เรื่องแต่งงานมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคน2คนครับ มันมีเรื่องผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวด้วย แต่โชคดีของผมที่ทางบ้านแฟนไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก ส่วนงานแต่งผมจัดการเองทั้งหมดครับ บวกลบซองแล้วเท่าทุนถือว่าโอเคครับ 55

ที่สำคัญคือเรื่องความรู้สึกระหว่างกัน ถ้าทางครอบครัวแฟนเรียกร้องเยอะแต่แฟนเข้าใจเรา มันยังพอหาวิธีแก้ไขกันได้ แต่ถ้าแฟนมาแท้กทีมครอบครัวช่วยกันเรียกร้องเองด้วย อันนี้เลิกเถอะ

การแต่งงานเป็นเรื่องของความรวย
เพื่อนร่วมงาน

ผช:พนักงานราชการ
ผญ:พนักงานราชการ

แอบมาเอากันจนได้ลูกแล้ว 1 คน ฝั่ง ผญ ขอสินสอด 2 ล้านแบบไม่คืน โดยให้เหตุผลว่า ลูกสาวเขาเป็นพนักงานราชการ เป็นคุณครู เป็นวิชาชีพชั้นสูง และ มีเกียรติ แต่ถูกทำลายเกียรติเพราะความ เ..น ฉะนั้นจำเป็นต้อง สินสอดสูง เพื่อให้สมเกีัยรติ


ปัจจุบัน ต้องขอประนอมหนี้สิน เดือนชนเดือนไป

จิงๆเรื่องนี้ อยู่ที่คุยกัน แต่ฝ่าย ญ เค้าอาจจะยึดติดธรรมเนียมค่านิยม ฝ่าย ช ต้องจัดการเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าต้องการอยู่ใช้ชีวิตกับเราจิงๆ ก็ควรช่วยๆกัน ให้มันถึงเป้าหมายเร็วขึ้น อย่างไงเอาใจช่วยนะครับ

ของผมรับผิดชอบสินสอด แฟนผมรู้ดีว่าผมแอนตี้ธรรมเนียมบ้าๆบอๆนี่มาก ก็เลยไปคุยกับแม่ว่าจะขอคืนแล้วให้ทอง
ซึ่งแม่ยายผมก็ไม่มีปัญหา ทุกวันนี้ก็มาเลี้ยงหลานที่บ้านผมอยู่ด้วยกันแบบสบายใจ

เงินจัดงาน+อื่นๆ แฟนผมช่วยกับผมคนละ 2 แสน แหวน ทอง ก็ไปเดินซื้อด้วยกัน
ย้อนไปวันแรกที่คบกันและหลังจากนั้นตลอดมาเค้าก็ไม่เคยยอมให้ผมเลี้ยงเวลาไปเดท

จะใช้ชีวิตร่วมกันทั้งทีถ้าเริ่มต้นแบบนี้เอาจริงๆผมก็ไม่เอานะ หลังแต่งงานแล้วความรักแค่ 20%
แทนที่จะได้ครอบครัวที่ดีระวังจะได้ปลิงมาแทนนะฮะ

ผมเหมือนท่านเลย ทำเอาเครียดละท้อเลย ไม่อยากทำไร

ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว
ตังค์ใคร ใครก็หวง

ถ้าไม่รวย ก็ช่วยกันเก็บทุกอย่างแหละ เคลียไม่ลงก็ไม่ต้องแต่ง

งานในฝันของผมเลยแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะพ่อผมชอบไปช่วยงานเค้าเยอะแยะ
แล้วเคยแบบจัดงานแค่ทำบุญบ้านเฉยๆไม่ชวนคนเยอะคือโดนต่อว่าเยอะมาก
สุดท้ายวันแต่งงานก็เลยต้องตามนิยม "จำป้า จำลุง ได้มั้ยลูก" เค้าเอ็นดูเราแต่เราจำไม่ได้ซักคน

แต่รุ่นลูกผมก็คงทำได้แหล่ะ เพราะผมก็ค่อนข้างสันโดษไม่ค่อยยุ่งกับญาติๆ

ของผมโชคดีครับ ทุกฝ่ายคุยกันลงตัว

ไม่มีสินสอดใดๆ ตอนนั้นซื้อบ้านพอดี ทางครอบครัวของแฟน ขอมาทำบุญบ้าน
เสร็จแล้วมีพิธีผูกข้อมือเล็กๆ ในครอบครัว

ทุกอย่าง Happy ครับ

ไม่มีถูก ไม่มีผิด เพราะเป็นเรื่องของครอบครัวของคนสองคน

ถ้าฝ่ายหญิงเค้า expect ว่า คุณต้องมีเงินมาขอเค้านะ บ้านฝ่ายหญิงก็คาดหวังว่าคุณจะมาขอลูกสาว จัดงานเลี้ยงใหญ่โตมันก็คือเรื่องที่เค้าคาดหวังไง คู่อื่นก็มีเยอะแยะที่ฝ่ายชายเค้าทำให้ได้ทุกอย่าง บ้านฝ่ายหญิงจะคาดหวังก็ไม่ผิดอะไร

แต่ถ้าคุณมองว่าเงินไม่พอหรอก และอยากให้ช่วยกันถ้าหากจะแต่งจริง

มันก็คือคิดต่างกันไง ก็ลองคุยกันดูในรายละเอียดก่อนถ้าหากอยากแต่งจริงๆ แล้วก็ดูว่าจะออกมาแบบไหน ไม่ใช่เน้นมโนเอาตามเทพนิยายเจ้าชายเจ้าหญิงหรือนิยายน้ำเน่าขายฝันอย่างเดียว ถ้าเค้าไม่เปลี่ยนแปลงความคิดเค้าและคุณรักเค้ามาก ก็พยายามครับ ทำงานให้หนักขึ้น หาเงินไปแต่งเค้า หรือถ้าฝ่ายหญิงรักคุณมากพอที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เค้าก็อาจจะตกลงเก็บเงินแต่งงานร่วมกันก็ได้ หรือไม่ก็ต่างฝ่ายต่างไม่พยายามที่จะเปลี่ยนอะไร นั้นก็คือ เข้ากันไม่ได้ ก็ตัดสินใจเลิกกันแต่เนิ่นๆจะดีกว่าเสียเวลายื้อต่อไปนะ เพราะเป้าหมายต่างกัน ความคาดหวังต่างกัน เดี๋ยวถึงเวลาก็จะผิดหวังกันซะเปล่าๆ

ผมก็คุยกับแฟนเรื่องนี้นะ บอกเลยเอาสินสอดไปขอได้ เป็นล้านก็จะหาให้ แต่ขอคืนทุกบาททุกสตางค์มาเป็นเงินทุนในชีวิตคู่นะ จะเอาไปดาวท์บ้านหรือจะเก็บไว้ในบัญชีคู่ก็ได้ แต่ไม่ใช่หามาเท่าไหร่ ก็ยกให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงหมด แบบนี้ผมไม่เอา ซึ่งฝ่ายหญิงก็บอกว่าทางบ้านเค้าไม่ยอม จะต้องได้สินสอดเท่านั้นถึงจะให้แต่ง ผมก็บอกเลยว่าไม่โอเคร และจะไม่แต่งด้วย condition นี้เด็ดขาด ถ้าฝ่ายหญิงอยากจัดงานแต่งงาน ถ้าครอบครัวไม่ยอมรับ ก็แต่งกันสองคนก็ได้ ที่ฮาวายก็มีโรงแรมรับจัดงานเล็กๆแบบไม่ต้องมีแขกอยู่ มีโบสถ์พร้อม มีวงดนตรี มีคนจัดงาน ผมพาไปแต่งได้เลย แต่แฟนก็บอกว่าไม่อยากหักหน้าครอบครัว แต่สุดท้ายคือยังรักกันอยู่แหละ ก็เลยลงตัวว่าอยู่กันไปอย่างนี้ ไม่ต้องแต่งงานก็ได้เพราะมันไม่ลงตัว คู่ผมจบแบบนี้ ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายดั่งที่ผู้หญิงฝัน แต่ก็ลงตัวกันแบบนี้ เราก็ดูแลเค้าในเรื่องอื่นๆชดเชยเรื่องนี้แทนไป

ผมชอบแบบนี้มากเลย
ล่าสุดที่เห็น ก็ในหนัง About Time ที่กลางงานฝนตก วิ่งหลบฝนกันแทบไม่ทัน 5555

มันกันเองดี ไม่มีความทอแลมาเจือปน (อาจจะมีบ้างแหล่ะ, แต่มันไม่เป็นประเด็น)

นั่ง ๆ ในห้องหรือกลางสนามรอเวลากัน
ซักพัก เจ้าภาพ ลุกขึ้น เอาช้อนเคาะแก้วเป็นสัญญาณ
แล้วทุกคนก็เงยหน้าฟัง ที่มีคนมาพูดเผา เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ให้ฟังฮา ๆ

โคตรเรียบง่าย แต่ได้ใจ
ไม่ต้องมีสินสอด


หากจะถามว่า การมีสินสอดคือค่าเลี้ยงดูของฝ่ายหญิง
อยากจะถามกลับว่า แล้วเจ้าบ่าวมันเกิดจากกระบอกไม้ไผ่ ออกมาโตเลย ว่างั้น ???

แล้วแต่คนอ่ะผมว่า

ของผมเก็บเอง ออกเองหมด แต่ก็ได้คืนทั้งหมดเช่นกัน พ่อแม่เค้าไม่เก็บไว้เลย

ผมว่าการเก็บเองมันก็เป็นหลักประกันให้พ่อแม่เจ้าสาวเค้าเห็นว่าเราดูแลลูกเค้าได้ และมั่นคงประมาณนึงนะ

สมมุติผมมีลูกสาว ผมก็คิดนะ

ของผมสี่แสน ทองสี่บาท พ่อ-แม่เขาเรียกเป็นพิธี แต่งเสร็จคืนให้ครบทุกบาท เพราะผมบอกว่าไปกู้เขามา ซึ่งก็กู้มาจริงๆ เงินซองได้เฉพาะงานผู้ใหญ่(จัดแบบจีน)ให้ครอบครัวฝ่ายหญิงหมด(เขาก็คืนมาให้อีก) งานฉลองกับเพื่อนๆตอนกลางคืนบอกไม่รับซอง แต่รับตุ๊กตาจะเอาไปบริจาค ผมว่ามันแล้วแต่ว่าเราเจอแบบไหน

เข้าไปอ่านกระทู้ในพันทิปผมเซอร์ไพร์อย่างนึง ถ้าเป็นเมื่อก่อนกระทู้แนวนี้มักจะเจอพวกผู้หญิง(หัวมนุษย์ป้า)มาเม้นทำนองไม่เห็นด้วยเยอะ บางคนบอกผู้ชายไม่ได้เรื่องนู้นนี่

แต่เมื่อกี้ที่เข้าไปอ่านเหมือนหลายคนมีทัศนคติที่ดีนะ งี้ความหวังผมก็เริ่มมา

เพราะผมค่อนข้างแอนตี้ผู้หญิงที่มีทัศนคติเรื่องนี้มาก

ชีวิตคู่ในความหมายผมมันไม่ใช่แบบนี้อ่ะ สินสอดห่าไรเนี่ยอะไรก็ไม่รู้

สมัยก่อนผู้หญิงแต่งงานมันต้องเข้ามาอยู่บ้านสามี ดูแลทั้งสามีและแม่สามี พูดง่ายๆก็คือซื้อตัวผู้หญิงมาคอยดูแลปรนนิบัติบ้านฝ่ายชายนั่นแหละ พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็เก็บเงินสินสอดไว้ดูแลตัวเองยามแก่เฒ่า แต่สมัยนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ก็ควรปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย

เพียบเลยครับ เดี๋ยวนี้ ผญ ทำงานได้เงินต้องส่งเข้ากงสีบ้าน ผช ก็ยังมีเลย
จะส่งกลับบ้านให้พ่อแม่ตัวเองก็ต้องขอจากฝ่ายชาย