เคยไม่ต่อ จนได้เป็นระดับหัวหน้า ไอซัสสส รับลูกน้องมาเงินเดือนเท่ากุเลย

ขอเงินเดือนเท่าไร่ก็ได้ ไม่มีอยู่จริง

คุณไม่ได้สำคัญที่สุดในโลก ไม่ได้เก่งที่สุดในโลก เรียกเยอะเขาก็แค่ให้ออก

เด็กรุ่นใหม่มีแต่เก่งๆขึ้นทุกวัน

คนทำงานเยอะๆ เกินหน้าที่ เจ้านายชอบแหละ แต่ตอนออก เขาก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่หรอก ยิ่งบริษัทไทย ยิ่งไม่ค่อยให้ค่าเท่าไหร่ ออกไปเขาก็แค่หาคนใหม่

วิธีการต่อรอง เจรจาเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย มันมีความต่างกันในแต่ล่ะบุคคลและแต่ล่ะบริบทอยู่ คงไม่สามารถบอกได้ชัดๆว่าวิธีใครฉลาดหรือเหมาะสมกว่ากัน

อีกอย่างหัวหน้าแต่ล่ะคนก็ไม่เหมือนกัน

การสมัครงานใหม่บางครั้งการแสดงออกถึงความต้องการชัดเจนย่อมดีกว่าไปลองใจว่าเค้าจะมองเราเป็น Asset ที่ควรแก่การลงทุนเพิ่มเติมหรือไม่

แต่ถ้าทำงานคุ้นเคยแล้ว หัวหน้างานดูน่าเชื่อถือไว้ใจได้ หลายๆครั้งผมเป็นแบบนี้นะ เราไม่คุยกับเรื่องตัวเลขให้เสียบรรยากาศ เอาเรื่องงานมาคุย เนื้องานโอเครน่าสนใจก็รับไปทำ ส่วนคุณจะให้เพิ่มเท่าไหร่ก็ประเมินเอาจากเนื้องานที่ทำเลย ถ้าแฟร์ก็ทำงานร่วมกันต่อ แต่ถ้ารู้สึกถูกเอาเปรียบก็แยกย้าย เคยอยู่ดีๆแบบรับงานมาทำไม่เรียกร้องอะไรเลย วันนึงโดนเรียกไปรับซอง ได้เงินเดือนเพิ่มมาราว 40k ก็ถือว่าโอเครอยู่ ไม่ต้องย้ายงาน

แต่ปัจจุบันไม่เอาอะไรล่ะ ไม่ต้องเสนอเงินมาแล้ว ของานแค่นี้ล่ะ กำลังโอเคร

แสดงว่า ck ยังไม่เข้าใจวิถีการทำงานในไทยเลย

นี่มันหวังผลลดงบประมาณในองค์กรนะเนี่ย

ประโยคของ CK เพราะเขามองว่า เงินมันสำคัญน้อยกว่าไง

แต่ตรู พนักงานธรรมดา เงินสำคัญกว่า ต่อรองทุกครั้ง

ความคิด ก็ตามอายุแหละครับ

ต่อให้ประสบความสำเร็จแค่ไหน แค่จะตกผลึกความคิดได้ต้องใช้เวลาบ่ม

ตอนอายุเท่านี้เราก็มักจะแพล่มเรื่องโง่ๆออกมาเหมือนกัน มองกลับไปก็อายตัวเอง

content นี้ผมเคยไุถเจอเป็นคลิป
CK จะสื่อประมาณว่าปกติแล้ว เวลาเข้าไปขอเงินเดือนขึ้นตรงๆมันยากถ้าคุณไม่ได้แบกจริง
ให้คุยประมาณว่า อยากได้เงินเพิ่ม xxx บาท หรืออยากปรับตำแหน่ง เราจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงตรงนั้น

จำได้คร่าวๆประมาณนี้

พูดเอาหล่อจัด ในทาง ทบ มันก็ได้แหละ แต่เอาจริงๆ งานเยอะ เงินเดือนเท่าเดิมบักห่าน

ใครฟังบ่อยๆก็ แยกแยะหน่อยละกัน

เพ้อเจ้อ

ในแง่บริษัท ไม่มีบริษัทไหนอยากได้ key man
เพราะมันมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ
คิดดูว่าสมมติได้คนที่ทำได้ทุกอย่าง ทำเก่งทุกอย่าง
เป็น MVP ของ matrix หลายทีม
ขาดไปทีบริษัทเป๋เลย คนสอนงานใหม่ก็ไม่มี ไม่มีอะไรการันตีด้วยว่าจะอยู่

ที่บริษัทอยากได้จริงๆ คือ key automation จากระบบหรือเครื่องจักร
รองลงมาคือ คนเก่งกลางๆ ที่รับผิดชอบ JD ได้แบบ 100% นิดๆ และสม่ำเสมอต่างหาก

เคยเจอเซลบริษัท เดินร่อนไปมาในออฟฟิศ เม้าคนนู้นคนนี้
ถามไปถามมา ปิดดีลให้บริษัทได้ไตรมาสละหลายร้อยล้านหลายปีละ
รายได้ยังไม่เท่า regional manager ที่ย้ายมาจากอเมริกา รอตำแหน่งที่นู่นเลย

CK เป็นพวกชอบพูดอะไรด้านเดียวเสมอนะ ผมว่า

อย่างเรื่อง Day trade vs ลงยาวๆ

ที่ ปู๋บัพเฟต เค้าวางเดิมพัน 1m usd ว่า พวก Day trade มาแข่งกันว่า กองใครจะโตกว่า ใน 10ปี

ซึ่งแน่นอน ของปู๋โตกว่าแน่ๆ แต่นั้นคือกองทุน Berkshire ที่ทุนมันมหาศาล เพราะฟาร์มมานานมากๆ

แต่ไม่ได้มองมุมมองว่า Day trade ข้อดีคือ คุณทำเงินน้อย ให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ (ถ้า MM ดีพอร์ตก็ไม่แตก)

ซึ่งถ้าคนลงทุนจริงๆ เค้าก็ Re-balance port ตัวเอง เอาเงินจาก Day trade (Active incom) -> แล้วมาเก็บจะในรูปแบบไหนก็ได้เช่นซื้อหุ้นปันผลดีๆ

ความรู้กับอีโก้ อะไรสูงกว่ากันนนะ

CK ภูมิใจในตัวคุณ