ผมไม่สนวินัย แต่ตอนนี้เบนช์เพรสก็กลับมาที่ 75 กิโล 4 set เหมือนสมัยหนุ่มๆละ แต่พักระหว่าง set มากขึ้น

ท่าดัมเบลก็ยืนพื้นที่ 17.5

เคล็ดลับผมคือ ไปยิมเหมือนไป third place คือสถานที่ที่สามนอกจากบ้านและที่ทำงาน เหมือนคนไปนั่งร้านกาแฟอ่ะ ชิลๆ วันไหนทำงานเหนื่อยก็เล่นน้อยหน่อย วันไหนฟิตก็โชว์ไป

มีน้ำอุ่นให้อาบ มีสระว่ายน้ำ มีชาอุ่นๆให้จิบ มันคือเดอะเบสท์ละสำหรับผม

คือเราไม่ใช่นักกล้ามมืออาชีพ มันไม่มีถูกผิด หรือเบาไปหนักไปครับ อย่าไปอายหรือคือว่าคนอื่นถูกกว่าเรา กว่าเขาจะเล่นได้ขนาดนั้นเขาก็อดทนมานาน ลองผิดลองถูก

อีกอย่างของพวกนี้มันคือสกิล เราไปถึงแค่ไหนก็แค่นั้น เหมือนเล่นบอลอ่ะ คนเล่นเก่งก็มี คนเล่นมานานแค่ไม่เก่งก็มี

สรุปขั้นแรกคือเป็นมิตรกับยิมก่อน แล้วก็อย่าไปสนพวกมาเป็นกลุ่มมานั่งหัวเราะคนอื่น ถ้าไม่มีคนคุยก็คุยกับโค๊ช หน้าด้านไปคุยกับคนที่ระดับเดียวกัน หรือสูงกว่าหน่อยๆ แค่นี้ก็ไม่เครียดแล้ว

ทำเพื่อตัวเองครับ อย่าไปหาเหตุผลอื่นเลย

ผมก็คิดแบบนี้ มันถึงทำได้จนถึงทุวันนี้

ทำเอง หุ่นเราเอง สุขภาพเราเอง จบ

ออกกำลังกายถ้าทำประจำ มันติดเองครับ เหมือนยาเสพติด วันไหนไม่ออกแล้วหงุดหงิด

แต่ถ้าขี้เกียจแสดงว่า ออกกำลังไม่ถึง คาแต่เล่นมือถือ นั่งเล่นซะมากกว่า

มันน่าเบื่อ ผมเข้าใจ ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเข้าฟิตเนส กีฬาที่ผมสามารถเล่นได้ 4-5วัน/วีค คือเตะบอล กับ ว่ายน้ำ ผมว่าฟิตเนสอาจไม่เหมาะกับท่าน หาอย่างอิ่นเล่นดูครับ

พยายามฝืนให้มันติดครับ แบบ 2 อาทิตย์ติดต่อกัน แล้วท่านจะมีความอยากไป การขี้เกียจออกก้เหมือนกันครับ ลองท่านหยุดซักอาทิตย์นึงดิ ขี้เกียจกลับไปออกชิบหาย

ในทางกลับกัน ผมเห็นคลิปพวก Motivate ผมกลับคิด

ทำไมคนพวกนี้ต้องการ Motivate กันขนาดนี้เลยวะ
แต่ผมก็ได้แต่ตั้งคำถาม ไม่ได้เดินไปถามคนพวกนี้กันหรอก
ทำเพื่อตัวเองล้วนๆ

ส่วนผมไปออกกำลังกายเราสนุก ออกกำลังกายเสร็จสดชื่น
ผ่านไปเดือนสองเดือนส่องกระจกแล้วมีการเปลี่ยนแปลง
ผ่านไปสามสี่เดือนเรายกได้หนักขึ้น

หลักๆแม่งแค่สนุกแค่นั้นแหละครับ ถ้าท่านทำไม่ได้ทำไม่ลงรู้สึกฝืนตัวเอง
ผมว่าเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นที่แฮปปี้น่าจะเวิร์คกว่าไหม
เตะบอล ตีแบต แบบพอตกเย็นแล้วแบบ เชี้ยย อยากตีแบตว่ะ

ผมย้ายกีฬาเล่นวนมาแค่ 2 อย่างครับ
จักรยานกับฟิตเนสแค่นั้น

จักรยานผมตอน 4 โมงเย็นนี่ก็คันขาละ อยากปั่นชิบหาย
4โมง50 เข้าห้องน้ำออฟฟิศเปลี่ยนชุดรีบกลับบ้านคร่อมจักรยานออกไปเจอแก๊งได้ปั่นจักรยาน ชั่วโมงครึ่ง สดชื่น
ผมก็ทำแบบนี้อยุ่ทักวัน 3 ปี ไม่เคยรุ้สึกเบื่อหรือฝืนเลย

เวทเทรนนิ่งก็เหมือนกันผมอยากเล่นเวททั้งวันอ่ะ มันสนุกอะ
ไปยกได้เห็นกล้ามเนื้อที่มีเลือดเข้าไปสูบฉีด ตอนอยุ่ในยิมนี่ตัวอย่างบวมเลย

สั้นๆ แค่สนุกแค่นั้นเลย ผมไม่ต้องการ Motivate ใดๆทั้งสิ้น
ผมเวท 6 วันต่อสัปดาห์ อก ขา หลัง อก ขา หลัง พัก วนไป

สำหรับผมก็ตั้งเป้าหมายไว้สักอย่าง แล้วยึดไว้ให้แน่น

อย่างผมก็สมัครยิมรายปี ถ้าวันไหนไม่ไปเหมือนเสียตังค์ฟรี

เลยทำให้อยากไปทุกวันครับ

ผมกลับสนุกกับการออกกำลังกายนะทั้ง weight trainning กับ cardio

ยกได้หนักขึ้น กล้ามชัดขึ้น ส่วน cardio ผมชอบปั่นจักรยาน ก็สนุกกับการปั่นได้นานขึ้น performance ที่เพิ่มขึ้น ทำให้อยากออกกำลังกายเรื่อยๆ วันพักซะอีกที่ไม่รู้จะทำไรดี ว่างๆ เบื่อๆ

ผมอยากไปมากติดไม่มีเวลา ในเมืองนี่โคตรแจ่ม

ส่องกระจกสังเกตตัวเองบ่อย ๆ ถ้าหุ่นไม่ดีก็มีเหตุให้เข้าฟิตเนสแล้ว
พอเข้าแล้วหุ่นเริ่มดี ยิ่งต้องเข้าอีก
ที่สำคัญคือเป้าหมาย

จ้างเทรนเนอร์แล้วเค้าจะโทรตามเราเป็นระยะๆ 555

แรงบันดาลใจอยู่ได้แค่หลักเดือน เทรนเนอร์ตามจิกอยู่ได้แค่ครบชั่วโมงจ้าง New Year's resolution ปณิธานปีใหม่ไม่เกิน 3เดือน เห็นมาเยอะมากกก ผมทำเป็นกิจวัตรจนชิน ยิ่งถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อม การเดินทางที่สะดวกนะยิ่งง่าย มีขาดไปช่วงโควิดกับช่วงที่ทำงานที่นึงที่เดินทางไม่สะดวกจริง

มันเป็นเพียงไม่ดี่เรื่องในชีวิตที่ผมทำได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าหยุดหรือขี้เกียจ ผมจะรู้สึกแพ้

ตอบอะไรกันไม่สมกับเป็น SS เลย

คำตอบของผมที่ไปยิมสัปดาห์ละ5วันคือ ... ไปดู -ี ครับ

ตั้งเป้าหมายครับ เราอยากได้หรืออยากเป็นอะไร มันเหมือนเราไปห้างอ่ะ ไม่มีเป้าหมายในการซื้อเราก็เดินเตร็ดเตร่
ปรับมายเซ็ทให้การออกกำลังเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ถ้าอะไรเป็นสิ่งสำคัญ เราจะไม่มีข้ออ้างในการที่จะไม่ทำ
ถ้าปรับมายเซ็ทได้ การจะย้ายร่างกายเราไปอยู่สนามวิ่ง ไปยิม หรือบนเสื่อโยคะ มันก็ไม่ยากอีกต่อไปครับ

ขอสอบถามครับว่า แบ่งเซตยังไง เป็น 5x5 มั้ยครับ
หรือว่า 12x4 ปกติ