BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2010
ตอบ: 3609
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 18:37
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
Dr.Panda500 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
คือแต่ก่อนผมเถียงกับขนมหวานในเวปนี้มาก เดี๋ยวนี้ขนมหวานหายไปแต่เหลือพวกเสรีนิยมกดขี่แรงงานเยอะแทน

ข้อแรกคือ ค่าแรงกับผลผลิต รวมทั้ง GDP ที่ผ่านมาหลายสิบปีไม่สัมพันธ์กัน โดยค่าแรงนั้นขึ้นน้อยกว่าพวกที่เหลือมากๆ (แม้จะนับขึ้นค่าแรงสมัยยิ่งลักษณ์ไปแล้ว) ต่อให้เทียบกับเงินเฟ้อยังสู้เงินเฟ้อไม่ได้ นี่มันบ้าไปแล้ว นี่การขึ้นค่าแรงควรจะสัมพันธ์กับ GDP




คราวนี้ ไอ้เรื่องค่าแรงมันไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวในการทำธุรกิจ ไม่งั้นพวกยุโรปก็ไม่มีคนทำธุรกิจในประเทศแล้ว มันยังมีปัจจัยอื่นๆเยอะแยะ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การมีธรรมาภิบาล คุณภาพการศึกษา ซึ่งไปดูประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นไม่ใช่กดค่าแรง แต่คือการพัฒนาด้านอื่นๆต่างหาก

พวกที่คิดว่าค่าแรงขั้นต่ำสูงไป ลองไปทำงานรับค่าแรงขั้นต่ำดูไหมครับ  


ผมเข้าใจถูกมั๊ยครับว่าตามความเห็นท่านคือ ถูกต้องแล้วที่ค่าแรงจะขึ้น คือขึ้นแล้วไม่ได้มีผลกับการปิดตัวของโรงงาน แต่มีปัจจัยอื่นๆมากกว่า  


ถูกแล้วที่ค่าแรงจะขึ้น ใช่ครับ

ส่วนที่มีผลกับการปิดตัวหรือเปล่า ต้องแยกเป็นโรงงานที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้น และที่ใช้แรงงานแบบไม่เข้มข้นครับ

ส่วนที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้น มีผลเยอะแน่นอนครับ เพราะจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งก็มีทางเลือกให้ 2 อย่าง คือการนำเข้าเทคโนโลยี เปลี่ยนการผลิตเป็นแรงงานไม่เข้มข้นมาก หรือจะย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่อื่น ซึ่งตรงนี้รัฐก็มีส่วนที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจปรับไปสู่ธุรกิจที่ใช้แรงงานไม่เข้มข้นครับ
ซึ่งธุรกิจพวกที่ใช้แรงงานเข้มข้นแต่ skill ต่ำ ไม่ได้ทำให้ประเทศพัฒนาไปสู่ประเทศพัฒนาแล้ว และยังเอาเปรียบทำให้คุณภาพชีวิตคนห่วยลงๆ ซึ่งก็เป็นผลจากนโยบายรัฐที่ชอบดึงดูดพวกนี้มานานนั่นแหละครับ

ส่วนพวกที่ใช้แรงงานไม่เข้มข้น อันนี้ผลกระทบต่ำอยู่แล้วครับ

ซึ่งในที่สุด มันมีหลายสิ่งที่รัฐทำได้และดึงดูดธุรกิจมา ตัวอย่างเช่นโครงสร้างพื้นฐานรางรถไฟ ที่จะทำให้ค่าขนส่งถูกลง แต่เราลองดูทางรถไฟในยุโรปที่มีไปทั่ว กับรางรถไฟในไทยสิครับ

อีกตัวอย่าง ก็กฎหมายการทำธุรกิจต่างๆ ที่ของไทยก็โคตรล้าหลังและเอื้อทุนใหญ่ ง่ายๆก็อย่างเช่นเรื่องเบียร์

สรุป ค่าแรงมีผลต่อความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจบางประเภทจริง แต่ธุรกิจพวกนี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น รัฐควรส่งเสริมธุรกิจที่ใช้ skill สูงและธุรกิจเกิดใหม่ และการทำให้การแข่งขันของธุรกิจ Start Up ทั้งหลายนั้นไปได้ แต่ปัญหาคือรัฐทหารมันโง่ และมันก็ไม่ทำแน่ๆเพราะพวกทุนใหญ่ก็พวกสนุบสนุนมันทั้งนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Kmul เมื่อ Tue Nov 03, 2020 18:39, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 3015
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 19:09
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ค่าแรงขึ้น ต้องออกกฎหมายมารองรับ หรือ ให้ผลประโยชน์จากการที่ผู้ลงทุนต้องมีต้นทุนมากขึ้นด้วย
ไม่ใช่ขึ้นแล้วจบ หลังจากนั้นไม่มีอะไรมารองรับระยะยาว

ส่วนเรื่องคุณภาพนี่จริงนั่นแหล่ะ แรงงานไทย ได้เอา เสียไม่ยอม อู้ได้คืออู้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 25382
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 19:14
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ลองมาติดนะครับว่า แรงงานรับแต่ค่าแรงขั้นต่ำเค้าจะใช้ชีวิตอย่างไร

วันละ300เดือนนึงไม่ถึง9000 เพราะมีวันหยุด
ค่าเช่าห้องรวมค่าน้ำค่าไฟ3000
ค่ากินค่าอยู่ค่าเดินทาง มันจะเหลือเก็บเพื่อสร้างอนาคตบั้นปลายชีวิตสักแค่ไหน

เท่าที่เค้ารับอยู่มันก็แร้นแค้นมากพอละ
จะกดค่าแรงไปถึงไหน

ผลผลิตทางการเกษตร จะให้ราคามันตกต่ำไปถึงไหน

ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวมันก็ต้องเก็บ มันล้นตลาดเพราะกลไกการรับซื้อต่างหาก ทุกคนต้องการขายเพราะไม่มีที่เก็บ พ่อค้าจึงสามารถรับซื้อในราคาถูก เพื่อมาขายต่อในราคาแพง เพราะมีโกดังเก็บ

ลองคิดภาพนะ ถ้ารัฐบาลไม่ประกันไม่รับจำนำ แล้วเกษตรกรเลิกผลิตเพราะ ไม่คุ้มทุน จะเกิดอะไร

ผลิตผลทางการเกษตรขาดแคลน ต้องนำเข้า
นำเข้าก็เสียดุลการค้า

ฉะนั้นการมีมากย่อมดีกว่าการมีน้อย พอมีมากรัฐก็ต้องกระจายออกนอกประเทศผ่านg2g

คนที่ทำงานการจัดการ มักจะไม่เข้าใจระบบการผลิต
คิดแต่จะจัดการให้ราคาสูงด้วยการทำให้มีน้อยๆ

เกษตรกรบ้านเราอ่อนแอ เพราะเขาอยากให้อ่อนแอ
ผมจะจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน รัฐยังไม่ช่วยอะไรเลย ให้ดิ้นกันไปเอง แล้วเกษตรกรที่เค้าไม่สะดวกแบบผม ก็คงไม่สะดวกที่จะทำ

ประเทศไทยมีคนที่รวยติดอันดับโลก เยอะกว่าญี่ปุ่น แค่นี้ก็พอจะมองออกใช่มะ ว่าความเหลื่อมล้ำมันมีช่องว่างมากแค่ไหน เทียบจากขนาดเศรษฐกิจของไทยกับยุ่น

ถ้ามีการกระจายรายได้ที่ดี เกษตรกรต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ คนไทยต้องไม่รวยติดอันดับโลกขนาดนั้น คนไทยไม่ได้มีธุรกิจระดับโลก รายได้ส่วนใหญ่มาจากในประเทศ แค่นี้ก็พอจะรู้วช่ไหมว่า กระแสเงินในประเทศไทย ไม่ใช่น้อยๆ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2008
ตอบ: 27702
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 19:43
[RE]เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด
จากที่เคยทำงานและดีลกับบ.ญี่ปุ่นtop10โลก

บอกได้แค่ว่าเค้าวางแผนจะย้ายประเทศนานแล้วครับ

ผมบอกไม่ได้ว่ามีหลักเกณฑ์อะไรบ้างที่ต้องย้าย

และหลักเกณฑ์เะไรบ้างที่ประเทศที่จะไปตั้งโรงงานใหม่ควรมี

เพราะติดconfidential

แต่บอกได้คำเดียว เค้าวางแผนมาเกิน5-10ปีแล้วครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 12467
ที่อยู่: ซายูริคอมเพลกซ์
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 19:47
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ผมว่าจะโทษค่าแรง 300 ก็ไม่ถูก เพราะยังไงค่าแรงมันก็ต้องสัมพันธ์กับอัตราเงินเฟ้ออยู่แล้ว

แล้วคิดดูนะค่าน้ำค่าไฟค่าห้อง วันละ 300 เดือนนึงไม่ได้ทำงานคั้ง 30-31 วัน

สมมติว่าจันทร์-เสาร์ ก็หักไป 4 วันเหลือแค่ 7800 ถามว่าเงินแค่ 7800 จะอยู่ยังไงภายใน 1 เดิือน

ก็อาจะมีส่วนบ้างแต่ต้องยอมรับว่าการเมืองบ้านเรามันไม่ปกติ โครงสร้างพื้นฐานเอย รัฐบาลเอย

มันล้วนแต่มีผลต่อการตัดสินใจอยู่แล้ว ในขณะที่เวียดนามการเมืองนิ่งค่าแรงถูกกว่าจะย้ายก็ไม่แปลก

ทั้งๆที่ประเทศไทยแรงงานมีฝีมือ พูดกับตามตรงว่าน่าลงทุนกว่าประเทศอื่นๆในอาเซียนด้วยซ้ำ

ด้วยระบบสาธารณูปโภคที่พร้อมกว่า
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Feb 2015
ตอบ: 2132
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 19:54
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
เอาจริงๆเรื่องนี้มันสัมพันธ์กันหลายอย่างมากๆ
ประเทศไทยเริ่มมีฐานะดีขึ้นgdpสูงขึ้นจากการเป็นประเทศoem
แต่ความรู้ความสามารถแรงงานกลับไม่มีการพัฒนาตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น
รัฐบาลจะมองแต่gdpไม่ได้นะแทนที่จะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
แต่พัฒนาความสามารถแรงงานสวัสดิการให้ประชาชนที่รับค่าแรงขั้นต่ำจะดีกว่า
บอกเลยลูกน้องที่กิจการครอบครัวผมสมัยเงินเดือน6000อยู่สบายกว่าตอนนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jan 2006
ตอบ: 3615
ที่อยู่: Lasalle
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 20:20
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
mozz พิมพ์ว่า:
ประเทศเราก็จะกลายเป็นประเทศเกษตรกรรมเต็มตัวครับ เศร้า!!  

ฮอลแลนด์ก็ เกษตรเต็มตัวครับ
แต่ใช้สมองทำงาน ไม่พึ่งพาฟ้าฝน โทษนั่นนี่

ท่านทักษิณเป็นคนเอานโยบาย ดึงคนออกจากภาคการเกษตรสู่ภาพอุตสาหกรรม
มีดีมีได้มีเสีย

แต่เกษตรกรส่วนมากเอาง่าย ปลูกเยอะกะว่าหาคนมารับซื้อหน้าไร่ขี้เกียจหาตลาดเองพึ่งแต่รัฐไม่สนกลไกตลาด
ทำดีๆ มีแต่รวยกับรวยครับ โครงการดีๆมีให้เห็นหลายอัน ง่ายๆไปดู โอ้กะจู๋ครับ
ไม่เห็นต้องพึ่งพารัฐเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: เฮ้อ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2014
ตอบ: 16601
ที่อยู่: บนต้นไม้
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 21:17
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ผมมองว่าหลายปัจจัย

- ค่าแรง คือส่วนนึง ที่มีพอจะมีผลชี้วัดความเป็นอยู่ พนง.

- กฏหมายที่เอื้อนายทุนใหญ่ กับผู้ประกอบการ ที่จะมาลงทุนถ้าเงินไม่ถึงก็เตรียมพับเสื่อเก็บไปได้เลย

- ไหนจะค่าอำนวยความสะดวก กระเช้าสวยๆ ทิปเล็กๆน้อยๆ ให้กับแก๊ง....อีก

- การไม่ควบคุมคุณภาพสินค้า ปล่อยให้ใครทำก็ได้ เอาเข้ามาทางไหนก็ได้ อันนี้ก็สำคัญ เอาของคุณภาพห่วยราคาถูกมาตีตลาดกับเจ้าที่ขายอยู่ในไทย อันหลังก็ตายสนิทสิคับ

- การบริหารที่ไม่เป็นของ จนท รัฐ เมื่อ บาง บ. มีปัญหา กลับไม่มีนโยบายที่แน่ชัดในการช่วยเหลือ ซ้ำร้าย ขาดทุนสะสมอีก

แล้วมันก็จะเป็นอย่างที่ เทสโก้ทำอ่ะคับ

ขอเงินก้อน บ. แม่ ตปท. ไล่ปลด พนง. อาวุโส ปรับโครงสร้าง ถ้ายังไม่รอด ก็ปิดหนีไปที่อื่น


ผิดตรงไหนแย้งได้นะคับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 14525
ที่อยู่: ห้ามดีใจ FC
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 21:49
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
Spoil
Kmul พิมพ์ว่า:
Dr.Panda500 พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
คือแต่ก่อนผมเถียงกับขนมหวานในเวปนี้มาก เดี๋ยวนี้ขนมหวานหายไปแต่เหลือพวกเสรีนิยมกดขี่แรงงานเยอะแทน

ข้อแรกคือ ค่าแรงกับผลผลิต รวมทั้ง GDP ที่ผ่านมาหลายสิบปีไม่สัมพันธ์กัน โดยค่าแรงนั้นขึ้นน้อยกว่าพวกที่เหลือมากๆ (แม้จะนับขึ้นค่าแรงสมัยยิ่งลักษณ์ไปแล้ว) ต่อให้เทียบกับเงินเฟ้อยังสู้เงินเฟ้อไม่ได้ นี่มันบ้าไปแล้ว นี่การขึ้นค่าแรงควรจะสัมพันธ์กับ GDP




คราวนี้ ไอ้เรื่องค่าแรงมันไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวในการทำธุรกิจ ไม่งั้นพวกยุโรปก็ไม่มีคนทำธุรกิจในประเทศแล้ว มันยังมีปัจจัยอื่นๆเยอะแยะ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การมีธรรมาภิบาล คุณภาพการศึกษา ซึ่งไปดูประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นไม่ใช่กดค่าแรง แต่คือการพัฒนาด้านอื่นๆต่างหาก

พวกที่คิดว่าค่าแรงขั้นต่ำสูงไป ลองไปทำงานรับค่าแรงขั้นต่ำดูไหมครับ  


ผมเข้าใจถูกมั๊ยครับว่าตามความเห็นท่านคือ ถูกต้องแล้วที่ค่าแรงจะขึ้น คือขึ้นแล้วไม่ได้มีผลกับการปิดตัวของโรงงาน แต่มีปัจจัยอื่นๆมากกว่า  


ถูกแล้วที่ค่าแรงจะขึ้น ใช่ครับ

ส่วนที่มีผลกับการปิดตัวหรือเปล่า ต้องแยกเป็นโรงงานที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้น และที่ใช้แรงงานแบบไม่เข้มข้นครับ

ส่วนที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้น มีผลเยอะแน่นอนครับ เพราะจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งก็มีทางเลือกให้ 2 อย่าง คือการนำเข้าเทคโนโลยี เปลี่ยนการผลิตเป็นแรงงานไม่เข้มข้นมาก หรือจะย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่อื่น ซึ่งตรงนี้รัฐก็มีส่วนที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจปรับไปสู่ธุรกิจที่ใช้แรงงานไม่เข้มข้นครับ
ซึ่งธุรกิจพวกที่ใช้แรงงานเข้มข้นแต่ skill ต่ำ ไม่ได้ทำให้ประเทศพัฒนาไปสู่ประเทศพัฒนาแล้ว และยังเอาเปรียบทำให้คุณภาพชีวิตคนห่วยลงๆ ซึ่งก็เป็นผลจากนโยบายรัฐที่ชอบดึงดูดพวกนี้มานานนั่นแหละครับ

ส่วนพวกที่ใช้แรงงานไม่เข้มข้น อันนี้ผลกระทบต่ำอยู่แล้วครับ

ซึ่งในที่สุด มันมีหลายสิ่งที่รัฐทำได้และดึงดูดธุรกิจมา ตัวอย่างเช่นโครงสร้างพื้นฐานรางรถไฟ ที่จะทำให้ค่าขนส่งถูกลง แต่เราลองดูทางรถไฟในยุโรปที่มีไปทั่ว กับรางรถไฟในไทยสิครับ

อีกตัวอย่าง ก็กฎหมายการทำธุรกิจต่างๆ ที่ของไทยก็โคตรล้าหลังและเอื้อทุนใหญ่ ง่ายๆก็อย่างเช่นเรื่องเบียร์

สรุป ค่าแรงมีผลต่อความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจบางประเภทจริง แต่ธุรกิจพวกนี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น รัฐควรส่งเสริมธุรกิจที่ใช้ skill สูงและธุรกิจเกิดใหม่ และการทำให้การแข่งขันของธุรกิจ Start Up ทั้งหลายนั้นไปได้ แต่ปัญหาคือรัฐทหารมันโง่ และมันก็ไม่ทำแน่ๆเพราะพวกทุนใหญ่ก็พวกสนุบสนุนมันทั้งนั้น  
 


ขอบคุณฮะ ความเห็นท่านนี้ความรู้เน้นๆ เลย ช่วยเปิดมุมมองผมมากครับ

ว่างๆมาตั้งกระทู้อีกนะครับ ผมชอบอ่านเรื่องแบบนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"I come from the 1% but i represent the 99%"

Thanathorn J.
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 14525
ที่อยู่: ห้ามดีใจ FC
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 21:53
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
Fatherblesss พิมพ์ว่า:
ลองมาติดนะครับว่า แรงงานรับแต่ค่าแรงขั้นต่ำเค้าจะใช้ชีวิตอย่างไร

วันละ300เดือนนึงไม่ถึง9000 เพราะมีวันหยุด
ค่าเช่าห้องรวมค่าน้ำค่าไฟ3000
ค่ากินค่าอยู่ค่าเดินทาง มันจะเหลือเก็บเพื่อสร้างอนาคตบั้นปลายชีวิตสักแค่ไหน

เท่าที่เค้ารับอยู่มันก็แร้นแค้นมากพอละ
จะกดค่าแรงไปถึงไหน

ผลผลิตทางการเกษตร จะให้ราคามันตกต่ำไปถึงไหน

ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวมันก็ต้องเก็บ มันล้นตลาดเพราะกลไกการรับซื้อต่างหาก ทุกคนต้องการขายเพราะไม่มีที่เก็บ พ่อค้าจึงสามารถรับซื้อในราคาถูก เพื่อมาขายต่อในราคาแพง เพราะมีโกดังเก็บ

ลองคิดภาพนะ ถ้ารัฐบาลไม่ประกันไม่รับจำนำ แล้วเกษตรกรเลิกผลิตเพราะ ไม่คุ้มทุน จะเกิดอะไร

ผลิตผลทางการเกษตรขาดแคลน ต้องนำเข้า
นำเข้าก็เสียดุลการค้า

ฉะนั้นการมีมากย่อมดีกว่าการมีน้อย พอมีมากรัฐก็ต้องกระจายออกนอกประเทศผ่านg2g

คนที่ทำงานการจัดการ มักจะไม่เข้าใจระบบการผลิต
คิดแต่จะจัดการให้ราคาสูงด้วยการทำให้มีน้อยๆ

เกษตรกรบ้านเราอ่อนแอ เพราะเขาอยากให้อ่อนแอ
ผมจะจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน รัฐยังไม่ช่วยอะไรเลย ให้ดิ้นกันไปเอง แล้วเกษตรกรที่เค้าไม่สะดวกแบบผม ก็คงไม่สะดวกที่จะทำ

ประเทศไทยมีคนที่รวยติดอันดับโลก เยอะกว่าญี่ปุ่น แค่นี้ก็พอจะมองออกใช่มะ ว่าความเหลื่อมล้ำมันมีช่องว่างมากแค่ไหน เทียบจากขนาดเศรษฐกิจของไทยกับยุ่น

ถ้ามีการกระจายรายได้ที่ดี เกษตรกรต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ คนไทยต้องไม่รวยติดอันดับโลกขนาดนั้น คนไทยไม่ได้มีธุรกิจระดับโลก รายได้ส่วนใหญ่มาจากในประเทศ แค่นี้ก็พอจะรู้วช่ไหมว่า กระแสเงินในประเทศไทย ไม่ใช่น้อยๆ  


'มันล้นตลาดเพราะกลไกการรับซื้อต่างหาก'

อยากให้ขยายความตรงนี้นิดนึงครับ คือ ช่วงที่ผลผลิตออกเยอะๆ คนกลาง รับซื้อน้อยใช่มั้ยครับ เพื่อที่ว่าจะกดราคาเกษตรกรได้

ผมชอบฟังอะไรแบบนี้ มันน่าสนใจดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"I come from the 1% but i represent the 99%"

Thanathorn J.
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 14525
ที่อยู่: ห้ามดีใจ FC
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 22:03
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ksanyavises พิมพ์ว่า:
Luxxx พิมพ์ว่า:
ถ้าจะพัฒนาประเทศไม่ว่ารัฐบาลไหนยังไงก็ต้องโดนครับ ที่จริงควรโดนมานานตั้งแต่สมัยยิ่งลักษณ์แล้วด้วย
แค่เวียดนามเค้าพึ่งรู้สึกตัวมาเริ่มขยับแย่งตลาดในยุคนี้ และเรื่องค่าแรงมันก็ต้องปรับขึ้นอยู่แล้วครับ
ดูสิ่งประชาชนต้องแบกรับต่อหัวด้วย ไม่ขึ้นจะอยู่รอดได้ยังไง แล้วจริงๆก็ขึ้นมาก่อนลุงมาแล้ว

ที่ดูจะผิดจริงๆคือคือนโยบายต้องยกระดับได้แล้ว ตอนนี้มันคือยุคเปลี่ยนผ่านบริษัทจะมาตั้งในไทยจะเป็นสินค้าที่ต้องใช้สกิลสูง
และบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการฝีมือขั้นสูงยังอยู่ในไทยนะ แต่ไทยยังไม่มีนโยบายที่ซัพพอร์ตบริษัทใหม่ๆแบบนั้นเลย

ยิ่งทำแบบนี้นานเข้าบ้านเราจะเข้าสู่ทางตันติดกับดักตรงที่ไม่มีนวัตกรรมเป็นของตัวเอง(ซึ่งก็ติดแล้ว)
เวียดนามถ้าเค้าไม่มีแบรนด์หรือนวัตกรรมของตัวเองอีก20-30ปีเค้าก็จะติดกับดักแบบเดียวกับเราเช่นกัน

ลองเทียบจีนก็ได้ดูเหมือนจะนำมานานนะแต่20-30ปีที่แล้วเค้าตามญี่ปุ่นและอยู่ในจุดที่ถึงทางตัน
แต่พอปรับนโยบาย หลุดจุดนั้นได้ก็เพราะนำความรู้ไปใช้ได้แบรนด์แต่ละอย่างที่เกิดมาใน20ปีนี้
มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แม้แต่รถไฟความเร็วสูง เค้าทำได้เองหมดแล้ว และใช้เองด้วย

ส่วนตัวคือต้องเลิกภูมิใจกับการขายข้าวขายหมู หันไปสนใจการทำโครงสร้างพื้นฐานให้ตอบโจทย์สำหรับอุตสาหกรรม
ที่ใช้สกิลขึ้นสูงแล้วเอาความรู้มาสร้างแบรนดสร้างนวัตกรรมของตัวเอง ถึงจะสตาร์ทในระดับที่เหนือขึ้นไปได้

เพราะบริษัทญี่ปุ่นที่ย้ายไปก็เพราะรูปแบบเศรษฐกิจที่นั่นปรับให้รองรับ แต่บ้านเรามันผ่านจุดนั้นไปแล้ว
ไทยควรที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมกับเค้าบ้างแล้ว แต่ก้ยังใช้นโยบายเดิมมา20ปีแล้วคือขายข้าวรอท่องเที่ยว  


เห็นด้วยเลยครับ ถึงแม้ปัญหาการย้ายโรงงานจากบ้านเราไปเพื่อนบ้านจะเกิดจากการขึ้นค่าแรง แต่อีกนัยนึงก็แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจภาพรวมเราดีขึ้น และเห็นด้วยว่าในซักวันหนึ่งยังไงเราก็ต้องขึ้นค่าแรงตามสภาพเศรษฐกิจ

แต่ปัญหาจริงๆผมก็มองเหมือนท่านว่า ในขณะที่บ้านเราแซงหน้าเพื่อนบ้านหลาย 10 ปีแล้วกลับไม่มีการพัฒนานวัตกรรม หรือมีinnovationอะไรเพื่อจูงใจ high skill worker ให้มาทำงานในบ้านเราเลย เราเลยยังติดกับดักรายได้ปานกลางมาจนถึงทุกวันนี้  


เห็นชัดอีกอย่างเลยว่าเราอยู่กับที่มานานมาก ตามไม่ทันโลกที่กำลังเปลี่ยนไป ที่ชัดที่สุดเลยคือ กฏหมายเราล้าหลังกว่าโลกปัจจุบันมาก

ทำให้เราเสียโอกาสไปเยอะ และทำอะไรรัฐก็ไม่ได้ให้การสนับสนุนเท่าที่ควร เวลามีดีลเกิดขึ้นระหว่างประเทศ

คนได้ประโยชน์ก็เป็นพวกมีอำนาจ แต่ประเทศและประชาชนในประเทศไม่ได้ประโยชน์

บางทีผมก็ไม่เข้าใจนะให้ เช่นเรื่อง ให้ GRAB เข้ามาทำตลาดก่อน แล้วค่อยบอกว่า GRAB ผิดกฏหมาย

มันควรจะมีกฏรองรับพวกนี้ก่อนที่จะให้เค้าเข้ามาทำมั้ย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"I come from the 1% but i represent the 99%"

Thanathorn J.
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 3546
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 22:28
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
จะปล่อยให้ค่าแรงขั้นต่ำ บ้านเราต่ำไปตลอดตามที่ต่างชาติต้องการหรอ
เราติดกับดักนี้มานานแล้ว เราต้องเปลี่ยนจากประเทศรับจ้างผลิตไปเป็นเจ้าของนวัตกรรม
ซึ่งก็คือแนวทาง ไทยแลนด์ 4.0 นั่นแหละ
อันนี้ไม่ได้อวยฝั่งรัฐบาลทหารนะ เพราะถึงไม่ใช่รัฐบาลทหาร
รัฐบาลจากปชต.ปกติ ก็ต้องทำให้ไป 4.0 เพื่อสร้างงานให้คนในชาติแทนที่จะพึ่งแต่งานจากต่างชาติ
ไม่งั้นเราก็ติดกับดักนี้ไม่สามารถก้าวข้ามประเทศกำลังพัฒนาไปเป็นประเทศพัฒนาแล้วสักที

ส่วนเวียดนามที่กำลังอวยกัน เดี๋ยวอนาคตเวียดนามก็จะติดกับดักเหมือนเรา ไม่เพิ่มค่าแรงประชาชนก็จนอยู่อย่างนั้น เพิ่มค่าแรงต่างชาติก็หนี ถ้ายังหวังพึ่งแต่งานต่างชาติ
แก้ไขล่าสุดโดย Ki.Snito เมื่อ Tue Nov 03, 2020 22:31, ทั้งหมด 1 ครั้ง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Aug 2008
ตอบ: 1355
ที่อยู่: Ubonrachathani
โพสเมื่อ: Wed Nov 04, 2020 00:15
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ผมเคยอ่านคนวิเคราะห์เรื่องความอิ่มตัวของผู้บริโภคก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งนะ คือไทยมีแนวโน้มการเจริญเติบโตของผู้บริโภคน้อยลง แต่เวียตนามหรืออินโดนีเซียกำลังมีการเติบโตของชนชั้นกลาง จึงมองได้ว่าการบริโภคในอนาคตอันใกล้ก็น่าจะเติบโตดีกว่าไทยแน่ๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"พบกันหนึ่งครั้งครากลางเวหา ประเสริฐกว่านับมิถ้วนในแดนดิน"
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 25382
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Wed Nov 04, 2020 03:38
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
RIDER_V7 พิมพ์ว่า:
Fatherblesss พิมพ์ว่า:
ลองมาติดนะครับว่า แรงงานรับแต่ค่าแรงขั้นต่ำเค้าจะใช้ชีวิตอย่างไร

วันละ300เดือนนึงไม่ถึง9000 เพราะมีวันหยุด
ค่าเช่าห้องรวมค่าน้ำค่าไฟ3000
ค่ากินค่าอยู่ค่าเดินทาง มันจะเหลือเก็บเพื่อสร้างอนาคตบั้นปลายชีวิตสักแค่ไหน

เท่าที่เค้ารับอยู่มันก็แร้นแค้นมากพอละ
จะกดค่าแรงไปถึงไหน

ผลผลิตทางการเกษตร จะให้ราคามันตกต่ำไปถึงไหน

ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวมันก็ต้องเก็บ มันล้นตลาดเพราะกลไกการรับซื้อต่างหาก ทุกคนต้องการขายเพราะไม่มีที่เก็บ พ่อค้าจึงสามารถรับซื้อในราคาถูก เพื่อมาขายต่อในราคาแพง เพราะมีโกดังเก็บ

ลองคิดภาพนะ ถ้ารัฐบาลไม่ประกันไม่รับจำนำ แล้วเกษตรกรเลิกผลิตเพราะ ไม่คุ้มทุน จะเกิดอะไร

ผลิตผลทางการเกษตรขาดแคลน ต้องนำเข้า
นำเข้าก็เสียดุลการค้า

ฉะนั้นการมีมากย่อมดีกว่าการมีน้อย พอมีมากรัฐก็ต้องกระจายออกนอกประเทศผ่านg2g

คนที่ทำงานการจัดการ มักจะไม่เข้าใจระบบการผลิต
คิดแต่จะจัดการให้ราคาสูงด้วยการทำให้มีน้อยๆ

เกษตรกรบ้านเราอ่อนแอ เพราะเขาอยากให้อ่อนแอ
ผมจะจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน รัฐยังไม่ช่วยอะไรเลย ให้ดิ้นกันไปเอง แล้วเกษตรกรที่เค้าไม่สะดวกแบบผม ก็คงไม่สะดวกที่จะทำ

ประเทศไทยมีคนที่รวยติดอันดับโลก เยอะกว่าญี่ปุ่น แค่นี้ก็พอจะมองออกใช่มะ ว่าความเหลื่อมล้ำมันมีช่องว่างมากแค่ไหน เทียบจากขนาดเศรษฐกิจของไทยกับยุ่น

ถ้ามีการกระจายรายได้ที่ดี เกษตรกรต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ คนไทยต้องไม่รวยติดอันดับโลกขนาดนั้น คนไทยไม่ได้มีธุรกิจระดับโลก รายได้ส่วนใหญ่มาจากในประเทศ แค่นี้ก็พอจะรู้วช่ไหมว่า กระแสเงินในประเทศไทย ไม่ใช่น้อยๆ  


'มันล้นตลาดเพราะกลไกการรับซื้อต่างหาก'

อยากให้ขยายความตรงนี้นิดนึงครับ คือ ช่วงที่ผลผลิตออกเยอะๆ คนกลาง รับซื้อน้อยใช่มั้ยครับ เพื่อที่ว่าจะกดราคาเกษตรกรได้

ผมชอบฟังอะไรแบบนี้ มันน่าสนใจดี
 
คนรับซื้อเค้าฮั้วราคา
ทุกเจ้ารับซื้อราคาต่ำหมด พอสินค้าเริ่มล้นราคามันก็ตก พอราคาตก ก็ค่อยไปกว้านซื้อมาให้เต็มโกดัง

เพราะเกษตรกรไม่มีทางเลือก
อย่างจำนำข้าว มันคือนโยบายบีบให้โรงสี รับซื้อในราคาสูง เพราะเกษตรกรมีทางเลือกในการจัดการผลผลิต ช่วงจำนำข้าว ช่วงมัน กก.ละสามบาท เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้เลย ตอนนี้หรอ เหลือ บาทเก้าสิบตัง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 272
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Nov 04, 2020 11:52
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
น้ำแข็งแห้ง พิมพ์ว่า:
ถ้าตอบอย่างเป็นกลาง ค่าแรงขั้นต่ำขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ครับ  


เพิ่มเติมให้ครับ

ค่าจ้างขั้นต่ำ กทม. / วันที่บังคับใช้/ หมายเหตุ
203 / 1-มิ.ย.-51 / ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ฉบับที่ 1
206 / 1-ม.ค.-53 / ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ฉบับที่ 3
215 / 1-ม.ค.-54 / ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ฉบับที่ 5
300 / 1-เม.ย.-55 / ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ฉบับที่ 6 ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
310 / 1-ม.ค.-60 / ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง ฉบับที่ 8

อ้างอิง http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER15/DRAWER057/GENERAL/DATA0000/00000044.PDF



* ในขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำของเวียดนามอยู่ที่ 133-189 บาท/วัน (ข้อมูลปี 62)

ต้นทุนแรงงานต่างกันขนาดนี้ ผู้ประกอบการจะเลือกตั้งโรงงานที่ประเทศไหนล่ะครับ


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel