับความร่วมมือหากคนที่นอกประเทศปฏิเสธ"
แต่แล้วเพียงแค่สองวัน คล็อปได้โทรศัพท์อีกครั้ง
"ข้าเลือกอีกเจอเก้น - โทษว่ะ" คล็อปอึ้ง - อีกเจอเก้น - ใครวะ - ก่อนจะนึกได้ว่า เฮอเนสหมายถึง เจอเก้น คลิ้นมันต์ อดีตโค้ชทีมชาติที่อยู่อเมริกา

ไฮเดล - คล็อปผิดหวัง - เขาคงไม่คาดว่าจะแพ้ให้กับคลิ้นมันต์ที่มีประสบการณ์คุมทีมน้อยกว่าเค้าด้วยซ้ำ บาร์เยิร์นไม่กล้าเลือกโค้ชที่ไม่ใช่ยอดนักเตะ

เฮอเนสยอมรับในภายหลังว่า เขาเลือกผิดเจอเก้น "ยุทธการบนแผ่นกระดาษมันไม่เวิร์ค"

สำหรับคล็อป เขายอมรับว่า "การได้รับการเหลือบแลจากครอบครัว เป็นเกียรติอย่างสูง" ก่อนจะด่าเป็นไฟเมื่อบาร์เยิร์นเริ่มเล่นเพรสซิ่ง "แมวขโมย ลอกแท็กติกหน้าด้านๆ ทำตัวเหมือนพวกจีนเลย"  
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
I choose to live, not just exist.


ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2014
ตอบ: 8840
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:35
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
บูวัคนี่แหละผมว่าคนปิดทองหลังพระตัวจริง มีผู้ช่วยไม่กี่คนที่จะมีคนออกมาชมเยอะๆจนชื่อติดหู buvac นี่มีคนพูดถึงเยอะะะะะะ เลย
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 3859
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 15, 2018 22:50
[RE: มารู้จักชายชื่อ Jürgen Klopp ให้มากขึ้น]
ผมเคยให้ความเห็นไว้แล้วว่า ผมให้โอกาสคลอปทำทีม 6 ปีเลย เพระจากที่ดูๆมาเป็นผู้จัดการทีม ที่กล้าจะทำตามแนวทางตัวเอง ขอแค่มีคนสนับสนุนเค้าและเหมือนเจ้าของทีมจะชอบคลอป ผมว่าเป็นโชคดีของทีมเรานะที่ได้คลอปมาทำทีม ถึงอาจจะไม่ได้แชมป์เลยก็ได้ แต่อย่างน้อยผมว่าสโมสรเราก็ดูมีราคาขึ้นมามากเลยในรอบหลายๆปีมานี้ และดูมีราศี กว่าตอน เบนิเตสคุมเสียอีก อันนี้ตามความรู้สึกผมนะ
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel