BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Nov 2010
ตอบ: 8403
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Feb 25, 2023 09:27
[RE: เพิ่งรู้ว่า AIS มีการจ้าง OutSource บริษัทด้านนอกสำหรับทวงคนที่ค้างจ่ายค่าบริการโดยเฉพาะ]
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
TAA66 พิมพ์ว่า:
เดาว่าเป็นพวกบริษัทซื้อหนี้เสียรึเปล่า
ประมูลซื้อหนี้เสียตามองค์กรต่างๆ แล้วไปตามทวงเอากำไรจากตรงนั้น  


พนักงานแจ้งยอดคงค้างทั่วไปน่ะครับ
สังเกตุง่ายๆว่า ปรกติจะไม่ใช่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ของทางค่ายโทรมา แต่จะเป็นเบอร์มือถือธรรมดา

ซึ่งในกรณีทั่วๆไป ไม่ได้มียอดค้างอะไร ก็แค่โทรมาแจ้งแล้วก็วางสาย
แต่ถ้าเป็นประเภทต้องหลอกต้องโน่นนี่นั่น อาจจะต้องดูพฤติกรรมคนใช้งานประกอบด้วย

แต่ถ้าเป็นในส่วนของยอดค้างหลังตัดสัญญาณมือถือไปแล้ว
เป็นเรื่องน่าแปลกใจครับ...เปล่า ผมไม่ค่อยแปลกใจพฤติกรรมคนทวง แต่แปลกใจว่าเบี้ยวหนี้เขาแล้วยังคาดหวังพฤติกรรมดีนอบน้อมอีกเหรอ ตลกดีครับ

 


พูดเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีเรื่องโกหกผสม ดีกว่าหรือเปล่าครับ มันดูทำงานแบบไม่จริงใจ หวังแต่ผลลัพธ์
"ไม่ว่าพฤติกรรมลูกค้าจะเป็นยังไง พนักงานควรมีมาตรฐานนะครับ เป็นสิ่งสำคัญในงานบริการ"

คำสอนนี้ผมเคยอ่านเจอในหลายๆองค์กร หรือ ในวิชาเรียน เขาก็สอนกันนะครับ

อ้อนี่ไม่ใช่ผมนะครับ ญาติผมอายุ 60 กว่าๆ ไม่ค่อยมีความรู้ติดเน็ต แล้วลืมจ่าย โดนโทรทวงแล้วโดนหลอกประมาณนี้ ก็เลยไปจ่าย คนแก่เขาก็เชื่อ

เขาไม่ได้มีเจตนาเบี้ยวหรอก พอบอกแบบนั้นเขาก็ไปจ่ายทันที
เพียงแต่พนักงานก็พยายามโกหก ทั้งๆที่มันไม่จริงทั้งหมด พอญาติมาเล่าจนผมรู้เลยไม่ชอบครับ

ไม่ชอบในความไม่จริงใจ พูดความจริงไม่ 100% มีคำโกหกผสมครับ  


1. เห็นด้วยครับ ไม่ว่าพฤติกรรม"ลูกค้า"จะเป็นยังไง ก็พนักงานก็ต้องมีมาตรฐาน แต่ก็ต้องแยกสถานะให้ออกระหว่าง"ลูกค้า"กับ"ลูกหนี้"ด้วยครับ มันคนละสถานะอย่างชัดเจน
และที่สำคัญคือ ลูกหนี้ก็แบ่งเป็นหลายสถานะอีกเช่นกัน ลูกหนี้ชั้นดี, ลูกหนี้ค้างนานเกินกำหนดมาก, ฯลฯ

2. ลืมจ่าย กับเบี้ยวหนี้ มีแค่เส้นบางๆกันแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน และที่สำคัญ นั่นคือปรับสถานะเกินจาก"ลูกค้า"ไปไกลมากแล้วจนเป็นลูกหนี้ที่ต้องตามทวง ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ"ลูกค้า"ที่ท่านอ้างถึงแน่ๆ และการโดนหลอก ก็ควรจะชัดเจนหน่อยมั๊ยครับ ว่าหลอกอะไร พูดอะไรไม่จริงบ้าง ซึ่งของพวกนี้ฟ้องร้อง ร้องเรียนได้เลย...ถ้ามีหลักฐาน
แต่ถ้าเป็น ผู้ใหญ่อายุ 60 ที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเน็ต(ตามที่ท่านว่า) รับฟังข้อมูลครบถ้วน และทำตามอย่างชัดเจนแล้ว หรือแค่ฟังจับใจความเท่าที่อยากฟัง แล้วไม่เป็นอย่างที่คิด เลยบอกว่า"เขาโกหก"...อันนี้ผมคงไม่ฟันธงจากการฟังความข้างเดียว เพราะมันเป็นไปได้ทั้งหมดครับ

ถ้ามั่นใจในข้อมูลและมีหลักฐานชัดเจน แนะนำให้ท่านร้องเรียนและฟ้องร้องอย่างเป็นเรื่องเป็นราวครับ

Edit เพิ่มเติมหลังจากเห็นคำตอบในคอมเม้นท์อื่น :
ที่ชัดเจนคือ "เมื่อถึงกำหนดชำระ ผู้ใช้บริการ(ควร)ต้องชำระทันที"ครับ ไม่ใช่กำหนดผลัดผ่อน โน่นนี่นั่นอะไร อันนั้นแค่การอะลุ้มอล่วยให้จากผู้ให้บริการ "แต่ไม่ใช่มาตรฐานที่ต้องปฏิบัติได้"ตามที่ท่านถามหา มาตรฐานคือ"ต้องจ่ายทันที"ครับ ส่วนถ้าไม่จ่ายจะโดนอะไร อันนี้คงคอมเม้นท์ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้พูดถึงอย่างชัดเจน และยืนยันไม่ได้ว่าผู้ทวงพูดจริง หรือเป็นคำกล่าวอ้าง
สิ่งที่ต้องทำ 100% คือ"จ่ายตามกำหนด โดยไม่มีการลืม" ไม่ใช่เอาเหตุอื่นมากลบ การลืม/ไม่ชำระ/ชำระล่าช้าครับ  


สิ่งที่คุณพูดมีช่องโหว่นะครับ ผมใช้คำว่า "ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง" แปลว่าเป็นยังไงก็ได้ ต้องปฎิบัติเหมือนเดิมมีมาตรฐาน
คุณบอกว่าเห็นด้วย แต่ต้องแยกลูกค้า กับ ลูกหนี้ คำพูดมันขัดกันนะครับ
แสดงว่าที่บอกว่า ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง ใช้ไมไ่ด้สิครับ เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นลูกหนี้ได้ยังไง

เอาเป็นว่าแล้วแต่คุณจะเรียกเลยครับ ลูกค้า ลูกหนี้

ส่วนสำคัญคือ การใช้คำพูด พูดจริง ไม่พูดโกหก หรือ พูดไม่ดี จะสถานะลูกหนี้ หรือ ลูกค้า
ผู้ให้บริการควรควรปฎิบัติไม่ล้ำเส้น ไม่หลอกลวง หรือ พูดจาให้สภาวะจิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เช่นกลัว แล้วโน้มน้าวให้เป็นไปตามต้องการ

ให้ผมยกตัวอย่างนะครับ เช่น จะติดแบลคลิสบูโร เสียเครดิต ผมไปหาข้อมูลมาแล้วไม่จริงครับ
แต่เขาบอกญาติผมแบบนี้ ญาติผมก็ไปเสียค่าบริการ

เรื่องจ่ายแน่นอนต้องจ่าย แน่นอน แต่เหตุผลที่ผมยกมาคุณคิดว่าไงบ้างครับ  


ไม่ได้มีช่องโหว่เลยครับ เพราะมันชัดเจนว่า
1. ลูกค้า = ผู้ใช้บริการ"ที่ดี" ชำระตรงเวลาโดยไม่ต้องทวงอะไร
2. ลูกหนี้ = ผู้ที่ค้างชำระ

นั่นคือแปลว่า แม้ว่าจะเป็นผู้ใช้บริการปัจจุบัน แต่ถ้ามียอดค้างชำระ ก็"มีทั้งสองสถานะ"ในคราวเดียว ซึ่งก็ต้องแยกให้ออกกันทั้งคู่ ว่า ณ ขณะที่คุย คุณอยู่ในสถานะไหน ไม่ใช่ว่าค้างหนี้จนต้องทวง แล้วเขาทวงในฐานะเจ้าหนี้/ลูกหนี้ แล้วมาอ้างตัวในสถานะลูกค้า มันคนละเรื่อง แยกสถานะตอนคุยให้ออกก่อน
ยิ่งถ้าหมดสภาพลูกค้าแล้ว คงไม่สามารถอ้างการ"เคยเป็นลูกค้า"มากลบสถานะลูกหนี้ได้

ในส่วนของการคุย ก็ต้องแยกให้ออกเช่นกัน ว่าขอบเขตในการคุยเป็นยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ"ต้องจ่ายทันที"สำหรับหนี้ค้าง ไม่ใช่"มีระยะเวลาผลัดผ่อน"เหมือนที่ท่านเข้าใจ

และผมก็ไม่ทราบหรอกนะ ว่าสถานะของ"หนี้"เลยเถิดไปถึงไหนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเหตุผลที่ท่านยกมาทั้งหมด"เป็นเท็จ"
- เครดิตบูโร/ประวัติเสีย/เครดิตเสีย : ถ้าเป็นยอดค้างแค่ 1-2 เดือน นั่นอาจจะเป็นเท็จ แต่ถ้าเป็นยอดค้างในลักษณะขายหนี้หรือเตรียมฟ้อง ก็ไม่ใช่เรื่องเท็จอะไร...หาข้อมูลดีๆครับ ไม่ใช่จะเท็จ 100% อย่างที่ท่านว่า ซึ่งถ้าเล่นแง่แบบนี้ ก็ไม่ได้ผิดอะไร
เพราะในส่วนของการเล่นแง่ ทางผู้ทวงก็สามารถพูดได้เช่นกัน ว่าท่าน"เล่นแง่"ไม่ชำระหนี้ ส่วนจะลืม หรือจงใจไม่ชำระ นั่นเป็นเรื่องภายส่วนตัวท่าน ซึ่งไม่สามารถยกเป็นข้ออ้างอย่างเป็นทางการได้ เพราะพิสูจน์ยากหรือพิสูจน์ไม่ได้
ในส่วนของการ"ต้องจ่ายแน่นอน" ขอโทษนะครับ แม้กระทั่งเป็นเหตุผลในศาล ศาลยังปัดตกเลยครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีแก้"ที่ถูกต้อง"คือ ไม่ให้มีหนี้ค้าง และจ่ายชำระให้ตรงเวลา ไม่ใช่ค้างได้ ผลัดผ่อนจนเขาต้องโทรทวง
ส่วนถ้าตกในสถานะที่เป็นลูกหนี้ขนาดต้องทวง แล้วเขาพูดไม่ถูกใจ ถ้าท่านมั่นใจในเหตุผลและหลักฐานที่มี ก็มีช่องร้องเรียน/ฟ้องร้องครับ...ทำได้เลย
แต่ระวังนะ เห็นแว็บๆว่าจะด่าเขากลับ ก็ระวังโดนฟ้องหมิ่นประมาทเพิ่มจากค่าใช้บริการด้วยแล้วกันครับ เพราะเสียงด่าของท่านจะเป็นหลักฐานให้เขาเสียเอง

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 30 Sep 2021
ตอบ: 2703
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Feb 25, 2023 12:46
[RE: เพิ่งรู้ว่า AIS มีการจ้าง OutSource บริษัทด้านนอกสำหรับทวงคนที่ค้างจ่ายค่าบริการโดยเฉพาะ]
Spoil
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
TAA66 พิมพ์ว่า:
เดาว่าเป็นพวกบริษัทซื้อหนี้เสียรึเปล่า
ประมูลซื้อหนี้เสียตามองค์กรต่างๆ แล้วไปตามทวงเอากำไรจากตรงนั้น  


พนักงานแจ้งยอดคงค้างทั่วไปน่ะครับ
สังเกตุง่ายๆว่า ปรกติจะไม่ใช่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ของทางค่ายโทรมา แต่จะเป็นเบอร์มือถือธรรมดา

ซึ่งในกรณีทั่วๆไป ไม่ได้มียอดค้างอะไร ก็แค่โทรมาแจ้งแล้วก็วางสาย
แต่ถ้าเป็นประเภทต้องหลอกต้องโน่นนี่นั่น อาจจะต้องดูพฤติกรรมคนใช้งานประกอบด้วย

แต่ถ้าเป็นในส่วนของยอดค้างหลังตัดสัญญาณมือถือไปแล้ว
เป็นเรื่องน่าแปลกใจครับ...เปล่า ผมไม่ค่อยแปลกใจพฤติกรรมคนทวง แต่แปลกใจว่าเบี้ยวหนี้เขาแล้วยังคาดหวังพฤติกรรมดีนอบน้อมอีกเหรอ ตลกดีครับ

 


พูดเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีเรื่องโกหกผสม ดีกว่าหรือเปล่าครับ มันดูทำงานแบบไม่จริงใจ หวังแต่ผลลัพธ์
"ไม่ว่าพฤติกรรมลูกค้าจะเป็นยังไง พนักงานควรมีมาตรฐานนะครับ เป็นสิ่งสำคัญในงานบริการ"

คำสอนนี้ผมเคยอ่านเจอในหลายๆองค์กร หรือ ในวิชาเรียน เขาก็สอนกันนะครับ

อ้อนี่ไม่ใช่ผมนะครับ ญาติผมอายุ 60 กว่าๆ ไม่ค่อยมีความรู้ติดเน็ต แล้วลืมจ่าย โดนโทรทวงแล้วโดนหลอกประมาณนี้ ก็เลยไปจ่าย คนแก่เขาก็เชื่อ

เขาไม่ได้มีเจตนาเบี้ยวหรอก พอบอกแบบนั้นเขาก็ไปจ่ายทันที
เพียงแต่พนักงานก็พยายามโกหก ทั้งๆที่มันไม่จริงทั้งหมด พอญาติมาเล่าจนผมรู้เลยไม่ชอบครับ

ไม่ชอบในความไม่จริงใจ พูดความจริงไม่ 100% มีคำโกหกผสมครับ  


1. เห็นด้วยครับ ไม่ว่าพฤติกรรม"ลูกค้า"จะเป็นยังไง ก็พนักงานก็ต้องมีมาตรฐาน แต่ก็ต้องแยกสถานะให้ออกระหว่าง"ลูกค้า"กับ"ลูกหนี้"ด้วยครับ มันคนละสถานะอย่างชัดเจน
และที่สำคัญคือ ลูกหนี้ก็แบ่งเป็นหลายสถานะอีกเช่นกัน ลูกหนี้ชั้นดี, ลูกหนี้ค้างนานเกินกำหนดมาก, ฯลฯ

2. ลืมจ่าย กับเบี้ยวหนี้ มีแค่เส้นบางๆกันแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน และที่สำคัญ นั่นคือปรับสถานะเกินจาก"ลูกค้า"ไปไกลมากแล้วจนเป็นลูกหนี้ที่ต้องตามทวง ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ"ลูกค้า"ที่ท่านอ้างถึงแน่ๆ และการโดนหลอก ก็ควรจะชัดเจนหน่อยมั๊ยครับ ว่าหลอกอะไร พูดอะไรไม่จริงบ้าง ซึ่งของพวกนี้ฟ้องร้อง ร้องเรียนได้เลย...ถ้ามีหลักฐาน
แต่ถ้าเป็น ผู้ใหญ่อายุ 60 ที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเน็ต(ตามที่ท่านว่า) รับฟังข้อมูลครบถ้วน และทำตามอย่างชัดเจนแล้ว หรือแค่ฟังจับใจความเท่าที่อยากฟัง แล้วไม่เป็นอย่างที่คิด เลยบอกว่า"เขาโกหก"...อันนี้ผมคงไม่ฟันธงจากการฟังความข้างเดียว เพราะมันเป็นไปได้ทั้งหมดครับ

ถ้ามั่นใจในข้อมูลและมีหลักฐานชัดเจน แนะนำให้ท่านร้องเรียนและฟ้องร้องอย่างเป็นเรื่องเป็นราวครับ

Edit เพิ่มเติมหลังจากเห็นคำตอบในคอมเม้นท์อื่น :
ที่ชัดเจนคือ "เมื่อถึงกำหนดชำระ ผู้ใช้บริการ(ควร)ต้องชำระทันที"ครับ ไม่ใช่กำหนดผลัดผ่อน โน่นนี่นั่นอะไร อันนั้นแค่การอะลุ้มอล่วยให้จากผู้ให้บริการ "แต่ไม่ใช่มาตรฐานที่ต้องปฏิบัติได้"ตามที่ท่านถามหา มาตรฐานคือ"ต้องจ่ายทันที"ครับ ส่วนถ้าไม่จ่ายจะโดนอะไร อันนี้คงคอมเม้นท์ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้พูดถึงอย่างชัดเจน และยืนยันไม่ได้ว่าผู้ทวงพูดจริง หรือเป็นคำกล่าวอ้าง
สิ่งที่ต้องทำ 100% คือ"จ่ายตามกำหนด โดยไม่มีการลืม" ไม่ใช่เอาเหตุอื่นมากลบ การลืม/ไม่ชำระ/ชำระล่าช้าครับ  


สิ่งที่คุณพูดมีช่องโหว่นะครับ ผมใช้คำว่า "ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง" แปลว่าเป็นยังไงก็ได้ ต้องปฎิบัติเหมือนเดิมมีมาตรฐาน
คุณบอกว่าเห็นด้วย แต่ต้องแยกลูกค้า กับ ลูกหนี้ คำพูดมันขัดกันนะครับ
แสดงว่าที่บอกว่า ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง ใช้ไมไ่ด้สิครับ เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นลูกหนี้ได้ยังไง

เอาเป็นว่าแล้วแต่คุณจะเรียกเลยครับ ลูกค้า ลูกหนี้

ส่วนสำคัญคือ การใช้คำพูด พูดจริง ไม่พูดโกหก หรือ พูดไม่ดี จะสถานะลูกหนี้ หรือ ลูกค้า
ผู้ให้บริการควรควรปฎิบัติไม่ล้ำเส้น ไม่หลอกลวง หรือ พูดจาให้สภาวะจิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เช่นกลัว แล้วโน้มน้าวให้เป็นไปตามต้องการ

ให้ผมยกตัวอย่างนะครับ เช่น จะติดแบลคลิสบูโร เสียเครดิต ผมไปหาข้อมูลมาแล้วไม่จริงครับ
แต่เขาบอกญาติผมแบบนี้ ญาติผมก็ไปเสียค่าบริการ

เรื่องจ่ายแน่นอนต้องจ่าย แน่นอน แต่เหตุผลที่ผมยกมาคุณคิดว่าไงบ้างครับ  


ไม่ได้มีช่องโหว่เลยครับ เพราะมันชัดเจนว่า
1. ลูกค้า = ผู้ใช้บริการ"ที่ดี" ชำระตรงเวลาโดยไม่ต้องทวงอะไร
2. ลูกหนี้ = ผู้ที่ค้างชำระ

นั่นคือแปลว่า แม้ว่าจะเป็นผู้ใช้บริการปัจจุบัน แต่ถ้ามียอดค้างชำระ ก็"มีทั้งสองสถานะ"ในคราวเดียว ซึ่งก็ต้องแยกให้ออกกันทั้งคู่ ว่า ณ ขณะที่คุย คุณอยู่ในสถานะไหน ไม่ใช่ว่าค้างหนี้จนต้องทวง แล้วเขาทวงในฐานะเจ้าหนี้/ลูกหนี้ แล้วมาอ้างตัวในสถานะลูกค้า มันคนละเรื่อง แยกสถานะตอนคุยให้ออกก่อน
ยิ่งถ้าหมดสภาพลูกค้าแล้ว คงไม่สามารถอ้างการ"เคยเป็นลูกค้า"มากลบสถานะลูกหนี้ได้

ในส่วนของการคุย ก็ต้องแยกให้ออกเช่นกัน ว่าขอบเขตในการคุยเป็นยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ"ต้องจ่ายทันที"สำหรับหนี้ค้าง ไม่ใช่"มีระยะเวลาผลัดผ่อน"เหมือนที่ท่านเข้าใจ

และผมก็ไม่ทราบหรอกนะ ว่าสถานะของ"หนี้"เลยเถิดไปถึงไหนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเหตุผลที่ท่านยกมาทั้งหมด"เป็นเท็จ"
- เครดิตบูโร/ประวัติเสีย/เครดิตเสีย : ถ้าเป็นยอดค้างแค่ 1-2 เดือน นั่นอาจจะเป็นเท็จ แต่ถ้าเป็นยอดค้างในลักษณะขายหนี้หรือเตรียมฟ้อง ก็ไม่ใช่เรื่องเท็จอะไร...หาข้อมูลดีๆครับ ไม่ใช่จะเท็จ 100% อย่างที่ท่านว่า ซึ่งถ้าเล่นแง่แบบนี้ ก็ไม่ได้ผิดอะไร
เพราะในส่วนของการเล่นแง่ ทางผู้ทวงก็สามารถพูดได้เช่นกัน ว่าท่าน"เล่นแง่"ไม่ชำระหนี้ ส่วนจะลืม หรือจงใจไม่ชำระ นั่นเป็นเรื่องภายส่วนตัวท่าน ซึ่งไม่สามารถยกเป็นข้ออ้างอย่างเป็นทางการได้ เพราะพิสูจน์ยากหรือพิสูจน์ไม่ได้
ในส่วนของการ"ต้องจ่ายแน่นอน" ขอโทษนะครับ แม้กระทั่งเป็นเหตุผลในศาล ศาลยังปัดตกเลยครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีแก้"ที่ถูกต้อง"คือ ไม่ให้มีหนี้ค้าง และจ่ายชำระให้ตรงเวลา ไม่ใช่ค้างได้ ผลัดผ่อนจนเขาต้องโทรทวง
ส่วนถ้าตกในสถานะที่เป็นลูกหนี้ขนาดต้องทวง แล้วเขาพูดไม่ถูกใจ ถ้าท่านมั่นใจในเหตุผลและหลักฐานที่มี ก็มีช่องร้องเรียน/ฟ้องร้องครับ...ทำได้เลย
แต่ระวังนะ เห็นแว็บๆว่าจะด่าเขากลับ ก็ระวังโดนฟ้องหมิ่นประมาทเพิ่มจากค่าใช้บริการด้วยแล้วกันครับ เพราะเสียงด่าของท่านจะเป็นหลักฐานให้เขาเสียเอง

 
 


ขอบคุณที่อธิบายครับ เข้าใจละ และ ผมกับ ญาติก็ไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยวอะไรอยู่แล้ว
ก็ขอรับฟังที่ท่านอธิบายมาละกันครับ

ย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาจะผลัดผ่อนนะครับ

ประเด็นมีแค่จุดเดียวคือ ผมเป็นคนไม่ชอบให้ใครพูดไม่ดี หรือ ไม่ถูกใจตามความเข้าใจของท่าน
เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบการเอาคืน ชอบการเอาชนะ
ถ้าสมมุติมันเกิดขึ้นอีก ผมมีวิธีตั้งรับ ถามชื่อเผื่อร้องเรียน และที่ว่าด่านั่น คงไม่ได้ด่าตรงๆให้ตัวเองเสียเปรียบหรอกครับ คำพูดเรียบๆนี่เหละครับ แต่แฝงไปด้วยความกวนTeen แบบสุภาพๆ

อย่างน้อยต้องสวนกลับแน่นอนครับ ย้่ำนะครับเรื่องหลักๆผมเข้าใจท่านนะครับ เรื่องชำระเงิน แต่ถ้าผมไมไ่ด้เอาคืนผมจะไม่สบายใจแค่นั้นละครับ

อ้อที่ท่านบอกว่าร้องเรียน ผมให้ความสำคัญเป็นลำดับรองนะครับ เพราะถึงขั้น AIS จ้างบริษัทOutsoure มาโดยเฉพาะแสดงว่า รู้ถึงผลที่จะตามมาอยู่แล้ว ต้องการภาพลักษณ์ที่ดีเลยไม่ลงมือเองจ้างบริษัทนอก ร้องเรียนไปคงได้แค่ตักเตือนเป็นอย่างมาก เขาคงรู้เห็นกันเหละครับ

เลยเน้นเอาคืนทางคำพูดแบบสุภาพๆผู้ดีดีกว่าครับ แค่นั้นจบ
แก้ไขล่าสุดโดย asadong851 เมื่อ Sat Feb 25, 2023 12:50, ทั้งหมด 4 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Nov 2010
ตอบ: 8403
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Feb 25, 2023 14:17
[RE: เพิ่งรู้ว่า AIS มีการจ้าง OutSource บริษัทด้านนอกสำหรับทวงคนที่ค้างจ่ายค่าบริการโดยเฉพาะ]
asadong851 พิมพ์ว่า:
Spoil
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
TAA66 พิมพ์ว่า:
เดาว่าเป็นพวกบริษัทซื้อหนี้เสียรึเปล่า
ประมูลซื้อหนี้เสียตามองค์กรต่างๆ แล้วไปตามทวงเอากำไรจากตรงนั้น  


พนักงานแจ้งยอดคงค้างทั่วไปน่ะครับ
สังเกตุง่ายๆว่า ปรกติจะไม่ใช่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ของทางค่ายโทรมา แต่จะเป็นเบอร์มือถือธรรมดา

ซึ่งในกรณีทั่วๆไป ไม่ได้มียอดค้างอะไร ก็แค่โทรมาแจ้งแล้วก็วางสาย
แต่ถ้าเป็นประเภทต้องหลอกต้องโน่นนี่นั่น อาจจะต้องดูพฤติกรรมคนใช้งานประกอบด้วย

แต่ถ้าเป็นในส่วนของยอดค้างหลังตัดสัญญาณมือถือไปแล้ว
เป็นเรื่องน่าแปลกใจครับ...เปล่า ผมไม่ค่อยแปลกใจพฤติกรรมคนทวง แต่แปลกใจว่าเบี้ยวหนี้เขาแล้วยังคาดหวังพฤติกรรมดีนอบน้อมอีกเหรอ ตลกดีครับ

 


พูดเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีเรื่องโกหกผสม ดีกว่าหรือเปล่าครับ มันดูทำงานแบบไม่จริงใจ หวังแต่ผลลัพธ์
"ไม่ว่าพฤติกรรมลูกค้าจะเป็นยังไง พนักงานควรมีมาตรฐานนะครับ เป็นสิ่งสำคัญในงานบริการ"

คำสอนนี้ผมเคยอ่านเจอในหลายๆองค์กร หรือ ในวิชาเรียน เขาก็สอนกันนะครับ

อ้อนี่ไม่ใช่ผมนะครับ ญาติผมอายุ 60 กว่าๆ ไม่ค่อยมีความรู้ติดเน็ต แล้วลืมจ่าย โดนโทรทวงแล้วโดนหลอกประมาณนี้ ก็เลยไปจ่าย คนแก่เขาก็เชื่อ

เขาไม่ได้มีเจตนาเบี้ยวหรอก พอบอกแบบนั้นเขาก็ไปจ่ายทันที
เพียงแต่พนักงานก็พยายามโกหก ทั้งๆที่มันไม่จริงทั้งหมด พอญาติมาเล่าจนผมรู้เลยไม่ชอบครับ

ไม่ชอบในความไม่จริงใจ พูดความจริงไม่ 100% มีคำโกหกผสมครับ  


1. เห็นด้วยครับ ไม่ว่าพฤติกรรม"ลูกค้า"จะเป็นยังไง ก็พนักงานก็ต้องมีมาตรฐาน แต่ก็ต้องแยกสถานะให้ออกระหว่าง"ลูกค้า"กับ"ลูกหนี้"ด้วยครับ มันคนละสถานะอย่างชัดเจน
และที่สำคัญคือ ลูกหนี้ก็แบ่งเป็นหลายสถานะอีกเช่นกัน ลูกหนี้ชั้นดี, ลูกหนี้ค้างนานเกินกำหนดมาก, ฯลฯ

2. ลืมจ่าย กับเบี้ยวหนี้ มีแค่เส้นบางๆกันแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน และที่สำคัญ นั่นคือปรับสถานะเกินจาก"ลูกค้า"ไปไกลมากแล้วจนเป็นลูกหนี้ที่ต้องตามทวง ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ"ลูกค้า"ที่ท่านอ้างถึงแน่ๆ และการโดนหลอก ก็ควรจะชัดเจนหน่อยมั๊ยครับ ว่าหลอกอะไร พูดอะไรไม่จริงบ้าง ซึ่งของพวกนี้ฟ้องร้อง ร้องเรียนได้เลย...ถ้ามีหลักฐาน
แต่ถ้าเป็น ผู้ใหญ่อายุ 60 ที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเน็ต(ตามที่ท่านว่า) รับฟังข้อมูลครบถ้วน และทำตามอย่างชัดเจนแล้ว หรือแค่ฟังจับใจความเท่าที่อยากฟัง แล้วไม่เป็นอย่างที่คิด เลยบอกว่า"เขาโกหก"...อันนี้ผมคงไม่ฟันธงจากการฟังความข้างเดียว เพราะมันเป็นไปได้ทั้งหมดครับ

ถ้ามั่นใจในข้อมูลและมีหลักฐานชัดเจน แนะนำให้ท่านร้องเรียนและฟ้องร้องอย่างเป็นเรื่องเป็นราวครับ

Edit เพิ่มเติมหลังจากเห็นคำตอบในคอมเม้นท์อื่น :
ที่ชัดเจนคือ "เมื่อถึงกำหนดชำระ ผู้ใช้บริการ(ควร)ต้องชำระทันที"ครับ ไม่ใช่กำหนดผลัดผ่อน โน่นนี่นั่นอะไร อันนั้นแค่การอะลุ้มอล่วยให้จากผู้ให้บริการ "แต่ไม่ใช่มาตรฐานที่ต้องปฏิบัติได้"ตามที่ท่านถามหา มาตรฐานคือ"ต้องจ่ายทันที"ครับ ส่วนถ้าไม่จ่ายจะโดนอะไร อันนี้คงคอมเม้นท์ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้พูดถึงอย่างชัดเจน และยืนยันไม่ได้ว่าผู้ทวงพูดจริง หรือเป็นคำกล่าวอ้าง
สิ่งที่ต้องทำ 100% คือ"จ่ายตามกำหนด โดยไม่มีการลืม" ไม่ใช่เอาเหตุอื่นมากลบ การลืม/ไม่ชำระ/ชำระล่าช้าครับ  


สิ่งที่คุณพูดมีช่องโหว่นะครับ ผมใช้คำว่า "ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง" แปลว่าเป็นยังไงก็ได้ ต้องปฎิบัติเหมือนเดิมมีมาตรฐาน
คุณบอกว่าเห็นด้วย แต่ต้องแยกลูกค้า กับ ลูกหนี้ คำพูดมันขัดกันนะครับ
แสดงว่าที่บอกว่า ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง ใช้ไมไ่ด้สิครับ เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นลูกหนี้ได้ยังไง

เอาเป็นว่าแล้วแต่คุณจะเรียกเลยครับ ลูกค้า ลูกหนี้

ส่วนสำคัญคือ การใช้คำพูด พูดจริง ไม่พูดโกหก หรือ พูดไม่ดี จะสถานะลูกหนี้ หรือ ลูกค้า
ผู้ให้บริการควรควรปฎิบัติไม่ล้ำเส้น ไม่หลอกลวง หรือ พูดจาให้สภาวะจิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เช่นกลัว แล้วโน้มน้าวให้เป็นไปตามต้องการ

ให้ผมยกตัวอย่างนะครับ เช่น จะติดแบลคลิสบูโร เสียเครดิต ผมไปหาข้อมูลมาแล้วไม่จริงครับ
แต่เขาบอกญาติผมแบบนี้ ญาติผมก็ไปเสียค่าบริการ

เรื่องจ่ายแน่นอนต้องจ่าย แน่นอน แต่เหตุผลที่ผมยกมาคุณคิดว่าไงบ้างครับ  


ไม่ได้มีช่องโหว่เลยครับ เพราะมันชัดเจนว่า
1. ลูกค้า = ผู้ใช้บริการ"ที่ดี" ชำระตรงเวลาโดยไม่ต้องทวงอะไร
2. ลูกหนี้ = ผู้ที่ค้างชำระ

นั่นคือแปลว่า แม้ว่าจะเป็นผู้ใช้บริการปัจจุบัน แต่ถ้ามียอดค้างชำระ ก็"มีทั้งสองสถานะ"ในคราวเดียว ซึ่งก็ต้องแยกให้ออกกันทั้งคู่ ว่า ณ ขณะที่คุย คุณอยู่ในสถานะไหน ไม่ใช่ว่าค้างหนี้จนต้องทวง แล้วเขาทวงในฐานะเจ้าหนี้/ลูกหนี้ แล้วมาอ้างตัวในสถานะลูกค้า มันคนละเรื่อง แยกสถานะตอนคุยให้ออกก่อน
ยิ่งถ้าหมดสภาพลูกค้าแล้ว คงไม่สามารถอ้างการ"เคยเป็นลูกค้า"มากลบสถานะลูกหนี้ได้

ในส่วนของการคุย ก็ต้องแยกให้ออกเช่นกัน ว่าขอบเขตในการคุยเป็นยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ"ต้องจ่ายทันที"สำหรับหนี้ค้าง ไม่ใช่"มีระยะเวลาผลัดผ่อน"เหมือนที่ท่านเข้าใจ

และผมก็ไม่ทราบหรอกนะ ว่าสถานะของ"หนี้"เลยเถิดไปถึงไหนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเหตุผลที่ท่านยกมาทั้งหมด"เป็นเท็จ"
- เครดิตบูโร/ประวัติเสีย/เครดิตเสีย : ถ้าเป็นยอดค้างแค่ 1-2 เดือน นั่นอาจจะเป็นเท็จ แต่ถ้าเป็นยอดค้างในลักษณะขายหนี้หรือเตรียมฟ้อง ก็ไม่ใช่เรื่องเท็จอะไร...หาข้อมูลดีๆครับ ไม่ใช่จะเท็จ 100% อย่างที่ท่านว่า ซึ่งถ้าเล่นแง่แบบนี้ ก็ไม่ได้ผิดอะไร
เพราะในส่วนของการเล่นแง่ ทางผู้ทวงก็สามารถพูดได้เช่นกัน ว่าท่าน"เล่นแง่"ไม่ชำระหนี้ ส่วนจะลืม หรือจงใจไม่ชำระ นั่นเป็นเรื่องภายส่วนตัวท่าน ซึ่งไม่สามารถยกเป็นข้ออ้างอย่างเป็นทางการได้ เพราะพิสูจน์ยากหรือพิสูจน์ไม่ได้
ในส่วนของการ"ต้องจ่ายแน่นอน" ขอโทษนะครับ แม้กระทั่งเป็นเหตุผลในศาล ศาลยังปัดตกเลยครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีแก้"ที่ถูกต้อง"คือ ไม่ให้มีหนี้ค้าง และจ่ายชำระให้ตรงเวลา ไม่ใช่ค้างได้ ผลัดผ่อนจนเขาต้องโทรทวง
ส่วนถ้าตกในสถานะที่เป็นลูกหนี้ขนาดต้องทวง แล้วเขาพูดไม่ถูกใจ ถ้าท่านมั่นใจในเหตุผลและหลักฐานที่มี ก็มีช่องร้องเรียน/ฟ้องร้องครับ...ทำได้เลย
แต่ระวังนะ เห็นแว็บๆว่าจะด่าเขากลับ ก็ระวังโดนฟ้องหมิ่นประมาทเพิ่มจากค่าใช้บริการด้วยแล้วกันครับ เพราะเสียงด่าของท่านจะเป็นหลักฐานให้เขาเสียเอง

 
 


ขอบคุณที่อธิบายครับ เข้าใจละ และ ผมกับ ญาติก็ไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยวอะไรอยู่แล้ว
ก็ขอรับฟังที่ท่านอธิบายมาละกันครับ

ย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาจะผลัดผ่อนนะครับ

ประเด็นมีแค่จุดเดียวคือ ผมเป็นคนไม่ชอบให้ใครพูดไม่ดี หรือ ไม่ถูกใจตามความเข้าใจของท่าน
เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบการเอาคืน ชอบการเอาชนะ
ถ้าสมมุติมันเกิดขึ้นอีก ผมมีวิธีตั้งรับ ถามชื่อเผื่อร้องเรียน และที่ว่าด่านั่น คงไม่ได้ด่าตรงๆให้ตัวเองเสียเปรียบหรอกครับ คำพูดเรียบๆนี่เหละครับ แต่แฝงไปด้วยความกวนTeen แบบสุภาพๆ

อย่างน้อยต้องสวนกลับแน่นอนครับ ย้่ำนะครับเรื่องหลักๆผมเข้าใจท่านนะครับ เรื่องชำระเงิน แต่ถ้าผมไมไ่ด้เอาคืนผมจะไม่สบายใจแค่นั้นละครับ

อ้อที่ท่านบอกว่าร้องเรียน ผมให้ความสำคัญเป็นลำดับรองนะครับ เพราะถึงขั้น AIS จ้างบริษัทOutsoure มาโดยเฉพาะแสดงว่า รู้ถึงผลที่จะตามมาอยู่แล้ว ต้องการภาพลักษณ์ที่ดีเลยไม่ลงมือเองจ้างบริษัทนอก ร้องเรียนไปคงได้แค่ตักเตือนเป็นอย่างมาก เขาคงรู้เห็นกันเหละครับ

เลยเน้นเอาคืนทางคำพูดแบบสุภาพๆผู้ดีดีกว่าครับ แค่นั้นจบ
 


อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกครับ ถ้าท่านคิดว่าจำเป็นต้องสวนเพื่อบรรเทาความไม่สบายใจของท่าน ผมก็คงไม่แย้งอะไร...แค่หาสาระของการกระทำไม่ได้

และเอาตรงๆแม้ว่าท่านสวนไปจะสุภาพ จะหยาบคาย จะกวนประสาทยังไงก็แล้วแต่ ผมก็ไม่คิดว่าทางผู้ฟังหรือผู้สนทนาจะเดือดร้อนอะไรนะ กลับกันเลยจะกลายเป็นแค่ท่านเดือด/ไม่สบายใจอยู่ฝ่ายเดียว

ตามสะดวกครับท่าน ไม่ว่ากัน

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 30 Sep 2021
ตอบ: 2703
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Feb 25, 2023 21:39
[RE: เพิ่งรู้ว่า AIS มีการจ้าง OutSource บริษัทด้านนอกสำหรับทวงคนที่ค้างจ่ายค่าบริการโดยเฉพาะ]
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Spoil
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
asadong851 พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
TAA66 พิมพ์ว่า:
เดาว่าเป็นพวกบริษัทซื้อหนี้เสียรึเปล่า
ประมูลซื้อหนี้เสียตามองค์กรต่างๆ แล้วไปตามทวงเอากำไรจากตรงนั้น  


พนักงานแจ้งยอดคงค้างทั่วไปน่ะครับ
สังเกตุง่ายๆว่า ปรกติจะไม่ใช่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ของทางค่ายโทรมา แต่จะเป็นเบอร์มือถือธรรมดา

ซึ่งในกรณีทั่วๆไป ไม่ได้มียอดค้างอะไร ก็แค่โทรมาแจ้งแล้วก็วางสาย
แต่ถ้าเป็นประเภทต้องหลอกต้องโน่นนี่นั่น อาจจะต้องดูพฤติกรรมคนใช้งานประกอบด้วย

แต่ถ้าเป็นในส่วนของยอดค้างหลังตัดสัญญาณมือถือไปแล้ว
เป็นเรื่องน่าแปลกใจครับ...เปล่า ผมไม่ค่อยแปลกใจพฤติกรรมคนทวง แต่แปลกใจว่าเบี้ยวหนี้เขาแล้วยังคาดหวังพฤติกรรมดีนอบน้อมอีกเหรอ ตลกดีครับ

 


พูดเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีเรื่องโกหกผสม ดีกว่าหรือเปล่าครับ มันดูทำงานแบบไม่จริงใจ หวังแต่ผลลัพธ์
"ไม่ว่าพฤติกรรมลูกค้าจะเป็นยังไง พนักงานควรมีมาตรฐานนะครับ เป็นสิ่งสำคัญในงานบริการ"

คำสอนนี้ผมเคยอ่านเจอในหลายๆองค์กร หรือ ในวิชาเรียน เขาก็สอนกันนะครับ

อ้อนี่ไม่ใช่ผมนะครับ ญาติผมอายุ 60 กว่าๆ ไม่ค่อยมีความรู้ติดเน็ต แล้วลืมจ่าย โดนโทรทวงแล้วโดนหลอกประมาณนี้ ก็เลยไปจ่าย คนแก่เขาก็เชื่อ

เขาไม่ได้มีเจตนาเบี้ยวหรอก พอบอกแบบนั้นเขาก็ไปจ่ายทันที
เพียงแต่พนักงานก็พยายามโกหก ทั้งๆที่มันไม่จริงทั้งหมด พอญาติมาเล่าจนผมรู้เลยไม่ชอบครับ

ไม่ชอบในความไม่จริงใจ พูดความจริงไม่ 100% มีคำโกหกผสมครับ  


1. เห็นด้วยครับ ไม่ว่าพฤติกรรม"ลูกค้า"จะเป็นยังไง ก็พนักงานก็ต้องมีมาตรฐาน แต่ก็ต้องแยกสถานะให้ออกระหว่าง"ลูกค้า"กับ"ลูกหนี้"ด้วยครับ มันคนละสถานะอย่างชัดเจน
และที่สำคัญคือ ลูกหนี้ก็แบ่งเป็นหลายสถานะอีกเช่นกัน ลูกหนี้ชั้นดี, ลูกหนี้ค้างนานเกินกำหนดมาก, ฯลฯ

2. ลืมจ่าย กับเบี้ยวหนี้ มีแค่เส้นบางๆกันแต่เป็นกลุ่มเดียวกัน และที่สำคัญ นั่นคือปรับสถานะเกินจาก"ลูกค้า"ไปไกลมากแล้วจนเป็นลูกหนี้ที่ต้องตามทวง ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ"ลูกค้า"ที่ท่านอ้างถึงแน่ๆ และการโดนหลอก ก็ควรจะชัดเจนหน่อยมั๊ยครับ ว่าหลอกอะไร พูดอะไรไม่จริงบ้าง ซึ่งของพวกนี้ฟ้องร้อง ร้องเรียนได้เลย...ถ้ามีหลักฐาน
แต่ถ้าเป็น ผู้ใหญ่อายุ 60 ที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเน็ต(ตามที่ท่านว่า) รับฟังข้อมูลครบถ้วน และทำตามอย่างชัดเจนแล้ว หรือแค่ฟังจับใจความเท่าที่อยากฟัง แล้วไม่เป็นอย่างที่คิด เลยบอกว่า"เขาโกหก"...อันนี้ผมคงไม่ฟันธงจากการฟังความข้างเดียว เพราะมันเป็นไปได้ทั้งหมดครับ

ถ้ามั่นใจในข้อมูลและมีหลักฐานชัดเจน แนะนำให้ท่านร้องเรียนและฟ้องร้องอย่างเป็นเรื่องเป็นราวครับ

Edit เพิ่มเติมหลังจากเห็นคำตอบในคอมเม้นท์อื่น :
ที่ชัดเจนคือ "เมื่อถึงกำหนดชำระ ผู้ใช้บริการ(ควร)ต้องชำระทันที"ครับ ไม่ใช่กำหนดผลัดผ่อน โน่นนี่นั่นอะไร อันนั้นแค่การอะลุ้มอล่วยให้จากผู้ให้บริการ "แต่ไม่ใช่มาตรฐานที่ต้องปฏิบัติได้"ตามที่ท่านถามหา มาตรฐานคือ"ต้องจ่ายทันที"ครับ ส่วนถ้าไม่จ่ายจะโดนอะไร อันนี้คงคอมเม้นท์ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้พูดถึงอย่างชัดเจน และยืนยันไม่ได้ว่าผู้ทวงพูดจริง หรือเป็นคำกล่าวอ้าง
สิ่งที่ต้องทำ 100% คือ"จ่ายตามกำหนด โดยไม่มีการลืม" ไม่ใช่เอาเหตุอื่นมากลบ การลืม/ไม่ชำระ/ชำระล่าช้าครับ  


สิ่งที่คุณพูดมีช่องโหว่นะครับ ผมใช้คำว่า "ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง" แปลว่าเป็นยังไงก็ได้ ต้องปฎิบัติเหมือนเดิมมีมาตรฐาน
คุณบอกว่าเห็นด้วย แต่ต้องแยกลูกค้า กับ ลูกหนี้ คำพูดมันขัดกันนะครับ
แสดงว่าที่บอกว่า ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง ใช้ไมไ่ด้สิครับ เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นลูกหนี้ได้ยังไง

เอาเป็นว่าแล้วแต่คุณจะเรียกเลยครับ ลูกค้า ลูกหนี้

ส่วนสำคัญคือ การใช้คำพูด พูดจริง ไม่พูดโกหก หรือ พูดไม่ดี จะสถานะลูกหนี้ หรือ ลูกค้า
ผู้ให้บริการควรควรปฎิบัติไม่ล้ำเส้น ไม่หลอกลวง หรือ พูดจาให้สภาวะจิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เช่นกลัว แล้วโน้มน้าวให้เป็นไปตามต้องการ

ให้ผมยกตัวอย่างนะครับ เช่น จะติดแบลคลิสบูโร เสียเครดิต ผมไปหาข้อมูลมาแล้วไม่จริงครับ
แต่เขาบอกญาติผมแบบนี้ ญาติผมก็ไปเสียค่าบริการ

เรื่องจ่ายแน่นอนต้องจ่าย แน่นอน แต่เหตุผลที่ผมยกมาคุณคิดว่าไงบ้างครับ  


ไม่ได้มีช่องโหว่เลยครับ เพราะมันชัดเจนว่า
1. ลูกค้า = ผู้ใช้บริการ"ที่ดี" ชำระตรงเวลาโดยไม่ต้องทวงอะไร
2. ลูกหนี้ = ผู้ที่ค้างชำระ

นั่นคือแปลว่า แม้ว่าจะเป็นผู้ใช้บริการปัจจุบัน แต่ถ้ามียอดค้างชำระ ก็"มีทั้งสองสถานะ"ในคราวเดียว ซึ่งก็ต้องแยกให้ออกกันทั้งคู่ ว่า ณ ขณะที่คุย คุณอยู่ในสถานะไหน ไม่ใช่ว่าค้างหนี้จนต้องทวง แล้วเขาทวงในฐานะเจ้าหนี้/ลูกหนี้ แล้วมาอ้างตัวในสถานะลูกค้า มันคนละเรื่อง แยกสถานะตอนคุยให้ออกก่อน
ยิ่งถ้าหมดสภาพลูกค้าแล้ว คงไม่สามารถอ้างการ"เคยเป็นลูกค้า"มากลบสถานะลูกหนี้ได้

ในส่วนของการคุย ก็ต้องแยกให้ออกเช่นกัน ว่าขอบเขตในการคุยเป็นยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ"ต้องจ่ายทันที"สำหรับหนี้ค้าง ไม่ใช่"มีระยะเวลาผลัดผ่อน"เหมือนที่ท่านเข้าใจ

และผมก็ไม่ทราบหรอกนะ ว่าสถานะของ"หนี้"เลยเถิดไปถึงไหนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเหตุผลที่ท่านยกมาทั้งหมด"เป็นเท็จ"
- เครดิตบูโร/ประวัติเสีย/เครดิตเสีย : ถ้าเป็นยอดค้างแค่ 1-2 เดือน นั่นอาจจะเป็นเท็จ แต่ถ้าเป็นยอดค้างในลักษณะขายหนี้หรือเตรียมฟ้อง ก็ไม่ใช่เรื่องเท็จอะไร...หาข้อมูลดีๆครับ ไม่ใช่จะเท็จ 100% อย่างที่ท่านว่า ซึ่งถ้าเล่นแง่แบบนี้ ก็ไม่ได้ผิดอะไร
เพราะในส่วนของการเล่นแง่ ทางผู้ทวงก็สามารถพูดได้เช่นกัน ว่าท่าน"เล่นแง่"ไม่ชำระหนี้ ส่วนจะลืม หรือจงใจไม่ชำระ นั่นเป็นเรื่องภายส่วนตัวท่าน ซึ่งไม่สามารถยกเป็นข้ออ้างอย่างเป็นทางการได้ เพราะพิสูจน์ยากหรือพิสูจน์ไม่ได้
ในส่วนของการ"ต้องจ่ายแน่นอน" ขอโทษนะครับ แม้กระทั่งเป็นเหตุผลในศาล ศาลยังปัดตกเลยครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีแก้"ที่ถูกต้อง"คือ ไม่ให้มีหนี้ค้าง และจ่ายชำระให้ตรงเวลา ไม่ใช่ค้างได้ ผลัดผ่อนจนเขาต้องโทรทวง
ส่วนถ้าตกในสถานะที่เป็นลูกหนี้ขนาดต้องทวง แล้วเขาพูดไม่ถูกใจ ถ้าท่านมั่นใจในเหตุผลและหลักฐานที่มี ก็มีช่องร้องเรียน/ฟ้องร้องครับ...ทำได้เลย
แต่ระวังนะ เห็นแว็บๆว่าจะด่าเขากลับ ก็ระวังโดนฟ้องหมิ่นประมาทเพิ่มจากค่าใช้บริการด้วยแล้วกันครับ เพราะเสียงด่าของท่านจะเป็นหลักฐานให้เขาเสียเอง

 
 


ขอบคุณที่อธิบายครับ เข้าใจละ และ ผมกับ ญาติก็ไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยวอะไรอยู่แล้ว
ก็ขอรับฟังที่ท่านอธิบายมาละกันครับ

ย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาจะผลัดผ่อนนะครับ

ประเด็นมีแค่จุดเดียวคือ ผมเป็นคนไม่ชอบให้ใครพูดไม่ดี หรือ ไม่ถูกใจตามความเข้าใจของท่าน
เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบการเอาคืน ชอบการเอาชนะ
ถ้าสมมุติมันเกิดขึ้นอีก ผมมีวิธีตั้งรับ ถามชื่อเผื่อร้องเรียน และที่ว่าด่านั่น คงไม่ได้ด่าตรงๆให้ตัวเองเสียเปรียบหรอกครับ คำพูดเรียบๆนี่เหละครับ แต่แฝงไปด้วยความกวนTeen แบบสุภาพๆ

อย่างน้อยต้องสวนกลับแน่นอนครับ ย้่ำนะครับเรื่องหลักๆผมเข้าใจท่านนะครับ เรื่องชำระเงิน แต่ถ้าผมไมไ่ด้เอาคืนผมจะไม่สบายใจแค่นั้นละครับ

อ้อที่ท่านบอกว่าร้องเรียน ผมให้ความสำคัญเป็นลำดับรองนะครับ เพราะถึงขั้น AIS จ้างบริษัทOutsoure มาโดยเฉพาะแสดงว่า รู้ถึงผลที่จะตามมาอยู่แล้ว ต้องการภาพลักษณ์ที่ดีเลยไม่ลงมือเองจ้างบริษัทนอก ร้องเรียนไปคงได้แค่ตักเตือนเป็นอย่างมาก เขาคงรู้เห็นกันเหละครับ

เลยเน้นเอาคืนทางคำพูดแบบสุภาพๆผู้ดีดีกว่าครับ แค่นั้นจบ
 


อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกครับ ถ้าท่านคิดว่าจำเป็นต้องสวนเพื่อบรรเทาความไม่สบายใจของท่าน ผมก็คงไม่แย้งอะไร...แค่หาสาระของการกระทำไม่ได้

และเอาตรงๆแม้ว่าท่านสวนไปจะสุภาพ จะหยาบคาย จะกวนประสาทยังไงก็แล้วแต่ ผมก็ไม่คิดว่าทางผู้ฟังหรือผู้สนทนาจะเดือดร้อนอะไรนะ กลับกันเลยจะกลายเป็นแค่ท่านเดือด/ไม่สบายใจอยู่ฝ่ายเดียว

ตามสะดวกครับท่าน ไม่ว่ากัน

 


ยังไงก็ขอบคุณมากครับ ที่ยอมคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
คุณค่อนข้างเป็นกลาง ในแบบไม่เข้าข้างผมแน่ๆ

แต่ถ้าพูดตามตรง ผมหวังให้มีคนช่วยคิดแนวๆ ตรงกับความต้องการของตัวเอง
ซึ่งผมก็ได้รับละ (จากบอร์ดอื่น)

บอร์ดนี้คนดีเยอะมาก ไม่มีใครให้คำแนะนำแบบเทาๆ ช่องทางซิกแซก (ต้องหาจากที่อื่น)
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel