เจตนาผมขอแค่ให้ระวังการ hasty generalization เท่านั้น เพราะตอนนี้อีกฝั่งกำลังแขวนน้องอย่างเฮฮา
ตามหลักแล้ว เมื่อข้อมูลไม่เพียงพอ หลักฐานไม่เพียงพอ เราต้องถือว่าจำเลยบริสุทธิ์ไว้ก่อน
เหมือนมีของหายในห้องเรียน> เด็กชาย ก เคยขโมยของเพื่อน
>ครั้งนี้เด็กชาย ก ก็น่าจะเป็นขโมยอีก ครูเลยไปคาดคั้นเด็กชาย ก ทั้งๆที่เด็กชาย ก อาจจะไม่ใช่คนทำครั้งนี้ก็ได้ >สร้างตราบาปในใจเด็กชาย ก เพิ่มขึ้นอีก
จากเรื่องนี้ ด้วยวัยวุฒิของน้องมัน ด้วยประสบการณ์ที่น้องมันประสบมา เราอย่าพึ่งใส่ทัศคติหรือการด่วนตัดสินน้องมันเลย
เผื่อใจไว้สักนิดหรือรอข้อมูลครบๆก่อนไม่ดีกว่าเหรอท่าน

พวก activist มันก็โดนด่ากันมาทั้งนั้นแหละ เนติวิทย์เมื่อก่อน แม้แต่ใน ss ยังไม่ชอบเลย

คือเรื่องความเหมาะสม เกินไปหรือไม่เกินอยู่ที่ความรู้สึกส่วนตัว ขอแค่น้องมันไม่ทำผิดกฎหมาย(ยกเว้น 112) ก็พอละ

พฤติกรรมซ้ำซาก แต่งไปรเวทมา 2-3 อาทิตย์ ย้อมผมมาเรียน ไม่สนใจโลก

ถ้าจะโดนตัดคะแนน นิติดลบไปแล้วนะ

อยู่ไปก็อึดอัดบุคลากรโรงเรียนป่าวๆ ไปหาโรงเรียนที่เหมาะกับตัวเองเหอะ


ใช้สิทธิ์ของตัวเองได้ แต่สิทธิ์ของโรงเรียน ของคนอื่นกูไม่สนโลก

เหมาะสมถูกต้องหรือไม่ผมคิดว่าไม่มีอะไร 100% แต่มั่นใจ 100% ว่าน้องมีสิทธิร้องเรียนได้ มีสิทธิคัดค้านได้ มีสิทธิตามขั้นตอนตามกฏระเบียบอย่างแน่นอน และถ้าไม่ได้รับความยุติธรรมหรือสิทธิที่ควรได้ตามขั้นตอนก็สามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนได้ อยู่ที่วาจะใช้มันหรือไม่ หรือจะใช้สื่อมากดดันเรียกร้องฟ้องโรงเรียนแบบที่ทำอยู่ก็ทำได้เช่นกัน แต่ก็ต้องรับกระแสวิจารย์ให้ได้ด้วยเช่นกันไม่ใช่ตัวเองฟ้องร้องได้อย่างเดียว คนอื่นจะมาฟ้องร้องวิจารย์ตัวเองไม่ได้จะให้แต่คนชมอย่างนั้นหรือ

ถ้าที่มาของกฏมันไม่ถูกต้องล่ะครับ
ผอ ไม่ได้ดำเนินการตามกฏกระทรวงเรื่องการออกกฏบังคับทรงผม\เครื่องแบบ การที่ ผอ จะออกระเบียบเรื่องทรงผม เครื่องแบบได้ มันต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ตัวแทนนักเรียน ผู้ปกครอง ผู้ปกครองเครือข่าย และผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา ถ้าที่มาของระเบียบมันไม่ถูกต้อ
>นักเรียนควรจะเชื่อฟังกฏนั้นไหม?
เปรียบเทียบกับ รธร 60 \สว250 เสียง เป็นกฏหมายหลักของประเทศตอนนี้ > ที่มาของ รธน มันไม่ถูกต้อง >การรับร่าง รธน 60 ถูกอำนาจบิดเบือนในการโหวต > ท่านยอมรับมันได้ไหมถ้า สว จะโหวตเลือกนายกที่ไม่ได้มาจากพรรคเสียงข้างมาก\ สว ไม่ยอมยกมือให้แคนดิเดตจากพรรคเสียงข้างมาก
รธน 60 vs กฏของโรงเรียน ที่มีที่มาไม่ชอบธรรม ท่านเห็นว่ามันต่างกันยังไงครับ

เอาแต่ใจเกินเหตุไม่เคารพสถานที่
ไม่เคารพกฎระเบียบเผลอๆตอนนี้
ก็ไม่เคารพอาจาร์ยอึดอัดใจมากก็
ลาออกไปหาที่เรียนใหม่ดีแล้วครับ
ผมไม่สนับสนุนอะไรที่มันฝ่าฝืนหรือ
สุดโต่งในแนวคิดเกินไปครับ
ปล..มีอีกกลุ่มที่มีแนวความคิดพ่อแม่
ไม่ได้เป็นผู้มีพระคุณโอ้วโหคิดได้ไง
เป็นอันตรายต่อสังคมมากและในอนาคต
กลัวจะมีอิทธิพลต่อลูกๆผมสุดโต่งชิบ

ถ้าไม่สนใจกฎเพราะคิดว่าเป็นเสรีภาพ วันหลังเอาเหล้าไปกินในโรงเรียน เอาบุหรี่เข้าไปดูดเลยครับ ของพวกนี้ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายอยู่แล้ว

หรือไม่ก็ตอนกัญชายังผิดกฎหมายก็ขนมาจากต่างประเทศเข้ามาดูดเลย แล้วบอกต่างประเทศถูกกฎหมาย

หรือไม่วันหลังก็ใส่สายเดี่ยว ใส่กระโปรงสั้นไปเรียนเลย

อย่างน้องอยากนี่ต่อให้เรียกร้องได้ก็ไม่จบหรอก ไปเรียกร้องอย่างอื่นต่อ

จริงๆมันมีหลายอย่างนะที่บ้านเราถูก บ้านเค้าผิด บ้านเค้าผิด บ้านเราถูก แต่ที่รู้ๆมันต้องทำตามกฎที่นั้นๆ

ถ้าไม่อยากก็ต้องพยายามเปลี่ยนกฎก่อน ถ้ากฎยังมีจะให้ตำรวจ หรือครูที่เค้าดูแลอยู่ทำหน้ายังไง

ถ้าที่มาของกฏมันไม่ถูกต้องล่ะครับ
ผอ ไม่ได้ดำเนินการตามกฏกระทรวงเรื่องการออกกฏบังคับทรงผม\เครื่องแบบล่ะครับ
ท่านรู้ไหมว่าการที่ ผอ จะออกระเบียบเรื่องทรงผม เครื่องแบบได้ มันต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ตัวแทนนักเรียน ผู้ปกครอง ผู้ปกครองเครือข่าย และผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา มีกี่%ของโรงเรียนที่ดำเนินการตามขั้นตอนนี้ก่อนออกระเบียบเรื่องทรงผม\เครื่องแบบ
แล้วถ้าที่มาของระเบียบมันไม่ถูกต้อง >นักเรียนควรจะเชื่อฟังกฏนั้นไหม?
เปรียบเทียบกับ รธร 60 \สว250 เสียง เป็นกฏหมายหลักของประเทศตอนนี้ > ที่มาของ รธน มันไม่ถูกต้อง >การรับร่าง รธน 60 ถูกอำนาจบิดเบือนในการโหวต > ท่านยอมรับมันได้ไหมถ้า สว จะโหวตเลือกนายกที่ไม่ได้มาจากพรรคเสียงข้างมาก\ สว ไม่ยอมยกมือให้แคนดิเดตจากพรรคเสียงข้างมาก
รธน 60 vs กฏของโรงเรียน ที่มีที่มาไม่ชอบธรรม ท่านเห็นว่ามันต่างกันยังไงครับ

สมมุตน้องไปเข้าโรงเรียนอิสลาม ต้องมีละหมาด ต้องมีโพกผ้า ต้องเรียนเกี่ยวกับศาสนาด้วย แต่น้องไม่ชอบ
ทำสีผมไปเรียน ออกมาต่อต้านการละหมาดว่าขัดต่อสิทธิน้อง ทั้งที่ทุกคนยอมรับก่อนที่จะมาเข้าเรียนอยู่แล้ว
และก็ไม่มีใครบังคับให้น้องเรียนที่นี่ด้วย สิ่งที่น้องต้องการคือเปิดรับฟังความเห็นนักเรียน ความเห็นผู้ปกครอง ความเห็นชอบคณะกรรมการการศึกษา ต้องทำทั้งหมดนี้เพื่อที่จะสนองนี้ดน้องอะนะ ลาออกไปเรียนอยู่บ้านง่ายกว่าเยอะครับ ไม่มีใครบังคับ

บางครั้งการเชียร์หรือเข้าข้างฝ่ายที่เห็นเหมือนกันมากเกินไป
มันก็ไม่เห็นต่างกับพวกสลิ่มที่เชียร์ประยุทธ์ทั้งๆที่
การที่แสดงความเห็นในเชิงตำหนิหวังให้น้องทำให้เหมาะสมขึ้น
จากกลุ่มที่มีความเห็นการเมืองเหมือนกันดูจะเป็นการหวังดีมากกว่าอีก
เพราะแค่เรื่องทรงผมผิดกฎก็สามารถไล่ออกได้แล้วครับ
กฎกระทรวงล่าสุดคือให้สถานศึกษาเป็นคนออกกฎและพิจารณาเรื่องทรงผมเองแล้ว
จากระเบียบกระทรวงล่าสุด
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/188995
แต่ต่อให้เป็นระเบียบของปี2563ก็ห้ามย้อมผมอยู่ดี
น้องผิดกฎก็ต้องยอมรับผลของการกระทำ จะตักเตือนก่อน
หักคะแนนก่อนหรือพักการเรียนก่อน หรือไล่ออกเลย
มันก็เป็นสิทธิ์ของสถานศึกษานั้นๆ
ถ้าไม่ถูกใจเชื่อว่าแค่ไปปรับปรุงแก้ไขแล้วน่าจะเจรจากับโรงเรียนได้แน่นอน
แต่ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนว่าตัวเองผิดกฎ
ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้มีการยอมรับแบบนั้น
การไล่ออกให้ไป ศึกษาในที่ๆกฎระเบียบถูกใจก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรอครับ

คนเรามันต้องเคารพกฎกติกาสังคมสิ ไม่งั้นมันก็เละหมด
คุณจะเปลี่ยนอะไรมันต้องใช้เวลา แสดงให้เขาเห็น

อันนี้อยู่ๆย้อมผมไปเรียน เขาเรียกไปคุยก็จะไปอัดเสียงเขา
เขาไม่ให้อัดก็จะไม่คุย แล้วหนีอีก
อย่างงี้มันก็ควรโดนลงโทษไหม

ปล.ถ้าเป็นหยกผมต้องคิดแล้ว ว่าเราคิดอะไรผิดรึป่าว
ขนาดฝั่งเดียวกันยังไม่เห็นด้วย

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/188995

กระทรวงโยนให้โรงเรียนกำหนดเองตามความเหมาะสมนะครับ คือผมไม่รู้หรอกว่าท่านมองในมุมน้องหยกไปถึงจุดไหน แต่ในวันนี้น้องก็สุดโต่งจริงๆ จนบางครั้งผมก็คิดแง่ลบนะว่าน้องต้องการเปลี่ยนแปลงจริงๆ หรือแค่ต้องการแสงมาส่องที่ตัวเอง

ก่อนก้าวไกลจะได้ไปใส่สูทนั่งอยู่ในสภาอยู่ทุกวันนี้
หลาย ๆ คนก็ผ่านการ แหกกฏ เพื่อให้สังคมตื่นรู้มาก่อนหรือป่าวครับ
บางคนไม่ได้ไปต่อ โดนคดี หรือลี้ภัยด้วยซ้ำ
นี่ขนาดทำถูกกฏแม่งยังหาทุกวิชามารมาขัดแข้งขัดขาเลย
ยอมรับเถอะครับ สิ่งที่น้องทำ มันส่งผลต่ออนาคตลูกหลานเราทั้งนั้น
มันคือสิ่งที่ควรจะเป็นแต่ผิดแค่ในเวลาที่ไม่ใช่ในบ้านเรา
เราควรหนักแน่นในข้อนั้นหรือป่าวครับ
ไม่เห็นด้วยในตอนนี้ไม่เป็นไรครับ แต่อย่าไปว่าหรือซ้ำเติมเลยครับ
หวังว่าน้องจะได้ไปเติบโตในสังคมที่เหมาะกับน้องครับ

ผมขอแลกเปลี่ยนความเห็นนะครับ
ความรักต่อพ่อแม่\การสำนึกต่อพระคุณพ่อแม่
เป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องสร้างขึ้นด้วยตัวเองนะครับ ต้องสานสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกไว้ให้ดี เพราะสมัยนี้ไม่สามารถบังคับให้ลูกรัก\เคารพได้
งั้นจะเกิดกรอบทัศน์แบบโบราณขึ้นแบบนี้ครับ
ลูกต้องเชื่อฟังพ่อแม่ > เพราะพ่อแม่คือพ่อแม่ > ใช้อำนาจมากกว่าเหตุผลในการบังคับให้เชื่อ ห้ามเถียง ห้ามใช้เหตุผล
ลูกต้องกตัญญุรู้คุณพ่อแม่ > เพราะพ่อแม่คือพ่อแม่ ถึงพ่อแม่จะไม่ดีขนาดไหน ถึงจะทอดทิ้ง ไม่เคยดูแล ถึงจะทำร้ายร่างกาย ถึงจะละเมิดทางเพศ > ก็ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ ห้ามฟ้อง ห้ามปฏิเสธการกตัญญุ
ดังนั้นหากลูกคนไหนมองว่าพ่อแม่ไม่ใช่ผู้มีพระคุณ > ต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินนะครับว่า การที่ลูกคิดแบบนั้น
เพราะถูกแนวคิดบางอย่างฝังหัวหรือเกิดจากพฤติกรรมของพ่อแม่ครับ

อะไรคือสิทธิ์ของโรงเรียนครับ แล้วน้องไปละเมิดสิทธิ์คนอื่นหรือยัง

ผมก็ไม่เห็นว่าน้องออกมาโวยวายอะไรนะเรื่องโดนไล่ออก หรือมาด่ากลับคนที่วิจารณ์น้อง (อาจจะมีก็ได้ ผมไม่เห็นข่าว)

เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย น้องแค่แสดงออก สุดโต่งหรือไม่แล้วแต่คนมอง ประเด็นสำคัญคือน้องไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

น้องเลือกที่จะทำและรับผลนั้นเอง งงว่าหลายคนไปเป็นเดือดเป็นร้อนจัง