ให้เลือกก็ นำเข้า 0% คับ จะได้วัดกับจีนไปเลย

ผลกระทบเบื้องต้น คือ ถ้าส่งออก 36% ภาคเอกชนส่งออกโดนผลกระทบแน่ๆ แต่ถ้าลดนำเข้า 0% ผลกระทบคือรัฐเก็บภาษีได้น้อยลง ซึ่งทุกวันนี้ภาษีเราก็ถูกโกงกิน หรือผลาญไปกับอะไรไม่รู้อยู่แล้ว 555 ทุกวันนี้ภาคประชาชน เอกชน ช่วยตัวเองมาตลอด ภาครัฐเก็บภาษีเก็บส่วย ทำให้มันยุ่งยาก แต่ไม่ช่วยเหลืออะไรเลย โดยเฉพาะ sme ไปดูแลแต่รายใหญ่ กับจีนเทา ใต้โต๊ะ

แต่ผลกระทบในด้านต่อๆ มา มีแหละคับ แต่ให้เลือกผมเลือกนำเข้า 0% วัดๆ ไปเลย ผมว่าภาคเอกชนพอสู้ได้

ทุกวันนี้เอกชนเราจะตายเพราะ0% กับจีน
และกำลังจะโดนซ้ำจาก 0% กับอเมริกา

ภาษีก็เก็บจากพนักกงานออฟฟิช SME ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ที่ไม่มีเส้นสาย
คิดว่าบริษัทเล็กๆแบบนี้สู้ไหวมั้ย คำตอบก็เห็นตั้งแต่จีน0%แล้ว

โดนส่งออก 36% ก็ไม่เห็นเป็นไร ทำไมต้องแคร์ยอดส่งออกไปเมกาถึงขนาดนั้น ทั้งที่สินค้าส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าจีนมาผ่านกระบวนการผลิตที่ไทยแล้วส่งออกไปเมกาทั้งนั้นนิ

ปัญหาเงินเฟ้อ/เงินฝืดที่ซับซ้อน: ในระยะสั้น ราคาสินค้าโดยรวมอาจลดลงจากสินค้านำเข้าที่ถูกลง แต่ในระยะยาว หากอุตสาหกรรมภายในล้มหายตายจากและเกิดการว่างงานจำนวนมาก กำลังซื้อภายในประเทศอาจหดหาย นำไปสู่ภาวะเงินฝืดในบางภาคส่วนได้เช่นกัน

ผลกระทบต่อภาคเกษตรกร: หากมีการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรบางชนิด เช่น หมู ไก่ เนื้อ จากต่างประเทศ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในประเทศกว่า 2 ล้านครัวเรือน

การว่างงานเพิ่มขึ้น: เมื่ออุตสาหกรรมภายในประเทศได้รับผลกระทบหนักและมีการปิดกิจการหรือลดการผลิต จะส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างงานในวงกว้าง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาตลาดในประเทศสูง เช่น อาหารแปรรูป สิ่งทอ เครื่องหนัง ชิ้นส่วนยานยนต์

รายได้ภาครัฐลดลง: รัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณแผ่นดิน อาจส่งผลกระทบต่องบประมาณในการพัฒนาประเทศ บริการสาธารณะ หรือการลงทุนของภาครัฐ

ดูๆแล้ว เจ็บทุกทาง