เป็นกำลังใจให้ครับ​ ไม่ทราบว่าท่านอายุเท่าไหร่​ แล้วมองว่าจะเลือกงานสายนี้เป็นหลักเลยมั้ย​ บางทีการตั้งใจเต็มร้อยแต่อยู่ผิดที่ก็ทำให้ไม่สมหวังนะครับ​ ลองหาเวลาถามตัวเองจริงๆ​จังๆสักทีมั้ยครับว่า​อะไรที่ทำแล้วดีกับชีวิตเราจริงๆ​ เท่าที่ฟังท่านเล่ามาคือหลายอย่างเป็นสิ่งที่ท่านไม่ได้อยากทำเองเลย​ แถมคนที่อยากให้เป็นกำลังใจดันไม่เข้าใจ​อีก​ มันคงต้องค่อยๆแก้ทีละทางครับทั้งเรื่องงานและความรัก​

บางทีเราคงต้องหาให้เจอก่อนว่าอะไรคือความสุขของเรา​ อาจดูเห็นแก่ตัวบ้าง​ แต่การฝืนทำอะไรหลายๆอย่างแถมผลลัพธ์​แย่มันก็ไม่ดีกับใครทั้งนั้น​

ถ้าไม่ไหวก็มาระบาย​ ปรึกษา​กับคนในนี้ดูครับ​ เชื่อว่ามีหลายคนพร้อมช่วยเหลือรับฟัง

เป็นข้าราชการได้ อย่างเท่แล้วท่าน ยุคนี้ นี่คืออาชีพที่มั่นคงสุดแล้ว

ไม่ทราบแนวคิดแฟนท่าน ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องชีวิตคู่

แต่ ณ ตอนนี้ ท่านควรภูมิใจในสิ่งที่ท่านเป็น เชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องท่านก็ต้องภูมิใจ

ทัศนคติคุณไม่เหมาะกับอาชีพ

อาจจะตรงไปแต่คุณไม่ทะเยอทะยานพอสำหรับสายงาน

ลองทำไปต่อแล้วหาลู่ทางทำอะไรเพิ่มเวลาว่างไหม ทำสิ่งที่คุณชอบจริงๆน่ะ

ลองทำในสิ่งที่ชอบ(แต่ประคองที่ทำอยู่ไปก่อนจนกว่าสิ่งที่ชอบก่อให้เกิดรายได้เท่าหรือมากกว่า)

ดูเวลาว่างก่อนครับ เข้าหาธรรมชาติสักวันนึงสงบเงียบเสพบรรยากาศนั่งคิดดู

ผมเข้าใจเลยนะ บางทีเราอยากระบายเรื่องเครียดให้คนใกล้ชิด เพราะต้องการกำลังใจ กลับโดนต่อว่าซ้ำเติม มันก็ยิ่งเครียด

เอาเป็นว่น มันก็แค่วันแย่ๆวันนึงครับ ไปหาเบียร์เย็นๆกินละนอน ตื่นมาสู้กับเช้าวันใหม่

ผมนิสัยคล้ายท่านสอบได้ 4.00 ก็เคย แต่ขี้เกียจ แต่ผมเลือกทำตามใจตนเอง และถ้าผมไม่มีอนาคตที่ดีพอ ผมจะไม่จีบใคร ถ้าผมชอบหรือจีบใครนั่นแปลว่าเขาคนนั้นทำให้ผมกระตือรือร้น และอยากที่จะทำตัวเองให้มีอนาคตเพื่อดูแลเขา หน้าที่ของคุณตอนนี้ทำงานไปก่อน แล้วมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วลองทำควบคู่ ถ้าทำได้ดีแล้วค่อยโดดมาเต็มตัว แฟนคุณเค้าไม่รู้ว่าคุณทำอะไรได้บ้าง ปล ท่านมีแฟนแล้ว ท่านควรมีแรงจูงใจที่จะทำเพื่อคนรัก ถ้าขี้เกียจแล้วเลี้ยงใครไม่ได้ เป็นผมจะไม่ว่าเค้าเลย

แปลกที่ผมเห็นด้วยกับแฟนท่านนะ อาจจะเพราะผมเป็นพวกไม่จมอยู่กับที่ พยายามค้นหาไขว่ขว้าสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตอยู่ตลอด อะไรที่เริ่มจะดูไม่เข้าท่าก็จะคิดแผนสำรองไว้ล่วงหน้า

แต่มีสิ่งที่อยากจะบอกคือ การที่เราทำอะไรเพื่อคนอื่นมันไม่มีความสุขหรอก อยากให้เป็นนั่นเป็นนี่ก็เป็นให้ เรียนให้ สอบให้ ในความเป็นจริงเค้าแค่เป็นห่วงท่าน อยากให้มีอาชีพมีชีวิตที่มั่นคง อันดับแรกหยุดเป็นอะไรเพื่อคนอื่น แล้วลองเป็นตัวเองก่อนดีมั้ย

จริงๆ เรื่องนี้ไม่ยากเลยนะ ถ้าเรามาโฟกัสแค่ตัวเองว่าแฮปปี้กับอะไรบ้างก็โอเคแล้วนะ ถึงคนอื่นจะบอกไม่พัฒนาตัวเอง ถ้าเรารู้ว่าเราพัฒนามันก็พอแล้ว อย่าไปให้ความสนใจกับคำพูดคนอื่นจนมากดดันตัวเอง ถ้าแฟนอยากรีบสร้าง แต่ท่านยังโอเคกับจังหวะความเร็วชีวิตตอนนี้ แยกทางกัน ไม่ก็ปรับความเข้าใจน่าจะดีกว่า

ผมแนะนำแบบนี้ละกันครับ
1. ถ้าคุณจะเป็นผู้นำครอบครัว คุณต้องถีบตัวเองมากกว่านี้
ผมไม่ใช่สายอาชีพครู ไม่รู้จะแนะนำยังไง
อาจลองฟังพวก podcast ปลุกใจดู เผื่อจะได้ปรับ mind set ได้ดีขึ้น

2. คบกะแฟนนานยังครับ ? ถ้าไม่นานแนะนำเปลี่ยนคน 5555+
ถ้าไม่ได้คิดจะเป็นผู้นำครอบครัว แฟนเราก็ต้องจับมือไปด้วยกันอ่ะ แล้วทัศนคติมันก็ต้องไปด้วยกัน
ผมกะแฟนพูดเลยว่า slow life ทั้งคู่ ก็ค่อยๆไป เข้าใจกัน
แฟนท่านดูจริงจังกับชีวิตไปมั้ย ยังไงครอบครัว แฟน มันคือ comfort zone ตลอดกาลสำหรับผมนะ คนเรามันควรมีพื้นที่นี้
ถ้าแฟนท่านไม่เข้าใจ แล้วขู่เลิกเนี่ย ผมว่าเลิกเถอะ

เดาจากบริบทที่ได้อ่าน ตอนนี้กำลังหัวตกสุดขีด เลยเอาเรื่องทุกอย่างมารวมกันไปหมด

แล้วคิดว่าน่าจะ negative มาสักพัก จนแฟนเบื่อหน่าย ถ้าพูดตรงๆ คือเปลี่ยนอะไรแทบไม่ทันละ

แต่สิ่งที่ทันคือเปลี่ยนวิธีคิด ขอให้หาความสุขจากมัน แล้วก็ทำให้รอบข้างมีความสุข

ผมว่าชีวิตจะแฮปปี้มากขึ้น

รักตัวเองบ้างนะครับ ชีวิตท่านยังต้องฝากชีวิตไว้กับตัวท่านอีกยาวไกลที่ผ่านมาผมว่าท่านรักคนอื่นและทำตามที่คนอื่นต้องการมากไปจนไม่ได้ทำตามที่ตัวเองต้องการเท่าไรเลย

ไม่แปลกครับที่ ญ จะพูดยังงั้น

มองได้ 2 มุม
1) ต้องการ motivate คุณ
2) ด่าจริงๆ

ซึ่งทั้ง2 มุมมอง มันไม่แปลกครับ ทุกๆคนต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นกันทั้งนั้น

ผมเข้าใจนะ แรกๆคบกับแฟน ผมก้อเฉื่อยๆ ไม่กระตือรือร้น ชิวๆ แต่พอโตขึ้นมันก้อเรียนรู้เองครับ ไม่ใช่ทำเพื่อเอาใจ แต่อารมแบบ กุต้องเป็นที่พึ่งให้เค้าได้ ทุกวันนี้แม้รายได้ผมจะน้อยกว่าแฟน แต่ผมก้อช่วยกันคิดช่วยกันบริหารจัดการ ช่วยกันหาความรู้ หาเงิน ลองไรใหม่ๆ

คือ ผมจะบอกว่า ชีวิตที่เรื่อยๆ มันดี สำหรับการอยู่คนเดียวครับ แต่ถ้าจะมีคู่ชีวิต มันต้องเปลี่ยนความคิดอะครับ ถ้าไม่ปรับเปลี่ยน ผมคิดว่าเลิกแน่นอน

ผมจะแบ่งงี้ละกันครับท่าน

1. ทำตามใจตัวเอง ถ้ามีความสุขแบบไหนทำไปเลย ผลลัพธ์ในที่นี้อาจไม่ถูกใจแฟนท่านหรือคนในครอบครัวท่าน
แต่ท่านแฮปปี้ก็โอเคแล้วนะ สำหรับผมถ้าเขาจะเลิกเขาจะไม่อยู่ อันนั้นก็เป็นสิทธิของเขาแต่ท่านก็ได้ทำตามใจตัวเอง

2. ถ้าท่านแคร์คนรัก ที่เขาพูดอาจจะอยากให้ท่านถีบตัวเองขึ้นมากกว่า พยามมากกว่านี้ เพื่อสร้างครอบครัวหรือเป็นหน้าเป็นตาในสังคมอะไรก็ว่าไป สุดแล้วแต่ฝ่ายนั้น กรณีนี้ ถ้าท่านแคร์เขาก็พยามให้เขาเห็น ก็น่าจะเพียงพอ

ถ้าเป็นผม ผมจะใช้ 50/50 ผมจะพยามในเท่าที่ผมไหว เจอกันคนละครึ่งทางกับสิ่งที่เขาอยากให้พยาม
ถ้าทำแล้วเขายังไม่แฮปปี้ ถ้าเขาจะไปผมก็ไม่ว่านะ

เรื่องพ่อแม่คือท่านพลาดที่ยอมเขามาตั้งแต่แรกอะ ยอมจนเหมือนเป็นหน้าที่ไปแล้ว
เขาไม่ได้มองว่าท่านเป็นเด็กดีที่ตามใจเขานะ
แต่บางทีเขาอาจจะมองว่าท่านไม่มีความเป็นผู้นำ ต้องขีดเส้นให้เดิน

เรื่องแฟนผมว่าไม่มีใครผิดนะ แต่ท่านอาจจะไม่เหมาะกับแฟนคนนี้
จะสร้างครอบครังต้องหาคนที่อยากก้าวเร็วเท่าๆกันอะ ไม่งั้นทุกเรื่องก็มองไม่เหมือนกัน ขัดใจกันไปหมด

ลองมีหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อสักก้อนนึงครับ ผมรับรองเลยว่าไฟแทบลุกเลยละ 5555

ด้านบน...แซวเล่นนะท่าน เอาจริงๆ ก็อยากให้หาความสุขกับสิ่งที่ทำก่อนครับ

แฟนเค้าอาจจะมองคนละมุมกับเราแหละ เค้าคงอยากให้ท่านเป็นผู้นำครอบครัวครับ

เลยอยากให้ท่านก้าวหน้าพัฒนา แต่ทีนี้การอยุ่ในระบบราชการ มันก็ไม่ใช่ว่าใครจะอยู่ได้อ่ะนะ

ทั้งหัวโบราณเอย ทั้งอัตตาเอย ความคิดเห็นเราไม่มีค่าเอย ฯลฯ พวกนี้มันจะบั่นทอนจิตใจการทำงานของท่านเองครับ

ผมแนะนำให้หาอะไรทำสักอย่างนึงครับ อาชีพเสริมสักอย่าง อย่างน้อยๆมันก็ทำให้ท่านคิดและมีไฟมากขึ้นครับ

หวังว่าท่านจะผ่านช่วงเวลาแย่ๆนี้ไปได้โดยเร็วนะครับ สู้ๆครับ

ผมว่า คุณปล่อยเทอไปไขว่ขว้าของที่เขาต้องการ กลับมาโฟกัสไม่ต้องเฟลครับ รีบไปไม่ดี ช้าไปไม่ดี ไปเรื่อยๆ อย่างมั่นคงดีกว่า ค่อยเริ่มจาก 0 1 2

เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตนะครับ