ผมไม่เชื่อ และไม่คิดว่ามี
ทุกวันนี้ไม่มีความกลัวผีเลย แต่ไม่เคยหลบหลู่นะ

จริงๆพอเลิกเชื่อเรื่องพวกนี้แล้วมันจะหายกลัวไปเองนะ
หลายๆครั้งตอนที่อายุไม่มากแล้วกลัวผีมันก็ไม่เจอสักที สึดท้ายเราตั้งคำถามแล้วมันไม่มีคำตอบพิสูจน์อะไรได้ก็เลิกเชื่อเหมือนกัน


ในหลายๆความเชื่อก็เช่นกัน ผมเลิกเขื่อเลิกงมงามไปหลายอย่างแล้ว
พวกที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทั้งหลาย พวกที่เป็นเรื่องที่พูดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผมเลิกเชื่อนานแล้ว

อีกนิดนึง ผมว่าความเชื่อของคนไทยสมัยก่อนที่เราได้รับอิทธิพลมาต่อนั่น
ผมว่าเขาชอบยำความคิดอะไรหลายๆอย่างรวมกันมั่วไปหมด โดยเฉพาะคนไทยที่ยุคสมัยพ่อแม่ผม คุยด้วยเหตุผลก็แล้ว สุดท้ายก็แพ้ความอีโก้

ถ้าเราใช้คำเรียกผี ในมุมมองวิทยาศาสตร์คือกลุ่มพลังงานที่หาข้อพิสูจน์ยาก อันนี้ผมมองว่าเป็นไปได้ เพราะสสารบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่สิ่งมีชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว เพียงแต่กลุ่มพลังงานพวกนั้นจะใช้อะไรเป็นแรงขับเคลื่อนตัวเอง เพื่อให้สิ่งมีชีวิตอย่างเราๆรับรู้นี่แหละเป็นโจทย์ที่ยากมาก ส่วนตัวเชื่อว่ามี แต่ไม่เคยงมงายให้ค่าเกี่ยวกับอะไรพวกนี้ขนาดนั้น ถ้าเรามองว่าปาฏิหารย์บนโลกนี้มีอยู่จริง สสารก็อาจเป็นสิ่งเหล่านั้น เพราะปาฏิหารย์ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆอย่างที่เราทราบ โอกาสจะเกิดในแต่ละครั้งความเป็นไปได้แทบไม่มีแต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้

คนไทยสมัยก่อน ก่อนมีศาสนานับถือเชื่อเรื่องผีสางเทวดามานานนมจนถึงขั้นสร้างวัฒนธรรมประเภณีที่เกี่ยวข้องกันขึ้นมาได้ ปัจจุบันด้วยที่โลกเปลี่ยนไปและไร้ซึ่งศรัทธา สิ่งลี้ลับหรือที่หลายคนเรียกว่าผีก็มีบทบาทกับชีวิตคนน้อยลงครับ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ แต่เหมือนมันเป็นโลกคู่ขนานกันไปสำหรับสสารที่ผูกโยงตัวเอง และยึดติดกับชีวิตช่วงมีลมหายใจ แต่เชื่อเหอะกฏของธรรมชาติมันมีวิธีของมันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนได้เสมออันนี้คือถูกที่สุด

เชื่อว่าเถียงกันด้วยความเชื่อไงๆก็ไม่จบครับ

ก็เหมือนกับหลายๆเรื่องละครับ

โดยส่วนตัวเชื่อหลักฐานที่จับต้องได้

หมายถึงจับต้องได้ทั้งผู้ส่งสาร และผู้รับสารนะครับ

ไม่ใช่จับต้องได้อยู่ฝ่ายเดียว

ไม่เชื่อครับ ถ้าจิตแข็งยังไงก็ไม่เจอ

ไม่เชื่อและไม่กลัวครับ

เรื่องแบบนี้มันจะไปเห็นทุกคนได้ไง บางคนตลอดชีวิตไม่เคยเจอด้วยซ้ำ

โคตรตลก ไปท้าผี ไม่ใช่ในหนังนะครับ ที่จะโผล่พรวดออกมาเลย

ผีต่างประเทศเรื่องดังๆก็งมงายกันทั้งนั้นอะดิ

คุณต้องตั้งนิยามว่าผีคืออะไร ถ้าบอกว่าผีคือลม,แสง,พลังงานความร้อน แบบนี้ผมก็ไปไม่เป็นครับ ของพวกนี้มันก็มีของมันตามธรรมชาติอยู่แล้วครับ ออกซิเจนวัดได้ครับมีเครื่องวัด แสง ลม ความร้อน วัดได้ครับ ถ้าผีคือของพวกนี้ก็วัดได้ครับ ถ้านอกเหนือกว่านั้นเช่นเห็นเป็นรูปร่างใส่ชุดไทยมาเลย แบบนี้จะวัดยังไงครับ หนึ่งคือทุกคนที่ผ่านมาต้องเห็นทุกคน ไม่ใช่เห็นแค่บางคนที่มีเซนส์ ไม่งั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สังเกตไม่ได้ ยกตัวอย่างผมยิงโฮโลแกรมในฮอลคนเป็นพันทุกคนเห็นหมด ใครเดินผ่านมาก็เห็นโฮโลแกรม เพราะมันมีเครื่องยิง มีแสงออกมากระทบตาเรา เลยเห็นเป็นโฮโลแกรม

มีครับ เพราะเคยโดนผีอำ และรู้ว่าที่นั้นเคยเกิดอะไรขึ้น
ตอนแรกก็คิดว่า เราอะคิดไปเอง
จนเรารู้ประวัติที่นั้นจากคนที่ทำงานที่นั้น
เห้ย มันเชื่อมโยงกับที่เราสัมผัส รับรู้มาก่อนหน้านี้เลยนี่หว่า

และประสบการณ์ที่ทำให้ผมขนลุกที่สุดเลย
คือผมฝันเห็็น ญ คนนึงใส่สะใบสีชมพู จงกระเบนสีทอง
ยืนในบ้านผม ผมก็ตกใจรีบกลับมาในห้องนอน
แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา พร้อมเสียงกระซิบให้ผมไปศาลเจ้าแม่งูจงอาง ที่พระราม 2
1 อาทิตย์หลังจากที่ฝัน ผมก็เดินทางไปเพื่อพิสูจน์
ณ วันนั้น รูปปั้นท่านที่อยู่ข้างในศาล
ใส่ชุดสีเดียวกับที่ผมฝันเห็นทุกอย่าง
หากใครเคยไปกราบไหว้บูชา จะรู้ว่ารูปปั้นท่าน
เค้าจะเปลี่ยนการแต่งตัวตลอด

ผมไม่ได้เชือในสิ่งที่ทุกอย่างที่ผมฝัน โดนอำทุกครั้งนะ
เพราะผมก็คิดอยู่เสมอว่า คิดไปเอง
แต่มันต้องมีจุดเชื่อมโยงถึงจะเชื่อ

คนที่ไม่เชื่อว่า ผีไม่มีจริง


มีคนเคยตั้งคำถามว่า


ไหนลองพิสูจน์ซิว่า มันไม่มีจริง

ผีไม่มีจริงครับ ตายไปก็เป็นฝุ่นผงในอากาศ ไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นบนโลก และโลกหน้าก็ไม่มีจริงครับ เราแค่เกิดมาได้เพราะดาวเคราะห์โลกอยู่ในตำแหน่งที่ก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตเท่านั้น ถ้าวันหนึ่งโลกเกิดไปใกล้หรือไกลกว่าดวงอาทิตย์มากไปก็หายนะสำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลก ผมคิดง่าย ๆแค่นี้ ไสยศาสตร์ไหนเลยจะสู้ความจริงของกฎฟิสิกซ์ได้

บางอย่างวิทยาศาสตร์ก็"ยัง"พิสูจน์ไม่ได้ไงครับ
ส่วนตัวก็ยังไมาได้เชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องผี แต่คิดว่ามี"บางอย่าง"

อะไรซักอย่างที่เกินขอบเขตมนุษย์จะเข้าใจได้ (ในตอนนี้หรืออาจจะตลอดไป)ผมก็ไม่รู้ว่าจะนิยามว่าอะไร

บางอย่างนี่อาจเป็น supernaturalหรือแค่
ความผิดปกติของร่างกายมนุษย์สั่งให้สมองคิดไปเองก็ไม่อาจทราบได้

อย่างเสียงความถี่บางความถี่มนุษย์ก็ไม่สามารถสัมผัสได้
ต้องใช้อุปกรณ์ถึงจะรู้ว่ามันมีสิง่นี้ในโลก
อย่างโลกกลมกว่าจะพิสูจน์ได้ มนุษย์ก็เชื่อว่าโลกแบนมากี่ปี ทั้งๆที่อาศัยอยู่ในโลกทุกวัน

ปล. ปี2021แล้วมีคอสเรียนเกี่ยวกับ parapsychology, supernatural กันอยู่นะครับเผื่อไม่รู้

ไม่เชื่อครับ แถมลบหลู่ด้วย

มาดิ

โลกนี้แบ่งคนออกเป็นสองประเภท คนที่เชื่อว่าผีมีจริง กับคนที่ไม่เชื่อว่าผีมีจริง

ไม่ต้องเถียง มันเป็นนานาจิตตัง

ถ้าเชื่อเรื่องผี ก็ต้องเชื่อว่าบาปกรรมมีจริง โลกหน้ามีจริง

แต่ถ้าเชื่อเรื่องผี แต่ยังทำกรรมชั่ว มันก็ไร้ประโยชน์

ไม่มี รสร

เคยเจอยังไงก้อคิดว่ามีครับ