BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: จงสร้างโลกด้วยหนึ่งสมองและสองมือ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jul 2010
ตอบ: 454
ที่อยู่: ไม่รู้กรูหลงทาง
โพสเมื่อ: Mon May 22, 2023 22:12
[RE: นโยบายด้านแรงงานของก้าวไกล คิดว่าผู้ประกอบการตึงๆมั้ย]
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
นโยบายนี้ผู้ประกอบการตึง? ทำไมไม่คิดบ้างว่า ที่ผ่านมาคนที่เค้าทำ 6 วัน ชีวิตเขาไม่ตึงหรอครับ บางคนได้เดือนละ 6000-10000 ชีวิตไม่ตึงหรอครับ?

พวกกิจการที่อยู่ได้ด้วยการกดค่าแรงคน ไม่สมควรอยู่ครับ สมควรหายไป ถ้าจะเปิดกิจการไหนต้องอยู่ได้ด้วยการไม่กดค่าแรงคน  

อันนี้มองในมุมไม่ใช่เจ้าของกิจการชัวๆๆ


ตอนนี้เจ้าของกิจการยกเว้นรายใหญ่สุดๆคือเหนื่อยลากแล้ว

ประเทศไทยมันติดอยุ่กับตรงกลาง ไม่ใช่ประเทศแนวใช้แรงงาน แต่ก้ไม่ใช่ประเทศระดับสิงคโปร ญป เกาหลี

เราไม่มีพวกอะไรที่จะไปขายต่างชาติตอนนี้ให้ขึ้นค่าแรงได้ขนาดนั้น

ค่าแรงอะต้องไม่ขึ้นเยอะ เพราะขนาดนี้คือเราแพงกว่าเวียดนาม พม่า ลาว อะไรพวกนี้เยอะแล้ว ถ้าขึ้นกว่านี้ต่าชาติย้ายฐานไปหมด คราวนี้อะซวยของจริง เพราะภายในของไทยก้กระอักเลือดละ

ลองขึ้นดูขึ้นราคา ตอนนี้เราเหลือแต่ภาคเกษตรกรรมที่จะไปสุ้ต่างชาติได้เลยนะ แล้วถ้าราคาของเราแพงขึ้นอีก ต่างประเทศก้แค่เริ่มซื้อกับลงทุนสินค้าเกษตรที่ประเทศรอบๆเราก้จบละ


ที่ทำได้จริงๆคือคงค่าแรงเท่าเดิม แต่ใช้กฏหมายบีบนายทุนมากขึ้น พวกตัวเล็กๆหรือกลาง อะปล่อยไปได้ บีบแค่พวกรวยหลัก 500ล้านขึ้นไป ทำให้สินคาบริโภทอุปโภคเราลดราคาลงต่างหาก

ค่าแรงขั้นต่ำเราอะกำลังดีแล้ว สมมติ 350 แต่ตอนนี้ที่แพงคือค่าอาหาร เดินทาต่างหาก อาหารนี่ 50บาทต่อมื้อแล้ว 3 มื้อนี่ 50% ของรายรับต่อวันแล้วนะ

ส่วนแรงงาน เอาจริงก้ต้องให้ทำ6วันประมาณนี้เหมือนเดิม ประเทศเราอะต้องเปนค่อยๆพัฒนาต่อไปอีกซักพัก อยุ่ดีๆมันโดดไปประเทศพัฒนาแล้ว เอาคุณภาพชีวิตยกระดับเลยมันยาก แต่ถ้าเปน plan ไว้ซัก 20ปี อันนี้อะควรทำ

แล้วระหว่างนี้ก้หาทางพัฒนาประเทศ ใช้ไรเปนจุดเด่นก้ใช้มันหาเงินยาวๆไป


ปล เรื่องค่าแรงอะที่บอกกิจการไหนกดค่าแรง

สมมตินะ

เจ้าสัวในไทย มีแรงจ้างได้วันละ 450เลยขั้นต่ำ แต่มาจากการมีเส้นสาย ช่วยเหลือ กำไรบริษัทมันเยอะ ลดเลี่ยงภาษี


กับ กิจการขนาดเล็ก สมมติเปนอาหารสัตวละกัน หรือปุ๋ย โดนบีบภาษีเต็ม กำไรแทบไม่เหลือ เหลือเงินจ้างค่าแรงขั้นต่ำ 350

แบบนี้ควรหายไปมั้ย

แล้วประเทศเราตอนนี้เปนแบบนี้ทุกวงจรเลย


 


ความคิดแบบท่าน ก็เลือกพรรคพวกเสรีนิยมใหม่-ทุนนิยมไปครับ

ความคิดแบบผม ก็เลือกพรรคสังคมนิยม

ง่ายๆแค่นี้ครับ จากที่ไปมา ผมรู้ว่าประเทศที่เอียงสังคมนิยม มันน่าอยู่กว่าประเทศทุนนิยมครับ  


คิดแบบนี้ก้ไม่ถูกสิ ถ้าให้เดาก้ต้องไปประเทศที่มันน่าไปอยุ่แล้ว จะมาบอกว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจะข้ามขั้นไปแบบนั้นโดยตรงไม่ได้


อย่าปิดกั้นความคิดตัวเอง


ลองตอบคำถามที

สมมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ + หยุด2วัน

1. แล้วต่างชาติจะถอนการลงทุนทั้งหมดทั้ง ตอบให้เลยว่าถอนหมดแน่ๆ

2. สินค้าภาคเกษตรเราจะแพงขึ้นมั้ย ตอบให้เลยว่าขึ้นหมดแน่ๆ แล้วจะไปแข่งราคากับต่างชาติยังไง ตอบให้เลยว่าไม่ได้แน่ๆ


แล้วถ้าเกิด2ข้อนั้นขึ้น ประทเศไทยจะเอาเงินจากไหน จากต่างประเทศ

ช่วงตอบคำถาม 2ข้อนี้พอ  


1. หลักฐานว่าต่างชาติจะถอนการลงทุนทั้งหมด อยู่ที่ใดครับ ถ้ามีหลักฐานการศึกษาช่วยเอามาให้ดูด้วย ส่วนผมยกตัวอย่างเยอรมนีก็ได้ครับ ปี 2022 เลือกตั้ง ขึ้นค่าแรงมาเกือบ 30% ใน 1 ปี อัตราการว่างงานไม่กระทบเลย
ซึ่งเรื่องการขึ้นค่าแรงไม่ได้มีผลกระทบกับการว่างงาน David Card นักเศรษฐศาสตร์ก็ได้ศึกษาไว้ และได้รับรางวัลโนเบลจากงานศึกษาด้วย

2. ผมถามกลับว่าประเทศที่ค่าแรงสูงๆ ทำไมยังมีอาชีพเกษตรกรได้?

อีกอย่าง พวกประเทศสังคมนิยมมันไม่ได้พัฒนาแล้วค่อยเปลี่ยน policy มาเป็นสังคมนิยมนะครับ คือมันมีสวัสดิการ มีค่าแรงที่เป็นธรรมพัฒนามาเรื่อยๆอยู่แล้ว

ส่วนประเทศทุนนิยม กดค่าแรง ต่อให้มันพัฒนาแล้วมันก็ไม่ได้มาทางซ้าย ให้สวัสดิการครับ

 

ขอสอบถามเป็นวิทยาทานครับ
งานศึกษาของ David Card เค้าศึกษาระหว่าง 2 รัฐในอเมริกา ในปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งตอนนั้นอเมริกาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นเจ้านวัตกรรม งานศึกษาชิ้นนี้จะใช้กับประเทศกำลังพัฒนาและไม่ได้มีนวัตกรรมแบบประเทศไทยได้หรือครับ
ผมเห็นด้วยนะกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ยังไม่เห็นด้วยกับการลดเวลาการทำงาน เพราะมีหลายธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้นในไทยอยู่เยอะ ต้องมีเวลาให้เค้าปรับตัวมากกว่านี้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 25222
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 22, 2023 22:17
[RE: นโยบายด้านแรงงานของก้าวไกล คิดว่าผู้ประกอบการตึงๆมั้ย]
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Spoil
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
นโยบายนี้ผู้ประกอบการตึง? ทำไมไม่คิดบ้างว่า ที่ผ่านมาคนที่เค้าทำ 6 วัน ชีวิตเขาไม่ตึงหรอครับ บางคนได้เดือนละ 6000-10000 ชีวิตไม่ตึงหรอครับ?

พวกกิจการที่อยู่ได้ด้วยการกดค่าแรงคน ไม่สมควรอยู่ครับ สมควรหายไป ถ้าจะเปิดกิจการไหนต้องอยู่ได้ด้วยการไม่กดค่าแรงคน  

อันนี้มองในมุมไม่ใช่เจ้าของกิจการชัวๆๆ


ตอนนี้เจ้าของกิจการยกเว้นรายใหญ่สุดๆคือเหนื่อยลากแล้ว

ประเทศไทยมันติดอยุ่กับตรงกลาง ไม่ใช่ประเทศแนวใช้แรงงาน แต่ก้ไม่ใช่ประเทศระดับสิงคโปร ญป เกาหลี

เราไม่มีพวกอะไรที่จะไปขายต่างชาติตอนนี้ให้ขึ้นค่าแรงได้ขนาดนั้น

ค่าแรงอะต้องไม่ขึ้นเยอะ เพราะขนาดนี้คือเราแพงกว่าเวียดนาม พม่า ลาว อะไรพวกนี้เยอะแล้ว ถ้าขึ้นกว่านี้ต่าชาติย้ายฐานไปหมด คราวนี้อะซวยของจริง เพราะภายในของไทยก้กระอักเลือดละ

ลองขึ้นดูขึ้นราคา ตอนนี้เราเหลือแต่ภาคเกษตรกรรมที่จะไปสุ้ต่างชาติได้เลยนะ แล้วถ้าราคาของเราแพงขึ้นอีก ต่างประเทศก้แค่เริ่มซื้อกับลงทุนสินค้าเกษตรที่ประเทศรอบๆเราก้จบละ


ที่ทำได้จริงๆคือคงค่าแรงเท่าเดิม แต่ใช้กฏหมายบีบนายทุนมากขึ้น พวกตัวเล็กๆหรือกลาง อะปล่อยไปได้ บีบแค่พวกรวยหลัก 500ล้านขึ้นไป ทำให้สินคาบริโภทอุปโภคเราลดราคาลงต่างหาก

ค่าแรงขั้นต่ำเราอะกำลังดีแล้ว สมมติ 350 แต่ตอนนี้ที่แพงคือค่าอาหาร เดินทาต่างหาก อาหารนี่ 50บาทต่อมื้อแล้ว 3 มื้อนี่ 50% ของรายรับต่อวันแล้วนะ

ส่วนแรงงาน เอาจริงก้ต้องให้ทำ6วันประมาณนี้เหมือนเดิม ประเทศเราอะต้องเปนค่อยๆพัฒนาต่อไปอีกซักพัก อยุ่ดีๆมันโดดไปประเทศพัฒนาแล้ว เอาคุณภาพชีวิตยกระดับเลยมันยาก แต่ถ้าเปน plan ไว้ซัก 20ปี อันนี้อะควรทำ

แล้วระหว่างนี้ก้หาทางพัฒนาประเทศ ใช้ไรเปนจุดเด่นก้ใช้มันหาเงินยาวๆไป


ปล เรื่องค่าแรงอะที่บอกกิจการไหนกดค่าแรง

สมมตินะ

เจ้าสัวในไทย มีแรงจ้างได้วันละ 450เลยขั้นต่ำ แต่มาจากการมีเส้นสาย ช่วยเหลือ กำไรบริษัทมันเยอะ ลดเลี่ยงภาษี


กับ กิจการขนาดเล็ก สมมติเปนอาหารสัตวละกัน หรือปุ๋ย โดนบีบภาษีเต็ม กำไรแทบไม่เหลือ เหลือเงินจ้างค่าแรงขั้นต่ำ 350

แบบนี้ควรหายไปมั้ย

แล้วประเทศเราตอนนี้เปนแบบนี้ทุกวงจรเลย


 


ความคิดแบบท่าน ก็เลือกพรรคพวกเสรีนิยมใหม่-ทุนนิยมไปครับ

ความคิดแบบผม ก็เลือกพรรคสังคมนิยม

ง่ายๆแค่นี้ครับ จากที่ไปมา ผมรู้ว่าประเทศที่เอียงสังคมนิยม มันน่าอยู่กว่าประเทศทุนนิยมครับ  


คิดแบบนี้ก้ไม่ถูกสิ ถ้าให้เดาก้ต้องไปประเทศที่มันน่าไปอยุ่แล้ว จะมาบอกว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจะข้ามขั้นไปแบบนั้นโดยตรงไม่ได้


อย่าปิดกั้นความคิดตัวเอง


ลองตอบคำถามที

สมมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ + หยุด2วัน

1. แล้วต่างชาติจะถอนการลงทุนทั้งหมดทั้ง ตอบให้เลยว่าถอนหมดแน่ๆ

2. สินค้าภาคเกษตรเราจะแพงขึ้นมั้ย ตอบให้เลยว่าขึ้นหมดแน่ๆ แล้วจะไปแข่งราคากับต่างชาติยังไง ตอบให้เลยว่าไม่ได้แน่ๆ


แล้วถ้าเกิด2ข้อนั้นขึ้น ประทเศไทยจะเอาเงินจากไหน จากต่างประเทศ

ช่วงตอบคำถาม 2ข้อนี้พอ  


1. หลักฐานว่าต่างชาติจะถอนการลงทุนทั้งหมด อยู่ที่ใดครับ ถ้ามีหลักฐานการศึกษาช่วยเอามาให้ดูด้วย ส่วนผมยกตัวอย่างเยอรมนีก็ได้ครับ ปี 2022 เลือกตั้ง ขึ้นค่าแรงมาเกือบ 30% ใน 1 ปี อัตราการว่างงานไม่กระทบเลย
ซึ่งเรื่องการขึ้นค่าแรงไม่ได้มีผลกระทบกับการว่างงาน David Card นักเศรษฐศาสตร์ก็ได้ศึกษาไว้ และได้รับรางวัลโนเบลจากงานศึกษาด้วย

2. ผมถามกลับว่าประเทศที่ค่าแรงสูงๆ ทำไมยังมีอาชีพเกษตรกรได้?

อีกอย่าง พวกประเทศสังคมนิยมมันไม่ได้พัฒนาแล้วค่อยเปลี่ยน policy มาเป็นสังคมนิยมนะครับ คือมันมีสวัสดิการ มีค่าแรงที่เป็นธรรมพัฒนามาเรื่อยๆอยู่แล้ว

ส่วนประเทศทุนนิยม กดค่าแรง ต่อให้มันพัฒนาแล้วมันก็ไม่ได้มาทางซ้าย ให้สวัสดิการครับ

 
 


1. คุณเข้าใจบริบทป่าวหว่า ประเทศกำลังพัฒนากับประเทศพัฒนาแล้วมันจะเหมือนกันได้ไง ของเค้าไม่ว่าจะขึ้นหรือลง แรงงานในประเทศมันก้ต้องใช้เหมือนเดิม ถ้าเค้าไม่สนับสนุนให้เอาคนต่างด้าวเข้าไปทำงาน เพราะงานมันต้องใช้คนเหมือนเดิม นี่พูดถึงประเทศที่เปนฐานการผลิต


https://plus.thairath.co.th/topic/money/100479

https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1067920

https://www.prachachat.net/economy/news-1189072

https://workpointtoday.com/kkp-research-thai-not-no-1-in-asean-anymore-01/

ไม่รุ้จะเอาอะไรมายันดี หรือจะบอกว่าที่ต่างชาติย้ายออกเพราะการเมืองไม่นิ่ง ถ้าบอกงั้นก้ไม่มีตัวอย่างเอามาเทียบละ


2. ผมถามกลับว่าประเทศที่ค่าแรงสูงๆ ทำไมยังมีอาชีพเกษตรกรได้? มันเปนอาชีพหลักให้ประเทศมั้ยละ มันส่งออก สุ้ประเทศที่ค่าแรงถูกๆได้มั้ย คือมันก้ส่งออกเปนอะไรที่มันspecial แต่มันไม่ใช่อะไรที่เปน majority มั้ง อย่างเมกา ญป เกาหลี สวิต สวีเดน จะบอกพวกนี้ดันเกษตรเปนหลักหรอ คงไม่ใช่มั้งเพราะราคาของมันสูง อย่างมากปลูกกินในประเทศ เพราะอาจจะลดค่าขนส่ง กับขนไปจากประเทศค่าแรงถูกไกลมีปัญหาการขนส่ง  


1. เอาบทความหนังสือพิมพ์มาเทียบงานวิชาการที่ได้รางวัลโนเบล? ถ้ากล้าเทียบแบบนั้นคุณก็เชื่อไปแบบนั้นครับ

2.ลองคิดว่า ทำไมการเกษตรพวกนี้ถึงไม่ตายหายไปครับ? ในเมื่อค่้าแรงแพงนำไปสู่ของแพง ทำไมถึงไม่นำเข้าอย่างเดียว ทำไมถึงยังไม่การเกษตรในประเทศ
แน่นอนผมพูดถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาสู่การเกษตร เมื่อค่าแรงแพงขึ้นเกษตรกรก็จะโดนบังคับโดยอ้อมให้นำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาปรับปรุงการผลิตของตัวเอง ให้ใช่คนน้อยลง ผลผลิตมากขึ้น
คุณอาจอ้างว่า ให้ปรับตัวก่อนค่อยขึ้นค่าแรง ซึ่งไทยที่ผ่านมาทำได้หรือครับ มีแต่ขึ้นค่าแรงแล้วเจ้าของกิจการต้องโดนบังคับให้ปรับตัวเท่านั้น

ผมย้ำอีกครั้ง ธุรรกิจที่เอาเปรียบแรงงานแล้วถึงอยู่ได้ต้องหมดไปจากประเทศ พัฒนาด้วยนวัตกรรมกันเท่านั้น ประเทศไทยถึงจะอยู่รอดได้  


..... ก้มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง คือ fact ว่าประเทศรอบๆเราโตขึ้น ฐานการผลิตไปทางนั้นมากขึ้น ของเราลดลง งั้นก้แค่หาเหตุผลเองว่าทำไม ทำไมต้องไปโนเบล งง




2.ลองคิดว่า ทำไมการเกษตรพวกนี้ถึงไม่ตายหายไปครับ? ในเมื่อค่้าแรงแพงนำไปสู่ของแพง ทำไมถึงไม่นำเข้าอย่างเดียว ทำไมถึงยังไม่การเกษตรในประเทศ
แน่นอนผมพูดถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาสู่การเกษตร เมื่อค่าแรงแพงขึ้นเกษตรกรก็จะโดนบังคับโดยอ้อมให้นำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาปรับปรุงการผลิตของตัวเอง ให้ใช่คนน้อยลง ผลผลิตมากขึ้น


-ตอบง่ายนิดเดียว มันก้แทบจะตายไปแล้วไง เทียบกับจำนวน% ของเกษตรระหว่างประเทศไทยกับพวกพัฒนาแล้ว ของเค้านี่แทบจะไม่กี่%ของรายได้เองมั้ง ของไทยนี่แทบจะเรียกว่าแบก
พูดถึงเทคโนโลยี ใช่สิ ประเทศเค้าพัฒนาแล้ว เค้าก้มีเงินไปซื้อของ ซื้อเครื่องจักรมาช่วยต้นทุนจากคน เอาคนไปทำงานอย่างอื่น


ผมไม่ได้บอกให้ ห้ามขึ้นนะ แต่มันต้องค่อยๆทำ

ลองคิดดู ทำวันนี้ บอกให้ชาวนาไปซื้อเครื่องจักรมาช่วยผลิต ชาวนาจะเอาเงินจากไหน แค่ค่าเก็บผลผลิตบางนายังแทบไม่มีเงินจ้างรถมาช่วยเกี่ยวเลย

แล้วสมมติขึ้นค่าแรงวันนี้ปุ๊บ ราคาข้าวสูงขึ้นแน่นอน ต่างชาติก้แค่บอกเออกุไปซื้อปรเทศอื่นก้ได้ ข้าวเหมือนกัน อร่อยเกือบเท่า แล้วนาข้าว คน ที่เรามีตอนนี้ละ มันก้จะกลายเป็นชอตไปทั้งระบบ

ใช่ที่บอกว่า เราก้แค่ลงทุนซื้อเครื่องจักรมาหว่านมานู่นมานั่นช่วย ราคาก้กลับไปตามเดิมแล้วเพราะลดทุนจากคน ประเด็นคือมันไม่มี



เสริมตัวอย่างอีกนิด

อะสมมติผลไม้ซักอย่าง ปกติต้องใช้คนหว่านเมล็ด คัดแยกเมล็ด รดน้ำ ค่าแรง 350 เลยทำให้ราคาขายอยุ่ที่ 200บาท/กก

คุณบอก ใช้เทคโนโ,ยีมาช่วย แต่อัพค่าแรงเป็น 600เลย ราคาขายเราต้องเด้งไป 300บาท/กก ตอนปีแรกๆ คุณบอกใช้เทคช่วย เทคโนโลยี คัดผลผลิต รดน้ำ หว่าน เก็บเกี่ยว ต้องลงทุน 2ล้าน

ถามว่าถ้าไม่ค่อยๆปรับ เค้าจะเอาเงินจากไหนมาซื้อของ2ล้าน เพื่อไปแทนแรงงานคน แต่ราคาที่ขึ้นเป็น 300บาท/กก อันนี้คือขึ้นเลยแน่ๆในปีแรก แล้วถ้าของนั้นเปนของที่ส่งออก ต่างชาติมันก้แค่ไม่ซื้อ แล้วไปซื้อที่ประเทศเวียดนามมี ได้ราคา 200บาท/กก เหมือนเดิม



 


คือผมขี้เกียจเถียงแล้วอ่ะ เพราะงานวิชาการมันก็ชัดสำหรับผมแล้ว ถ้าจะให้ผมเชื่อคุณ คุณคงต้องไปศึกษาเรื่องนี้ เขียนแล้วได้รางวัลโนเบลไปแย้งกับนักเศรษฐษษสตร์ด้านบน ผมถึงจะสนใจอาจเชื่อ

ถ้าให้ผมเทียบว่าทำไมผมไม่อาจเชื่อได้ เหมือนงานวิชาการบอกว่า MRNA ดีกว่าวัคซีนแบบ Sinovac ถ้าคุณบอกว่า Sinovac ดีกว่าแล้วคุณจะขุดอะไรมาก็ช่างผมก็ไม่มีทางเชื่อคุณนอกจากคุณเอางานวิชาการมาเทียบ

ดังนั้นเอางี้ละกันนะครับ รออีก 2 ปีหลังจากก้าวไกลขึ้นค่าแรงแล้ว (450บาท + หยุด 2 วัน)

วันที่ 22 เดือน 5 ปี 2025 มาดูผลกันว่าจะเป็นยังไง ตั้งกระทู้ ss อ้างกระทู้นี้ไว้เลย  



อีกอย่างนึง ผมไปตามอ่านมาละ

https://davidcard.berkeley.edu/papers/njmin-aer.pdf

อันี้ใช่ปะ

เอาผลสถิติเมื่อปี 1992กับช่วงแถวนั้น มาพูดกับเวลาปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีต่างๆเปลี่ยนมากมาย ความยากง่าย การขนส่งการสร้างฐานผลิตใหม่ ย้ายโรงงาน ตัวเลือก ต่างกัน

เอาผลการทดลองที่มีเงินความแตกต่างแค่ 20% มาเทียบ ใช่ถ้าแค่20% มันไม่ต่างเท่าไหร่ รวมอาจจะไม่ถึงขั้นให้บริษัทย้ายฐานหรอก

เอาผลการศึกษาที่เป็นในเชิงในประเทศ คือเปนโรงงานในประเทศ มาเทียบกับการตั้งโรงงานต่างประเทศใช้แรงงานประเทศนั้นๆ

ในขณะทีพูดถึงไทยกับเวียดนามพม่า ที่ตอนนี้ต่างกันเยอะอยุ่แล้ว แล้วถ้าปรับตามนั้นปีหน้าเลย กำลังจะดันให้เยอะกว่า100%




นี่ยังไม่นับว่าประเทศต่างกัน สถาณการณประเทศต่างกันแบบโคตรสิ้นเชิง เพราะถถ้าเทียบเมกา ถ้าย้ายจะย้ายไปไหน ไม่มีประเทศสูงกว่าให้เทียบแล้วไง ในขณะที่ไทยกับเวียดต่างกันหลัก เท่าตัว เอาเคส ประเทศพัฒนาแล้ว กับประเทศโลกที่3 มาเทียบกันได้ยังไง


คุณเอาทั้งหมดนี้ มาเทียบกับ fact ที่ว่าโรงงานจากต่างประเทศที่ไทยปิดตัวมากขึ้น ที่เวียดนามกับประเทศรอบๆเติบโตสูงขึ้นแบบมีนัยยะสำคัญ

ลองเปิดใจดูแล้วคิดใหม่ ว่ามันเทียบกันได้จริงๆหรอ


ผมจะบอกอะไรให้นะ 2 อันนี้ หมายถึงในการศึกษานี้ กับประเทศไทย ไม่มีอะไรใช้อ้างอิงกันได้เลยด้วยซ้ำ

ความจริงเอาแค่ 1ตัวแปรต่างกัน มันก้เลิกเอามาเทียบกันแล้ว

เวลา ภูมิภาค ประเทศ จำนวนค่าแรงที่ต่างกัน

นี่คือไม่มีอะไรเทียบกันได้เลยซักอย่างเดียว
แก้ไขล่าสุดโดย a.Raptor v.10 เมื่อ Mon May 22, 2023 22:19, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 25222
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 22, 2023 22:17
[RE: นโยบายด้านแรงงานของก้าวไกล คิดว่าผู้ประกอบการตึงๆมั้ย]
romiozaa พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
นโยบายนี้ผู้ประกอบการตึง? ทำไมไม่คิดบ้างว่า ที่ผ่านมาคนที่เค้าทำ 6 วัน ชีวิตเขาไม่ตึงหรอครับ บางคนได้เดือนละ 6000-10000 ชีวิตไม่ตึงหรอครับ?

พวกกิจการที่อยู่ได้ด้วยการกดค่าแรงคน ไม่สมควรอยู่ครับ สมควรหายไป ถ้าจะเปิดกิจการไหนต้องอยู่ได้ด้วยการไม่กดค่าแรงคน  

อันนี้มองในมุมไม่ใช่เจ้าของกิจการชัวๆๆ


ตอนนี้เจ้าของกิจการยกเว้นรายใหญ่สุดๆคือเหนื่อยลากแล้ว

ประเทศไทยมันติดอยุ่กับตรงกลาง ไม่ใช่ประเทศแนวใช้แรงงาน แต่ก้ไม่ใช่ประเทศระดับสิงคโปร ญป เกาหลี

เราไม่มีพวกอะไรที่จะไปขายต่างชาติตอนนี้ให้ขึ้นค่าแรงได้ขนาดนั้น

ค่าแรงอะต้องไม่ขึ้นเยอะ เพราะขนาดนี้คือเราแพงกว่าเวียดนาม พม่า ลาว อะไรพวกนี้เยอะแล้ว ถ้าขึ้นกว่านี้ต่าชาติย้ายฐานไปหมด คราวนี้อะซวยของจริง เพราะภายในของไทยก้กระอักเลือดละ

ลองขึ้นดูขึ้นราคา ตอนนี้เราเหลือแต่ภาคเกษตรกรรมที่จะไปสุ้ต่างชาติได้เลยนะ แล้วถ้าราคาของเราแพงขึ้นอีก ต่างประเทศก้แค่เริ่มซื้อกับลงทุนสินค้าเกษตรที่ประเทศรอบๆเราก้จบละ


ที่ทำได้จริงๆคือคงค่าแรงเท่าเดิม แต่ใช้กฏหมายบีบนายทุนมากขึ้น พวกตัวเล็กๆหรือกลาง อะปล่อยไปได้ บีบแค่พวกรวยหลัก 500ล้านขึ้นไป ทำให้สินคาบริโภทอุปโภคเราลดราคาลงต่างหาก

ค่าแรงขั้นต่ำเราอะกำลังดีแล้ว สมมติ 350 แต่ตอนนี้ที่แพงคือค่าอาหาร เดินทาต่างหาก อาหารนี่ 50บาทต่อมื้อแล้ว 3 มื้อนี่ 50% ของรายรับต่อวันแล้วนะ

ส่วนแรงงาน เอาจริงก้ต้องให้ทำ6วันประมาณนี้เหมือนเดิม ประเทศเราอะต้องเปนค่อยๆพัฒนาต่อไปอีกซักพัก อยุ่ดีๆมันโดดไปประเทศพัฒนาแล้ว เอาคุณภาพชีวิตยกระดับเลยมันยาก แต่ถ้าเปน plan ไว้ซัก 20ปี อันนี้อะควรทำ

แล้วระหว่างนี้ก้หาทางพัฒนาประเทศ ใช้ไรเปนจุดเด่นก้ใช้มันหาเงินยาวๆไป


ปล เรื่องค่าแรงอะที่บอกกิจการไหนกดค่าแรง

สมมตินะ

เจ้าสัวในไทย มีแรงจ้างได้วันละ 450เลยขั้นต่ำ แต่มาจากการมีเส้นสาย ช่วยเหลือ กำไรบริษัทมันเยอะ ลดเลี่ยงภาษี


กับ กิจการขนาดเล็ก สมมติเปนอาหารสัตวละกัน หรือปุ๋ย โดนบีบภาษีเต็ม กำไรแทบไม่เหลือ เหลือเงินจ้างค่าแรงขั้นต่ำ 350

แบบนี้ควรหายไปมั้ย

แล้วประเทศเราตอนนี้เปนแบบนี้ทุกวงจรเลย


 


ความคิดแบบท่าน ก็เลือกพรรคพวกเสรีนิยมใหม่-ทุนนิยมไปครับ

ความคิดแบบผม ก็เลือกพรรคสังคมนิยม

ง่ายๆแค่นี้ครับ จากที่ไปมา ผมรู้ว่าประเทศที่เอียงสังคมนิยม มันน่าอยู่กว่าประเทศทุนนิยมครับ  


คิดแบบนี้ก้ไม่ถูกสิ ถ้าให้เดาก้ต้องไปประเทศที่มันน่าไปอยุ่แล้ว จะมาบอกว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจะข้ามขั้นไปแบบนั้นโดยตรงไม่ได้


อย่าปิดกั้นความคิดตัวเอง


ลองตอบคำถามที

สมมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ + หยุด2วัน

1. แล้วต่างชาติจะถอนการลงทุนทั้งหมดทั้ง ตอบให้เลยว่าถอนหมดแน่ๆ

2. สินค้าภาคเกษตรเราจะแพงขึ้นมั้ย ตอบให้เลยว่าขึ้นหมดแน่ๆ แล้วจะไปแข่งราคากับต่างชาติยังไง ตอบให้เลยว่าไม่ได้แน่ๆ


แล้วถ้าเกิด2ข้อนั้นขึ้น ประทเศไทยจะเอาเงินจากไหน จากต่างประเทศ

ช่วงตอบคำถาม 2ข้อนี้พอ  


1. หลักฐานว่าต่างชาติจะถอนการลงทุนทั้งหมด อยู่ที่ใดครับ ถ้ามีหลักฐานการศึกษาช่วยเอามาให้ดูด้วย ส่วนผมยกตัวอย่างเยอรมนีก็ได้ครับ ปี 2022 เลือกตั้ง ขึ้นค่าแรงมาเกือบ 30% ใน 1 ปี อัตราการว่างงานไม่กระทบเลย
ซึ่งเรื่องการขึ้นค่าแรงไม่ได้มีผลกระทบกับการว่างงาน David Card นักเศรษฐศาสตร์ก็ได้ศึกษาไว้ และได้รับรางวัลโนเบลจากงานศึกษาด้วย

2. ผมถามกลับว่าประเทศที่ค่าแรงสูงๆ ทำไมยังมีอาชีพเกษตรกรได้?

อีกอย่าง พวกประเทศสังคมนิยมมันไม่ได้พัฒนาแล้วค่อยเปลี่ยน policy มาเป็นสังคมนิยมนะครับ คือมันมีสวัสดิการ มีค่าแรงที่เป็นธรรมพัฒนามาเรื่อยๆอยู่แล้ว

ส่วนประเทศทุนนิยม กดค่าแรง ต่อให้มันพัฒนาแล้วมันก็ไม่ได้มาทางซ้าย ให้สวัสดิการครับ

 

ขอสอบถามเป็นวิทยาทานครับ
งานศึกษาของ David Card เค้าศึกษาระหว่าง 2 รัฐในอเมริกา ในปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งตอนนั้นอเมริกาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นเจ้านวัตกรรม งานศึกษาชิ้นนี้จะใช้กับประเทศกำลังพัฒนาและไม่ได้มีนวัตกรรมแบบประเทศไทยได้หรือครับ
ผมเห็นด้วยนะกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ยังไม่เห็นด้วยกับการลดเวลาการทำงาน เพราะมีหลายธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้นในไทยอยู่เยอะ ต้องมีเวลาให้เค้าปรับตัวมากกว่านี้  


ใช่ผมเพิ่งอ่านจบ

คือลองอ่านเม้นผมอันก่อนเม้นนี้ดู ต้องเป็นยังไงถึงเอา 2 ตัวอย่างนี้มาเทียบกันได้ คือคนละโลกเลย ปัจจัยต่างๆเนี่ย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: จงสร้างโลกด้วยหนึ่งสมองและสองมือ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jul 2010
ตอบ: 454
ที่อยู่: ไม่รู้กรูหลงทาง
โพสเมื่อ: Mon May 22, 2023 22:38
[RE: นโยบายด้านแรงงานของก้าวไกล คิดว่าผู้ประกอบการตึงๆมั้ย]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
เดี๋ยวผมมาตอบ ว่าตอนขึ้นเป็น 300 บ้านผมคนงาน 400 คนจัดการยังไง แล้วทำไมพวกเค้าอยู่กันได้  

รอออ  


มาละครับ โทษทีที่ช้าครับ

ก่อนอื่น ต้องบอกว่าที่บ้านผมมีสองธุรกิจนะครับ ฝั่งญาติกับฝั่งของพ่อแม่ผมเอง ทั้งสองอันเป็นธุรกิจคนละประเภทกัน เริ่มเลยครับ

Spoil
เคสแรก ของที่บ้าน เราเป็น sub-contractor ของโรงงานแห่งนึง มีคนงานประมาณเกือบ 400 คน โดยที่ก่อนที่จะขึ้น ในจังหวัดก็จ่ายเกิน 300 สำหรับแรงงานบางตำแหน่งอยู่แล้วครับ (คนขับฟอร์คลิฟท์ ฯลฯ) ตอนที่เรารู้ว่าจะมีการขึ้นค่าแรง เราแจ้งกับทางโรงงานที่จ้างเราเลยว่า ถ้ามีการปรับขึ้นจากทางรัฐ เราจำเป็นต้องปรับขึ้นตาม โดยปรับตาม % ที่ขึ้นเลย เช่นค่าแรงคนงานขึ้น 20% เราก็ชาร์จโรงงานเพิ่มขึ้น 20% คือเราตรงไปตรงมาแบบนั้น ไม่มาคำนวนต้นทุนใหม่ให้ยุ่งยากอะไร ให้มันเป็น zero sum ไปเลยครับ

ต่อมา ด้วยจากที่บริษัทมีการจดเสียภาษีอย่างถูกต้องอยู่แล้ว ตอนนั้นนอกจากการขึ้นค่าแรงสามร้อย ทางภาครัฐก็มีนโยบายลดภาษีนิติบุคคลลงด้วย เผื่อมา offset ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตรงนี้เช่นกัน ฉะนั้นจริงๆแล้วต้นทุนเราไม่ได้ขึ้นขนาดนั้นครับ

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ แรงงานเรามี productivity สูงขึ้นครับ ธุรกิจที่บ้านคือรับจ้างผลิต โดยได้กำไรจากจำนวนชิ้นที่ผลิตได้ บ่อยครั้งที่เราต้องจ่ายโอที เพื่อให้งานเสร็จทัน order ของโรงงานต้นทาง… สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากขึ้นค่าแรงคือ คนงานไม่ขอทำโอที เพราะรายได้ที่ได้ในเวลาทำงานปกติ มันโคเวอร์ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว… พอเค้าไม่ต้องทำโอทีจนล้าสะสม เค้าสามารถทำงานในช่วงเวลาปกติได้ดีขึ้นครับ ฉะนั้น เราเองก็เซฟค่าโอที แรงงานเหนื่อยน้อยลง แถมยังได้ output ที่ดีขึ้นด้วย

และหลังจากการขึ้นค่าแรงในช่วงระยะเวลาประมาณปีแรก จำนวนแรงงานที่ลาออกน้อยลงด้วยอย่างเป็นนัยยะสำคัญครับ อันนี้น่าจะเป็นผลมาจากที่เหนื่อยน้อยลง ความอยากลาออกมันก็น้อยลง รวมถึงความอยาเปลี่ยนงานอัพค่าแรงก็น้อยลงด้วย (อยู่ในจังหวัดที่มีนิคมฯ คนงานจะลาออกบ่อยครับ แล้วกลับบมาก็บ่อยเหมือนกัน 555)  


Spoil
เคสที่สอง อันนี้ของญาติ ทำนำเข้าส่งออก คนงานประมาณ 40-50 คนผมจำไม่ได้ละ อันนี้วิธีการแก้ปัญหาคือคำนวนต้นทุนใหม่หมด ขายแพงขึ้นนิดหน่อย และเปลี่ยน allocation ในพอร์ทใหม่ มาขายตัวที่กำไรต่อตัวเพิ่มขึ้นโดยที่ยังใช้คนเท่าเดิมในการทำ Operations  


จริงๆแล้ว หลักการในการทำธุรกิจมีสองทางคือ maximize profit (ทำกำไรสูงสุด) หรือ cost optimization (ลดต้นทุน) ซึ่งปกติคนเราก็จะบอกว่าทำมันทั้งสองอย่าง แต่ในความเป็นจริง นโยบายผู้บริหารมันจะบอกได้กลายๆครับ ว่าโฟกัสอะไร และสินค้าบางอย่างที่รัฐควบคุมราคา พวกนั้นจะทำ profit maximization ไม่ได้อยู่แล้ว

บริษัทที่ผมรู้จักและอยู่ได้หลักจากการขึ้นค่าแรงครั้งนั้นคือบริษัทที่เน้นสร้างกำไรให้มากขึ้น ขณะที่บริษัทที่เน้นลดต้นทุน สุดท้ายหลายๆเจ้าที่ทราบก็ไม่สามารถกลับไปอยู่ที่จุดเดิมได้เลยครับ (พวกเพื่อนๆพ่อแม่ผมที่ทำธุรกิจเดียวกันบางคนก็เลิกไปเลย เพราะปรับตัวไม่ทัน/ไม่เป็น)  

ของท่านถือว่าลูกค้าแฟรูมากๆ ครับ แต่มี SME หลายเจ้าที่ทำธุรกิจแบบรับช่วงผลิตต่อ และทำสัญญาระยะยาว ถ้าเค้าไม่สามารถปรับราคาสินค้าได้เพราะติดสัญญา SME เหล่านี้แหละครับที่จะตายก่อน และก็ SME กลุ่มนี้จะทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ แล้วนโยบาย 100 วันแรกคือเพิ่มค่าแรงและลดเวลาการทำงาน ต้นทุนของเค้าจะไม่เพิ่มแค่ค่าแรง แต่จะมีเรื่องจำนวนการผลิตด้วยครับ อันนี้แหละที่ผมเห็นใจ SME กลุ่มนี้ จริง ๆ อยากเสนอให้การลดเวลาการทำงานน่าจะมีผลในอีก 2 ปีข้างหน้า ช็อตแรกแก้ปัญหาค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและประคองธุรกิจให้รอดไปก่อน ช็อตต่อไปลงเครื่องจักรแก้ปัญหาการลดเวลาการทำงาน แต่ถ้าโดน 2 เด้งพร้อมกัน SME กลุ่มที่รับช่วงผลิตต่ออาจล้มหายตายจากไปเยอะกว่าที่คิด
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2010
ตอบ: 3614
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 23, 2023 00:58
[RE: นโยบายด้านแรงงานของก้าวไกล คิดว่าผู้ประกอบการตึงๆมั้ย]
romiozaa พิมพ์ว่า:


ขอสอบถามเป็นวิทยาทานครับ
งานศึกษาของ David Card เค้าศึกษาระหว่าง 2 รัฐในอเมริกา ในปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งตอนนั้นอเมริกาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นเจ้านวัตกรรม งานศึกษาชิ้นนี้จะใช้กับประเทศกำลังพัฒนาและไม่ได้มีนวัตกรรมแบบประเทศไทยได้หรือครับ
ผมเห็นด้วยนะกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ยังไม่เห็นด้วยกับการลดเวลาการทำงาน เพราะมีหลายธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้นในไทยอยู่เยอะ ต้องมีเวลาให้เค้าปรับตัวมากกว่านี้  


คำตอบคือ ไม่รู้ครับ ถ้าอยากรู้ต้องลองศึกษาแบบเดียวกันเป๊ะๆ ซึ่งมันไม่มีครับ

แต่เทียบเคียงเหตุการณ์จริง ตอนยิ่งลักษณ์ ขึ้นค่าแรง 300 บาท อัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนด้วยซ้ำครับ (ในที่นี้ต้องบอกว่า อัตราการว่างงานของไทยนั้น unique)

ซึ่งอัตราการว่างงานของไทยตอนนี้อยู่ระดับ1%กว่าๆ ถือว่าน้อยไปไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจ ถ้าการเพิ่มค่าแรงไปทำให้ตัวเลขการว่างงานเพิ่มสัก 1-2% จะดีต่อเศรษฐกิจด้วยซ้ำไปครับ

ส่วนการลดเวลาการทำงาน ผมมองเรื่องมนุษยธรรม ทำให้คนได้ใช้ชีวิต
แต่ต่อให้มองคนเป็นตัวเลขอย่างเดียว ลองอ่านจากท่านด้านบนก็ได้ หรือไปหางานวิจัยเยอะแยะ ว่าการลดเวลาทำงานถึงจุดหนึ่ง มีผลต่อ productivity
แก้ไขล่าสุดโดย Kmul เมื่อ Tue May 23, 2023 00:58, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2010
ตอบ: 3614
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 23, 2023 01:18
[RE: นโยบายด้านแรงงานของก้าวไกล คิดว่าผู้ประกอบการตึงๆมั้ย]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:



อีกอย่างนึง ผมไปตามอ่านมาละ

https://davidcard.berkeley.edu/papers/njmin-aer.pdf

อันี้ใช่ปะ

เอาผลสถิติเมื่อปี 1992กับช่วงแถวนั้น มาพูดกับเวลาปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีต่างๆเปลี่ยนมากมาย ความยากง่าย การขนส่งการสร้างฐานผลิตใหม่ ย้ายโรงงาน ตัวเลือก ต่างกัน

เอาผลการทดลองที่มีเงินความแตกต่างแค่ 20% มาเทียบ ใช่ถ้าแค่20% มันไม่ต่างเท่าไหร่ รวมอาจจะไม่ถึงขั้นให้บริษัทย้ายฐานหรอก

เอาผลการศึกษาที่เป็นในเชิงในประเทศ คือเปนโรงงานในประเทศ มาเทียบกับการตั้งโรงงานต่างประเทศใช้แรงงานประเทศนั้นๆ

ในขณะทีพูดถึงไทยกับเวียดนามพม่า ที่ตอนนี้ต่างกันเยอะอยุ่แล้ว แล้วถ้าปรับตามนั้นปีหน้าเลย กำลังจะดันให้เยอะกว่า100%




นี่ยังไม่นับว่าประเทศต่างกัน สถาณการณประเทศต่างกันแบบโคตรสิ้นเชิง เพราะถถ้าเทียบเมกา ถ้าย้ายจะย้ายไปไหน ไม่มีประเทศสูงกว่าให้เทียบแล้วไง ในขณะที่ไทยกับเวียดต่างกันหลัก เท่าตัว เอาเคส ประเทศพัฒนาแล้ว กับประเทศโลกที่3 มาเทียบกันได้ยังไง


คุณเอาทั้งหมดนี้ มาเทียบกับ fact ที่ว่าโรงงานจากต่างประเทศที่ไทยปิดตัวมากขึ้น ที่เวียดนามกับประเทศรอบๆเติบโตสูงขึ้นแบบมีนัยยะสำคัญ

ลองเปิดใจดูแล้วคิดใหม่ ว่ามันเทียบกันได้จริงๆหรอ


ผมจะบอกอะไรให้นะ 2 อันนี้ หมายถึงในการศึกษานี้ กับประเทศไทย ไม่มีอะไรใช้อ้างอิงกันได้เลยด้วยซ้ำ

ความจริงเอาแค่ 1ตัวแปรต่างกัน มันก้เลิกเอามาเทียบกันแล้ว

เวลา ภูมิภาค ประเทศ จำนวนค่าแรงที่ต่างกัน

นี่คือไม่มีอะไรเทียบกันได้เลยซักอย่างเดียว  


ถ้าคุณคิดว่าไทยเป็นอีกแบบ ก็ลองเขียนเป็นบทความทางวิชาการดูครับ มีนักเศรษฐศาสตร์โลกที่ 1 เชื่อคุณกี่% ผมก็เชื่อคุณตามนั้นนั่นแหละ

อีกอย่างไอ้ logic ว่าที่อื่นเทียบกับไทยไม่ได้ นี่มันโลจิกเวลาพวกสลิ่มมาเถียงเรื่องประชาธิปไตยมันใช้ไม่ได้ในไทยเลยนะ เวลาคนถามว่าคุณรู้ได้ไงว่าประชาธิปไตยดี คุณตอบยังไง ในเมื่อเค้าบอกว่าประเทศที่พิสูจน์มาแล้วไม่มีอะไรเหมือนไทยในตอนนี้เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel