[RE: จากเคสเภสัชฆ่าตัวตาย]
ไม่รุ้สิ ผมว่าหัวหน้าก้แก้ปัญหาได้ไม่แย่อะ
เสนอให้ย้ายแผนกไปตั้งนานแล้ว ก้ไม่ไป
จากที่ดูที่พิม มันก้ค่อยๆเริ่มจากบอกให้ไปดีๆ เบาจนหนัก น้องก้ไม่ไป
จนถึงชอตที่จะไล่แล้วมั้ง น้องรับไม่ไหว แต่ทำไมต้องรับ การทำงานเข้ากับหัวหน้าไม่ได้มีเปนล้านเคสบนโลกนี้ แล้วจากที่ดูไอหัวหน้าคนนี้ก้ไม่ใช่คนที่ว่าแรงหรือแซะมากที่สุดหรอกมั้ง
ส่วนเรื่องว่าน้องทำผิดอะไร อันนี้คงไม่มีคนบอกต่อแล้วละ แต่ที่เหนพิมๆคือ แลกเวรขายเวรบ่อยมาก ซึ่งถ้ามันไม่เยอะมากจริงๆมันคงไม่เปนไรหรอก คนที่บอกไม่มีผลกระทบ ถ้ามันมีคนแบบนี้หลายๆคนมันวุ่นวายมากเลยนะ ไม่ว่าจะงานไหนก้เถอะ มันจะคุมอะไรยากมากเลย
ดูจากที่พิมก้ได้ มีเปลี่ยนเวลา เปลี่ยนตาราง คุยกันเรืองแจ้งก่อนแจ้งหลัง ต้องมานั่งเชคว่าใครขอแลกอะไรยังไง คิดดูถ้ามีคนแบบนี้ทุกคนหัวหน้าจะเซตตารางงานต้องมานั่งไล่ดูในไลนใครแลกเวรอะไรยังไง นี่ยังไม่นับว่าเรื่องอื่นอีกนะ สมมติ ต้องมีหัวหน้าเข้ากับลูกน้อง แล้วถ้าลูกน้องสลับเวรกับรุ่นพี่ที่เก่งไปอยุ่ด้วยกัน ห้องตอนนั้นอาจจะเหลือเด็กไม่มีคนคุม บลาๆๆๆ (อันนี้ยกตัวอย่าง)
เอาเป็นว่า RIP คนตาย
ส่วนตัวหัวหน้าผมว่าไมได้ทำอะไรผิดขนาดนั้น คนซ้ำเติมหัวหน้าในเฟส ยังผิดกว่าอีกอะ
ตอนนี้ผมกลับสงสารไอหัวหน้าด้วยซ้ำ ว่าก้ไม่ได้ว่าแรง ไม่ได้แซะแรง ตำหนิตามหน้าที่ ตาามสมควรแต่ลูกน้องดันทนไม่ไหว แล้วทัวมาลงทั้งในเฟสทั้งชีวิตจริงแบบงงๆแน่นอน
ปล เผื่อใครไม่เกตว่าน้องผิด ว่าหัวหน้าถุกบลาๆๆ ใจความคือ ไม่มีใครผิดอะในประเด็นนี้ มันแค่เป็นจังหวะซวยมา trigger ตอนซึมเศร้าขั้นสุุดพอดีมั้ง
คิดเหมือนที่คอมเม้นนี้คอมเม้นไว้ที่เป็นหมอ
Spoil
หมอยา ลฎาภา
·
ในมุมมอง คหสต. ที่เคยเป็นหัวหน้าเภสัช รพ. เคสนี้ อยากให้มองหลายมุม เพื่อเป็นอุทาหรณ์
1. ลูกน้อง ขายเวร ไม่ผิด เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล อันนี้ยืนยันว่าทำได้ ยกเว้น รพ. มีกฏ จำนวนชม.การทำงานขั้นต่ำต่อเดือน ขึ้นกับ รพ. >> ซึ่งการหยุดต้องดู 2 เรื่อง คือ ปริมานวันลา กับ ขายเวรให้ใคร ( part-time/ fulltime ) ถ้าขายหลายวัน ให้เพื่อน fulltime อยู่ติดกันหลายวัน จะทำให้ performance การดูแลคนไข้ลดลง จากการพักผ่อนน้อยของทุกๆ คน เพราะเราทำงานกับชีวิตคนไข้ ปกติรพ. จะจ้างพนักงาน ตามจำนวนคนไข้ และกระจายวันงาน วันหยุด ตามศักยภาพที่จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเภสัชที่ทำ รพ. จริงๆ เรารู้ดี ว่าเภสัชในห้องยา มักจะไม่พอ ถ้า 1 คน หยุดเกินโควต้ามากเกินไป จะส่งผลกระทบต่ออันตรายคนไข้แน่นอน นี่จึงอาจเป็นสาเหตุที่หัวหน้าท่านนี้โกรธ และเราไม่รู้เหตุุการณ์ข้างหลังเพิ่มเติม >>ว่ามีคนรับเวรก็จริง แต่อาจมีคนที่รับเวรบางคน ไปบ่นลับหลังกับหัวหน้างานหรือไม่ อันนี้เราไม่รู้ข้อเท็จจริง ซึ่งในความจริง มักเกิดขึ้นเสมอๆ อาจรับด้วยเกรงใจ รับด้วยเพราะกลัวคราวหน้าจะสลับขายบ้างไม่ได้ รับเพราะเป็นรุ่นน้องเพิ่งเข้ามาใหม่ ไม่กล้าปฏิเสธ
2. หัวหน้า ผิดพลาด ที่ตำหนิลูกน้องลงห้องกลุ่ม เป็นส่วนที่ทำเกินกว่าเหตุ ไม่ว่าผู้ตายจะมีภาวะซึมเศร้าหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ควรทำ เพราะมันอาจจะทำให้เขาเข้าหน้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ คิดว่าเคสนี้จะเป็นอุทาหรณ์ ในการบริหารจัดการให้กับหัวหน้าหลายๆคนในอนาคต คิดว่าการพยายามบริหารจัดการของหัวหน้าเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่เราก็ต้องเลือกวิธีการที่ดีในการบริหารคน และคุยเหตุผล ที่จะส่งผลกระทบมากกว่าใช้ความโกรธ
แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรู้เหตุผลที่เกิดขึ้นจริงๆ ระหว่างทั้ง 2 คน และเหตุการณ์อื่นๆรอบข้างได้ จึงขอให้หลังจากนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ จะเป็นอุทาหรณ์ไม่ให้เกิดขึ้นกับท่านใดอีกเลยค่ะ
R.I.P กับครอบครัวและน้องผู้เสียชีวิตนะคะ