ก่อนอื่น ขอพูดถึงสามคนนี้หน่อย
คริส ร็อค ด้วยความเป็นอาชีพของเขา และเป็นวัฒนธรรมของที่นั่น
การล้อ การแซว เพื่อเรียกเสียงฮา ที่ไม่ถึงกับด่ากันโต้งๆ ขึ้นไอ้ขึ้นอี

เจด้า บางคนเฉยๆ กับการถูกล้อ บางคนก็ไม่โอเค

วิลล์ สมิท ตอนแรกก็ขำๆอยู่หรอก แต่เจอสีหน้าภรรยานี่ เขาอาจจะเป็นห่วงความรู้สึกภรรยามากๆๆ เลยกระทำไปเช่นนั้น


ตอนแรกผมก็สะใจนะครับ ที่วิลล์ไปตบคริส ร็อค แต่ผมเอา มุก GI Jane มาลองแปลเป็นไทยดู


มุกGI Jane ถ้าแปลเป็นไทยก็คงประมาณนี้


“ว่าไงเจด้า ผมรักคุณ ผมรอดูคุณในหนังหลวงพี่แจ๊ส หลวงพี่เท่ง อยู่นะ”

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่ามันเบามาก แน่นอนว่าคนที่ถูกล้ออาจจะไม่โอเค
แต่เมียวิลล์ นี่หน้าเจื่อนลงทันที วิลล์ที่ตอนแรกยิ้มๆ ก็เปลี่ยนท่าทีทันที แปลว่าไม่ได้หัวเสียเพราะมุก GI Jane แต่ หัวเสียเพราะภรรยา ไม่โอเค แล้วลุกไปกระทำสิ่งนั้น ภายหลังก็ออกมาขอโทษ

ถ้าเทียบกับที่เคยเจอ เคยเห็นมาในชีวิต
ด่าพ่อล่อแม่ ล้อปมด้อย ล้อรูปร่าง ผมผ่านมาได้ไงที่ไม่เคยลุกไปชกปากใคร55555


สรุป คือทุกคนได้รับผลของการกระทำกันทุกคน น่าสงสารสุดคือ เจด้า
เรื่องจะไม่เกิดเลย ถ้าคริส ร็อคขออนุญาตเจด้ากับวิลล์ ก่อน ว่าโอเคไหม ที่จะเล่นมุก GI Jane

หลายคนคิดว่ามันคือการบุลลี่ แต่ในมุมมองผม มันไม่ถึงขั้นบุลลี่นะ แค่ไม่ถูกกาลเทศะที่เอามาใช้กับคนที่มีอาการป่วยโรคแบบนี้

ส่วนตัวผมว่ามันจะเบามากถ้าไม่ใช่อาการป่วยนะครับ ออกจะอยู่ในประเด็นด้วยเพราะมันเป็นรายการเกี่ยวกับหนัง

ถ้าเขาโกนเฉยๆคงไม่เท่าไหร่ แต่นี่โกนเพราะเป็นโรค อาจไปแทงใจเขามากกว่าปกติ

หลายคนคิดว่ามันคือการบุลลี่ แต่ในมุมมองผม มันไม่ถึงขั้นบุลลี่นะ แค่ไม่ถูกกาลเทศะที่เอามาใช้กับคนที่มีอาการป่วยโรคแบบนี้

มันก็เบาแหละ ถ้าไม่ได้โกนหัว เพราะเป็นโรค ลองเป็นโรคสิ โดนล้อต่อให้ไม่มีเจตนาร้ายไงก็เจ็บ ส่วนฝรั่งมันมองว่าตอบโต้ โดยการทำร้ายร่างกายมันผิด คริสแซวแค่โจ๊กขำๆไม่ได้มีเจตนาร้ายหรือบูลลี่

ก่อนอื่นเลย ขอขอบคุณช่อง Mono 29 ที่เคยฉายเรื่อง GI. Jane มาก่อน ทำให้ผมเข้าใจมุขนี้แบบทันที

คนไม่มีปัญหาจะไปรู้สึกอะไร

ลองถาม โรเบิต ดูครับ เขาหวงผมเขาขนาดไหน

แปลกนะ ทีเจด้าไปควงคนอื่นไม่เห็นขึ้นแบบนี้เลย

คริส กับ วิลล์ น่าจะสนิทกันระดับนึงเลยละ ไม่งั้นคริสไม่กล้าเล่นมุกนี้แน่นอน เพียงแต่คงคาดไม่ถึงว่า
วิลล์ จะไม่ขำและจะเดินขึ้นมาตบเค้ากลางงาน แต่แก คงรู้ตัวแหละขึ้นไปพูดตอนรับรางวัล ก็พูดขอโทษทั้งน้ำตาเลย

ตอนแรกผมนึกว่า เรื่อง gi joe

คิดว่าอันนี้คือแรงหรอครับ? สำหรับพวก Comedian แค่นี้ถือว่าเบาจัดเลย

โอเค ผมไม่เห็นด้วยเพราะมันเป็นงานใหญ่ในที่สาธารณะระดับโลก แต่เจ้าภาพก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าคริส ร็อคมันประมาณนี้อ่ะ


ผมยกตัวอย่างอันนึงเป็นรายการของ Comedy central



๋
ตอนที่ Jimmy Carr พูดถึง Pete Davidson แกใส่มุขประมาณว่า

"Today we're not going to roast pete's dad. That was in 2001"

ถ้าแปลไทยง่ายๆก็ วันนี้เราไม่ได้มางานเผาพ่อของพีท อันอันมันปี 2001 (ซึ่งพ่อของพีทตายในเหตุการณ์ 911) คนขำกันทั้งงาน เสียงแบบโอ้ววววว

สิ่งที่พีทตอบโต้คือ หัวเราะ แล้วบอกว่า "wow that was dope" คือแม่งเจ๋งมากอ่ะ



ถ้าใคร Trigger ง่ายๆ ผมแนะนำให้เปิดใจให้กว้าง ลองดูพวก Standup comedy จะรู้ว่าบริบทประมาณนี้สังคมตะวันตกมันมีพื้นที่ที่ยอมรับได้อยู่

คนเล่นด้วย กับคนไม่เล่นด้วย

มีไอ้โง่ตัวนึงเคยบอกว่า ไม่ต้องบอกสิว่าตัวเองเป็นโรค คนอื่นจะได้ไม่ล้อ ไม่บอกก็ไม่รู้ ถ้าบอกก็แสดงว่าล้อได้

คนประเภทนี้มันมักมองข้ามเรื่องล้อปมโรคอะครับ เอาจริงๆถ้ามาพูดทำความเข้าใจกับไอ้โง่นั่น มันก็ยังโง่ไม่เข้าใจอยู่ดี

ปกติจะมีการเตี๊ยมแต่รอบนี้สดเลย ผมเสียดายวิลนะ คิดว่าไม่ใช่คนทำอะไรแบบนี้แต่คงไดรฟ์ด้วย Emotion ล้วนๆสุดท้ายก็ออกมาขอโทษแล้ว เพราะตัวเค้าเองก็รู้ว่าทำไม่ถูก ลูกผู้ชายทำผิดยอมรับผิด รักเหมือนเดิม

เอาจริงๆ ผมว่าร็อคกับวิลไม่ผิดใจอะไรหรอกครับ ฝรั่งไม่คิดเล็กคิดน้อย ขอโทษกันเดี๋ยวก็คงออกมากอดคอกันเหมือนเดิม

บรรทัดฐานตอนนี้คือ ไม่ว่าจะยังไง การใช้ความรุนแรงคือทำไม่ได้

งั้นก็ควรไปรนรงค์ต่อเรื่อง freedom of speech อะครับ

ไม่งั้นตอนนี้ ด่าพ่อล้อแม่ แซวเมียจนบางคน ซึมเศร้าฆ่าตัวตาย

จะทำยังไงกันดี