BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: "ความเงี่ยน" ทำให้เรา "หายง่วง"
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 12986
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:11
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ขอยาด รีเฟอร์บริษัทตัวเองเเล้วกันครับ
1.ค่าเเรงต่างชาติถูกกว่าครับ
2 เหมือนข้อ 1 ครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jan 2008
ตอบ: 10582
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:13
เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด
ลงทุนไม่คุ้มแล้วละในไทย ถ้าระยะยาวเขาหนีไปเวียดนามละ
ในอนาคต 20-30ปีผมเชื่อเลยว่าเราจะนั่งมองเวียดนามเขาพัฒนาแซงเราไป คนไทยก็ได้แต่ภูมิใจอยู่แต่อดีตนี่ละ บอกว่าเขาไม่แซงหน้าเราได้หรอก แต่บอกเลยคนเวียดนามเก่งและขยันเลยละ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

13/9/2012-16/11/2014
3/4/2020-1/5/2020
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: Aimyon
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Feb 2009
ตอบ: 7844
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:19
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
เอาตรงๆก็เพราะค่าแรงครับ มาตราฐานโรงงานมันคุมได้อยู่แล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย sharp91 เมื่อ Tue Nov 03, 2020 17:24, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Aimyon's OFFICIAL SITE / YOUTUBE / TWITTER / INSTAGRAM
____________________________________________________

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8662
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:19
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
เอ๋อคุง พิมพ์ว่า:
ลงทุนไม่คุ้มแล้วละในไทย ถ้าระยะยาวเขาหนีไปเวียดนามละ
ในอนาคต 20-30ปีผมเชื่อเลยว่าเราจะนั่งมองเวียดนามเขาพัฒนาแซงเราไป คนไทยก็ได้แต่ภูมิใจอยู่แต่อดีตนี่ละ บอกว่าเขาไม่แซงหน้าเราได้หรอก แต่บอกเลยคนเวียดนามเก่งและขยันเลยละ  

ไม่ต้องเวียดนามหลอก ตอนนี้เขามองไปที่อินโดละ ค่าแรงถูกพอๆกับพม่า เวียดนาม220 อินโด150
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5312
ที่อยู่: Buzz lightyear of star command
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:21
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ถ้าจะพัฒนาประเทศไม่ว่ารัฐบาลไหนยังไงก็ต้องโดนครับ ที่จริงควรโดนมานานตั้งแต่สมัยยิ่งลักษณ์แล้วด้วย
แค่เวียดนามเค้าพึ่งรู้สึกตัวมาเริ่มขยับแย่งตลาดในยุคนี้ และเรื่องค่าแรงมันก็ต้องปรับขึ้นอยู่แล้วครับ
ดูสิ่งประชาชนต้องแบกรับต่อหัวด้วย ไม่ขึ้นจะอยู่รอดได้ยังไง แล้วจริงๆก็ขึ้นมาก่อนลุงมาแล้ว

ที่ดูจะผิดจริงๆคือคือนโยบายต้องยกระดับได้แล้ว ตอนนี้มันคือยุคเปลี่ยนผ่านบริษัทจะมาตั้งในไทยจะเป็นสินค้าที่ต้องใช้สกิลสูง
และบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการฝีมือขั้นสูงยังอยู่ในไทยนะ แต่ไทยยังไม่มีนโยบายที่ซัพพอร์ตบริษัทใหม่ๆแบบนั้นเลย

ยิ่งทำแบบนี้นานเข้าบ้านเราจะเข้าสู่ทางตันติดกับดักตรงที่ไม่มีนวัตกรรมเป็นของตัวเอง(ซึ่งก็ติดแล้ว)
เวียดนามถ้าเค้าไม่มีแบรนด์หรือนวัตกรรมของตัวเองอีก20-30ปีเค้าก็จะติดกับดักแบบเดียวกับเราเช่นกัน

ลองเทียบจีนก็ได้ดูเหมือนจะนำมานานนะแต่20-30ปีที่แล้วเค้าตามญี่ปุ่นและอยู่ในจุดที่ถึงทางตัน
แต่พอปรับนโยบาย หลุดจุดนั้นได้ก็เพราะนำความรู้ไปใช้ได้แบรนด์แต่ละอย่างที่เกิดมาใน20ปีนี้
มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แม้แต่รถไฟความเร็วสูง เค้าทำได้เองหมดแล้ว และใช้เองด้วย

ส่วนตัวคือต้องเลิกภูมิใจกับการขายข้าวขายหมู หันไปสนใจการทำโครงสร้างพื้นฐานให้ตอบโจทย์สำหรับอุตสาหกรรม
ที่ใช้สกิลสูงขึ้นแล้วเอาความรู้มาสร้างแบรนดสร้างนวัตกรรมของตัวเอง ถึงจะสตาร์ทในระดับที่เหนือขึ้นไปได้

เพราะบริษัทญี่ปุ่นที่ย้ายไปก็เพราะรูปแบบเศรษฐกิจที่นั่นปรับให้รองรับ แต่บ้านเรามันผ่านจุดนั้นไปแล้ว
ไทยควรที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมกับเค้าบ้างแล้ว แต่ก้ยังใช้นโยบายเดิมมา20ปีแล้วคือขายข้าวรอท่องเที่ยว
แก้ไขล่าสุดโดย Luxxx เมื่อ Tue Nov 03, 2020 18:38, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 556
ที่อยู่: stamford bridge
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:28
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
Luxxx พิมพ์ว่า:
ถ้าจะพัฒนาประเทศไม่ว่ารัฐบาลไหนยังไงก็ต้องโดนครับ ที่จริงควรโดนมานานตั้งแต่สมัยยิ่งลักษณ์แล้วด้วย
แค่เวียดนามเค้าพึ่งรู้สึกตัวมาเริ่มขยับแย่งตลาดในยุคนี้ และเรื่องค่าแรงมันก็ต้องปรับขึ้นอยู่แล้วครับ
ดูสิ่งประชาชนต้องแบกรับต่อหัวด้วย ไม่ขึ้นจะอยู่รอดได้ยังไง แล้วจริงๆก็ขึ้นมาก่อนลุงมาแล้ว

ที่ดูจะผิดจริงๆคือคือนโยบายต้องยกระดับได้แล้ว ตอนนี้มันคือยุคเปลี่ยนผ่านบริษัทจะมาตั้งในไทยจะเป็นสินค้าที่ต้องใช้สกิลสูง
และบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการฝีมือขั้นสูงยังอยู่ในไทยนะ แต่ไทยยังไม่มีนโยบายที่ซัพพอร์ตบริษัทใหม่ๆแบบนั้นเลย

ยิ่งทำแบบนี้นานเข้าบ้านเราจะเข้าสู่ทางตันติดกับดักตรงที่ไม่มีนวัตกรรมเป็นของตัวเอง(ซึ่งก็ติดแล้ว)
เวียดนามถ้าเค้าไม่มีแบรนด์หรือนวัตกรรมของตัวเองอีก20-30ปีเค้าก็จะติดกับดักแบบเดียวกับเราเช่นกัน

ลองเทียบจีนก็ได้ดูเหมือนจะนำมานานนะแต่20-30ปีที่แล้วเค้าตามญี่ปุ่นและอยู่ในจุดที่ถึงทางตัน
แต่พอปรับนโยบาย หลุดจุดนั้นได้ก็เพราะนำความรู้ไปใช้ได้แบรนด์แต่ละอย่างที่เกิดมาใน20ปีนี้
มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แม้แต่รถไฟความเร็วสูง เค้าทำได้เองหมดแล้ว และใช้เองด้วย

ส่วนตัวคือต้องเลิกภูมิใจกับการขายข้าวขายหมู หันไปสนใจการทำโครงสร้างพื้นฐานให้ตอบโจทย์สำหรับอุตสาหกรรม
ที่ใช้สกิลขึ้นสูงแล้วเอาความรู้มาสร้างแบรนดสร้างนวัตกรรมของตัวเอง ถึงจะสตาร์ทในระดับที่เหนือขึ้นไปได้

เพราะบริษัทญี่ปุ่นที่ย้ายไปก็เพราะรูปแบบเศรษฐกิจที่นั่นปรับให้รองรับ แต่บ้านเรามันผ่านจุดนั้นไปแล้ว
ไทยควรที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมกับเค้าบ้างแล้ว แต่ก้ยังใช้นโยบายเดิมมา20ปีแล้วคือขายข้าวรอท่องเที่ยว  


เห็นด้วยเลยครับ ถึงแม้ปัญหาการย้ายโรงงานจากบ้านเราไปเพื่อนบ้านจะเกิดจากการขึ้นค่าแรง แต่อีกนัยนึงก็แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจภาพรวมเราดีขึ้น และเห็นด้วยว่าในซักวันหนึ่งยังไงเราก็ต้องขึ้นค่าแรงตามสภาพเศรษฐกิจ

แต่ปัญหาจริงๆผมก็มองเหมือนท่านว่า ในขณะที่บ้านเราแซงหน้าเพื่อนบ้านหลาย 10 ปีแล้วกลับไม่มีการพัฒนานวัตกรรม หรือมีinnovationอะไรเพื่อจูงใจ high skill worker ให้มาทำงานในบ้านเราเลย เราเลยยังติดกับดักรายได้ปานกลางมาจนถึงทุกวันนี้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
“You see, Doctor, God didn't kill that little girl. Fate didn't butcher her and destiny didn't feed her to those dogs. If God saw what any of us did that night he didn't seem to mind. From then on I knew... God doesn't make the world this way. We do.”

― Alan Moore, Watchmen
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Jun 2020
ตอบ: 2101
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:37
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
รัฐก็ลองส่งเสริมอุตสาหกรรมหนัง AV ดู แรงงานชายไทยน่าจะมีงานทำ ค่าน้ำก็ไม่แพงเท่าญี่ปุ่นแน่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 24648
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:37
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ผมเห็นด้วยกับที่เพิ่มรายได้ขั้นต่ำนะ ต่อให้โรงงานผลิตจะไป แต่เราต้องค่อยๆพัฒนาอย่างอื่นขึ้นมาทดแทน

เราอยากเป็นประเทศพัฬนาแล้วแบบ ญป เกาหลี สิงคโปร

ประเทศพวกนี้มันไม่ได้ย่ำอยุ่กับค่าแรงขั้นต่ำนะ

ค่าแรงขั้นต่ำมันเหมือนกับนโยบาย พอเพียงอะ ต่ำๆไว้

คนรวยเค้าไม่ได้สนตรงนั้น เค้าสนที่ว่าลงทุนไปแล้วมันจะเติบโตยังไง

คิดดู 711 ก้ได้ ถ้าเค้ามัวแต่คิดสูสีกับโชวห่วยเมื่อก่อน ประหยับนู่นนี่นั่น มันจะมาไกลขนาดนี้มั๊ย

มันทำสวนทางเลย ติดไฟไปเลย 100ดวง ติดแอร์ เอาให้ยับๆ เนี่ยวิธีคิดของผุ้บริหาร
แก้ไขล่าสุดโดย a.Raptor v.10 เมื่อ Tue Nov 03, 2020 17:42, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 11725
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:38
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
แต่ละคน แซะแต่เรื่องค่าแรง ผมคนอยู่ในวงการ รู้จักพวกเจ้าของโรงงานเยอะ พวกญี่ปุ่น-ฝรั่งก็เยอะ เหตุผลจริงๆ มันมากกว่านั้นครับ

1. ค่าแรง อันนี้ทุกคนรู้กันดีว่ามันสูงขึ้น หลายบริษัทที่คิดว่าจะปิดตัวลงแต่กลับกัน เค้าหางานอื่นมาลงแทน งานที่ใช้แรงงานน้อยลง ใช้ระบบ automation มากขึ้น ส่วนงานที่ใช้คนเยอะๆ เค้าก็ย้าย แน่นอนคนตกงานมากขึ้น คนภายนอกอาจเห็นว่าบริษัทไปไม่รอด ที่ไหนได้กำไรเยอะกว่าเดิมเพราะต้นทุนลดเยอะ

2. ผังเมือง อันนี้โคตรเป็นปัญหา เป็นกับทุกจังหวัดด้วย เวลาประชุมสภาอุตสาหกรรมทุกจังหวัดพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่ามีปัญหากับผังเมือง คือมันไม่มีความชัดเจน ขีดมา 2-3 ปีแล้วก็ไม่เสร็จซักที พอจะคลอดออกมาทำประชาพิจารณ์ก็ไม่ผ่านก็ต้องกลับไปแก้ใหม่อีกเป็นปี พอผ่านเข้าส่วนกลาง กฎกระทรวงฉบับใหม่ออกมาเฉย สุดท้ายก็ไม่เสร็จ ถามว่าเป็นปัญหายังไง หลายบริษัทในต่างประเทศอยากย้ายมาไทย แต่ติดเรื่องนี้แหละ หาที่ลงไม่ได้ อะไรก็ไม่ชัดเจน ส่วนบริษัทที่มีอยู่แล้วอยากขยายก็กลัวมีปัญหาอีก (พวกต่างชาติไม่ค่อยอยากมาทำแบบผิดกฏหมายหรอก) สุดท้ายก็ย้ายไปลงประเทศอื่น ผมรู้ว่ามีบริษัทขนาดใหญ่มาหาที่ซื้อ แต่จะซื้อดันเป็นสีเขียว คนขายก็ยืนยันว่าในอนาคตจะเป็นสีม่วงเพราะมีร่างมาแล้ว แต่มันไม่ประกาศใช้ซักทีไง จนสุดท้ายก็ย้ายไปเวียดนาม

3. บริษัทญี่ปุ่นโดนได้รับการอุดหนุนในการตั้งโรงงานในประเทศ อันนี้ตามนโยบายรัฐบาลเค้าเลย ต้องการดึงโรงงานกลับ

4. สิทธิการค้า อันนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น บริษัทต่างประเทศนำเข้าสินค้าจากไทย แพงกว่าที่จำนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น โดนเป็นผลเรื่องของภาษี เช่นโดนตัดสิทธิ GSP

5. ญี่ปุ่นเปลี่ยนแนวทางการผลิต บริษัทญี่ปุ่นเริ่มที่จะทำเหมือนอเมริกามากขึ้น คือจ้างผลิตแล้วแปะแบรนด์ โดยตัวเองมีหน้าที่ออกแบบ จึงไม่จำเป็นต้องเปิดโรงงานใหม่ เทรนด์นี้เริ่มเกิดขึ้นในยุคหลังๆ เนื่องจากสินค้าในปัจจุบันเปลี่ยนค่อนข้างไว การทำแบบนี้จะประหยัดต้นทุนกว่าในระยะยาว

6. อื่นๆ เพียบ ผมเคยไปแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องนี้มา นั่งคุยกันตั้งแต่กลางวันยันมืดยังไม่จบเลย

ไม่มีประเทศไหนที่เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วค่าแรงไม่เพิ่มหรอก มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือกับมันยังไง ดูอย่างจีนเป็นตัวอย่าง ค่าแรงเค้าตอนนี้มากกว่าเราแล้ว แต่เค้าก็ยังได้ชื่อว่าเป็นโรงงานของโลกอยู่ ทำไมละ เค้ามีการประยุกต์เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุน ตอนนี้มีสองทางรอดของธุรกิจไทยคือ 1. ใช้เงินลงทุนในการลดต้นทุน หรือ 2. ย้ายฐานการผลิต เหมือนที่ญี่ปุ่นเคยทำ
13
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 May 2007
ตอบ: 5172
ที่อยู่: Mad City
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:40
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
Luxxx พิมพ์ว่า:
ถ้าจะพัฒนาประเทศไม่ว่ารัฐบาลไหนยังไงก็ต้องโดนครับ ที่จริงควรโดนมานานตั้งแต่สมัยยิ่งลักษณ์แล้วด้วย
แค่เวียดนามเค้าพึ่งรู้สึกตัวมาเริ่มขยับแย่งตลาดในยุคนี้ และเรื่องค่าแรงมันก็ต้องปรับขึ้นอยู่แล้วครับ
ดูสิ่งประชาชนต้องแบกรับต่อหัวด้วย ไม่ขึ้นจะอยู่รอดได้ยังไง แล้วจริงๆก็ขึ้นมาก่อนลุงมาแล้ว

ที่ดูจะผิดจริงๆคือคือนโยบายต้องยกระดับได้แล้ว ตอนนี้มันคือยุคเปลี่ยนผ่านบริษัทจะมาตั้งในไทยจะเป็นสินค้าที่ต้องใช้สกิลสูง
และบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการฝีมือขั้นสูงยังอยู่ในไทยนะ แต่ไทยยังไม่มีนโยบายที่ซัพพอร์ตบริษัทใหม่ๆแบบนั้นเลย

ยิ่งทำแบบนี้นานเข้าบ้านเราจะเข้าสู่ทางตันติดกับดักตรงที่ไม่มีนวัตกรรมเป็นของตัวเอง(ซึ่งก็ติดแล้ว)
เวียดนามถ้าเค้าไม่มีแบรนด์หรือนวัตกรรมของตัวเองอีก20-30ปีเค้าก็จะติดกับดักแบบเดียวกับเราเช่นกัน

ลองเทียบจีนก็ได้ดูเหมือนจะนำมานานนะแต่20-30ปีที่แล้วเค้าตามญี่ปุ่นและอยู่ในจุดที่ถึงทางตัน
แต่พอปรับนโยบาย หลุดจุดนั้นได้ก็เพราะนำความรู้ไปใช้ได้แบรนด์แต่ละอย่างที่เกิดมาใน20ปีนี้
มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แม้แต่รถไฟความเร็วสูง เค้าทำได้เองหมดแล้ว และใช้เองด้วย

ส่วนตัวคือต้องเลิกภูมิใจกับการขายข้าวขายหมู หันไปสนใจการทำโครงสร้างพื้นฐานให้ตอบโจทย์สำหรับอุตสาหกรรม
ที่ใช้สกิลขึ้นสูงแล้วเอาความรู้มาสร้างแบรนดสร้างนวัตกรรมของตัวเอง ถึงจะสตาร์ทในระดับที่เหนือขึ้นไปได้

เพราะบริษัทญี่ปุ่นที่ย้ายไปก็เพราะรูปแบบเศรษฐกิจที่นั่นปรับให้รองรับ แต่บ้านเรามันผ่านจุดนั้นไปแล้ว
ไทยควรที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมกับเค้าบ้างแล้ว แต่ก้ยังใช้นโยบายเดิมมา20ปีแล้วคือขายข้าวรอท่องเที่ยว  


เห็นด้วยกับท่านมากๆ ครับ แต่มันจะยากตรงที่ประชาชนเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงมากๆ อย่างเช่น ปลูกอะไร ก็จะปลูกอยู่อย่างนั้น หรือ สินค้าไหนดี ก็จะเฮโลกันไปทำธุรกิจ หรือปลูกสินค้านั้น กลไกการตลาดมันขึ้นกับ Demand/Supply อยู่แล้ว มีเยอะ ราคามันก็ต้องตก วนลูปไป

ที่สำคัญอีกอย่างคือเลือกงานนี่แหละ อย่าว่าแต่ธุรกิจทั่วๆ ไปเลย งานสำนักงานที่ยังต้องใช้คน หรือที่เป็นงาน Routine ก็จะไม่มีคนทำงานละเนี่ย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1582
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:49
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ปัญหาจริงๆ คือ คุณภาพแรงงานโดยรวมไม่คุ้มกับค่าแรงก็แค่นั้นแหละ เศรษฐกิจมันขับเคลื่อนด้วยเงินเฟ้ออ่อนๆ ยังไงค่าแรงมันก็ขึ้นอยู่แล้ว แล้วแต่ว่ารัฐบาลไหนจะเอามาหาเสียง

ถ้าราคาสินค้าขึ้นไม่ทันกับต้นทุนเขาก็ย้ายฐานการผลิต อันนี้เขาน่าจะเล็งมานานแล้ว แต่มันต้องใช้เวลาย้าย ส่วนเราก็เปิดรับงานที่มีทักษะเพิ่มขึ้น หรือคิดทำนวตกรรมใหม่ๆ เอง แต่ไม่มีไง เพราะความสามารถแรงงานมันไม่ถึง ติดกับดักตัวเองทั้งนั้น ซึ่งคนไม่ติดก็มี เพราะความสามารถเขาถึง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Wildly-Vet
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 8648
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 17:59
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
Kmul พิมพ์ว่า:
คือแต่ก่อนผมเถียงกับขนมหวานในเวปนี้มาก เดี๋ยวนี้ขนมหวานหายไปแต่เหลือพวกเสรีนิยมกดขี่แรงงานเยอะแทน

ข้อแรกคือ ค่าแรงกับผลผลิต รวมทั้ง GDP ที่ผ่านมาหลายสิบปีไม่สัมพันธ์กัน โดยค่าแรงนั้นขึ้นน้อยกว่าพวกที่เหลือมากๆ (แม้จะนับขึ้นค่าแรงสมัยยิ่งลักษณ์ไปแล้ว) ต่อให้เทียบกับเงินเฟ้อยังสู้เงินเฟ้อไม่ได้ นี่มันบ้าไปแล้ว นี่การขึ้นค่าแรงควรจะสัมพันธ์กับ GDP




คราวนี้ ไอ้เรื่องค่าแรงมันไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวในการทำธุรกิจ ไม่งั้นพวกยุโรปก็ไม่มีคนทำธุรกิจในประเทศแล้ว มันยังมีปัจจัยอื่นๆเยอะแยะ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การมีธรรมาภิบาล คุณภาพการศึกษา ซึ่งไปดูประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นไม่ใช่กดค่าแรง แต่คือการพัฒนาด้านอื่นๆต่างหาก

พวกที่คิดว่าค่าแรงขั้นต่ำสูงไป ลองไปทำงานรับค่าแรงขั้นต่ำดูไหมครับ  


ผมเข้าใจถูกมั๊ยครับว่าตามความเห็นท่านคือ ถูกต้องแล้วที่ค่าแรงจะขึ้น คือขึ้นแล้วไม่ได้มีผลกับการปิดตัวของโรงงาน แต่มีปัจจัยอื่นๆมากกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


#ForzaMilan #ฉันภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ ๙
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2005
ตอบ: 2338
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 18:03
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
เวลาหมุนไป มานั่งง้อโรงงานญี่ปุ่นไปอีกพันปีไม่ได้

เปรียบกับทรัพยากรหมดไปตามเวลา น้ำมันหมด ก็ต้องหาอย่างอื่นใช้

มีเวลาให้ใช้น้ำมันมาตั้งนานต้องเอาไปต่อยอด เมื่อถึงเวลามันหมด ไม่ใช่มานั่งยกน้ำมันคือหยดน้ำแห่งชีวิต

กลัวคนลำบากไม่มีน้ำมันใช้ไม่ได้ เพราะ โลกมันขยับเขยื้อน กฏของเวลา สัจธรรมแท้ๆ

คำถามคือ ได้ค่าแรงเพิ่มมันก็ดีอยู่แล้ว แต่ทำไมในความเป็นจริงเราต้องง้อโรงงานญี่ปุ่น ไม่สามารถไหลไปตามเวลา เพราะ....? ปลายเปิด

แก้ไขล่าสุดโดย santi เมื่อ Tue Nov 03, 2020 18:16, ทั้งหมด 3 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
OkP
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 21073
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 18:11
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
ผมคิดว่าควรมีสินค้าแบรนด์ไทยเอง มารับรองงานคนไทยมากขึ้นตั้งนานแล้วอะ

เหมือนเราพึ่งพาแต่ติดการผลิตให้แบรนด์ชาติอื่นอย่างเดียว แต่แบรนด์ตัวเองแทบไม่มี

พอค่าแรงขึ้นตามกาลเวลา เขาก็ต้องไป เราเลยเคว้งเลย

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Oct 2020
ตอบ: 884
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Nov 03, 2020 18:15
ถูกแบนแล้ว
[RE: เพราะเหตุใดโรงงานญี่ปุ่นจึงทยอยปิด]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
ผมเห็นด้วยกับที่เพิ่มรายได้ขั้นต่ำนะ ต่อให้โรงงานผลิตจะไป แต่เราต้องค่อยๆพัฒนาอย่างอื่นขึ้นมาทดแทน

เราอยากเป็นประเทศพัฬนาแล้วแบบ ญป เกาหลี สิงคโปร

ประเทศพวกนี้มันไม่ได้ย่ำอยุ่กับค่าแรงขั้นต่ำนะ

ค่าแรงขั้นต่ำมันเหมือนกับนโยบาย พอเพียงอะ ต่ำๆไว้

คนรวยเค้าไม่ได้สนตรงนั้น เค้าสนที่ว่าลงทุนไปแล้วมันจะเติบโตยังไง

คิดดู 711 ก้ได้ ถ้าเค้ามัวแต่คิดสูสีกับโชวห่วยเมื่อก่อน ประหยับนู่นนี่นั่น มันจะมาไกลขนาดนี้มั๊ย

มันทำสวนทางเลย ติดไฟไปเลย 100ดวง ติดแอร์ เอาให้ยับๆ เนี่ยวิธีคิดของผุ้บริหาร
 


จริงครับ มันต้องคิดอีกมุมแบบนี้บ้าง อันนี้ผมเห็นด้วยกับลูปแรปนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel