ผ่านมาเกือบ 10 ปี ท่านเปลี่ยนมุมมองต่อโรฮิงญา มั้ย

https://www.soccersuck.com/boards/topic/2425994/1

เราจะคัดกรองผู้ลี้ภัยยังไง?

คำถามแต่ละรูทนะ

1. ถ้าให้อยู่ในไทยไปเรื่อยๆ - งบมาจากไหน (เดิมเข้าใจว่ามาจาก UNHCR แต่โดนตัดงบ) แถมฝั่งซ้ายก็บ่นอีกว่าขังเค้าไว้ทำไม

2. ยอมให้เป็นผู้ลี้ภัยในไทย - งบมาจากไหนอีก มีิอะไรการันตีว่าจะไม่มีมาเพิ่มเรื่อยๆ ถ้ามาเพิ่มเรื่อยๆ max possibility คือเท่าไหร่ โอกาสเป็นปัญหาเรื้อรังแบบผู้ลี้ภัยในยุโรปสูงมั้ย จะขัดแย้งกับจีนมั้ย

3. ส่งไปประเทศที่ 3 - ประเทศไหนรับก่อน ตุรกีรับไปรอบแรก รอบสองก็ส่งไปจีน ที่เหลือก็ดีแต่อ้าปากแต่ไม่มีใครรับจริงสักคน

4. ส่งกลับจีน - จะโดนนานาชาติประณามมั้ย สวัสดิภาพของคนจะเป็นยังไง (แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจีนเดี๋ยวนี้ไม่เอะอะฆ่าทิ้งเท่าไหร่แล้ว เสียภาพลักษณ์ 95% คงถูกส่งไปเข้า education camp ซึ่งก็มีคำถามในเรื่องสิทธิมนุษยชนอีก)

ที่สำคัญคือ ทำไมประเทศอะไรทั้งหลายแหล่ไม่ไปกดดันกับจีนเอาเองล่ะ ไม่รับไปดูแลเองด้วย เพราะเผือกร้อนไม่ได้อยู่ในมือประเทศอื่นไง ส่วนไทยก็เป็นแค่มะพลับนิ่ม

แล้วจีนเองทั้งๆ ที่รู้ว่าไทยก็อยากให้มันเงียบๆ แต่ยังให้สื่อประกาศโครมๆ แบบนี้คือไม่ไว้หน้ากันเลย เพราะรู้ว่าไทยได้แค่เซ็ง แต่ลุกขึ้นมาอ้าปากอะไรไม่ได้ ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนอยู่ใต้ตีน

ไม่รู้รัฐไทยจะทำตัวเหมือนหนูใต้ฝ่าเท้าชาวบ้านไปถึงไหน ระยะยาวควรหาอะไรมาเป็นไพ่ต่อรองให้ประเทศอื่นเกรงใจบ้างมั้ย เหมือนที่ไต้หวันมี silicon shield มันคงไม่ง่ายหรอก แต่มันก็ควรจะต้องมีวิสัยทัศน์เรื่องนี้ได้แล้ว

พวกนี้ก็คงเป็นพวกที่ว่า ถ้าแอคติวิสต์ไทยโดน112 ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ แล้วตัวเองเป็นปชช.ประเทศที่พวกนี้ลี้ภัย
ก็คงอยากให้กลับมาตายในประเทศอ่ะแหละ
เปลืองภาษีของที่นู่น

ขออนุญาตตอบครับท่าน ตามที่ผมบอกเลย พวกลี้ภัย มีหลายรูปแบบ มาในหลายสถาณะการ ผมพูดถึงคีย์สำคัญหลักๆคือ ต้องมี ประเทศรองรับซัพพอต และต้องไม่สร้างปัญหาความวุ่นวายให้กับเรา

ซึ่งถ้าเอาตามจุดยืนผม โรงฮิงยา ไม่เข้าข่ายนี้ครับ เป็นกลุ่มที่ หาประเทศไหนซัพพอตได้ยาก และผมเข้าใจด้วยว่าทำไม ข้อที่สองนี้แหละสำคัยคือต้องไม่สร้างปัญหาให้เรา จากการที่ได้รับรู้คือกลุ่มนี้สร้างปัญหา ให้กับเรามาก

ตั้งแต่ จำนวนประชากรที่ที่ทะลักเข้ามาสูง ลักษณะนิสัย ค่อนข้างไม่มีระเบียบสกปรก ชอบเรียกร้องนู้นนี้
มักเกิดปัยหาหนีออกจาค่าย มาสร้างความเดือดร้อนในแบบต่างๆ ทั้ง ลัขขโมย อาชญากรรม แรงงานเถื่อน

และผมไม่แปลกใจเลย บางประเทศที่ตอนแรก ตั้งใจรับไป ตอนหลังเปลี่ยนนโยบายไม่รับ เพราะ มีความเชื่อ ลักษะนิสัย ที่ ไม่น่าให้อยู่ร่วมสังคมด้วยเลย เอาไปกลายเป็นปัญหาประเทศตัวเอง

เลอะเทอะ ใครเป็นรัฐบาลก็ไม่เกี่ยว รับผู้อพยพ ลี้ภัยมีแต่สร้างปัญหา ไม่เชียร์ให้ประเทศตัวเองยื่นหน้าไปรับ ต. จากความขัดแย้งระหว่างประเทศ ประเทศมหาอำนาจเวลาเปลี่ยนผู้นำ นโยบายต่างประเทศก็เปลี่ยน

ถามกลับ

ถ้าคนเหล่านั้นเป็น
พม่า,ลาว,เขมร,มาเลเซีย,อินโด,อินเดีย,ปากี
และเป็นพุทธ

ท่านจะว่าอย่างไร

ปัญหาหลักคือมันมีเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศซ้อนทับกันอยู่และเรื่องจำนวนด้วยครับ

คนรับเราเรื่อง 112 ส่วนหนึ่งเอาตรงๆเลยคือเขา “ไม่กลัว” อิทธิพลของประเทศเราครับ และโดยปกติเราจะไปประเทศละไม่กี่คนกระจายๆกันไป ดังนั้นหน้าที่รับผู้อพยพควรเป็นของประเทศที่มีอิทธิพลกว่าเราดีกว่า

ส่วนเรื่องอุยกูร์มุมหนึ่งผมก็แอบเห็นด้วยกับรัฐบาลนะครับ เพราะในเชิงการเมืองจีนมีอิทธิพลกับเราค่อนข้างสูง ส่วนประเด็นที่ 2 คือถ้าเรารับมาก็จะมาเรื่อยๆ เพราะรู้ว่าเป็น Safe Zone แล้วคิดว่าจีนจะโอเคหรือครับ คำมั่นสัญญาจากพวกตะวันตกก็ใช่ว่าจะเชื่อได้ เหมือนอเมริกาที่ขอให้ยูเครนปลดนิวเคลียรนั่นละครับ ดังนั้นถ้าเราดูแค่มุมผลประโยชน์มากกว่ามนุษยธรรมผมว่ามันก็โอเคอยู่ครับ เพราะกรณียูเครนก็เห็นแล้วว่ามนุษยธรรมก็ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย

ส่วนกรณีตัวอย่างที่ท่านยกมา ผมว่าทางการไทยนี่ละจงใจปล่อยข่าว เอาง่ายๆว่าถ้าต้องการจะปิดผมว่าเขาทำได้ง่ายมากเลยนะ แต่จงใจปล่อยให้เรื่องเป็นกระแสทำให้ต้องส่งไปประเทศที่ 3 อย่าง “ช่วยไม่ได้” โดยไม่ทำให้ซาอุขุ่นเคืองอีกต่างหาก แถมคนซาอุที่จะหนีในอนาคตก็จะเรียนรู้ว่าอย่าผ่านไทย เราก็ตัดปัญหาไปได้อีก ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง เสียหน้านิดหน่อย แต่ในทางการเมืองผมว่าเราได้ประโยนช์เต็มๆ

กรณีอุยกูร์อยู่มาเป็น 10 ปีไม่มีใครเรียกร้องอะไร พอส่งกลับไปทุกประเทศต่อมจริยธรรมทำงานกันทันที เอาอย่างอเมริกาถ้าอยากช่วยจริงก็ไปเจรจากับจีนขอตัวมาจากไทยสิ อยู่ 10 ปีไม่เคยทำ พอส่งกลับรีบประนามเลย แถมเตือนเรื่องความปลอดภัยจากการก่อการร้ายอีก ลองคิดมุมกลับว่านโยบายทรัมปที่จะผลักดันผู้อพยพออกแล้วมีคนมาขู่จะก่อการร้าย ประเทศคุณเองจะยอมได้หรือ

ดังนั้น ถ้ามองในมุมเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองและปัญหาในอนาคต ผมคิดว่าถ้าผมเป็น รบ ก็อาจจะทำอย่างเดียวกัน ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์วางระเบิดไม่กี่ปีที่แล้วยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าการที่เราทำให้ตัวเองอยู่ห่างไกลจากปัญหานี้เท่าไรก็ยิ่งดีครับ

คือให้โอกาสแล้ว ถ้าสร้างปัญหา ก็ส่งกลับ

คุณคิดว่ายุโรปเค้าไม่คัดคนเข้าไปหรอครับ นั้นขนาดเค้าคัดแล้วนะ

สิ่งที่ตามมาและเห็นได้ชัดเลยคือทุกประเทศที่รับคนอพยพมีปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ทางยุโรปเลี้ยงอย่างดีเลย

ถ้าการรับผู้อพยพมันดีกับประเทศ ฝั่งเมกากับยุโรปคงไม่เริ่มเอียงขวากันเพราะการเอาเรื่องผู้อพยพมาเป็นนโยบายหลัก

จริงๆเรื่องการรับผู้อพยพจะไม่เป็นปัญหาเลยถ้าผู้อพยพรู้จักปรับตัวเข้ากับประเทศใหม่ แต่ความเป็นจริงคือพวกนี้ไม่ปรับตัวแถมยังรวมตัวสร้างปัญหาให้กับประเทศที่รับเข้ามาแทน

ความคิดเห็นไม่เหมือนกัน

.

หนีเข้ามาไทย

ถ้าอยู่ง่าย อยู่สบาย รับเลี้ยงตลอดชีวิต

ต่อไปเป็นจุดหมายปลายทางพวกนี้แน่

ตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่า

ส่วนใหญ่ เข้ามาเป็นภาระ สร้างปัญหา จับกลุ่มตั้งแก๊งแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

จั่วหัวมาดิบดีเลย นึกว่าจะคุยด้วยเหตุผลจริงๆ
สุดท้ายก็วนไปแซะคนที่เค้าไม่เห็นด้วยเฉยเลย

สรุปคือคุณก็แค่ไม่พอใจคนที่คิดไม่เหมือนคุณเท่านั้นเอง