รอบ 2 คือรอบโควต้า(ส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างจังหวัด) รอบ 3 คือรอบรับตรง ใช้เกณฑ์มหาลัยเป็นหลัก ส่วนรอบ 4 เป็นรอบ Admission ใช้เกณฑ์ ของทปอ. เด็กอาจจะ ไม่พอใจรอบ 3 เลยมารอบ 4 แทนครับ (รอบ4ก็ไม่ได้แย่ เพราะถ้าติดคะแนนก็สูงใช้ได้ เนื่องจากรอบนี้มีเกรดกับ onet มาคิด เด็กอาจจะคะแนนดีในส่วนนี้เลยมารอบ4) ซึ่งจากที่เด็กบอก คืออยู่ๆแม่ก็เปลี่ยนเองโดยไม่มีการปรึกษาสักคำ เพราะการยืนยันสิทธิ์จะยืนยันได้เพียง 3 ครั้ง ถ้าครบจะไม่สามารถเปลี่ยนได้อีก รอบที่แย่จริงๆคือ รอบ5 ครับ เป็นรอบที่จะเอาที่เหลือจริงๆ เด็กคะแนนสูงจะไม่หลุดมารอบนี้แน่

ไม่ว่าจะเลือกผิดหรือเลือกถูก เด็กควรจะเป็นคนเลือกเอง แล้วรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง

พ่อแม่ควรอยู่ในส่วนให้คำแนะนำก็พอ ในส่วนการตัดสินใจ ลูกควรทำเอง

ไม่งั้นเด็กก็จะไม่รู้จักโต

ถ้ารอบ​ 2-3​ ไม่ติดแล้วรอบนี้ได้คณะที่แม่เลือกแสดงว่ามีโควตาสละสิทธิ์อยู่ก็อาจจะใช้ได้แต่ถ้าไม่มีแล้วแสดงว่าใช้ไปรอบ​ 1-3 แสดงว่าแม่คงเริ่มไม่เชื่อใจในลูกแล้วจริงๆอยากได้ข้อมูลมากกว่านี้ผมก็มั่วๆไปงั้นแหละ

ถ้าดูจากข้อมูล TCAS ปัจจุบัน ผมมองว่า รอบ 1-2 นี่น่าจะไม่ใช่ทุกคนที่ลงครับ น่าจะเริ่มกันจริงๆคือรอบ 3-4 มากกว่า ประมาณว่าใช้คะแนนสอบ Onet Gatpat ไรงี้ น้องเค้าน่าจะยื่นรอบสามไปแล้วไม่ถึงเกณฑ์ เลยหลุดมารอบ 4 เจอแม่เปลี่ยนเองเลย

รอบ 1 Portfolio
รอบ 2 Quota
รอบ 3 รับตรงครั้งที่ 1 (เกณฑ์สูง)
รอบ 4 Admission
รอบ 5 รับตรงครั้งที่ 2 (เกณฑ์อิสระ)

ใช่ครับคือไม่รู้ว่าน้องเขาคะแนนเท่าไรเลือกอันดับอย่างไรแล้วแม่เปลี่ยนอันดับและคณะอะไรให้บ้างถ้ามีข้อมูลมากกว่านี้อาจจะว่าแม่เต็มๆได้ผมก็มีน้องเข้ามหาลัยปีนี้​มีเพื่อนน้องรอบ​ 2-3​ แทบไม่ได้ยื่นเหมือนกันเพราะได้​คะแนน​ 9 วิชาสามัญน้อย​ มชใช้เป็นเกณฑ์หลักเลย

พ่อแม่รังแกฉันของแท้

อธิบายให้เข้าใจตรงกันก่อนครับ คือ การยืนยันสิทธิ์ ในรอบ 3 และ 4 ในแต่ละรอบ จะเปลี่ยนสิทธิ์ ได้ 3 ครั้ง (เพื่อเปลี่ยนลำดับ คณะ หรือ มหาลัย ได้ ถ้าไม่พอใจ โดยอิงคะแนน และความชอบเป็นหลัก) โดย รอบ 3 จะ ลงได้ 6 อันดับ ส่วน รอบ 4 ลงได้ 4 อันดับ แต่การสละสิทธิ์รอบใดรอบนึง จะสละได้แค่1 ครั้ง เท่านั้น ครับ เช่น ติด รอบ1(รอบ portfolio) ยืนยันแล้ว แต่ไม่พอใจ สละสิทธิ์ ไปยื่นรอบ 3 แต่รอบ นี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเด็ก ที่จะเลือกจึง ต้องเลือกให้ตรงใจตัวเองมากที่สุด

ผมว่าผมน่าจะเข้าใจแล้วนะเลยบอกว่าถ้ามีโควตาสละสิทธิ์ก็ใช้ได้แต่ถ้าไม่มีแล้วแสดงว่าใช้ไปรอบก่อนหน้านั้นแล้วพอมารอบนี้แม่ก็เลยอาจจะอยากแจมด้วย

ครับผม

แม่ อยากแจม

ทำได้นะแต่ควรคุยกันก่อนไม่ใช่ทำแบบนี้คุณไม่ได้เป็นคนเรียน ผมนี่ไม่ไปยุ่งการตัดสินของลูกเลยแต่จะแนะนำมากกว่า

ของผมกลับดีแหะ

ตอนสมัยจะยื่นคะแนนแอดมิชชั่น ผมดันอยากเป็นนักข่าว เพราะฉะนั้นผมจึงยื่นเกีย่วกับสาขานิเทศ โอกาสได้มหาลัยต่างจังหวัดมีสูง เพราะม.ดัง กทม. คะแนนไม่ถึงแต่ยื่นไปก่อน

แต่แม่กลับจะให้ยื่นอันดับคณะนึง ของม.ดัง กทม. ซึ่งเป็นคณะใหม่ แต่ผมก็ชอบนะ แต่ชอบนิเทศมากกว่า ณ ตอนนั้น ผมเลยเอาไว้อันดับสุดท้ายเลย

ปรากฏผมเปลี่ยนให้ตามใจแม่ ยื่นแก้ไข 2 ครั้ง เอาอันดับ 4 มาเป็นอันดับ 1 แล้วก็ติดครับ

จนปัจจุบัน ผมคิดว่าการตัดสินใจครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง จนมาถึงวันนี้ ผมมีอาชีพที่ดีครับเพราะแม่

แต่ของผมดีนะ

ตอนเด็ก โดนพ่อบังคับไปเรียนเลขคุมอง กับ ภาษาอังกฤษประจำ

ทุกวันนี้หน้าที่การงานผมโอเคมาก ถ้าตอนนั้นเขาปล่อยให้ผมตามใจ ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไง

ผมก็เคยแบบเอาความฝันพ่อ มาใส่ในตัวลูกพ่อไม่ได้ทำเลยอยากให้ลูกทำ ผมก็โดนปลูกฝังตั้งแต่เด็กต้องเป็นอย่างงี้นะ พอขึ้นมัธยมมันไม่ใช่ทางจริงๆก็พูดไปตรงๆก็โกรธกันไปนานอยู่หลังจากนั้นเลยปล่อยอยากทำอะไรก็ทำ
ถามว่าทุกวันนี้โอเคมั้ยกับสิ่งที่ตัวเองเลือกก็ไม่แย่นะ กลางๆมากกว่า