แค่ใช่คำว่าจะหลุดจำนอง หูก็ผึ่งกันแล้วครับ มันจะมี นายหน้าในธนาคาร ที่เวลาที่จะหลุด จะใช้คอนเน็คชั่นว่ามีที่ไกล้หลุด แล้วจะมีคนมารีบซื้อ เพราะคิดว่าจะได้ราคาถูกกว่าปกติ ซึ่งจริงๆไม่ใช่ น้าผม ก็โดนมาประมาณนี้แหละ วันดีคืนดี นายหน้าธนาคารโทรมา มีที่จะหลุด ก็พากันนัดเจ้าของ กับน้าไปดูที ที่แค่ 200 ตรว โดนไป 15 ล้าน ขนาดที่แพงนะเนี่ย


พวกวงใน ในคอนเน็คชั่น จะได้ ที่พวกนี้ก่อนทั้งนั้น

เป็นหนี้ในการลงทุนน่าจะดีเสมอ ถ้าจ่ายไหว ดอกไม่สูงเกินไป เพราะมันคือการใช้เงินคนอื่นลงทุนตามที่ท่านบอกนั่นแหละ แต่ก็นะ ถ้าเป็นการลงทุนทำธุรกิจเองก็ต้องคิดหนักหน่อยว่ามันจะไปได้ดีหรือป่าว

จริงๆ เรื่องการไม่มีหนี้ มันก็ดีในแง่ที่มันมั่นคง ซึ่งผู้ใหญ่ก็ควรจะสอนเด็กๆให้ไม่มีหนี้ไว้ก่อนอ่ะแหละ

มันแล้วแต่นะ เหมือนพนันกับอนาตคเหมือนกัน
คนล้มก็เยอะ คนฉลาดก็โง่ได้

ความสามารถในการกู้

แนวคิดอะไรเนี่ย ฉลาดสุดคือสามารถทำpassive incomeจากอสังหานั้นๆได้
ไม่ใช่เอาอสังหานั้นไปจำนองแล้วหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ย

โอเคถ้าไม่มีเงินทุนแล้วเอาเงินก้อนมาทำให้งอกเงยก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ถ้าบอกว่าเป็นหนี้เยอะแล้วเรียกฉลาดนี่ตรรกะแปลกมาก

วิกฤตเศรษฐกิจมันเริ่มมาจากพวกนี้แหละ

อย่าเอา ความคิดที่ว่า หนี้ คนธรรมดา กับหนี้ ธุระกิจมาเทียบกันครับ

หนี้พวกเราชาวบ้านธรรมดาหมดไปกับ บ้านรถ แค่เท่านั้น
แต่หนี้สำหรับนักธุรกิจคือโอกาส

บริษัทใหญ่ไหนบ้าง ในประเทศ ที่ไม่เป็นหนี้ครับ ล้วนเป็นหนี้ แทบทั้งสิ้นครับ เค้าเอาไปขยายสเกลบริษัททั้งนั้นครับ cp ซื้อโลตั้ส ทั้งที่รวยระดับโลก เค้ายังไม่ซื้อเงินสดเลยครับ กู้ซื้อเต็มวงเงิน

เจ้าของแมนยู ซื้อแมนยูด้วยเงินกู้ จ่ายแต่ขั้นต่ำ ธนาคารไม่เคยคิดจะใช้หนี้ธนาคารให้หมดเร็ว ผ่านมามูลค่าสโมสร ขึ้นไปไกลกว่าเงินที่กู้มาแล้ว


เพราะงั้นอย่าเอาความคิดแบบชาวบ้าน ไปบอกว่า ว่าคนเป็นหนี้จากธุรกิจ นั้นโง่ครับมันตรงกันข้ามกันด้วยซ้ำ


แยกคำว่า หนี้สิน กับทรัพย์สินไห้ได้ เป็นหนี้ แล้วไม่เกิดผลประโยชน์อะไรต่อตัวนอกซะจากสนอง ตัวเอง นั้นคือหนี้ ที่ไม่ดี แต่เป็นหนี้แล้ว มันสามารถงอกเงยหรือต่อยอดให้ตัวเองได้ นั้น คือหนี้ที่ดี ครับ

ที่ดินหลุดจำนองมีแค่จะถูกกดราคาเพราะรู้ว่าเจ้าของต้องรีบขาย และถ้าที่ดินมันขายง่ายได้ราคาขนาดนั้น มันคงไม่มีพวกล้มละลายจากวงการอสังหากันหรอก

ผิดเลยพี่

คนที่ฉลาดจริงๆ จะเอา บ.เข้าตลาด

แล้วบริหารจัดการดีๆ ให้ได้ fitch/tris เป็น investment grade

พวกนี้เวลาไปกู้แบงค์ ไม่ต้องมีหลักประกันเลยนะ(on clean basis)
แล้วด้วยที่ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ พี่คิดว่าเขากู้ MLR ลบเท่าไร

ผิดเลย เขาไม่ใช้แม้แต่ MLR ด้วยซ้ำ เขาจะเอา cost of fund bank บวก margin
ว่าง่ายๆ กู้กันจริงไม่ถึง 2% ต่อปี (ขนาดช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นนะ)

คือกู้เงินมาลงทุน 10,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยถูกสุดๆ แบบนี้ ใครจะมาแข่งพี่
ก็เลยเกิดการกินรวบหัวรวบหาง ไปเรื่อยๆ เลยจ่ะ

ใช้ครับผมคิดแบบนั้นมาตลอด จนเมื่อได้มีโอกาส หาที่ดิน ให้กับเจ้านายเพื่อสร้างโรงงาน เลยมารู้ว่า ที่ดีๆหนะ หลุดจำนอง ขายก็ยังกำไร และกำไรเยอะด้วย เพราะกว่าที่จะหลุดจำนองได้ มันกินเวลา หลายปี มูลค่าที่มันเพิ่มสูงขึ้น แม้ที่จะหลุดจำนอง เจ้าของก็มักได้ ส่วนต่าง เสมอเวลาขาย หรือถ้าจนตรอกจริง เค้าก็มีความสามารถในการ ต่อยืดถ่วงเวลาไปได้อีก

อย่างที่บอกครับ ที่ๆ น้าซื้อ ขนาดจะหลุดจำนองอยู่แล้ว ยังได้ที่มาแบบแพงบรรลัยเลย กับแฟนผม ที่ซื้อที่มาเมื่อปีที่แล้วก็ ที่จะหลุดจำนองเหมือนกัน ก็ยังต้องมีส่วนต่างให้เจ้าของที่กินเปล่าเป็นล้านเลย มาจากประสบการณ์จริงครับ

ถ้าบริษัทญไม่ใหญ่พอ ที่จะเข้าตลาดได้ ทำไงครับ
แล้วคนที่ฉลาดแต่ ทรัพย์สินเริ่มต้น ไม่มี จะทำไงครับ


ผมเห็นกับตามาด้วย 2เคสตัวอย่างกู้เงินโดยที่ไม่ใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน แต่ธนาคารปล่อยกู้ให้

ยังจำประโยคที่เจ้าหน้าที่ธนาคารท่านนั้นพูดได้ติดหูว่า มีโอกาสให้ผมได้รับใช้อีกนะ
นี้คือการกู้เงินที่แบบ เค้าแทบจะมาเสนอให้ ในขณะที่เราคนทั่วไป ต้องอ้อนวอนขอกู้


แค่นี้เค้ายังไม่ฉลาดพออีกเหรอครับ ที่สามารถกู้เงินธนาคารโดยที่ตัวเองไม่มีบริษัทเข้าตลาด แถมไม่ต้องใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน

แล้วทำไมน้าท่านต้องยอมซื้อที่แพงด้วยหละครับ ทั้งๆที่รู้ว่าแพง

ถ้างั้นมีอีกทาง คือต้องหา connection พวกนี้เวลาไปขอกู้ เขาไม่ไปติดต่อที่เคาเตอร์

แต่ไปเข้าหาทาง chairman/CEO โดยตรงเลย คือต้องมีคนพาเข้าหา

หรือเอาอย่างเจ้าสัว พลังงานก็ได้ ใช้ connection ทางการเมือง/ทหาร

หรือถ้าจะบอกว่าไม่มีอะไรติดมาเลย ก็ไปเป็นลูกจ้างเจ้าสัวก็ยังดีอะพี่

โลกทุนนิยมอะพี่ มือใครยาว สาวได้สาวเอา
ชีวิตจริงก็เลยเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ เหมือนทุกวันนี้
ทางออกก็ให้นายกคนต่อไป มาแก้ไขเอาละกันพี่

สู้ๆเด้อ

สำหรับผมจะถือโฉนดไว้เฉยๆก็ไม่ผิด จะเอาไปจำนองเอาเงินกู้ออกมาหมุนก็ไม่ผิดอยู่ที่การวางแผนของตัวเองครับ

"อย่าโลภเกินความรู้ตัวเอง"

คำนี้จริงที่สุด ผมเจอมากับตัวเองได้กำไรจากคริปโต 1.4m แต่ไปโลภลง ico เหรียญที่เราไม่มีความรู้มากพอด้วย

ความคิดโง่ๆว่าเหรียญพอมัน list ราคาก็แพงกันหมดกำไร 10เท่าชิลๆ สุดท้ายกลายเป็นเหรียญโง่ๆที่ราคา list ต่ำ

กว่าราคา ico ผมเงินหายประมาณ 500k จาก 600k ที่ลงไป

จากนี้ไปผมต้องกำหนดเงื่อนไขให้ตัวเอง อย่าโลภเกินความรู้ตัวเอง

ดังนั้นถ้าเอาที่ดินไปกู้เงินมาทำธุรกิจที่ตัวเองไม่มีความรู้ ก็เหมือนหามีดมาปาดคอตัวเอง

แต่ถ้าเอามาลงทุนในสิ่งที่ตนเองเชี่ยวชาญ สามารถทำกำไรได้ก็ดีแน่นอน

มีหลายเหตุผลครับ ที่ตรงนั้นทำเลมันดีมาก
ที่ตรงนั้นเคยหมายปองไว้
และถ้าน้าผมไม่ซื้อ ก็เหมือนปล่อย้อยไปเข้าปากคนอื่นอยู่ดี

ผมบอกข้อมูลเพิ่มเติม เจ้าของที่เอาที่นั้นไปจำนองด้วยเงินเพียง 6 ล้านบาท แต่เค้าขายได้ในราคา 15 ล้านบาท ก็ยังได้กำไรจากการขายทีอยู่ดี แล้วถ้าถามว่า ถ้าขายได้กำไร ทำไมธนาคารไม่ปล่อยให้หลุดไว้ขายเอง
เพราะสุดท้าย ยังไงเจ้าของเค้าก็ไม่มีทางปล่อยหลุด อยู่ดี ตัวเองเอากำไรจากการกินเปอเซน จากการขายทีด้วยดีกว่า